บทที่ 127 พี่ชายสอง
แมงป่องไท่อดไม่ได้จะพยักหน้า : “ตระกูลพานของพวกคุณ มีความสามารถมากจริงๆด้วย”
เขาเอาซิการ์ดับลงบนที่เขี่ยบุหรี่ ปิดกระเป๋ารหัสลับแล้วเอ่ย : “คน พวกเราจะช่วยนายฆ่า เงิน ผมไม่เอา”
“ในครั้งนี้ ถือว่าแถมให้”
“ผมไม่ชอบรอ”
“เตรียมรถ ไปเลยตอนนี้”
เสี่ยวเม่ยยิ้มอย่างหลงใหล เธอจูบลงบนรูปของฉินเทียนที่ถืออยู่บนมือหนึ่งครั้ง : “ฉันก็คาดหวังที่จะได้เจอพี่ชายสุดหล่อคนนี้โดยเร็วที่สุด ก่อนที่พระอาทิตย์จะขึ้น ไม่แน่ว่าอาจได้มีค่ำคืนอันแสนหวานด้วยกัน”
“ลงมือเถอะ!”
ผู้ชายพวกนี้ไม่ได้สนใจมาทำภารกิจมาเรื่องเป็นราว เหมือนกับว่าเป็นการใช้เวลาพักผ่อนอย่างไงอย่างนั้น แยกกันถืออาวุธ เดินออกไปที่นอกประตู
เพิ่งจะเดินถึงหน้าประตู พวกเขาสีหน้าแข็งทื่ออยู่สักพัก
“คุณคือใคร?”หมาป่าครามพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
ภายในเขตลานบ้านเห็นแต่ขอทานวัยกลางคนหนึ่งถือไม้ค้ำยืนอยู่ตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้
“ไอ้ขอทาน คุณเข้ามาได้ยังไง?”
“มาผิดที่แล้ว รีบไสหัวออกไป!” พานหู่รีบขับไล่ออกไป
ขอทานไอแค๊กๆ ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา มองไปที่แมงป่องไท่ พูดด้วยน้ำเสียงเบาๆ : “หัวหน้าใหญ่ของพวกเราบอกว่า ที่นี่มีคนสมควรตาย ให้พวกเรามาส่งสักหน่อย”
“ขอรบกวนถามสักหน่อยนะครับ คนที่ควรตาย ก็คือพวกคุณใช่ไหม?”
“ฉันดูแล้วเป็นนายที่ควรตาย”
“จัดการมันออกไปให้ฉัน” พานหู่ใช้มือออกคำสั่ง บอดี้การ์ดชุดดำสองคนนั้นจู่โจมเข้าใส่ขอทาน
ขอทานคนนี้ เป็นฉานเจี้ยนเองที่นำทีมมาปฏิบัติภารกิจ
เขาดูเหมือนว่าถูกข่มขวัญแล้ว ยืนอยู่ตรงนั้นไม่ขยับแม้แต่ก้าวเดียว
“รอก่อน!” ทันใดนั้นแมงป่องไท่รู้สึกถึงความผิดปกติ หันหลังกลับอย่างกระทันหัน
เห็นแต่บนหลังคาข้างหลัง มีคนยืนอยู่ 4 คนไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไร
พวกเขาทั้งหมดใส่ชุดดำทั้งตัว แววตาจ้องมองด้วยสายตาแห่งมัจจุราช
“เตรียมรับมือ!”
สิ้นเสียงคำสั่ง แก๊งแมงป่องไท่ที่มีการฝึกซ้อมมาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน รีบหันหลังชนกัน ตั้งการป้องกันแบบวงกลม
M24ในมือของผีขาว เล็งไปที่ฉานเจี้ยนที่ยืนอยู่ด้านหน้า
“ไอ้แก่ มึงคิดว่าจะหลบไปได้เหรอ?”เขาแสยะยิ้ม
ฉานเจี้ยนยิ้ม : “บังเอิญจังเลย ก่อนหน้านี้ฉันก็เล่นปืนเหมือนกัน”
เสียงพูดจบ จู่ ๆ เขาก็ยกไม้เท้าในมือของเขาขึ้นมาบังระหว่างคิ้ว
ในเวลาเดียวกันนั้น ปัง!
ผีขาวลั่นไกโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย
สิ้นเสียง ฉานเจี้ยนถอยไปสองก้าว ระหว่างวิกฤตที่เป็นอันตรายอย่างหนัก เขาใช้ไม้เท้ายกขึ้นมาระหว่างคิ้วเพื่อเป็นกำบังป้องกันกระสุน
เป็นไปได้ยังไง?
