บัญชามังกรเดือด บทที่ 233 อนุมัติ
พอเห็นฉากนี้ ทุกคนในที่เกิดเหตุต่างเบิกตากว้าง
พวกเขาคิดไม่ถึงว่าหลิ่วหรูยู่จะกล้าขนาดนี้
เธอเป็นถึงเจ้าแม่ดรุณีหยกที่ดังไปทั่วเมืองเชียวนะ!
ถึงขั้น ต้องร้อนแรงอย่างนี้เลยเหรอ?
“ว๊าว!” มีคนทนไม่ไหวตะโกนออกมา
ดวงตาดวงสวยของยู่หลิงหลงสั่นระริกเอ่ยขึ้นมาว่า: “ทำได้ดี!”
“คุณหนูใหญ่ แต่งงานกับเขาเลย!”
ประโยคนี้ จุดประกายคนในที่เกิดเหตุขึ้น
คนจำนวนนับไม่ถ้วนเริ่มส่งเสียงเชียร์
“คุณหนูใหญ่ทำได้ดี!”
“แต่งงานกับเขาเลย!”
“จับเขาไว้!”
ท่ามกลางเสียงเซ็งแส้ ใบหน้าของหลิ่วหรูยู่แดงก่ำ แต่ว่า เธอยังคงประคองใบหน้าของฉินเทียนไม่ยอมปล่อย
ดวงตาทั้งคู่ของเธอเบิกกว้างจ้องฉินเทียนเขม็ง
ตาประสานตา
ฉินเทียนรู้สึกว่าโลกหมุน
เขาอยากจะผลักหลิ่วหรูยู่ออก แต่ว่า ต่อหน้าร่างกายที่เร่าร้อนเช่นนี้ไม่สามารถที่จะวางมือได้
ความเกร็งสุดท้ายของเขา คือการถอยตัวออก เหยียดมือทั้งสองออก กลัวจะสัมผัสถูกหลิ่วหรูยู่
ดูแล้วเหมือนเป็ดตัวผู้ที่ถูกลักพาตัว
แม่งเอ้ย!
ไม่คิดว่าจะตกเป็นเชลยของสาวน้อยคนหนึ่ง!
มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นเสียงหนึ่งในใจของเขา คาดหวังว่าทุกอย่างจะจบสิ้นโดยเร็ว
จูบนี้ เหมือนใช้พลังชีวิตและความกล้าทั้งหมดของหลิ่วหรูยู่
เธอมองดูสายตาไร้เดียงสาของฉินเทียนอยู่นาน ในสายตาดวงโตของเธอก็เผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
ออกแรงเบา ๆ จากนั้น ก็กัดที่ริมฝีปากของฉินเทียนอย่างดุดัน
“อึก!”
สีหน้าฉินเทียนเจ็บปวด
ในที่สุด ริมฝีปากของหลิ่วหรูยู่ก็ปล่อยเขา ทว่า สองมือยังคงประคองใบหน้าของเธอไม่ปล่อย
ในเสียงเรียกร้อง “แต่งกับเขา” เธอแลบลิ้นเลียเลือดที่ลิ้มฝีปากออก
จากนั้นก็เขย่งเท้า เป่าที่ข้างหูของฉินเทียนกระซิบว่า: “ทำไมตอนนี้ไม่กล้ากอดฉันแล้วล่ะ?”
“กลัวฉันจะแต่งกับนายจริง ๆ เหรอ?”
ฉินเทียนยิ้มแหย ๆ
ถูกสาวสวยทำให้จิตใจว้าวุ่นจนต้องกลืนน้ำลายลงคอคือกระซิบว่า: “ได้ยินว่าบ้านเมืองอนุญาตให้มีลูก 2 คนแล้ว ไม่รู้เมื่อไหร่จะให้มีเมีย 2 คนบ้าง”
พรืด
หลิ่วหรูยู่อดขำไม่ได้
จากนั้นก็เลิกคิ้วขึ้นเอ่ยว่า: “อนุญาตให้มีเมีย 2 คนแล้วนายจะให้ฉันเป็นเมีย 2 เหรอ?”
