บัญชามังกรเดือด บทที่ 207 พวกแกขัดหูขัดตา
ชายหนุ่มที่ถูกชายชราจับแขนเอาไว้ ดวงตาเบิกโพลงทันที ออกแรงผลักชายชราอย่างรุนแรง
ชายชราโงนเงนโซเซ เกือบจะล้มลงไปบนก้อนหินที่อยู่ด้านข้าง
เขาโกรธจนหายใจไม่ออก
เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ ทายาทเศรษฐีทั้งหมดก็ระเบิดหัวเราะออกมา
“เหล่าไป๋ ทำได้ยอดเยี่ยม!”
“จัดการกับตาแก่ที่ไม่รู้จักเห็นความหวังดีของผู้อื่นประเภทนี้ จะต้องทำให้เขาได้เปิดหูเปิดตา ถึงความเก่งกาจของพวกเรา!”
“ตาแก่ ยังไม่รีบไสหัวไปอีก”
“ทำให้คุณชายโกรธ จะทำให้แกทนรับไม่ไหว!”
ชายหนุ่มกลุ่มนั้นหัวเราะเสียงดังขึ้นอีกครั้ง ข่มขู่อย่างอวดดี
“พวกแก……จะมากเกินไปแล้ว!”
ชายชราโมโหจนสั่นไปทั้งตัว เขานำเงินที่เก็บขึ้นมาโยนลงไปบนพื้น กล่าว: “เงินนี้ฉันไม่ต้องการแล้ว!”
“ตอนนี้ พวกแกรีบออกไปซะ!”
“ถ้ายังไม่ไป เชื่อหรือไม่ว่าฉันจะโทรศัพท์เรียกคนขององค์การบริหารมา”
“พวกแกทำลายสิ่งแวดล้อม จะต้องได้รับการสั่งสอนอบรม!”
“ไอ้แก่ ไว้หน้าแกแล้วแต่แม่งดันไม่สนใจ!” เหล่าไป๋คาบบุหรี่มวน แล้วพุ่งเข้าไปหาชายชราอีกครั้ง
ชายหนุ่มที่เหลือสองสามคน ก็พุ่งตัวเข้าไปเช่นเดียวกัน นำชายชราล้อมเอาไว้
ยื่นมือออกไป เริ่มผลักไสชายชรา
“ถ้าไม่อยากตายก็รีบไสหัวไป!”
“แกแม่งยังอวดดีฉิบหายเลย!”
“อยากตายใช่ไหม?”
หลี่เฉียงไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง กล่าว: “พี่ๆทั้งหลาย ช่างเถอะ”
“ไม่จำเป็นต้องแข่งอารมณ์กับสุนัขแก่ตัวหนึ่ง”
“พวกเรากลับกันเถอะ”
“ใช่แล้วพวกคุณเลิกทะเลาะได้แล้ว รีบไปเถอะ!”
“หนาวมากเลย!” หญิงสามสองสามคนเห็นว่าเรื่องราวบานปลายขึ้น ต่างก็พากันพูดโน้มน้าว
ตอนนี้เป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงแล้ว แต่พวกเธอแต่งตัวเหมือนกับยังอยู่ในฤดูร้อนที่ร้อนระอุอย่างไรอย่างนั้น หลังจากผ่านอารมณ์ที่ตื่นเต้นเร้าใจอารมณ์ที่ฮึกเหิม ในที่สุดความหนาวเย็นก็มาถึง
เมื่อได้ยินประโยคนี้ ทายาทเศรษฐีสองสามคนที่ล้อมชายชราเอาไว้ ก็ด่าสบถแล้วขึ้นรถ ติดเครื่องยนต์ เตรียมที่จะจากไป
เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน
รถเบนซ์แกรนจีของหลี่เฉียงที่เข้าไปทุ่งดอกคาโนล่า ล้อรถจมลงไปลึกมาก อย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว
ไม่ว่าจะเขาจะเหยียบคันเร่งอย่างไร ควันดำพวยพุ่ง แต่ก็ออกมาไม่ได้
เมื่อมองเห็นทุ่งดอกคาโนล่าที่ตนเองตั้งอกตั้งใจปลูกอย่างดีที่สุดถูกล้อรถตะกุยจนเป็นหลุมใหญ่หลายหลุม ชายชราก็ร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวดใจ
“เลิกเร่งเครื่องได้แล้ว ยิ่งเร่งเครื่องก็ยิ่งลึก!”
“พวกเธอรีบไปช่วยลากเขาออกมา!”
เขาชี้แนะด้วยความหวังดี
ทายาทเศรษฐีสองสามคนรีบขับรถเข้าไป ใช้เชือกลากดึงช่วยลาก
แต่ทว่า รถยนต์ที่พวกเขาขับ แท้ที่จริงแล้วไม่ใช่รถออฟโรด รถหลายคันเข้าไปช่วยลากดึงพร้อมกัน ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย
ในเวลานี้ ในที่สุดพวกเขาก็ค้นพบรถแลนด์ครุยเซอร์ที่อยู่ริมแม่น้ำ และฉินเทียนที่กำลังตกปลา
“พี่ชาย มา สูบบุหรี่” เหล่าไป๋เดินเข้ามา หยิบบุหรี่เกรดสูงห่อหนึ่งออกมา ยิ้มตาหยียื่นบุหรี่ให้แก่ฉินเทียน
ฉินเทียนส่ายหน้า: “ไม่สูบ”
เหล่าไป๋ยิ้ม กล่าว: “นี่คือรถของบคุณหรือ?”
