บัญชามังกรเดือด บทที่ 247 อย่ามา
“ที่รัก พูดคำหยาบทำไมครับเนี่ย?”
“สถานีโทรทัศน์อะไรครับ ถ้าเกิดคุณไม่ชอบขี้หน้าพวกมันละก็ เดี๋ยวผมจะไปซื้อทั้งบริษัทมาแล้วกัน”ฉินเทียนยิ้มพลางพูด
ได้ยินเสียงดังกล่าวกะทันหัน ทำให้ซูซูตกตะลึงอย่างมาก และอยากหมุนเก้าอี้กลับมาโดยสัญชาตญาณ
“อย่าขยับ”ฉินเทียนควบคุมเก้าอี้อยู่ด้านหลัง แล้วใช้มือทั้งสองข้างขยี้แก้มของซูซู
ซูซูเงยหน้าขึ้นมาโดยสัญชาตญาณ มองดูรอยยิ้มทีเจ้าเล่ห์ของฉินเทียนแล้วรีบพูดว่า: “ทำอะไรน่ะ รีบปล่อยเดี๋ยวนี้!”
ฉินเทียนกลืนน้ำลายอึกหนึ่งอย่างอดไม่ได้
มองดูใบหน้าที่งดงามอย่างไร้ที่ติตรงหน้านี้ เขาโน้มใบหน้าตัวเองลงไป
“อย่านะ”ขนตาของซูซูสั่นเล็กน้อย และเธอก็หลับตาลงโดยสัญชาตญาณ
ในขณะที่แผนชั่วฉินเทียนกำลังจะสำเร็จอยู่นั้น เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น: “ท่านประธานกรรมการคะ ฉันคือหลิวชิงค่ะ”
“ฉันเข้าไปได้ไหมคะ?”
ซูซูรีบใช้มือผลักฉินเทียนอออก แล้วตอบกลับอย่างลนลาน: “รีบปล่อยเดี๋ยวนี้!”
“เอ่อประธานหลิว เชิญเข้ามาได้เลยค่ะ”
ฉินเทียนทำได้แค่ปล่อยมือออกอย่างนึกเสียดาย
หลิวชิงผลักประตูเดินเข้ามา เมื่อเห็นฉินเทียนที่กำลังยิ้มแย้ม ส่วนใบหน้าของซูซูกลับแดงระเรื่อเล็กน้อย
เธอจึงชะงักไปครู่หนึ่ง เมื่อกลับมาได้เธอจึงยิ้มอย่างเย้ยหยันพลางพูด: “ดูท่าฉันน่าจะมาไม่ถูกจังหวะสินะคะ”
“ท่านประธานกรรมการ พวกคุณยุ่งก่อนเลยค่ะ เดี๋ยวฉันค่อยมาใหม่”
ซูซูรีบลุกขึ้นมาแล้วพูด: “หลิวชิง อย่าล้อเล่น”
“รีบพูดมา เจรจากับตัวแทนจำหน่ายพวกนั้นเรียบร้อยหรือยัง?”
หลิวชิงถอนหายใจเฮือกหนึ่ง สีหน้าดูค่อนข้างตึงเครียด
“มีสามเจ้าที่ยังไม่ยอมเซ็นสัญญา ด้านหนึ่งเป็นเพราะพวกเขาอยากรอให้โฆษณาฉบับจริงของเราปล่อยออกมาก่อน”
“ส่วนอีกด้านหนึ่งนั้น ท่านประธานกรรมการคะ จำเป็นต้องจัดการเรื่องการปลอมแปลงนั่นก่อนนะคะ”
“ตอนนี้มันส่งผลกระทบต่อความเชื่อใจของตัวแทนจำหน่ายแล้ว”
“ฝั่งกงลี่ยังไม่มีข่าวคราวอะไรเลยเหรอ?”
เมื่อได้ยินคำว่า“ปลอมแปลง” สีหน้าของซูซูก็หม่นหมองลงไปเช่นกัน ทำให้เธอดูโกรธอย่างเห็นได้ชัดมาก
“เกิดอะไรขึ้นครับ?”