สายตาฉินเทียนส่องเป็นประกายกระซิบว่า: “เลิกกวนได้แล้ว”
ที่เขาพูดอย่างนั้นเพื่อบอกหลิ่วหรูยู่อย่างสุภาพว่าเขาแต่งงาแล้ว
สายตาของหลิ่วหรูยู่ฉายความเกลียดชังขึ้นมาแวบหนึ่ง
เธอถอนใจกระซิบว่า: “วางใจ ฉันรู้ว่านายเป็นผู้ชายที่ดี สามีที่ดี ฉันไม่ทำให้นายลำบากหรอก”
ในที่สุดเธอก็ปล่อยฉินเทียน
หันกลับมามองคนหมู่มากที่ส่งเสียงเชียร์ ใบหน้าทั้งชื่นมื่นทั้งเขินอาย ทำเสียงกระแอมเอ่ยว่า: “ทุกคนไม่ต้องส่งเสียงเชียร์แล้ว”
“ที่จริง นี่เป็นแค่การเดิมพันของฉันกับคุณฉิน”
“เดิมพัน?” กลุ่มคนทำหน้าสงสัย
หลิ่วหรูยู่หน้าแดงเอ่ยว่า: “ฉันท้าเขาว่า ถ้าเขารักษาคุณปู่ให้หายได้ ฉันก็จะ……มอบจูบแรกให้เขา”
อ้าวเหรอ!
จูบแรกด้วย!
บนใบหน้าของทุกคน เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข
ยู่หลิงหรงหัวเราะพูดว่า: “ที่แท้เป็นแค่ละครหลอกเหรอ”
“แต่ละครหลอกก็ถือเป็นจริงได้ คุณหนูใหญ่ดูมีความสุข รู้สึกดีต่อใจ ทำไมไม่ฉวยโอกาสจับเขาไว้”
“ของดีอย่างคุณฉินใกล้จะสูญพันธุ์แล้ว”
“ใช้จังหวะที่ทุกคนยังอยู่ นายท่านก็ฟื้นมาแล้ว พวกเราก็ถือโอกาสเปลี่ยนงานศพเป็นงานแต่งเลยสิ”
คนหมู่มากส่งเสียงเชียร์อีกครั้ง
หลิ่วหรูยู่พูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า: “พูดอะไรน่ะ”
“ทุกท่าน ฉันกับคุณฉินต่างบริสุทธิ์ในกัน”
“คุณฉินแต่งงานมีภรรยาแล้ว และภรรยาของเขายอดเยี่ยมมาก แล้วพวกเราก็เป็นเพื่อนรักกัน”
“ต่อไปทุกคนอย่าพูดเหลวไหลอีก”
ที่แท้เป็นเช่นนี้
ในที่สุดความร้อนแรงของคนหมู่มากก็ลดลง
หนิงทงเอ่ยเสียงดังว่า: “ทุกคนเงียบก่อน !”
“ตอนนี้ ที่นี่มีคนทรยศอยู่ 2 คน ไว้จัดการพวกเขาเสร็จพวกเราค่อยฉลองกันก็ไม่สาย”
“นายท่านว่า ควรลงโทษหลี่ชุนจี้เจินอย่างไรดี!”
คนหมู่มากกลับมาด่าอีกครั้งด้วยความเกียรติแค้น
ยามนี้ หลี่ชุนกับจี้เจินรู้ว่าสูญเสียอำนาจ สีหน้าจึงซีดเป็นขี้เถ้า
แพ้เป็นโจรชนะเป็นเจ้า ก็แค่เท่านั้นเอง
สีหน้าของอันกั๋วดูไม่จืด
ถูกคนข้างกายทรยศ ถ้าเป็นใครก็รู้สึกไม่ดี
เขาพูดด้วยเสียงเยือกเย็นว่า: “ราชาบู๊ หลี่ชุนเป็นคนของคุณ มอบให้คุณจัดการก็แล้วกัน”
“ครับ!”
หูปินสาวเท้ามาที่เวที ค่อย ๆ กวาดสายตามอง สุดท้าย ก็ตกไปที่เจ้าบ้านตระกูลหลี่ ที่ใบหน้าของหลี่ฉุนจง
สายตาหนาวเหน็บเหมือนมีด
ตัวหลี่ฉุนจงสั่นเทา คนเป็นโจรมักจะผวา รีบก้มหัวลง
หูปินพูดด้วยเสียงขรึมว่า: “เจ้าบ้านตระกูลหลี่ ตอนนั้นคุณช่วยชีวิตหลี่ชุนจากข้างถนน แล้วจัดแจงเขาเข้ามาตระกูลอันอย่างลับ ๆ”
“หลายปีมานี้ เขาคงส่งข่าวให้คุณไม่น้อยเลยสินะ?”
“ก่อกวนตระกูลอันควรมีโทษอย่างไร?”
“คุณหู ฟังผมก่อน!” หลี่ชุนจงเอ่ยอย่างหวั่นไหว: “ไม่เกี่ยวกับผม!”
“ตอนนั้นผมช่วยชีวิตหลี่ชุน ได้กำชับเขาแล้วว่าต้องทำตัวเป็นคนดี ที่เขายอมเข้าตระกูลอันก็เพื่อหาเวทีที่ยิ่งใหญ่”
“ผมนึกไม่ถึงว่า เขาจะกล้าหักหลังคุณหู กล้าหักหลังนายท่าน!”
