บทที่ 16 คู่ปรับของพญายม
ตระกูลซูตกอยู่ในความโกลาหล
คนในตระกูล เริ่มที่จะเกลียดชังซูเหวินเฉิงกับซูเป่ยซาน เพราะพวกเขาไปทำให้ฉินเทียนโกรธ ก็จึงบังเกิดเป็นบัญชาพญายม
ไม่คิดว่า ฉินเทียนหายตัวไปห้าปี จะกลายเป็นพญายมฉินได้!
เขาได้กล่าวเอาไว้ หลังจากสิบวัน หากทำให้เขาพอใจไม่ได้ เขาจะทำให้คนของตระกูลซูต้องพังพินาศ
รวมไปถึงกลุ่มคนอย่างพวกเขาด้วย!
ผู้เฒ่าที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับซูเป่ยซานเริ่มที่จะตำหนิติเตียน“ซูเป่ยซาน คุณเป็นถึงผู้นำของตระกูลซู ยังทำเรื่องผิดพลาดที่ร้ายแรงแบบนี้ได้”
“ถึงขั้นมีบัญชาพญายม ตอนนี้ รู้ความผิดหรือยัง?”
คำพูดที่รุนแรง เจตนาบังคับชัดเจน
เพราะว่า ตระกูลซูมีคำสั่งของบรรพบุรุษ หากผู้นำกระทำการซึ่งนำพาความสูญเสียอันใหญ่หลวงมาแก่ตระกูล ผู้อาวุโสทั้งหลายมีสิทธิ์ เปิดห้องโถงบรรพบุรุษ ปลดออกจากตำแหน่ง และเลือกผู้นำคนใหม่
ซูเป่ยซานกัดฟันเงียบ
เขาอยู่ตำแหน่งนี้ของตระกูลซูมานานหลายสิบปี รักหน้าตามาก ไม่คิดว่าจะตกต่ำจนมีสภาพนี้ได้
“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว!”
“ฉันจะไปหาฉินเทียนเอง”
“ความผิดพลาดนี้ฉันจะรับผิดชอบเอง หากเขาเป็นพญายมอย่างที่เลื่องลือ ฉันจะฆ่าตัวตายต่อหน้าเขา ไม่ให้ทุกคนต้องเดือดร้อนอย่างแน่นอน!”
พูดจบ ก็จะวิ่งออกไป
“พ่อแม่ ปู่ โอโห้ อยู่กันครบเลยเหรอคะ !”
เสียงที่ไพเราะเสียงหนึ่งดังขึ้นมา ซูหนานที่เสื้อผ้าประดับประดาไปด้วยเพชรนิลจินดา เดินเข้ามาที่ลานบ้านของตระกูลซู
เมื่อเห็นทุกคนที่มีใบหน้าเศร้าโศก เธอยิ้มและพูดว่า“นี่ทุกคนเป็นอะไรกันคะ ?”
“วันนี้วันมงคล ทำไมถึงทำหน้าอมทุกข์กันแบบนี้ล่ะ ไม่พอใจที่หนูไม่มีของกำนัลมาให้ทุกคนเหรอคะ?”
“ใช่ว่าทุกคนไม่รู้ ตอนนี้หนูเป็นคุณนายของตระกูลอู๋แล้ว ตระกูลอู๋ธุรกิจมากมาย กฎระเบียบก็มากมาย ”
“อีกอย่าง ตอนนี้หนูก็มาแล้วนี่ไงคะ!”
“แม่บ้าน เอาของเข้ามา!”
แม่บ้านหลายคนต่างก็กุลีกุจอ ขนกล่องของขวัญมากมายลงจากรถคันหรู แล้วแจกจ่ายไปทีละคน
ของขวัญล้ำค่า ไม่ได้ทำให้คนในตระกูลซูรู้สึกเบิกบานใจขึ้นมาเลย
“นี่เกิดอะไรขึ้นคะ?”ซูหนานในตอนนี้ก็เพิ่งจะมาตระหนักรู้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น
ซูเหวินเฉิงพูดเสียงเบา“ พี่ ฉินเทียนกลับมาแล้ว”
“นายว่าใครนะ?!”เมื่อได้ยินคำว่า“ฉินเทียน” สีหน้าของซูหนานก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย แววตามีความตื่นตระหนกพาดผ่าน
หลังจากที่ฟังคำบอกเล่าจากทุกคน ซูหนานหัวเราะอย่างดูถูก
เธอหยิบป้าย“บัญชาพญายม”นั้นเล่นไปมา จากนั้นก็โยนมันลงถังขยะที่อยู่ข้างๆ
“แค่เรื่องไร้สาระพวกนี้ ทุกคนก็เชื่อกันเหรอคะ !”
