บัญชามังกรเดือด บทที่ 231 เล่นใหญ่เกินไปแล้ว
ฉินเทียน ใช่ฉินเทียนจริง ๆ ด้วย!
“คนแซ่ฉิน ใช่นายจริง ๆ ด้วย!”
“นายยังกล้ามาอีกเหรอ!”
หลังจากเงียบสงัดไปชั่วครู่ หลิ่วหรูยู่ก็ปล่อยเสียงโฮพุ่งเข้าหาตัวฉินเทียนอย่างกับคนบ้า แผดร้องสุดเสียงทุบตีไม่ยั้ง
ฉินเทียนมองหลิ่วหรูยู่ที่แทบจะบ้าคลั่ง ในสายตาส่อถึงความรู้สึกผิดในใจ
เขานึกไม่ถึงว่าเกมนี้คนที่เจ็บปวดที่สุดจะเป็นหลิ่วหรูยู่
พอเห็นท่าทางที่แสนเจ็บปวดของเธอ เขาก็อดยืนมือไปโอบเอวอันสะองของเธอดึงตัวเธอมากอดไว้ในอ้อมอกไม่ได้
กระซิบว่า: “ผมทำให้คุณต้องขมขื่น”
“ไม่เป็นไร มันผ่านไปแล้ว”
“ผมรับปากคุณว่านายท่านต้องไม่เป็นไรแน่นอน ตอนนี้ผมมาทำตามสัญญา”
อะไรนะ?
หลิ่วหรูยู่มองฉินเทียนอย่างงง ๆ สีหน้ายากที่จะเชื่อ
อดหลับอดนอนหลายวัน อารมณ์ล่มสลายได้ทุกเมื่อ
เธอรู้สึกว่าตัวเองเหมือนว่าวที่อยู่บนท้องฟ้า มีเพียงด้ายบาง ๆ เส้นหนึ่งพยุงไว้
ซึ่งด้ายเส้นนั้นพร้อมจะขาดได้ทุกเวลา
จากนั้น เธอก็เหมือนจอกแหนที่แห้งเหี่ยว จากเส้นขอบฟ้าไร้ซึ่งพรมแดน ไร้ที่พึ่งพา โดดเดี่ยวล่องลอย ไม่มีที่ให้หวนกลับ
มีความหวาดกลัวในใจสุดขีด
แต่ว่า การถูกชายผู้นี้กอดไว้ในเวลานี้ ได้ยินคำอ่อนโยนของเขา เห็นใบหน้าที่แน่วแน่หมดจดของเขา
เธอก็รู้สึกทันใดว่าตัวเองถึงพื้นดินแล้ว
“นายรับปากฉันแล้ว……”
“ห้ามโกหกฉัน!”
“ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่านายด้วยมือของฉันเอง!”
น้ำตาอาบเต็มใบหน้าของเธอพลางพร่ำรำพึง จากนั้น ก็ไร้เรี่ยวแรงลง ร่างกายอ่อนระทวยลงในอ้อมอกของฉินเทียน
ฉินเทียนยิ้มเฝื่อน เห็นทีตอนนี้คิดจะช่วยปลุกชีพอันกั๋วคงจะไม่ง่ายอย่างนั้น
พอมองไปรอบ ๆ คน ก็เห็นผู้คนมากมายพร้อมด้วยมีดยาวเต็มไปหมด
เขาถูกคนตระกูลอานที่โกรธแค้นล้อมไว้แล้ว
“มีคนอยากจะฆ่าเรามากขนาดนี้เลยเหรอ?”
“ท่าทางเราคงไปยั่วคนส่วนมากเข้าให้แล้วสิ” เขาพูดพลางหัวเราะเฝื่อน
หูปินที่อยู่ข้าง ๆพูดอย่างเอือมระอาว่า: “ดูสิว่าตอนนี้นายจะรับมือยังไง”
“หรือจะให้ฉันขวางไว้แล้วนายหนีไป?”
ฉินเทียนเหลือกตาใส่เอ่ยว่า: “เหล่าหู จะทิ้งเพื่อนกันเลยเหรอ!”
“นายเป็นราชาบู๊ไม่ใช่เหรอ?พวกเขาทั้งหมดเป็นคนของนาย ยังไม่รีบออกคำสั่งให้พวกเขาหลีกไปอีก”
“อย่ามาขวางฉันทำงาน”
หูปินปัดมือเอ่ยว่า: “นายก็เห็นแล้วนี่”
“ตอนนี้ฉันยังเอาตัวเองไม่รอดเลย ฉะนั้น นายจงทำบุญไว้ให้มาก ๆ ดีกว่า”
หลี่ชุนพูดเสียงดังว่า: “พี่น้องทั้งหลาย ทุกคนได้ยินมั๊ย?”
“หูปินสมคบกับฉินเทียน หลักฐานดิ้นไม่หลุดอย่างไม่ต้องสงสัย!”
“ฟังคำสั่งของฉัน ทุกคนจงร่วมมือกันสับคนชั่วสองคนนี้ออกเป็นชิ้น ๆ!”
“เพื่อสังเวยวิญญาณวีรชนของนายท่าน!”