“การหักหลังของเขา ไม่เกี่ยวอะไรกับผมเลย!”
“ผมก็ถูกปิดหูปิดตามาตลอด!”
หูปินแสยะยิ้มเอ่ยว่า: “เห็นหลี่ชุนยังมีชีวิตอยู่ นายก็ทำเป็นลืมหนี้แล้วเหรอ?”
“สู้เรามาถามหลี่ชุนกันดีกว่า”
หลี่ชุนจงหันมาเสียงดังว่า: “หลี่ชุน คนสารเลว!”
“โจรใจโฉด!”
“ไม่คิดว่านายจะหักหลังผู้มีพระคุณ มันน่าฆ่าให้ตายนัก!”
เขากระโจนมาด้วยความโกรธ คว้ามีดของหยางเจี้ยน เหนือความคาดหมาย ปาดเข้าที่คอของหลี่ชุน
ดูแล้วเหมือนฆ่าคนโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งที่จริงทุกคนต่างรู้ดี
หลี่ชุนจง ฆ่าปิดปาก
เขาทิ้งมีดเปื้อนเลือดลงบนพื้น ทรุดตัวคุกเข่าลงเอ่ยว่า: “นายท่านอาน ท่านเป็นผู้อาวุโสใจกว้างมีเมตตา ช่วยปล่อยตระกูลหลี่ด้วย”
“นับจากนี้ไป ผมจะปลดลูกสมุนทั้งหมดในตระกูลหลี่ จดจ่อกับการทำการค้าอย่างเดียว”
อานกั๋วพูดด้วยเสียงเยือกเย็นว่า: “อนุมัติ”
“ขอบคุณนายท่านอย่างสูง!”
“ขอบคุณประธานหู!”
หลี่ชุนจงซาบซึ้งในพระคุณอย่างยิ่ง
ความจริงที่หูปินใช้หลี่ชุนถามความรับผิดชอบจากตระกูลหลี่ ก็เพื่อจะฉวยโอกาสโจมตีตระกูลหลี่
ลำพังฆ่าหลี่ชุน เป็นแค่เรื่องเล็ก แต่ว่า จะทำยังไงให้การตายของหลี่ชุนมีคุณค่า เรื่องนี้น่าเป็นความรู้กว่า
ราชาบู๊ผู้ยิ่งใหญ่ ดูเหมือนใจนักเลง แต่ความจริงกลับน้ำนิ่งไหลลึกมาก
หลังจากจัดการเรื่องตระกูลหลี่แล้ว เขาก็แสยะยิ้มมองไปยังเจี่ยเซี่ยวเหลียน
เจี่ยเซี่ยวเหลียนตัวสั่นลนลานรีบเอ่ยว่า: “คุณหูฟังผมก่อน!”
“ตระกูลเจี่ยของเราญาตดีกับตระกูลอันมาตลอด ครั้งนี้ที่พ่อลูกตระกูลจี้มาหาพวกเราบอกว่าอยากให้พวกเราส่งมอบกำลังเพื่อล้างแค้นให้นายท่าน”
“พวกเราไม่รู้ความจริง ถูกพ่อลูกตระกูลจี้หลอกลวง!”
“ความตั้งใจเดิมของพวกเราคืออยากล้างแค้นให้นายท่าน!”
หูปินสแยะยิ้มเอ่ยว่า: “เจ้าบ้านตระกูลเจี่ย พวกเรารู้ว่าใครเป็นยังไง ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลง”
“เรื่องที่พวกคุณทำลับหลังคิดว่าพวกเราไม่รู้จริง ๆ เหรอ?”
“ว่ามา สองสามปีมานี้ นายแอบดึงคนจากเป่ยเจียงมาเท่าไรแล้ว?”
“ทุกครั้งที่ตระกูลอันของพวกเราถูกคนเป่ยเจียงโจมตี เบื้องหลังทั้งหมดมีความชอบของเจี่ยเซี่ยวเหลียนอยู่สินะ?”
สีหน้าเจี่ยเซี่ยวเหลียนเหมือนขี้เถ้า
เขารู้ว่า แก้ตัวน้ำขุ่น ๆ ต่อไปก็เปล่าประโยชน์
เขาคุกเข่าลงที่พื้น เลียนแบบหลี่ชุนจงเอ่ยว่า: “นายท่านโปรดเมตตา!”
“ผมขอปลดกำลังทั้งหมด นับจากนี้ขอมุ่งทำแต่ธุรกิจ”
อันกั๋วเอ่ยอย่างเยือกเย็นว่า: “อนุมัติ!”