ฉินเทียนพยักหน้า
เหล่าไป๋ยิ้มแล้วกล่าว: “แท้ที่จริงแล้วก็เป็นผู้ที่มีความชอบในการออฟโรด ช่วยลากรถหน่อยซิ”
เมื่อเห็นว่าฉินเทียนไม่กล่าวอะไร เขาก็กล่าวขึ้นอีก: “วางใจ เติมน้ำมันให้คุณหนึ่งถัง”
ฉินเทียนนิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง กล่าว: “ลากรถน่ะได้”
“ฉันเองก็ไม่อยากทำให้พวกแกลำบากใจ พวกแกไปคุกเข่าแล้วก้มหัวขอโทษชายชราคนนั้นซะ และทุกคนจ่ายเงินมาหนึ่งหมื่นหยวนถือเป็นค่าเสียหาย”
“ทำได้แล้ว ฉันจะลาก”
“แกพูดอะไร?” เหล่าไป๋หน้าถอดสีทันที กล่าวอย่างดูแคลน: “พี่ชาย นี่แกอยากจะผดุงความยุติธรรม?”
“แกเป็นใคร?”
ฉินเทียนกล่าวอย่างเรียบเฉย: “ฉันเป็นใครไม่สำคัญ ตอนนี้พวกแกขัดหูขัดตา อยากจะผดุงความยุติธรรมจริงๆ”
“เชื่อฉัน เชื่อฟังอย่างว่านอนสอนง่าย ดีต่อพวกแก”
“เหล่าไป๋ เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
“รีบขับรถมาเร็วเข้าซิ!”
แค่ลากรถทำไมอืดอาดยืดยาดขนาดนี้!” ที่ไกลๆ ทายาทเศรษฐีสองสามคนนั้นรอไม่ไหว เริ่มร้องตะโกน
ถึงแม้เหล่าไป๋จะชื่อว่าเหล่าไป๋ แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ฉายาเท่านั้น ตัวเขาอายุก็แค่ยี่สิบต้นๆเท่านั้น โดยปกติอาศัยที่ครอบครัวมีเงินมีทอง ไร้กฎไร้ระเบียบ
เมื่อเห็นว่าฉินเทียนแต่งกายด้วยชุดลำลอง เหมือนกับว่าเป็นเพียงแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น และกุญแจรถแลนด์ครุยเซอร์ ก็วางอยู่บนก้อนหินด้านข้าง
เขากัดฟันกล่าว: “ไว้หน้าแกแล้วแต่ไม่เอาเอง!”
“วันนี้ฉันจะใช้รถคันนี้แน่!”
พูดไป นึกไม่ถึงว่าจะไปแย่งกุญแจ
สายตาของฉินเทียนเย็นยะเยือกทันที เหล่าไป๋โน้มเอวแย่งกุญแจ นำใบหน้าเข้าไปใกล้พอดี
ทันทีที่เขาโบกมือ ก็ตบผลัวะเข้าบนใบหน้าของเขาฉาดหนึ่ง
เหล่าไป๋ร้องอย่างสมเพชแล้วกระเด็นออกไป หล่นลงบนก้อนหิน กระดูกก้นกบเกือบแตก เจ็บจนดวงตาของเขามีดาวโผล่ออกมา
“พี่น้องทั้งหลาย รีบมาซิ!”
“ไอ้หมอนี่หาเรื่องชัดๆ!”
“ฉันจะฆ่ามัน!” เขาตะโกนเรียกด้วยหน้าตาอัปลักษณ์
ทายาทเศรษฐีสองสามคนต่างก็นิ่งอึ้งไปแล้ว
หลี่เฉียงที่อยู่บนหลังคารถเบนซ์กล่าวเสียงดัง: “ไอ้ชาติหมาที่ไม่แหกตาดู นึกไม่ถึงว่าจะกล้าแตะต้องพี่น้องของพวกเรา!”
“พี่น้องทั้งหลาย จัดการมัน!”
เขากระโดดลงมาจากบนหลังคารถ หยิบไม้เบสบอลออกมาจากท้ายรถ ย่ำโคลนกรูเข้ามา
พวกชายหนุ่มที่เหลือเต็มไปด้วยความแค้นเคืองต่อความไม่เป็นธรรม ก็ทยอยพากันหยิบไม้เบสบอลออกมา
ทั้งหมดหกคน นำฉินเทียนล้อมเอาไว้
เหล่าไป๋เอ่ยกล่าวด้วยตาแดงก่ำ: “คุณชายหลี่ ฉันพูดด้วยความตั้งใจดีว่าให้เขาไปช่วยลากรถ ให้น้ำมันเขาถังหนึ่ง”
“เขากลับบอกว่า ให้พวกเราคุกเข่าแล้วขอโทษตาแก่คนนั้น ทุกคนยังต้องจ่ายเงินคนละหมื่นหยวน!”
