เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1068
หายใจเข้า หายใจออก พลังฟ้าดินเคลื่อนไหว
สถานการณ์ที่ควรจะเป็นเพียงด้านเดียว ตอนนี้เริ่มไม่แน่ใจแล้ว
แม้ลู่ฝานโดนโจมตีติดต่อกัน แต่จนถึงตอนนี้ ลมหายใจสม่ำเสมอ แววตาเหมือนสายฟ้า ไม่มีบาดแผลบนตัวแม้แต่น้อย
หันมามองจางกวัง แม้ได้เปรียบทางด้านวิทยายุทธและพละกำลัง แต่ดูบาดแผลฉกรรจ์น่ากลัวบนตัวเขา เหมือนสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ทำให้เขาได้รับชัยชนะท่วมท้นเลย
จู่ๆ จางกวังไม่รู้ว่าจะสู้ยังไงแล้ว เผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่โจมตีไม่ล้ม ทำร้ายไม่โดน และไม่ตาย ไม่ว่าใครก็รู้สึกปวดหัวทั้งนั้น!
เกล็ดมังกรบนตัวส่องแสงสว่างจ้า จางกวังไม่คิดปกปิดพละกำลังแล้ว
สู้จนถึงขั้นนี้แล้ว ไม่ว่าลู่ฝานจะแพ้หรือชนะ ก็มีชื่อเสียงโด่งดังแล้ว
แต่เขาใกล้จะอับอายขายหน้าแล้ว ถ้าไม่ชนะอีก ก็จะอับอายขายหน้ามาก
อักษรยันต์บนตัวจางกวังเหมือนค่ายกลสาดลงบนพื้น เกล็ดบนตัวกลายเป็นสีทองอย่างรวดเร็ว
“มังกรทองส่องแสง! ค่ายกลแปดขาด!”
พื้นด้านล่างเท้าทรุดลงอย่างรวดเร็ว
หินกลายเป็นผุยผง ฟุ้งกระจายไปทั่ว!
“พลังทำลายล้าง!”
ลู่ฝานมองแวบเดียวก็รู้ว่าพลังที่จางกวังใช้คือพลังอะไร ในเวลาเดียวกับที่ตกใจ ลู่ฝานเอากระบี่หนักไร้คมวางขวางไว้ตรงหน้าอก
เขตวิถีบนกระบี่ ต้านทานพลังทำลายล้างที่แผ่กระจายเข้ามา
ตอนนี้ตัวของจางกวังหดเล็กลงอย่างรวดเร็ว กลับสู่รูปร่างมนุษย์อีกครั้ง
แต่กระบี่ในมือเขา เป็นมังกรยักษ์ที่มีแสงสีทองระยิบระยับ
เงาด้านหลัง คำรามใส่ท้องฟ้า
“เงาเทพมังกรทำลายล้าง!”
คนที่จำเงาด้านหลังจางกวังได้เป็นคนแรกคือฉินซางต้าตี้
เมื่อเขาเห็นเงานี้ แววตาเหมือนครุ่นคิด หลู่เฉิงเซี่ยงที่อยู่ข้างๆ ก็เหมือนนึกอะไรได้ เขาพูดอย่างตกใจว่า “เงานั่นคงไม่ใช่เทพมังกรทำลายล้าง ที่โดนอริยปราชญ์สวรรค์บันดาลแล่เนื้อเถือหนังใช่ไหม! เงานี้ที่มนุษย์เผ่ามังกร คือสัญญาณของการทำลายล้างไม่ใช่เหรอ”
ฉินซางต้าตี้พยักหน้าพูดว่า “ดังนั้นเขาต้องไม่เป็นที่ชื่นชอบ ในมนุษย์เผ่ามังกรเป็นอย่างมาก! จางกวัง จำชื่อนี้เอาไว้ ตอนคัดเลือก นับเขาเข้าไปในรายชื่อโควตาด้วย”
หลู่เฉิงเซี่ยงพยักหน้าแรง
เทียนชิงหยาง สุ่ยสือฉวน ถานไถเก๋อ ทั้งสองคนยืดคอมองภาพตรงหน้า ในแววตาเต็มไปด้วยความจริงจัง
ถ้าบอกว่าการแสดงออกของจางกวังก่อนหน้านี้ พูดได้เพียงว่าไม่เลว งั้นตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าจางกวังมีพละกำลังที่จะข่มขู่พวกเขาได้แล้ว
คนที่สีหน้าไม่สู้ดีเหมือนพวกเขา ยังมีหานหยวนหนิง หลิ่วเจิน และสือเฉิน
ในฐานะที่เป็นลูกหลานหัวกะทิของสิบตระกูลใหญ่เหมือนกัน พวกเขารู้สึกถึงอันตรายเป็นอย่างมาก
ผู้มีความสามารถในใต้หล้าปรากฏออกมาเรื่อยๆ ใช่ว่าสิบตระกูลใหญ่ของพวกเขาจะสรุปเอาไว้ด้วยกันได้ จางกวังมีคุณสมบัติที่สามารถท้าประลองกับหัวกะทิของสิบตระกูลใหญ่ได้แล้ว
หานหยวนหนิงพูดว่า “ถ้าเขาเข้าร่วมการคัดเลือกด้วย ต้องเป็นศัตรูตัวฉกาจของพวกเราแน่ๆ”
สองคนข้างๆ พยักหน้าเบาๆ
บนลานประลอง พลังเทพมังกรทำลายล้างอันแข็งแกร่ง แผ่ออกมาจากทั้งตัวจางกวัง เขาพูดเสียงดังว่า “ลู่ฝาน ฉันไม่เชื่อว่าถ้าทำให้นายกลายเป็นผุยผง นายยังจะลุกขึ้นมาได้อีก”
ลู่ฝานมองเงาด้านหลังจางกวังอย่างตกตะลึง เขาจำได้ว่านั่นคืออะไร
เจดีย์เสวียนเก้ามังกรในตัว หัวเราะเสียงดังอย่างบ้าคลั่ง
“เงาเทพมังกรทำลายล้าง คิดไม่ถึงว่าเขาอยากฝึกให้เป็นรูปร่างของเทพมังกรทำลายล้าง ใช้ร่างกายมนุษย์ฝึกให้เป็นรูปร่างมังกร ใช้รูปร่างมังกรฝึกเคล็ดวิชาบู๊ คนคนนี้ความคิดไม่เลว แต่เจอสิ่งที่ไม่ถูกกันแล้วล่ะสิ เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ เขาจบเห่แล้ว!”
ลู่ฝานเข้าใจความหมายที่ไอ้เก้าพูด
ลู่ฝานค่อยๆ เอามือเข้าไปในเข็มขัด คลำหามุกเม็ดหนึ่ง
จางกวังพุ่งเข้ามาหาลู่ฝานทันที พลังมังกรทำลายล้างที่ยิ่งใหญ่ บวกกับค่ายกลแปดขาดด้านล่างเท้า มีพลานุภาพที่สามารถฆ่ากองกำลังเป็นพันเป็นหมื่นได้