“เหวินเฉิง นี่นายยังกล้าพูดว่าตัวเองเป็นคนมากความสามารถ หลงเจียงไม่มีอะไรที่นายทำไม่ได้ กลอุบายเล็กๆแค่นี้ ยังทำเอานายกลัวได้ขนาดนี้เลยเหรอ ?”
ซูเหวินเฉิงพูดอย่างตื่นตระหนก“ พี่ นี่พี่หมายความว่า ป้ายนี้เป็นของปลอม?”
“ฉินเทียนไม่ใช่พญายมอย่างที่เล่าลือกัน?”
“เขานะเหรอ?ถุย !”ซูหนานถ่มน้ำลาย กัดฟันแล้วพูดว่า“ก็แค่ไอ้พวกอันธพาล!”
“ป้ายแบบนี้ หาได้ตามตลาดมืด ร้อยหนึ่งก็ได้มาเป็นสิบอันแล้ว”
“ถ้าอย่างนั้น หมาของฉันที่จู่ๆก็ตายไป มันคืออะไร?”ซูเหวินเฉิงยังคงสงสัยเล็กน้อย
สุนัขตัวนี้ตายอย่างน่าประหลาด
ในตอนนี้ ผู้ติดตามของซูหนาน ชายวัยกลางคนท่าทีหยิ่งผยองเดินเข้ามาหา เป็นบอดี้การ์ดที่ตระกูลอู๋ให้มาคอยติดตามเธอ ชื่อต่งฟาง
หลังจากที่เขาตรวจสอบแล้ว พูดว่า“ ถูกคนทำร้ายด้วยมนต์ดำครับ”
“หากผมเดาไม่ผิด มนต์ดำนี้ มันอยู่ในตัวของสุนัขมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว และเมื่อครู่ก็เพิ่งจะสำแดงอาการ ”
ซูเหวินเฉิงพูดอย่างตกตะลึง “ฉันไม่เคยไปล่วงเกินคนที่มีฝีมือดีแบบนี้มาก่อนเลยนะ !”
ปรมาจารย์ต่งยิ้มและพูดว่า“ คนคนนี้นับว่าฉลาด แต่ว่า——”
ทันใดนั้นเขาก็ผ่อนลมออกมาเบาๆ ฝ่ามือตบลงไปยังแผ่นหินข้างๆ
แผ่นหินนั้นแตกออกในทันที
เขาพูดอย่างลำพองว่า “หากจะมาแข่งฝีมือกับฉัน ก็จะเป็นเหมือนแผ่นหินนี้ ”
คนตระกูลซูนอกจากตกใจ ก็พากันปรบมือกู่ร้องยินดี ในสายตาของพวกเขา ต่งฟางคือยอดฝีมือที่แท้จริง
ซูหนานก็พูดอย่างได้ใจ “น้องชาย นายสบายใจเถอะ หากคนคนนั้นกล้ามา ฉันจะให้ปรมาจารย์ต่งจัดการกับเขาเอง ”
ซูเป่ยซานยังคงกังวลเล็กน้อย กล่าวว่า“หลานรัก ตามที่หลานว่ามา เราควรทำยังไงกันดี?”
“เพราะยังไงนี่มันก็คือบัญชาพญายม ไม่ว่าจะเป็นของจริงหรือของปลอม เราเองก็จะชะล่าใจไม่ได้”
ซูหนานยิ้มเยาะแล้วพูดว่า“ต่อให้จะเป็นของจริง แล้วยังไงคะ ?”
ซูเป่ยซานตะลึง“ นี่เราหมายความว่า ต่อให้เป็นของจริง เราก็มีวิธีจัดการงั้นเหรอ ?”
ซูหนานมีวิธีจัดการกับพญายมตัวจริง ? ทุกคนต่างพากันมองมาที่เธอ
ซูหนานพูดอย่างลำพองใจ “โบราณว่าไว้ ของอย่างหนึ่งย่อมมีของอีกอย่างหนึ่งพิชิตได้”
“ถึงหนูจะจัดการกับพญายมไม่ได้ แต่พญายมคนนี้มีคู่ปรับ ทุกคนรู้ไหมว่าเป็นใคร?”
เงียบ
ท่ามกลางบรรยากาศแปลกๆ ซูเหวินปินราวกับฝันไป พูดว่า“ที่พี่ซูหนานหมายถึง คือเจ้าของบัญชาราชาเทพ ?”
เจ้าของบัญชาราชาเทพ ?
ราชาเทพ!
ทุกคนตกตะลึง
หลายปีนี้ ความลึกลับที่ซ่อนอยู่ของโลกนี้ ป้ายบัญชาการสองแผ่นที่ไม่แย้มพรายความลับออกมาเลยแม้แต่น้อย
หนึ่งคือบัญชาพญายม เห็นแล้วต้องตายสถานเดียว
อีกหนึ่งคือบัญชาราชาเทพ ประสบความสำเร็จอย่างที่มุ่งหวัง
หากพูดแบบนี้ บัญชาราชาเทพ ก็คือศัตรูคู่อาฆาตของบัญชาพญายม
ซูเป่ยซานไม่อยากจะเชื่อ“ราชาเทพคนนั้นลึกลับอย่างที่สุด แล้วเราจะไปหาเขาได้ที่ไหน?”
