บัญชามังกรเดือด – บทที่ 267 นกกระจอกน้อยสองตัว

บทที่ 267 นกกระจอกน้อยสองตัว

บัญชามังกรเดือด บทที่ 267 นกกระจอกน้อยสองตัว
  “คุณฉิน พวกเราไปคุยด้านนั้นกัน”

หม่าหงเทานำฉินเทียนไปคุยตรงที่ไม่มีคน จากนั้นถอนหายใจ

  พูดด้วยความเกลียดชังเล็กน้อย:“ทั้งหมดมันเป็นเพราะฉัน!”

  “ในใจคิดแต่จะเรียนเรื่องการต่อสู้ จึงไปหาคนมาต่อสู้ทั่วที่ในประเทศ จึงไม่ได้ดูแลน้องสาว”

  “เธอจึงเป็นพนักงานอยู่ที่ร้านอาหารคนเดียว จากนั้นถูกไอ้ชั่วคนหนึ่งมาคุกคาม!”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ หม่าหงเทาก็กำหมัดทั้งสองข้างแน่น ดวงตาแดงก่ำ

  ฉินเทียนสีหน้าเคร่งขรึมแล้วพูดว่า:“ต่อมาล่ะ?”

  หม่าหงเทาพูดด้วยความโกรธ:“ไอ้หมอนั่นมันเป็นลูกคนรวย”

  “หลังจากที่ผมแจ้งตำรวต เขาก็ถูกจับ ขังได้ไม่นานก็ปล่อยตัวออกมา”

  “ไม่เพียงแค่นั้น จากนั้นพ่อแม่ของเขาก็จะกระทบอนาคตของเขา จึงบอกว่าน้องสาวของผมไปยั่วลูกชายของเขา”

  “ยังจะฟ้องร้องพวกเรา!”

  ฉินเทียนพูด:“จากนั้นล่ะ?”

  หม่าหงเทากัดฟันพูดต่อไปว่า:“ผมโมโหมากไปหน่อย จึงฆ่าเจ้าหมอนั่น!”

เมื่อฉินเทียนคิดย้อนไปถึงตอนอยู่ในโรงงาน ฉีชุนที่ดูเหมือนจะข่มขู่หม่าหงเทาเรื่องน้องสาว

  เขาพูดเสียงต่ำว่า:“ดังนั้นนายก็เลยพานอกสาวหนีมาข้างนอก จากนั้นมาเป็นบอดี้การ์ดภายใต้การช่วยเหลือของฉีชุน”

  หม่าหงเทาพยักหน้า น้ำตาคลอแล้วพูดว่า:“นับจากนั้นเป็นคนมา เสี่ยวเซวี่ยก็ปิดตัว กลัวคนแปลกหน้า”

  “โดยเฉพาะคนแปลกหน้าผู้ชาย”

  “ผมก็ไม่มีวิธี หาสถานที่ที่ปลอดภัยให้กับเสี่ยวเซวี่ยได้ ทำได้เพียงฟังคำพูดของฉีชุน”

  ฉินเทียนมองหม่าหงเทา:“ตอนนี้ นายจะทำยังไง?”

  “นายมาหาฉัน มีอะไรให้ฉันช่วยเหรอ?”

  หม่าหงเทากัดฟัน จู่ๆ ก็คุกเข่าแล้วพูดว่า:“คุณฉิน ผมอยากจะติดตามคุณ!”

  “เพียงแค่คุณรับพวกเราสองพี่น้อง ให้สถานที่ปลอดภัยกับน้องสาวของผม ให้ผมทำอะไรก็ได้!”

ฉินเทียนถอนหายใจ ความรู้สึกของพี่น้องของหม่าหงเทานี้ เขาประทับใจมาก

  “เหล่าหม่า ลุกขึ้นเถอะ”

  “คุณ รับปากแล้วใช่ไหม?”