“บอกว่าเขาอยากผดุงความยุติธรรม!”
“แกว่า ไอ้ชาติหมานี่มันรนหาที่ตายหรือไม่?”
หลี่เฉียงหันไปมองฉินเทียน ยิ้มออกมาทันที
“ไอ้หนุ่ม ถ้าหากว่าฉันเดาไม่ผิด นี่น่าจะไม่ใช่รถของแกหรอกมั้ง”
ฉินเทียนกล่าวอย่างเรียบเฉย: “แล้วยังไง?”
หลี่เฉียงกล่าวอย่างดูแคลน: “รถห่วยๆประเภทนี้ ถึงแม้ว่าราคาไม่ถูก แต่ว่ามีเพียงแค่ผู้รับเหมาก่อสร้างถึงจะขับ”
“ฉันมองว่าท่าทางแกก็ไม่ได้เหมือนผู้รับเหมา คงจะเป็นคนขับรถ”
“แกขับรถใหม่ของเถ้าแก่มาตกปลา คิดจะฉวยโอกาสหาผลประโยชน์ด้วยละมั้ง?”
“เงินฉันไม่สนใจ แต่ว่าแกแม่งจะโลภมากไม่รู้จักพอเกินไปหน่อยหรือเปล่า?”
พวกเขาคนละหมื่น ก็คือหกหมื่น นับว่าไม่ใช่เงินก้อนเล็กๆเลย
ถึงแม้ว่าฉินเทียนจะกล่าวให้พวกเขานำเงินไปชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ชายชรา แต่ว่าพวกเขาคิดว่า ทั้งหมดนั้นน่าจะเป็นคนหลอกลวง
เงินก้อนนี้ แน่นอนว่าต้องเป็นฉินเทียนที่อยากได้
“แท้ที่จริงแล้วเป็นไอ้บ้านนอก!”
“น่าจะไม่เคยเห็นเงินสักเท่าไหร่หรอกมั้ง”
“คุณชายหลี่เก่งกาจจริงๆ เรียกง่ายๆว่าเป็นเชอร์ล็อก โฮมส์”
“วิเคราะห์ได้ถูกต้องที่สุด!”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่เฉียง เน็ตไอดอลสาวที่ท่าทางสะดีดสะดิ้งสองสามคนนั้น ต่างก็พากันหัวเราะขึ้นมา
เหล่าไป๋ใช้ไม้เบสบอลชี้ไปที่ศีรษะของฉินเทียน กล่าวอย่างเดือดดาล: “แกมันรนหาที่ตายเอง อย่ามาโทษว่าฉันไม่เกรงใจ!”
“สองตัวเลือก”
“ถ้าไม่นำรถส่งมาให้ฉัน ไม่อย่างนั้น ฉันจะตีหัวสุนัขแกให้เละ!”
“เลือกเอาเองเถอะ!”
ชายหนุ่มคนอื่นๆอีกสองสามคนก็พูดเอ็ดตะโร: “ใช่ ให้เขาชดใช้ด้วยรถ!”
“ตบทีหนึ่งแลกกับรถแลนด์ครุยเซอร์ ก็คุ้มค่าแล้ว!”
“ไอ้ชาติหมา ไม่ให้รถ ก็จะตีหัวสุนัขของแกให้เละไปเลย!”
พวกเขาทั้งหกคน ถือไม้เบสบอลเอาไว้หกอัน กำลังชี้ไปที่ศีรษะของฉินเทียนในเวลาเดียวกัน
เน็ตไอดอลสาวสองสามคนกำลังยิ้มอย่างฉอเลาะ ในความคิดของพวกเธอ เพื่อนชายของตนเองก็คือน่าเกรงขาม
พวกขาเปื้อนโคลนที่คอยขับรถให้กับเถ้าแก่ในแคมป์ก่อสร้างเช่นฉินเทียนประเภทนี้ ในสายตาของพวกเธอ ก็แทบจะไม่ต่างกับหมาวัด
แต่พวกเธอ เป็นดอกฟ้าที่พวกหมาวัดไม่มีวันเอื้อมถึง
เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ ชายชราคนนั้นก็รีบมาที่ข้างกายของฉินเทียน
“พ่อหนุ่ม ขอบคุณเธอมากที่ช่วยออกหน้าแทนฉัน แต่ว่าคำพังเพยกล่าวว่าบุรุษที่แท้จริงต้องยอมลดราวาศอก(เมื่อตกอยู่ในที่นั่งลำบาก ต้องสามารถยอมถอยเพื่อที่จะได้ไม่เสียเปรียบ)”
“พวกเขาคนเยอะ อย่างไรเสียพวกเราก็อดทนเอาไว้เถอะ”
“พ่อหนุ่มก็ขอโทษคุณชายคนนี้ซะ จากนั้นก็ช่วยลากรถของพวกเขาออกมา”
“พวกเขาคนเยอะ ถ้าลงมือจริง พ่อหนุ่มจะเสียเปรียบมากเลยนะ!”