ตอนนี้เขาคุมสถานการณ์ไว้อย่างสิ้นเชิงแล้ว ต่อให้ฉินเทียนกับหูปินปรากฏตัวแล้วยังไง?
ก็ดี เขาจะได้ฆ่าทิ้งซะแล้วตั้งตนเป็นใหญ่!
ขอแค่ฆ่าฉินเทียนกับหูปิน ก็จะไม่มีใครมาสั่นคลอนสถานภาพของเขาได้อีกต่อไป
หูปินเห็นว่ามหาสงครามกำลังจะประทุ ฉินเทียนยังคงทำหน้าไม่แยแสจนเขาทนไม่ได้
เอ่ยด้วยเสียงขรึมว่า: “หยางเจี้ยน ยังรออะไรอยู่!”
พอได้ยินเสียง คนสนิทคนหนึ่งข้างกายหลี่ชุนก็ชักมีดขึ้นมาจี้ที่คอของหลี่ชุน
หลี่ชุนตกใจเอ่ยว่า: “หยางเจี้ยน นายจะบ้าเหรอ?”
“นายทำอะไรของนาย? รีบวางมีดลงเดี๋ยวนี้!”
หยางเจี้ยน ลูกน้องฝีมือดีที่สุดของหลี่ชุน และเป็นคนสนิทที่เขาไว้ใจที่สุดห
คิดไม่ถึง เวลาคับขันกลับเอามีดมาจี้คอหลี่ชุน
เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่ชุน หยางเจี้ยนก็หัวเราะเย็นชาเอ่ยว่า: “หัวหน้าลี่ คงคิดไม่ถึงสินะ”
“ตั้งแต่คุณสั่งให้ผมเข้ามาในตระกูลอาน คุณหูก็จัดแจงให้ผมอยู่ข้างกายคุณ”
“เตรียมการไว้ก็เพื่อวันนี้”
“นายว่าอะไร?” พอเห็นรอยยิ้มที่วางอุบายแยบยลของหูปิน สีหน้าหลี่ชุนก็ซีดเป็นขี้เถ้าทันที
เขาคิดยังไงก็คิดไม่ถึงว่า สุดท้ายยังมาหลงกลหูปินได้
“คิดไม่ถึงสินะ?”
หูปินหัวเราะได้ใจพูดว่า: “เขาเรียกว่าอะไร ตั๊กแตนจ้องจับจิ้งหรีด นกขมิ้นเหลืองรอโฉบอยู่ข้างหลัง” (มัวจ้องแต่จับเหยื่อตรงหน้า ไม่ระวังว่าตัวเองก็ตกเป็นเหยื่อ)
“หลี่ชุน นายถนัดเล่นเกมแบบนี้ที่สุดไม่ใช่เหรอ?ตอนนี้ ฉันก็แค่ใช้หนามยอกต้องเอาหนามบ่งเท่านั้นเอง”
หูปินเป็นถึงผู้กุมอำนาจหน่วยต่อสู้ของตระกูลอัน ผู้นำแห่งสี่ราชา จะถูกลูกน้องของตัวเองปราบลงง่าย ๆ อย่างนั้นเลยเหรอ?
อันที่จริง หูปินได้รับคำสั่งจากนายท่านตั้งแต่แรกว่าให้ร่วมเล่นละครฉากนี้
ก็เพื่อให้หลี่ชุนกับคนอย่างจี้เจิน โผล่หน้าออกมา
“ทุกท่าน อย่าไปเชื่อคนชั่วอย่างหลี่ชุน!”
“เขาสมคบกับจี้เจิน วางแผนทำร้ายคุณหู!”
“เขาต่างหากที่เป็นคนทรยศ!” หยางเจี้ยนตะโกน
คนหมู่มากต่างมึนงง
ไม่นาน พี่น้องที่จงรักภักดีต่อหูปิน ก็หันกลับมาล้อมลงปกป้องหูปิน
หลี่ชุนกัดฟันเอ่ยว่า: “พี่น้องทั้งหลาย อย่าไปเชื่อพวกเขา!”
“ฉันขอถามหน่อย ฉินเทียนบอกว่ารักษานายท่านให้หายได้ แต่ตอนนี้นายท่านกลับตายไปแล้ว!”
“ศพของเขาก็อยู่ตรงหน้า นั่นเพราะหูปินสบคบกับฉินเทียนทำร้าย”
“พวกเขารับคำสั่งมาจากราชาเป่ยเจียง!”
“ฉันตายน่ะไม่เป็นไร แต่พวกนายต้องรีบฆ่าคนทรยศ 2 คนนั้นล้างแค้นให้นายท่านล่ะ!”
คนบางส่วนถูกความไม่รู้จักเกรงกลัวของหลี่ชุนระบาดใส่ ใช่แล้ว ไม่ว่ายังไง ศพของนายท่านก็อยู่ตรงหน้า
นี่คือหลักฐานดิ้นไม่หลุด
ยังไงก็ตาม ไม่มีอะไรให้ต้องเคลือบแคลง
คนสนิทของหลี่ชุนเป็นผู้นำหาเรื่อง ปลุกปั่นคนส่วนใหญ่ให้ล้อมคนของหูปินเอาไว้
จำนวนคนของเขาเหนือกว่า หากสงครามเริ่มต้องกวาดล้างคนของหูปินหมดแน่
“ตระกูลหลี่ของฉันสนับสนุนหลี่ชุน!”
