บัญชามังกรเดือด บทที่ 271 ตกปลา
แม่งเอ้ย…
ยังมีคนเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง ลอบสังหารอ่ะนะ!
หลังจากฟังคำรายงานของเฉียงหลงแล้ว ฉินเทียนก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก
แต่คิดดีดี เขาเองก็รู้สึกว่าเรื่องนี้มันมีบางอย่างลับลมคมใน
ข้อแรก ถ้านี้มันเป็นเรื่องล้อเล่น แล้วใครกันที่เป็นผู้กำกับหนังล้อเล่นเรื่องนี้?
ฉายาผู้ดำเนินรายการ “ท็อฟฟี่นมกระต่ายขาว” เป็นผู้หญิงจริงหรือ?
ถ้าใช่ งั้นจุดประสงค์คืออะไร?
มีคำถามมากมาย ทำให้ฉินเทียนรู้สึกว่า เขาควรจะทำใจให้สงบลงให้ดีขึ้นสักหน่อย
“รอก่อน เดี๋ยวฉันเข้าไป” ทักทายกับฉานเจี้ยนและคนอื่นๆ ด้วยน้ำเสียงเบาๆ และเขาก็ขับรถออกไป
คลับมังกรทอง
ไนต์คลับท้องถิ่นที่ใหญ่ที่สุดของหลงเจียง และเป็นจุดบัญชาการใหญ่ของเฉียงหลง
ท้องฟ้ายังไม่มืด คลับยังไม่เปิด
ฉินเทียนเข้าทางประตูหลังและขึ้นลิฟต์ส่วนตัวไปชั้นบนสุด
“พี่เทียน!”
“ผู้ชายสองคนนี้!” ของด้านในกล่องอันหรูหรา เฉียงหลงตื่นเต้นมากเมื่อเห็นฉินเทียน
ฉินเทียนมองผู้ชายสองคนที่คุกเข่าอยู่เบื้องหน้า ล้อมรอบไปด้วยลูกน้องของเฉียงหลง ตกใจกลัวจนหน้าตาซีดเผือด ตัวสั่นเทา
นี่หรือที่เรียกว่านักฆ่า?
กล้าที่จะมาฆ่าตัวเขาหรือ?
เขาพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า “จับพวกนี้มาได้ยังไง?”
เฉียงหลงรีบตอบว่า “ชายสองคนนี้มาสืบหาท่านที่หลงเจียง และถูกลูกน้องของผมจับได้”
“ผมเห็นเขามาด้อมด้อมมองมอง น่าจะมีเจตนาไม่ดี พอจับได้ก็ค้นเจออาวุธอยู่ในตัวพวกเขาด้วย”
“พวกเขาเองก็ยอมรับว่า มีคนว่าจ้างด้วยเงินก้อนโตให้มาลอบฆ่าคุณ”
ฉินเทียนถามด้วยความโกรธ “พวกมึงเป็นใคร?”
“คุณคือฉินเทียน?” เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ชายทั้งคนก็ต่างตกใจกลัวมาก
รีบตอบว่า “ผมคือดาบเก้าเล่ม”
“ผมคือลมฤดูใบไม้ร่วง!”
“ไสหัวไป!”
“ใครถามนามแฝงของพวกมึง!” ฉินเทียนอดไม่ไหวเตะไปหนึ่งที
แต่จริงแล้วเขาไม่ได้ใช้แรงอะไรเลย ไม่งั้นละก็ชายทั้งสองนี้คงอึราดเพราะขาข้างนี้แน่ๆ
ชายทั้งสองนี้ รีบคลานลงบนพื้น ร้องคร่ำครวญขอความเมตตา
ฉินเทียนไม่มีทางเลือก รู้ว่าคนประเภทนี้ คือพวกคนยากไร้ เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ แถมยังคิดว่าจะรวยได้ในข้ามคืน
เขาเลยขี้เกียจที่จะซักถามอะไรต่อ
“พี่เทียน พี่จะจัดการยังไงดี?”
“ไม่งั้น สับแล้วเอาให้หมามันกินดี?”
ฉินเทียนคิดอยู่ชั่วครู่ตอบว่า “แกโทรหาเหลยเป้าที”
เฉียงหลงรีบโทรติดต่อหาเหลยเป้า ไม่นานนัก เหลยเป้าก็พาแก๊งมังกรมาถึง
ฉินเทียนชี้ไปที่ชายสองคนที่อยู่ตรงหน้า และพูดว่า “ชายสองคนนี้เห็นเงินรางวัลบนอินเทอร์เน็ต และก็อยากจะฆ่าฉัน”
“แกพาพวกมันไปซะ แล้วสืบมาให้ได้ว่ามีเบื้องหลังอะไรไหม”
“ถ้ามีเบื้องหลังละก็ ทำตามขั้นตอนได้เลย”
เหลยเป้ากวักมือ บรรดาลูกน้องก็รีบเดินข้ามาจับตัวชายทั้งสองไป
“พี่เทียน พี่หมายความว่า มีคนลงเงินรางวัลบนอินเทอร์เน็ตเพื่อจะฆ่าพี่งั้นหรือ?”
