ลู่ฝานพูดอย่างประหลาดใจว่า “ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง ก็เป็นเฉิงเซี่ยงได้เหรอ”
อู่คงหลิงพยักหน้าพูดว่า “ใช่ นี่คือจุดเก่งของตระกูลหลู่ หลู่ชิงโหว เฉิงเซี่ยงสามัญชน แม้ไม่มีพลังปราณสักนิด พลังชี่ก็ไม่มี แต่ทั้งประเทศอู่อาน กลับไม่มีใครฆ่าเขาได้ ส่วนสาเหตุนั้น ไม่มีใครรู้ เพราะคนที่ต้องการฆ่าเขา ตายไปหมดแล้ว รวมผู้แข็งแกร่งแดนปราณฟ้าชั้นเก้าสามคนอยู่ในนั้นด้วย”
ลู่ฝานพยักหน้าอย่างเข้าใจ จดจำตระกูลหลู่เอาไว้อย่างดี
อู่คงหลิงพูดต่อ “ส่วนตระกูลฉู่ เป็นตระกูลที่ตกต่ำ แม้เป็นหนึ่งในสิบตระกูลใหญ่ แต่ใกล้จะพินาศแล้ว ลูกหลานในตระกูลน้อยลงเรื่อยๆ จนถึงตอนนี้เป็นเวลาสิบกว่าปีแล้ว ที่ไม่ได้เห็นความยิ่งใหญ่ของลูกหลานตระกูลฉู่ ปัจจุบันไม่รู้ว่าตระกูลฉู่มีบุคคลที่มีฝีมือหรือเปล่า แต่ถึงแม้ว่าจะพบเจอปัญหาทำให้สะดุด แต่สภาพความเป็นอยู่ของเขาก็ยังดีกว่าใครอีกหลายคน แค่ไม่มีใครกล้าท้าประลองเขาเท่านั้น”
เซียวเฮ่าที่อยู่ข้างๆ พูดแทรกขึ้นมาว่า “เรื่องนี้ฉันก็ได้ยินมาเหมือนกัน ว่ากันว่าคฤหาสน์ตระกูลฉู่ ไม่ได้เปิดมาแปดปีแล้ว”
ลู่ฝานถามว่า “อืม นี่ก็แปดตระกูลใหญ่แล้ว แล้วอีกสองตระกูลใหญ่ล่ะ”
อู่คงหลิงพูดว่า “อีกสองตระกูลใหญ่ที่เหลือ ไม่จำเป็นต้องสนใจอะไรแล้ว ตระกูลแรกคือตระกูลโอวหยาง หลังจากมีปีศาจชั่วร้ายอย่างโอวหยางยุ่นออกมา ก็ปิดล็อกประตูไม่ให้คนเข้าออกเลย แม้กำลังของตระกูลยังคงแข็งแกร่ง แต่ได้ประกาศออกมาแล้วว่าจะไม่ติดต่อกับโลกภายนอกพันปี จะไม่ออกมาจากภูเขาอีก ผ่านไปได้เลย ส่วนอีกตระกูลหนึ่ง คือตระกูลฉิน ตระกูลนี้ฉันคงไม่ต้องพูดอะไรมาก”
เมื่อได้ยินคำว่าฉิน สีหน้าทุกคนเคร่งขรึมทันที แน่นอนว่าไม่ต้องพูดอะไรมาก ตระกูลฉินก็คือราชวงศ์ไม่ใช่หรือไง
รู้สึกว่าตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุดในสิบตระกูลใหญ่ ก็คือตระกูลราชวงศ์
ลู่ฝานกลอกตาไปมาแล้วพูดว่า “สิบตระกูลใหญ่เป็นอย่างนี้นี่เอง”
อู่คงหลิงส่งเสียงตอบรับ แล้วพูดว่า “ใช่ ลู่ฝาน ถ้านายอยากได้อันดับดีๆ ในการคัดเลือก อันที่จริงคนที่ต้องระวังมีแค่เจ็ดคนคือ หานหยวนหนิงแห่งตระกูลหาน เทียนชิงหยางแห่งตระกูลเทียน สุ่ยสือฉวนแห่งตระกูลสุ่ย ถานไถเก๋อแห่งตระกูลถานไถ หลิ่วเจินแห่งตระกูลหลิ่ว สือเฉินแห่งตระกูลสือ และหลู่ยินแห่งตระกูลหลู่ เจ็ดคนนี้ล้วนอยู่ในรายชื่อประเทศ นายไปดูเคล็ดวิชาบู๊ของพวกเขาอย่างละเอียดได้ แต่ในบันทึกของรายชื่อประเทศ เป็นของเมื่อสองสามปีที่แล้ว ดังนั้นนายแค่ดูไว้ ไม่ต้องเชื่อทั้งหมด”
พูดพลาง อู่คงหลิงเอาหนังสือออกมาเล่มหนึ่ง จากนั้นยื่นให้ลู่ฝาน
ลู่ฝานรับมาอย่างจริงจัง พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ของขวัญชิ้นนี้ของอู่คงหลิง ดีกว่าของขวัญทั้งหมดที่ฉันได้รับในวันนี้!”