  ฉินเทียนพยักหน้า:“เรียกเสี่ยวเซวี่ยมา ไปหลงเจียงกับฉัน”

หม่าหงเทาตื่นเต้นเป็นอย่างมาก จากนั้นรีบไปพูดอธิบายเสียงต่ำกับเสี่ยวเซวี่ย

ส่วนเสี่ยวเซวี่ยก็เหลือบมองไปที่ฉินเทียน ในที่สุดเธอก็ค่อยๆ ลุกขึ้นช้าๆ จากนั้นเดินห่อตัวอยู่ที่ด้านข้างของพี่ชาย

เมื่อมาถึงด้านนอก กงลี่และซูซู ก็คอยอยู่ที่ข้างๆ รถ

  ฉินเทียนพูดอย่างจริงใจว่า:“ที่รัก กงลี่ นี่คือเสี่ยวเซวี่ย เป็นน้องสาวของเหล่าหม่า”

  “เธอกับเหล่าหม่า จะไปหลงเจียงกับพวกเรา”

  “พวกเธอดูแลด้วยนะ”

ทั้งสองสาวพยักหน้า กงลี่รีบเข้าไปจับมือเสี่ยวเซวี่ย เพื่อเรียกให้เธอขึ้นมาบนรถ

  ซูซูหัวเราะแล้วพูดว่า:“ช่างดีเลยจริงๆ!”

  “นับจากนี้ไป ข้างกายฉันก็จะมีเสี่ยวเซวี่ยเพิ่มมาอีกหนึ่งคน”

  “เธอชื่อหม่าเซวี่ย ยังมีอีกคนหนึ่งชื่อหลินเซวี่ย เดี๋ยวเอาไว้ฉันจะแนะนำให้พวกเธอรู้จักกัน”

  “ขอบคุณคุณนายมาก!”

  “เรื่องก่อนหน้านี้ผมต้องขอโทษด้วย!”หม่าหงเทาประทับใจเป็นอย่างมาก

เขาดูออกว่า ซูซูชอบน้องสาวของเขาจริง

  “เรื่องที่ผ่านไปแล้วไม่ต้องพูดอีก พี่หม่า รีบขึ้นรถเถอะ”

เมื่อทุกคนขึ้นรถ กงลี่และซูซูก็ไปนั่งด้านหลังเป็นเพื่อนหม่าเซวี่ย

หม่าเซวี่ยที่กล้าๆ กลัวเป็นอย่างมาก เมื่อมีการปลอบใจจากพี่สาวสวยทั้งสองคน ก็ปรับตัวได้เร็วขึ้น

ฉินเทียนขับรถตามคำแนะนำของกงลี่ ไปที่บ้านเพื่อนของเธอเพื่อไปรับเสี่ยวเฉียง

  เสี่ยวเฉียงกอดตุ๊กตาผ้าพูดด้วยเสียงพึมพำว่า:“นี่เป็นของเด็กผู้หญิง ผมยกให้พี่”

  “ผมชื่อเสี่ยวเฉียง พี่ชื่ออะไร?”

  หม่าเซวี่ยพูดด้วยเสียงต่ำว่า:“ฉันชื่อเสี่ยวเซวี่ย”

  เสี่ยวเฉียงพูดอย่างตั้งใจว่า:“พี่เสี่ยวเซวี่ย พี่ชอบตุ๊กตาผ้าเหรอ?”

หม่าเซวี่ยลังเลไปครู่หนึ่ง จากนั้นพยักหน้าด้วยความหน้าแดง

เมื่อมองผ่านกระจกด้านหลัง ฉินเทียนเห็นนัยน์ตาของเธอปรากฏลอยยิ้มที่หาได้ยาก

ความน่าเบื่อตลอดทาง กงลี่และซูซูจึงตั้งใจแกล้งเธอว่าให้เรียกว่าพี่สาว

  ในที่สุด หม่าเซวี่ยก็พูดอย่างระมัดระวัง เรียก:“พี่ซู พี่ลี่”

เมื่อได้ยินเสียงนี้ หม่าหงเทาที่นั่งข้างคนขับ ก็ดวงตาระรื้นเป็นสีแดง จากนั้นก็มีน้ำตาไหลลงมา

นี่เป็นน้ำตาแห่งความสุข!