แมงป่องไท่และคนอื่นๆ ต่างนิ่งไปสักพัก
ผีขาวไม่พอใจ ยกปืนขึ้นต้องการที่จะยิงอย่างต่อเนื่อง บนหลังคาได้ปรากฎแสงจันทร์ขึ้น
ชุยหมิงดึงมีดสั้นออกมาหนึ่งเล่ม แสงวาบเข้ามา เสียงดังปังเล็กน้อย มีดก็ได้เสียบแทงทะลุข้อมือของผีขาว
ผีขาวร้องอย่างน่าสงสาร ปืนสไนเปอร์ตกลงบนพื้น
“คำสาปสวรรค์ ลงโทษแทนบุตรแห่งสวรรค์”
“ฆ่า!”
ชุยหมิงร้องตะโกน วิ่งนำลงมา
ถงชวน เถียปี้ และ เถียหนิงซวงล้วนเป็นการออกปฏิบัติภารกิจครั้งแรก อยากที่จะต่อสู้อย่างโหดเหี้ยมใจจะขาด ใช้การรบชนะอย่างสวยงามในสนามนี้ เพื่อพิสูจน์ตัวเอง
ชุยหมิงจัดการกับหมาป่าคราม ถงชวนต่อกรกับเคราใหญ่ เถียปี้จู่โจมไปยังแมงป่องไท่ เถียหนิงซวงจัดการกับเสี่ยวเม่ยโหดเหี้ยม
“กดมันให้จมดิน!”
“กูจะฆ่าพวกมึงให้ตาย!” ผีขาวอดทนความเจ็บปวดอย่างหนักของข้อมือไว้ ใช้อีกมือจับสไนเปอร์ ต้องการที่จะยิงอย่างต่อเนื่อง
ไม้เท้าฉานเจี้ยนที่อยู่ข้างหน้าลอยขึ้นมา เสียงดังปัง ศีรษะของเขาถูกทุบให้แตกเป็นเสี่ยงๆ
เห็นพี่น้องตายอย่างอนาถ แมงป่องไท่และคนอื่นๆทั้งหมดดวงตาแดงก่ำ พวกเขามือจับอาวุธต่อสู้กับเถียหนิงซวงและคนอื่นๆจนตายกันข้าง
เถียหนิงซวงและคนอื่นๆ แม้ว่าจะเป็นครั้งแรกที่ออกมาทำภารกิจ ไม่ได้มีประสบการณ์โชกโชนอย่างเคราใหญ่และคนอื่นๆ
แต่พวกเขาล้วนได้รับการฝึกประสบการณ์อย่างโชกโชน
เวลานี้ ประโยชน์ของการฝึกซ้อมอย่างเหน็ดเหนื่อย ก็ได้ประจักษ์ออกมาแล้ว
เคราใหญ่และคนอื่นๆจะโหดเหี้ยมแค่ไหน ยังไงก็เป็นคน ไม่มีทางที่จะเทียบได้กับความโหดร้ายอย่างเสือและหมาป่า
เสียงดัง “ปัง” หมัดของถงชวนระเบิดอยู่บนขมับของเคราใหญ่ พลังมหาศาลทำให้ลูกตาเขากระเด็นออกมาหมด
เคราใหญ่ร้องโอดครวญอย่างทรมานต้องการที่จะหลบหนีถงชวนกระโดดออกไปเสียงดังพู ดาบสั้นด้ามหนึ่งพุ่งตรงไปอย่างไร้หัวใจ
เถียปี้ไม่ยอมแสดงให้เห็นว่าตนด้อยกว่า จะสู้กับแมงป่องไท่ให้ล้มลงไปกองกับพื้น ระเบิดหมัดใส่บนคอจนทำให้ลูกกระเดือกแตกออกหมด
ชุยหมิงขว้างมีดสั้นฆ่าหมาป่าครามตาย 2-3 คนที่ยืนอยู่ข้างๆ พูดอย่างดีอกดีใจ : “เสี่ยวเม่ย มีอะไรให้ช่วยไหม”
เถียหนิงซวงต่อสู้อย่างหนักกับเสี่ยวเม่ยโหดเหี้ยม เธอกัดฟัน : “ใครกล้าก้าวก่าย ฉันรีบจัดการกับเขา”
“เธอเป็นของฉัน!”