“ไม่ต้องหาค่ะ จากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ เขาอยู่ที่หลงเจียงแล้ว แต่ยังไม่ปรากฏตัวเท่านั้น ”
อะไรนะ ?
เจ้าของบัญชาราชาเทพอยู่ที่หลงเจียง!
ซูเหวินเฉิงพูดอย่างตื่นเต้น“พี่ พี่แน่ใจเหรอ ? พี่รู้ได้อย่างไร?”
ซูหนานพูดอย่างภาคภูมิ“ ต้องแน่สิ!”
“ข้อมูลนี้ตระกูลอู๋ทำแทบทุกอย่าง ถึงได้มันมา ”
“ไม่เพียงเท่านี้ แต่ฉันยังรู้ด้วยว่าจะไปตามหาราชาเทพคนนี้ได้ที่ไหน!”
“รีบบอกมาเลย!”
“หากหาราชาเทพเจอ แล้วขอให้เขาช่วยเหลือ เรื่องใหญ่นี้ก็จะได้รับการแก้ไขไปอย่างง่ายดาย!”ซูเป่ยซานตื่นเต้นจนเคราไหวสั่น
ปรมาจารย์ต่งที่อยู่ข้างๆกล่าวด้วยรอยยิ้ม“คนใหญ่คนโตทุกมุมโลกต่างกำลังเร่งรีบตามมา เพื่อจะขอร้องให้ราชาเทพใช้กุ่ยเหมินสิบสาม รักษาอาการป่วยของพวกเขา ”
“เราได้รับข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ว่าราชาเทพท่านนี้ มีความสัมพันธ์บางอย่างกับหวางโป๋เหนียนของสมาคมการแพทย์”
“พวกคุณลองคิดดู อะไรมันจะบังเอิญแบบนี้ สมาคมการแพทย์ทำไมจู่ๆถึงมาเปิดสาขาที่หลงเจียง ? อีกทั้งหวางโป๋เหนียนก็จะมาเข้าร่วมด้วยตนเอง”
“ทั้งหมดนี้ ล้วนเกี่ยวข้องกับราชาเทพคนนี้”
“หากเดาไม่ผิด พิธีเปิดสาขาของหลงเจียงในอีกสิบวันที่จะถึง ราชาเทพคือจุดสนใจที่แท้จริง ”
“ใช่!”ซูหนานพูดขึ้นฉับไว“ขอแค่เราหาบัตรเข้างานได้ ยังต้องกลัวว่าจะไม่ได้เจอราชาเทพอีกเหรอ ?”
“ขอแค่ได้เจอราชาเทพ ด้วยจิตใจที่เมตตาค้ำจุนโลกของเขา จะนั่งนิ่งทนมองบัญชาพญายมทำร้ายคนได้ยังไง?”
ซูเป่ยซานหัวเราะร่วนอย่างพึงพอใจ “ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
“หลานรัก หลานช่างเป็นดาวนำโชคของตระกูลซูเราจริงๆ!”
ตอนนี้รู้สึกโล่งใจอย่างที่สุด ก่อนอื่นเลย ฉินเทียนอาจแค่ต้องการหลอกให้พวกเขากลัว เลยเอาป้ายบัญชาการปลอมมาทำเป็นป้ายพญายม
หากเป็นแบบนั้น พวกเขาไม่จำเป็นต้องกังวลเลยสักนิด
ตั้งข้อสันนิษฐาน หากป้ายบัญชาการนั้นเป็นของจริง ฉินเทียนกับพญายมที่เล่าลือนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกัน หรือจะพูดว่า เขาก็คือพญายม
ตอนนี้พวกเขาก็ไม่ได้กลัวอีกต่อไปแล้ว
ราชาเทพปรากฏตัว พญายมก็ถอยหลบ
ซูหนานกล่าว“แต่ว่าที่ฉินเทียนกล้าก่อเรื่องแบบนี้ จะปล่อยเขาไปง่ายๆไม่ได้ ”
“ปรมาจารย์ต่ง พาคน ไปที่ตระกูลฉินกับฉัน !”
“ฉันจะสั่งสอนเขาจนกลับคืนสู่ร่างเดิม!”
ซูยู่คุนรีบพูดขึ้นว่า“หนานหนาน อย่าใจเร็วด่วนได้ไป!”
“ตระกูลเถียเราจะไปล่วงเกินไม่ได้อย่างเด็ดขาด !”
ซูหนานยิ้มและพูดว่า “ พ่อค่ะ หนูรู้ หนูจะให้คนไปดูลาดเลาก่อนค่ะ ”