อู่คงหลิงพูดว่า “งั้นเหรอ นายเป็นคนพูดเก่งตั้งแต่เมื่อไร แต่ให้ของขวัญในเทศกาลเซ่นไหว้ประจำปี เป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอ นายมีของขวัญอะไรให้ฉันไหม”
ลู่ฝานชะงักไป เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีประเพณีแบบนี้ด้วย
แต่ในเมื่ออู่คงหลิงพูดแล้ว เขาจะงกไม่ได้ เขาชี้ไปที่ของขวัญมากมายนอกประตู แล้วพูดว่า “เลือกได้ตามสบาย”
อู่คงหลิงหัวเราะอย่างมีความสุข ค่อยๆ ถอดผ้าปิดหน้าของตัวเองออก
แม้ไม่ได้เห็นใบหน้าแสนสมบูรณ์แบบของอู่คงหลิงเป็นครั้งแรก แต่หัวใจไม่เอาไหนของลู่ฝานก็ยังเต้นอย่างแรงอยู่หลายครั้ง
จู่ๆ เซียวเฮ่ากับอูลี่คุนหัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน หยิบกล่องใบหนึ่งมาจากด้านข้าง แล้วพูดว่า “พี่ลู่ฝาน นี่เป็นของขวัญที่เราให้พี่”
ลู่ฝานชะงักไปอีกครั้ง ดูเหมือนมีประเพณีนี้จริงด้วย อู่คงหลิงไม่ได้โกหกเขา!
เมื่อเปิดกล่อง สิ่งที่ปรากฏในสายตาคือหนังสืออธิบายยาของนักบู๊อย่างละเอียด
เซียวเฮ่ายิ้มแล้วพูดว่า “พี่ลู่ฝาน ไม่ง่ายเลยกว่าเราจะหาหนังสือเล่มนี้มาให้พี่ได้ ด้านในอธิบายเกี่ยวกับยาหลายสิบชนิด ที่ไม่ต้องใช้พลังชี่ ใช้แค่ฝีมือและสมุนไพรประกอบกัน ทำให้นักบู๊สามารถปรุงยาออกมาเองได้ หนังสือเล่มนี้หายากมาก ถือว่าเป็นน้ำใจจากเรานะครับ”
ลู่ฝานไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ถ้าเขาเป็นแค่นักบู๊ ได้หนังสือเล่มนี้คงดีใจอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง แต่เขาเป็นผู้ฝึกชี่ด้วย! จะกลั่นยาก็กลั่นได้เลย ยังต้องสนใจพลังชี่อะไรนั่นด้วยเหรอ
แต่ลู่ฝานมองเซียวเฮ่ากับอูลี่คุนด้วยรอยยิ้ม แล้วพูดว่า “นี่เป็นของขวัญชิ้นแรกที่ฉันได้ เอางี้แล้วกัน ฉันก็ให้ของขวัญพวกนายเหมือนกัน”
เมื่อพูดเช่นนี้ ลู่ฝานเอาหนังสือออกมาเล่มหนึ่ง จากนั้นยื่นให้เซียวเฮ่า
“วิชาหนึ่งเดียวแดนไกลโพ้น!”
เซียวเฮ่าพูดอย่างสงสัย
เมื่อได้ยินชื่อหนังสือ อู่คงหลิงกลับสั่นไปทั้งตัว
ลู่ฝานพูดด้วยรอยยิ้ม “หนังสือเล่มนี้เป็นวิชาของผู้ฝึกชี่ ให้พวกนายแล้วกัน ทำความเข้าใจให้เต็มที่ ไม่แน่ต่อไปพวกนายอาจเป็นยอดฝีมือที่แท้จริงก็ได้”
เซียวเฮ่าส่งเสียงตอบรับ จากความรู้ของเขา เขายังดูไม่ออกว่านี่คือวิชาระดับฟ้า
อู่คงหลิงพูดกับลู่ฝานเสียงเบาว่า “นายให้หนังสือวิชาระดับฟ้ากับพวกเขาง่ายๆ แบบนี้เลยเหรอ”
ลู่ฝานส่งกระแสจิตตอบกลับไปว่า “ยังไงฉันก็ท่องจำได้แล้ว ไม่เป็นไรหรอก! ใช่สิ เธอมีวิชาผู้ฝึกชั่วร้ายอะไรไหม ให้ฉันสักชุดสองชุดสิ ฉันจะเอาของมาแลกกับเธอ”
อู่คงหลิงยิ้มแล้วพูดว่า “ได้สิ งั้นฉันต้องการของหนึ่งอย่าง”
ลู่ฝานพูดว่า “พูดมาสิ พูดมาได้เลย เธอต้องการอะไร”
จู่ๆ อู่คงหลิงดึงลู่ฝานขึ้นมา แล้วพูดว่า “ไปกัน ขึ้นไปข้างบน”
ลู่ฝานพูดอย่างประหลาดใจว่า “เธอจะทำอะไรกันแน่”
อู่คงหลิงเลิกคิ้วขึ้นพูดว่า “นายขึ้นไปก็รู้เอง”
เมื่อพูดจบ อู่คงหลิงลากลู่ฝานเดินขึ้นไปด้านบน ท่ามกลางเสียงหัวเราะเบาๆ ของเซียวเฮ่ากับอูลี่คุน
คืนนี้คงเป็นคืนที่แสงเทียนอุ่น เกิดภาพทับซ้อนสั่นไหวบนเตียงม่านบางสีแดง
เป็นคืนที่ช่างงดงามจริงๆ!