เพราะ น้องสาวไม่ได้คลุกคลีกับคนแปลกหน้ามานานแล้ว

ไม่คุยกับคนแปลกหน้าด้วย

ยิ่งไม่ต้องพูดเลยว่าจะเปิดปากเรียกว่าพี่สาว

ขณะนั้น ทั้งความประทับใจ ความอบอุ่น ความขมขื่นก็ประดังประเดมาที่ราชามีดม้ง

เขากำมีดม้งในมือแน่น แล้วเบือนหน้าออกไป ไม่อยากให้ใครเห็นน้ำตา

ความสุขตลอดทาง ก็มาถึงหลงเจียง

  ซูซูรู้ว่าฉินเทียนมีเรื่องที่ผู้ชายจะต้องทำ เธอจึงได้บอกให้หลินเซวี่ยมาคอยที่ทางลงทางด่วน

ทีแรกหลินเซวี่ยจะเข้าไปในเมืองเพื่อพูคุยเรื่องการปล่อยตัวโฆษณากับหลิวชิง แต่ว่าหลิวชิงกังวลว่าซูซูจะมีอันตรายเกี่ยวกับการตรวจสอบสินค้าปลอม

จึงทิ้งหลินเซวี่ยเอาไว้

  “ท่านประธาน!”

  “คุณผู้ชาย!”

หลินเซวี่ยกระโดดลงมา วิ่งมาด้วยความดีใจ

  ฉินเทียนจงใจพูดด้วยสีหน้าขรึมว่า:“หลินเซวี่ยทำไมเธอถึงเรียกท่านประธานก่อน แล้วค่อยเรียกคุณผู้ชาย?”

  “ไม่รู้หรือไงว่าฉันอยู่ในสถานะไหน?ต่อไปเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นต้องเรียกคุณผู้ชายก่อนแล้วค่อยเรียกท่านประธาน”

  “เข้าใจไหม?”

  หลินเซวี่ยจิบปากและหัวเราะ:“ค่ะ คุณผู้ชาย”

  “คุณผู้ชาย ครั้งที่แล้วที่คุณทำให้ท่านประธานโกรธ รู้ว่าเธอชอบกินปลา ต้องไปตกปลาที่ริมแม่น้ำหนึ่งวันเพื่อให้เธอดีใจ”

  “ปลานั่นยังมีอีกไหม?”

  “มีเรื่องแบบนี้ด้วย?”กงลี่เปิดหน้าต่างรถแล้วรีบถาม

  ฉินเทียนพูดด้วยสีหน้าขรึม:“พูดอะไร!”

  “นั่นเรียกว่าฉันกลัวเหรอ?นั่นหมายความว่าฉันชอบตกปลาโอเคไหม!”

  “หลินเซวี่ย ฉันว่าเดี๋ยวเธอชักจะพูดมากขึ้นทุกวัน!”

“จะเรียกท่านประธานก่อน!”หลินเซวี่ยพุดเสียงเหอะ ที่เอาแต่ใจเหมือนเด็กผู้หญิง

ฉินเทียนหน้ามึน หญิงสาวที่เย็นชาแบบนี้ ดื้อรั้นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

  ซูซูพูดอย่างนิ่งเรียบว่า:“เสี่ยวเซวี่ย อย่าไปสนใจเขา”

  “คนนี้ชอบหาเรื่อง”

  “มานี่ ฉันแนะนำอีกคนที่ประเภทเดียวกับเธอ”พูดไปก็อดที่จะจิบปากและหัวเราะไม่ได้

  “ประเภทเดียวกัน?”หลินเซวี่ยเบิกตากว้างแล้วพูดว่า:“ท่านประธาน คุณคงไม่ได้รับพนักงานขับรถขึ้นอีกคนหรอกนะ?”