“คนตระกูลหลี่ทั้งหมดฟังคำสั่ง จงล้อมปราบหูปินและคนทรยศเหล่านี้!”
อยู่ ๆ หลี่ชุนจงก็ออกคำสั่งเสียงดัง
มีลูกสมุนนับไม่ถ้วนทะลักเข้ามาจากนอกลานเรือน
พวกเขาปลอมตัวเป็นคนงาน ซึ่งความจริงหลี่ชุนจงได้รับคำสั่งจากหลี่ชุน ให้ซุ่มตัวนักฆ่าไว้ล่วงหน้าแต่แรก
เพื่อที่ในเวลาคับขันจะได้ช่วยหลี่ชุนปราบปรามคนหมู่มาก
แต่สถานการณ์ในตอนนี้ไม่ใช่เลย
เจี่ยเซี่ยวเหลียนแห่งตระกูลเจี่ยก็มีปฏิกิริยารีบตะโกนว่า: “คนตระกูลเจี่ยจงฟัง!”
“พวกเราจะติดตามตระกูลหลี่ สนับสนุนหลี่ชุนล้อมปราบคนทรยศ ล้างแค้นให้นายท่านอานกั๋ว!”
พอสิ้นเสียงคำสั่ง ลูกสมุนตระกูลเจี่ยที่ซุ่มอยู่ล่วงหน้าก็พุ่งเข้ามา
พวกเขาเดิมเป็นคนที่เจี่ยเสี้ยวเหลียนสมคบกับพ่อลูกตระกูลจี้เตรียมการไว้ยามคับขัน ช่วยพ่อลูกตระกูลจี้
ตอนนี้ จากสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงตรงหน้า เจี่ยเซี่ยวเหลียนก็เหมือนกับหลี่ชุนจง ต้องช่วยหลี่ชุนกำจัดหูปินคนพวกนี้ก่อน
เมื่อเป็นเช่นนั้น พอเหลือแค่กำลังของตระกูลอันก็ไม่น่ากลัวอีกต่อไป
คนสนิทของหลี่ชุน บวกกับคนของตระกูลหลี่กับตระกูลเจี่ย เมื่อรวมกันแล้วมีกว่าร้อยคนซึ่งมากว่าคนของหูปินเป็นเท่าตัว
เกิดสู้กันขึ้นมา หูปินกับพรรคพวกไม่มีทางรอดแน่
สีหน้าของหลิ่วหรูยู่ซีดเผือก เอ่ยด้วยเสียงสั่นเทาว่า: “พวกนายทำอะไร?”
“คนตระกูลอันจงฟัง ยังไม่รีบถอยไปอีก”
“ฉินเทียนบอกแล้วว่าเขารักษานายท่านให้หายได้”
ทว่า คนของตระกูลอันไม่ได้ฟังเธอเลย
หลี่ชุนหัวเราะฮ่า ๆ เอ่ยว่า: “คุณหนูใหญ่ คุณนี่ช่างงี่เง่าจังเลยนะ”
“เรื่องราวมาถึงขั้นนี้แล้ว คุณยังคิดว่าสั่งผมได้อีกเหรอ?”
“ตอนนี้ ผมจะล้างแค้นให้นายท่านอาน ไม่มีใครขวางผมได้หรอก!”
“หยางเจี้ยน นายฆ่าฉันได้แต่อย่าลืมว่า ถ้าฉันตาย พวกนายทั้งหมดก็จะถูกสับเป็นหมื่นชิ้น!”
ไม่คิดว่าหลี่ชุนจะเหี้ยมโหดอย่างนี้ จนสั่นคลอนหยางเจี้ยนได้
หากเวลานี้เขาฆ่าหลี่ชุน ก็เป็นการเติมเต็มให้หลี่ชุนขึ้นชื่อว่ามีความชอบธรรม ส่วนตัวเองกับหูปินก็ตกเป็นความอยุติธรรม
ถึงเวลานั้น ไม่ว่าหูปินจะพูดอะไร ก็จะไม่มีใครเชื่อถือเขาอีก
มือที่ถือมีดของเขาสั่นเทาเล็กน้อย สายตามองไปที่หูปินด้วยความลังเล
ณ จุดนี้ หูปินก็คิดไม่ถึง
เขายิ้มเฝื่อน ๆ มองฉินเทียนแล้วเอ่ยว่า: “ท่าทางจะเล่นใหญ่เกินไปแล้ว คุมสถานการณ์ไว้ไม่อยู่แล้ว”
“ฉันจะขวางพวกเขาไว้เอง นายต้องฉวยโอกาสช่วยนายท่านให้ฟื้น”
“เวลานี้ มีเพียงช่วยให้นายท่านฟื้นเท่านั้นจึงจะพลิกสถานการณ์ได้”