“ของปลอมแปลงอะไรนั่นมาจากไหนครับ?”ฉินเทียนถามอย่างอดไม่ได้
หลิวชิงพูดอย่างไม่สบอารมณ์: “งานแถลงข่าวเมื่อครั้งก่อนในเมืองหลวง ผลิตภัณฑ์ของเราโด่งดังขึ้นก็จริง แต่ก็ดึงดูดพวกของก๊อปมาเหมือนกันค่ะ”
“เมื่อหลายวันก่อนพวกเราค้นพบว่า ผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อว่า‘ครีมซูหวัง’เริ่มแพร่หลายในตลาด แพ็กเกจจิ้งและคำเคลมล้วนก๊อปของพวกเราไป”
“ของแท้ของเรายังไม่ทันกระจายออกไปหมด ของก๊อปก็เริ่มเป็นกระแสแล้ว ผู้บริโภคส่วนมากไม่รู้เลยว่าได้ใช้ของก๊อป”
“สุดท้ายแล้ว สิ่งที่เสื่อมเสียก็คือชื่อเสียงและผลประโยชน์ของเรา”
“ปัญหานี้จึงจำเป็นต้องจัดการให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้”
ฉินเทียนขมวดคิ้วแล้วพูดว่า: “ใครกันนะถึงกล้าหาญขนาดนี้? ตรวจสอบที่มาที่ไปของผลิตภัณฑ์หรือยัง?”
“แล้วก็ พวกคุณได้ร้องเรียนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือยัง?”
ซูซูพูดอย่างไม่สบอารมณ์: “ตรวจพบโรงงานที่ปลอมแปลงแล้ว และตั้งอยู่ในเมืองเจิ้งนี่เอง”
“พวกเราร้องเรียนต่อหน่วยงานในพื้นที่แล้ว แต่มันจะมีประโยชน์อะไรล่ะ ถ้าพึ่งพาประสิทธิภาพในการดำเนินงานของพวกเขา เกรงว่าคงได้แก่ตายก่อนพอดี”
“บวกกับการสถานที่ต่าง ๆ ในพื้นที่ถูกปกครองโดยการใช้อำนาจในทางที่ผิด และผลประโยชน์ที่โยงใยกัน จึงคาดหวังในตัวพวกเขาไม่ได้เลยด้วยซ้ำ”
“เมืองเจิ้งคือบ้านเกิดของกงลี่ ฉันส่งกงลี่ไปตรวจสอบ จนกระทั่งตอนนี้ยังไม่ได้รับข่าวคราวอะไรเลย”
หลังจากพูดจบ เธอก็กดโทรหากงลี่ ก่อนจะพูดอย่างแปลกใจว่า: “โทรไม่ติดงั้นเหรอ?”
“คงไม่เกิดเรื่องอะไรกับกงลี่หรอกใช่ไหม?”
หลิวชิงก็ดูตื่นตระหนกเล็กน้อยเหมือนกันพลางพูด: “เท่าที่ฉันทราบมา โรงงานผิดกฎหมายในพื้นที่ที่ถูกปกครองโดยการใช้อำนาจในทางที่ผิดนั้น เลวร้ายอย่างมาก พวกมันกล้าทำร้ายแม้กระทั่งนักข่าว”
“กงลี่ตัวคนเดียว ต้องรับมือไม่ไหวแน่นอน”
“ท่านประธานกรรมการคะ ให้ฉันไปเถอะค่ะ!”
ซูซูลังเลใจอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะตอบกลับ: “ไม่ได้”
“หลิวชิง คุณรีบเดินทางไปเมืองหลวงเดี๋ยวนี้ ไปเจรจาเรื่องการปล่อยโฆษณากับสถานีโทรทัศน์”
“ช่วงนี้ซีรีย์ที่นำแสดงโดยไอดอลของพวกเขากำลังจะออกอากาศ ซึ่งเป็นไพรม์ไทม์ของพวกเขา ตอนนี้เสียงเรียกร้องที่มีต่อซีรีย์เรื่องนี้บนในอินเตอร์เน็ตสูงมาก ๆ เป็นที่สนใจของกลุ่มคน และสอดคล้องตรงกับผลิตภัณฑ์ของเราพอดี”
“คุณต้องรีบเซ็นสัญญากับพวกเขาเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้ได้รับสิทธิ์ในการออกอากาศ 30 วินาทีก่อนจะฉายตอนแรก”
“แล้วก็เรื่องของตัวแทนจำหน่าย ก็ต้องรบกวนคุณลำบากหน่อยนะคะ เดี๋ยวฉันจะให้หลินเซวี่ยไปช่วยคุณด้วย”
“เวลาไม่เคยคอยท่า คุณออกเดินทางตั้งแต่ช่วงบ่ายเลยนะคะ”
หลิวชิงพยักหน้าแล้วพูดว่า: “หลังจากโฆษณาของเราถูกปล่อยออกไปแล้ว อาศัยชื่อเสียงของหลิวหรูยู่ ต้องทำให้ระดับการเป็นที่รู้จักของผลิตภัณฑ์เราเพิ่มขึ้นแน่นอนค่ะ”
“อย่างน้อยก็สามารถกดอัดกระแสของของก๊อปได้ในระดับที่แน่นอน แต่ทว่าหากไม่ขจัดของก๊อปให้หมดสิ้น สุดท้ายแล้วมันก็ยังเป็นเนื้อร้ายอยู่ดี”
“คุณวางแผนจะเอายังไงต่อคะ?”
ซูซูตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ต่ำทุ้ม: “ฉันจะเดินทางไปเมืองเจิ้งด้วยตนเอง”
หลิวชิงมองไปทางฉินเทียน
ฉินเทียนพยักหน้าแล้วพูดว่า: “ประธานหลิว ทำตามที่ท่านประธานกรรมการกำชับเถอะครับ”
“ในส่วนของเมืองเจิ้งนั้น ผมจะไปเป็นเพื่อนท่านประธานกรรมการเอง”
“งั้นก็ได้ค่ะ”หลิวชิงรู้อยู่ว่าเมื่อมีฉินเทียนออกโรงแล้ว ต้องไม่มีปัญหาอะไรแน่นอน ก่อนที่เธอจะจากไปอย่างเร่งรีบ ไปเตรียมเรื่องการเดินทางเข้าเมืองหลวง
“ไม่ได้”
“ฉันรู้สึกว่ากงลี่อาจจะตกอยู่ในความอันตรายยังไงไม่รู้ เราไปกันตอนนี้เถอะ”ซูซูลุกตัวขึ้น
ฉินเทียนยังอยากพูดอะไรบางอย่าง ทว่าโทรศัพท์ของซูซูกลับดังขึ้นมาก่อน และไม่นึกเลยว่าจะเป็นสายที่โทรมาจากกงลี่
“ซูซู เมื่อกี้โทรศัพท์ฉันไม่มีแบต”
“ฉันตรวจพบเบาะแสบางอย่างแล้ว เชื่อว่าใช้เวลาอีกไม่นาน ก็จะสามารถล็อคตำแหน่งของโรงงานที่ปลอมแปลงผลิตภัณฑ์ของเราได้แน่นอน”
“เธอรอข่าวจากฉันได้เลยนะ”
เมื่อทราบว่ากงลี่ไม่เป็นอะไร ซูซูก็หายใจโล่งอกได้สักทีแล้วพูดว่า: “กงลี่ กำลังแรงของเธอคนเดียวมันเล็กเกินไป อย่าทำอะไรตามความคิดเห็นของตนโดยพลการล่ะ”
“เธอส่งตำแหน่งของเธอมาให้ฉัน เดี๋ยวฉันจะไปรวมตัวกับเธอตอนนี้เลย”
พอพูดจบ เธอก็หยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วเดินออกไปข้างนอก
“ที่รัก อย่ารีบร้อนสิ!”
“กินข้าว กินข้าวก่อนสิครับ!”