  “ฉันทำตรงไหนให้ไม่พอใจหรือเปล่า?”

มีความน้อยใจและหวาดกลัวในอารมณ์นั้น

  ซูซูรีบพูด:“เธอพูดมั่วอะไร!”

  “ที่ฉันหมายถึงประเภทเดียวกัน คือเป็นนกกระจอกน้อยเหมือนกับเธอ”

  “เสี่ยวเซวี่ย ลงรถมา”

ซูซูหัวเราะและดึงหม่าเซวี่ยลงจากรถ

  หลินเซวี่ยพูดด้วยความประหลาดใจ:“เธอก็ชื่อว่าหลินเซวี่ย?”

หม่าเซวี่ยมีความแปลกหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็ไปห่อตัวที่ด้านหลังของซูซู

ซูซูรีบพูดว่า:“เธอเสียงเบาๆ หน่อย ”

  “เธอก็แซ่หม่า ชื่อหม่าเซวี่ย”

  ส่วนกงลี่ก็อุ้มเสี่ยวเฉียงลงจากรถ เสี่ยวเฉียงพูดด้วยความดีใจว่า:“พี่หลินเซวี่ย ตอนนี้มีพี่หม่าเซวี่ยเพิ่มมาอีกหนึ่งคนแล้ว”

  “พี่ทั้งสองคนเป็นนกกระจอกน้อย”

  หลินเซวี่ยหัวเราะคิกคัก จากนั้นดึงมือของหม่าเซวี่ยลงมาแล้วพูดว่า:“ฉันไม่สน ฉันคือหลินเซวี่ยส่วนเธอเป็นนกกระจอกน้อยที่อยู่ในป่า”

  “ดังนั้นต่อไป เธอก็จะต้องเรียกฉันว่าพี่สาวด้วย”

  หม่าเซวี่ยมองหลินเซวี่ยด้วยความเขินอาย ทันใดนั้นก็พูดเสียงต่ำว่า:“พี่สาว”

หลินเซวี่ยดีใจมาก

ต้องพูดว่า การที่หม่าเซวี่ยเป็นสาวน้อยที่มีท่าทางกล้าๆ กลัวๆ เขินอายแบบนี้ทำให้คนยิ่งอยากจะทะนุถนอม พร้อมกับอยากที่จะปกป้อง

หลินเซวี่ย

  ซูซูอมยิ้มแล้วหันไปมองฉินเทียน จากนั้นพูดว่า:“นายจะพากพี่หม่าไปที่ไหนก็ได้ ฉันไม่สน แต่ว่าหม่าเซวี่ยจะไปไหนนั้น ฉันจะเป็นคนตัดสินใจเอง”

  “หวังว่านายจะเห็นด้วย”

  ฉินเทียนมองไปยังหม่าหงเทา

  หม่าหงเทารีบเช็ดตาจากนั้นก็พูดว่า:“ขอให้คุณผู้หญิงแจ้งมาเลย”

ไม่รู้ว่าซูซูจะวางแผนให้น้องสาวของเขาทำอะไร เขายังมีความกังวลเล็กน้อยในใจของเขา

เนื่องจากน้องสาวของเขาอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องดูแลมากเป็นพิเศษ หลังจากเกิดเรื่องหลายปีตอนนั้น เธอก็ไม่เคยห่างจากเขาเลย

ความหมายของซูซูตอนนี้ จะพาน้องสาวของเขาไป?

บัญชามังกรเดือด

บัญชามังกรเดือด

Status: Ongoing

บัญชามังกรเดือด แปลไทย เขาหายสาบสูญไปห้าปี มีป้ายบัญชาการลึกลับสองอันเกิดขึ้นบนโลก อันหนึ่งเป็น บัญชาพญายม เมื่อพบเห็นต้องตายสถานเดียว อันหนึ่งเป็นบัญชาราชาเทพ ใครผู้นั้นจะพลอยได้ดิบได้ดี แต่เขากลับเป็นเจ้าของป้ายบัญชาการทั้งสอง……

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท