กลางอากาศ รถม้าค่อยๆ ลอยลงมา
องครักษ์เกราะทองปรากฏตัวขึ้น ฉินฝานเดินกะเผลกลงจากรถม้า “องค์ชายรอง!”
ทุกคนรีบโค้งตัวทำความเคารพฉินฝาน
แม้พวกจางกวังดูไม่เต็มใจเป็นอย่างมาก แต่ก็โค้งคำนับ
ฉินฝานเดินมาตรงกลางระหว่างลู่ฝานกับจางกวัง เขาตบไหล่จางกวังก่อน จากนั้นมองลู่ฝานด้วยรอยยิ้มแล้วพูดว่า “ทั้งสองท่านล้วนเป็นผู้โดดเด่นแห่งยุคนี้ เป็นเสาหลักของประเทศ ในเมื่อจะประลองกัน ก็ต้องมีลานประลองที่ใหญ่กว่านี้สิ ฉันว่าวันนี้หยุดไว้เพียงเท่านี้เถอะ”
จางกวังพูดอย่างราบเรียบว่า “เตี้ยนเซี่ย จะขวางการต่อสู้เป็นตายของนักบู๊เหรอครับ”
ฉินฝานรีบโบกมือไปมา แล้วพูดว่า “มิกล้าๆ การต่อสู้เป็นตายของนักบู๊เหนือกว่ากฎอู่อาน ฉันจะกล้าขัดแย้งกับสิ่งนี้ได้ยังไง แค่เสนอความเห็น เสนอความเห็นเท่านั้น ความคิดของฉัน จากชื่อเสียงของทั้งสองท่าน เพียงพอที่จะต่อสู้แบบไร้เทียมทาน ท่ามกลางสายตาของผู้คนมากมาย ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ ชื่อเสียงก็ต้องดังกระฉ่อนไปทั่วอู่อานแน่นอน รวมถึงในใต้หล้าด้วย ถ้าวันนี้สู้ต่อไปแบบนี้ ก็ไม่ยิ่งใหญ่สง่างามน่ะสิ”
พูดพลาง จู่ๆ ฉินฝานยื่นหน้าไปข้างหูจางกวัง แล้วพูดว่า “พี่จางกวัง การต่อสู้วันนี้ ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ พี่เสียเปรียบมากนะ! ถ้าชนะก็แค่การผลัดกันสู้ของแปดผู้โดดเด่น เพื่อเอาชนะลู่ฝาน แต่ถ้าแพ้ นั่นจะพ่ายแพ้อย่างยับเยินเลยนะ แปดผู้โดดเด่นเสียหน้ากันหมด พี่แน่ใจเหรอว่าจะสู้กับลู่ฝานตอนนี้”
จางกวังขมวดคิ้วขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าคำพูดของฉินฝานแทงใจเขา
ลู่ฝานมองการกระทำของฉินฝานด้วยรอยยิ้ม ไม่ได้พูดอะไรออกมา
จากความเข้าใจของเขา ฉินฝานไม่มีความเคารพไท่จื่อสักนิด
อีกทั้งฉินฝานยังตั้งใจให้เขาฆ่าแปดผู้โดดเด่นโดยเฉพาะ เขาไม่เชื่อหรอกว่าฉินฝานจะให้คำแนะนำดีๆ กับจางกวัง ดังนั้นเขาจึงใจเย็นมาก!
จางกวังครุ่นคิดครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “งั้นจากความคิดขององค์ชายรอง สู้ตอนไหนถึงจะเหมาะสม”
ฉินฝานแสร้งทำเป็นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นพูดว่า “ใกล้ถึงเทศกาลเซ่นไหว้ประจำปี ฉันว่าตอนเทศกาลเซ่นไหว้ประจำปี พวกนายสองคนมาต่อสู้อย่างไร้เทียมทาน เพื่อสร้างชื่อเสียงให้อู่อานของฉันเป็นไง ฉันจะจัดสถานที่ให้ทั้งสองคนโดยเฉพาะ ให้คนทั้งเมืองหลวงได้เห็น เกียรติระดับนี้ โอกาสระดับนี้ ไม่ได้มีบ่อยๆ นะ! ฉันเป็นคนชอบความครึกครื้น เมื่อถึงตอนนั้นขอที่นั่งเจ้าภาพให้ฉันหนึ่งที่ ให้ฉันได้ดูใกล้ๆ ก็พอแล้ว”
จางกวังพยักหน้าพูดว่า “ได้ครับ! งั้นสู้กันตอนเทศกาลเซ่นไหว้ประจำปี ลู่ฝาน นายกล้ารับคำท้าไหม”
ลู่ฝานมองจางกวัง แล้วมองฉินฝาน จากนั้นพูดด้วยรอยยิ้ม “ไม่มีปัญหา การประลองที่องค์ชายรองจัดขึ้นด้วยตัวเอง ถ้าผมไม่ไว้หน้า ก็คงน่าเบื่อมากไม่ใช่เหรอครับ”
“โอเค! งั้นเรื่องนี้ตกลงกันเช่นนี้!”
ฉินฝานพูดด้วยรอยยิ้ม
จางกวังจ้องลู่ฝานแวบหนึ่ง จากนั้นพูดว่า “ลู่ฝาน เมื่อถึงตอนนั้น ฉันต้องใช้เลือดนายบูชายัญปีใหม่แน่นอน!”
ลู่ฝานพูดอย่างราบเรียบว่า “คำพูดนี้ เมื่อถึงตอนนั้นฉันจะคืนให้อย่างแน่นอน”
ฉินฝานปรบมือแล้วพูดว่า “โอ้ ฉันชอบเห็นความเลือดร้อนห้าวหาญแบบนี้แหละ การต่อสู้ไม่กลัวตายของนักบู๊ ใครก็ได้ มาส่งผู้แข็งแกร่งห้าวหาญจางกวังกลับไปจวนไท่จื่อ แล้วก็ยกศพของผู้โดดเด่นท่านนี้ออกไปด้วย ดูสิว่ายังช่วยชีวิตกลับมาได้ไหม”
องครักษ์เกราะทองกลุ่มหนึ่ง รีบวิ่งขึ้นมาเอาศพของเซิ่งฉิวไป
พวกเหรินเจียงที่อยู่ด้านล่าง มองลู่ฝานกับจางกวังนัดสู้กันตอนเทศกาลเซ่นไหว้ประจำปี ด้วยความตกตะลึง พวกเขาอยากพูดอะไร แต่ไม่กล้าพูดต่อหน้าฉินฝาน
คนรอบๆ ต่างพูดคุยกัน
“นัดสู้แล้วๆ เทศกาลเซ่นไหว้ประจำปีปีนี้มีอะไรให้ดูแล้ว!”
“พละกำลังของจางกวังเป็นอันดับหนึ่งของแปดผู้โดดเด่นมาตลอด เขาสู้กับลู่ฝาน ต้องยอดเยี่ยมแน่นอน ฉันต้องรีบซื้อกระจกจำภาพมาบันทึกเอาไว้แล้วล่ะ”
“ไปซื้อตอนนี้เลย ขืนช้าจะโดนคนแย่งหมด!”
……