“ถึงเวลากินข้าวพอดีเลย”
ฉินเทียนรีบดึงตัวซูซูเอาไว้ กดตัวเธอนั่งลงบนเก้าอี้ จากนั้นเขาก็เอากับข้าวในข้าวกล่องออกมาโชว์อย่างกระตือรือร้น
ซูซูก็รู้สึกหิวแล้วจริง ๆ บวกกับสีและกลิ่นของกับข้าวที่ครบถ้วน เธอจึงลงมือกินในทันที
เมื่อเห็นท่าทางของเธอ ฉินเทียนจึงพูดกดเสียงต่ำ: “เมนูอาหารที่ผมเตรียมให้คุณ คุณไม่เคยทำตามแม้แต่มื้อเดียวเลยใช่ไหม?”
ซูซูยิ้มพลางตอบกลับ: “ก็ฉันยุ่งนี่นา”
“อีกอย่างสิ่งที่คุณเตรียมให้มีแต่ของที่เสริมสร้างวิตามินต่าง ๆ ถ้าฉันกินจนอ้วนล่ะจะทำยังไง?”
ฉินเทียนพูดอย่างจริงจัง: “เรื่องนี้มันก็เป็นปัญหาจริง ๆ แฮะ”
“ถ้าคุณอ้วนกว่านี้อีกนิดหน่อย ผมก็น่าจะอุ้มไม่ไหวแล้ว”
“ไสหัวไป!”ซูซูพูดอย่างไม่สบอารมณ์: “คุณนั้นไอ้หมู!”
“ฉันเป็นสตรีที่งดงามด้วยรูปโฉมและคุณสมบัติมาตั้งแต่กำเนิด กินยังไงก็กินไม่อ้วนหรอก”
เวลานี้ น่าจะไม่มีพนักงานมารบกวนอีกแล้วละมั้ง?
มองดูภรรยาสุดน่ารักที่งดงามกินใจ ฉินเทียนอดใจไม่ไหว ในที่สุดก็โอบกอดเธอเข้ามาในอ้อมอกได้สักที และกระหนุงกระหนิงกันอยู่สักพัก
“พอแล้ว ๆ รีบไปเถอะ!”
“ดูสภาพที่ร้อนรนนี่ของคุณสิ มีเรื่องอะไรรอกลับมาค่อยว่ากันอีกที”ซูซูผลักตัวฉินเทียนออก
ใบหน้าที่เรียวบางของเธอแดงระเรื่อ ทำเอาแต่ใจเธอสับสนวุ่นวายไปเล็กน้อย
“ครับ!”
“ผมรับประกันเลยว่าจะให้การช่วยเหลือคุณนาย ปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จ แล้วรีบไปรีบกลับ!”ฟังจากความหมายของซูซูแล้ว ราวกับว่าหลังจากกลับมาแล้ว จะได้รับรางวัลตอบแทนบางอย่าง?
ฉินเทียนตื่นเต้นจนดวงตาทั้งสองข้างเป็นประกาย
“ถุ้ย!”
“ไอ้หื่น!”ซูซูทำเสียงถุ้ยอย่างไม่สบอารมณ์ นึกบางอย่างขึ้นมาได้จึงทำให้ใบหน้าแดงมากยิ่งขึ้น
และในตอนนี้เอง กงลี่ก็โทรมาอีกครั้ง
ซูซูชะงักไปพักหนึ่ง หลังจากกดรับสายแล้ว เธอยังไม่ทันได้พูดอะไร ก็มีเสียงร้องอย่างตะลึงของกงลี่ดังมาจากปลายสายก่อน:
“ซูซู อย่ามาเมืองเจิ้ง!”
“ห้ามมาเด็ดขาด!”
เพิ่งพูดไปแค่คำเดียว เธอก็กรีดร้องอย่างตะลึง โทรศัพท์เหมือนถูกใครบางคนแย่งไป
จากนั้น ก็มีเสียงที่ป่าเถื่อนเสียงหนึ่งของผู้ชายดังมาจากปลายสาย: “ประธานกรรมการซู คนของคุณอยู่ในกำมือผม”
“ถ้าเกิดอยากช่วยชีวิตมันละก็ มาพร้อมกับเงิน 50 ล้าน!”
“ผมต้องการแค่เงินสดเท่านั้น!”