“นังผู้หญิงน่ารังเกียจ ฉันจะฆ่าแก!”เสี่ยวเม่ยโหดเหี้ยมดวงตาแดงกล่ำ สหายล้วนตายไปแล้ว 2-3 คน เธอก็ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว
ทันใดนั้นเธอหยิบระเปิดมือลูกหนึ่งอออกมาจากเอว กระโจนเข้าใส่เถียหนิงซวง
“ระวัง!” ชุยหมิงและคนอื่นๆต่างตกตะลึง
เถียหนิงซวงไม่เพียงแต่ไม่ถอย แต่กลับกลับยินดีพุ่งเข้าใส่
ขณะนี้ เป็นการวัดความเร็ว
ในที่สุด ตอนที่สาวน้อยโหดเหี้ยมจะดึงสลักระเบิดมือออกนั้น ดาบในมือของเถียหนิงซวงปาดเข้าที่คอของเธอย่างไม่มีผิดพลาด
เห็นดังนั้น ชุยหมิงและคนอื่นๆ ในที่สุดก็โล่งใจ
การต่อสู้ทั้งหมดเกิดขึ้นเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น
เขามองดูนักฆ่าไพ่คิงที่ตัวเองไว้วางใจ ระหว่างไม่กี่นาทีสั้นๆเท่านั้น ตายต่อหน้าต่อตาอย่างน่าอนาจ พานหู่ทำได้แค่ตกตะลึง
“พวกคุณเป็นใครกันแน่?”เขาถามด้วยความหวาดกลัวสุดขีด
ในตอนนี้ บอดี้การ์ดชุดดำทั้งสองคนตกใจกลัวมาก ร้องตะโกนวิ่งหนีไม่คิดชีวิต
ชุยหมิงเคลื่อนที่เหมือนวิญญาณลอยไปจับคอของพวกเขาอย่างง่ายดาย
ฉานเจี้ยนมองดูพานหู่ยิ้มอย่างเยือกเย็น : “ไม่ใช่ฉันบอกนายแล้วเหรอ”
“หายนะ”
“มาลงโทษคนชั่วเหล่านั้นแทนสวรรค์”
“ตอนนี้ คุณเข้าใจแล้วหรือยัง?”
สีหน้าของพานหู่ซีดเผือก กัดฟันพูด : “ฉันเป็นคนของจระกูลพาน!”
“ความสามารถของตระกูลพาน พวกนายคงรู้อย่างชัดเจน”
ฉานเจี้ยนเขย่าไม้เท้าขึ้น เสียงดังปัง กระดูกเข่าทั้งสองข้างของพานหู่ถูกตีจนแหลก
“พี่ใหญ่ของพวกเราบอกว่า ให้ไว้ชีวิตนาย ฝากให้คำพูดให้นายไปบอกตระกูลพาน”
“ทำตัวเป็นคนชั่ว ไม่ช้าก็เร็วหายนะต้องมาเยือน”
ภารกิจสำเร็จ เขาพาคนออกไป เดินถึงหน้าประตู ดูเหมือนเพิ่งนึกอะไรออก พูดต่อ : “อ่อ ใช่แล้ว หัวหน้าใหญ่ของพวกเราเขาแซ่ฉิน”
แซ่ฉิน?
ฉินเทียน!
มองดูเงาของมารเหล่านั้นเดินจากไป กลับมามองดูนักฆ่าไพ่คิงที่ตายอย่างอนาจอยู่รอบๆ พานหู่เจ็บปวดไปทั่วทั้งหัวใจ ร้องตะโกนออกมาอย่างดัง แล้วเป็นลมสลบไป
พานเหม่ยเออร์รอฟังข่าวอยู่ที่พักของพานหู่เห็นพานหู่ออกไปนานไม่กลับมาสักที โทรไปก็ไม่ติด
เธออดทนรอไม่ไหวให้คนขับรถ มาถึงบ้านพักตากอากาศแห่งนี้
เมื่อเห็นสถาพการณ์ข้างหน้า เธอเกือบล้มลงด้วยความตกใจ
“อะหู่!”
“นายเป็นยังไงบ้าง?”
“รีบ รีบพาเขาไปส่งโรงพยาบาล”
“พี่สาวเล็ก คนพวกนี้จะทำยังไง?”ลูกน้องขอคำแนะนำ
พานเหม่ยเออร์สงบสติอารมณ์ลง : “พวกเขาล้วนเป็นคนที่ไม่ควรโผล่อยู่ที่นี่ เผาเลย!”
“รวมทั้งห้องพักที่นี่ก็เผาให้หมดเลย อย่าให้หลงเหลือเบาะแสสักอย่าง!”
วันที่สองยามเช้าตรู่ พานหู่ตื่นขึ้นมาอย่างช้าๆที่ห้องผู้ป่วยในโรงพยาบาล
เขากัดฟันกรอดๆ เล่ารายละเอียดเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนกับพานเหม่ยเออร์
“ความหายนะ?” พานเหม่ยเออร์พูดด้วยความช็อค : “พวกเราประมาทกันจริงๆ ที่แท้ฉินเทียนคนนี้ ยังมีนักฆ่าแบบนี้อยู่”
“พี่สาว ตอนนี้ควรทำยังไงดี?”
“แซ่ฉินคนนั้นฝากคำพูดกับฉันส่งต่อให้ที่บ้าน บอกว่าทำตัวเป็นคนชั่ว ไม่ช้าก็เร็วหายนะจะมาเยือน”
“เขาหมายความว่าอะไร?”
พานเหม่ยเออร์อยากจะพูดอะไรต่อ ทันใดนั้นเธอมองเห็นคนคนหนึ่งเดินเข้ามาทางประตูห้องผู้พักป่วย
เธอรีบลุกขึ้น พูดด้วยความตกใจ : “พี่ชายสอง”
“พี่มาได้ยังไง?”