“พี่จะทำยังไงต่อ ให้ฉันจัดการต่อแล้วกันนะ!” เหลยเป้าขอคำแนะนำ
เมื่อเห็นสีหน้าเครียดของเขาแล้ว ฉินเทียนยิ้มและตอบว่า “ไม่ต้องรีบร้อนหรอก”
“ฉันสงสัยว่าจะเป็นการเล่นตลกมากกว่า”
พูดพลาง ก็ให้เหลยเป้าดูรูปที่แคปหน้าจอมา
เหลยเป้าขมวดคิ้วพูดว่า “ฉันเคยได้ยินการค้าผ่านอินเทอร์เน็ตแบบนี้มาก่อน มันเป็นธุรกิจที่ไม่ค่อยถูกกฎหมายสักเท่าไร หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเคยตรวจสอบมาแล้วหลายครั้ง”
“เซิร์ฟเวอร์ของพวกเขาอยู่ต่างประเทศ ผู้รับผิดชอบก็เจ้าเล่ห์มาก ไม่เคยโดนจับได้เลยสักครั้ง”
“พอลมพัดโชยมา ไฟก็ลุกโชนอีกครั้ง”
“คาดไม่ถึงว่า ครั้งนี้จะมาล่วงเกินถึงท่านจนได้”
“แต่ว่าพี่เทียน__” เหลยเป้าหน้าแดงแล้วพูดว่า “คนที่ประกาศให้เงินรางวัล อืม ดูแล้วน่าจะสำคัญมากเลยนะ”
“พี่ลองคิดดูดีดี มันพอจะเป็นใครได้บ้าง?”
ฉินเทียนอารมณ์ไม่ดี “แกเองก็รู้สึกว่า เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ผูกใจแค้นเรื่องความรักหรือ”
เหลยเป้ายิ้ม จนเห็นฟันขาว
เฉียงหลงพูดอย่างโกรธแค้นว่า “อีแก่นั้นหน่ะหรือ พี่เทียนชุบเลี้ยงเขามา นับว่าเป็นบุญของเขาด้วยซ้ำไป!”
“ตอนนี้คิดอยากจะมาพึ่งพี่เทียนหรือ?”
“โลกนี้มีสาวสวยตั้งมากมาย พี่เทียนรับผิดชอบทุกคนไม่ได้หรอกมั้ง?”
“พี่เทียน ว่าไงล่ะ?”
“จริงสิพี่เทียน?ที่ไนต์คลับมีสาวสาวมาใหม่หลายคนเลย สวยไม่เลวเลยนะ หรือว่า คืนนี้จะเรียกมาให้พี่ดูตัวด้วยดีไหม?”
“ไอ้สารเลว!” ฉินเทียนด่า “มึงพูดแบบนี้ กูก็เป็นผู้ชายเหี้ยๆ ที่ได้แล้วทิ้งจริงๆ สิ!”
“กูไม่ได้เป็นแบบนั้น โอเคนะ!”
“อืม พวกผมเชื่อครับ!เหลยเป้าและเฉียงหลงพยักหน้า”
แต่การแสดงออกแบบนั้นมันชัดเจนอยู่แล้วว่า เชื่อก็บ้าแล้วล่ะ!
ฉินเทียนหมดอารมณ์แล้ว เขารู้ว่า ตอนนี้พูดอะไรก็ไร้ประโยชน์
เขามั่นใจว่า เขาเองไม่เคยทำร้ายผู้หญิงคนไหนมาก่อน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเอาแล้วทิ้งเลย
ตอนนี้มีวิธีเดียวก็คือ ล่อให้คนผู้นี้ออกมา ความจริงทุกอย่างก็จะปรากฏ
ยังดีที่ เธอผู้นั้นกำหนดเวลาไว้เจ็ดวัน
ที่เหลือก็ไม่มีอะไรแล้ว งั้นก็เล่นเล่นเป็นเพื่อนหล่อนไปก่อนแล้วกัน
และเขาเองก็รู้ว่า ในระหว่างนี้ ต้องมีนักฆ่าอีกมากหน้าหลายตา ที่พุ่งตัวมาคว้าเงินรางวัลนี้ไม่หยุดเป็นแน่
คนพวกนี้ก็ไม่ได้มีดีอะไรหรอก ก็แค่ใช้เหยื่อของตัวเอง ตกพวกเขาขึ้นมาก็เท่านั้น
ส่งต่อให้เหลยเป้าจัดการ
ดังนั้น เขาพูดอย่างหมายมั่นปั้นมือว่า “ได้เวลาอาหารแล้ว มีร้านอาหารที่คนเยอะๆ และบรรยากาศคึกคักบ้างไหม?”
“พวกแกแค่ประกาศไปว่า ฉันกำลังจะไปกินข้าว”
“พวกแกไม่ต้องติดตามจนใกล้มากนัก”
เหลยเป้ายิ้มและพูดว่า “ผมเข้าใจแล้วครับ”
“พี่เทียนทำแบบนี้ ต้องการจะช่วยฉันล่ะสิ ไม่แน่อาจจะจับใครเพิ่มได้อีกหลายคนเลยนะ”
ดังนั้นเฉียงหลงเลยเปล่าประโคมไปว่า พี่เทียนจะไปกินที่ร้านอาหารริมทาง จงใจส่งลูกน้องสองสามคนไปคุ้มครองด้วย
ลูกน้องสองสามคนก็แค่วางมาดตบตาผู้คน ไม่ได้จะมีเรื่องกันจริงๆ
เหลยเป้าพาคนในสังกัดไปสองคน ปลอมเป็นลูกค้าทั่วไป นั่งอยู่ไม่ไกลจากฉินเทียน
ฉินเทียนดื่มเบียร์ไปสองขวด และแทะเนื้อย่างอย่างเซ็งๆ ตอนที่กำลังจะกลับ ก็มีชายคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆ ดูเหมือนจะเมาแล้ว
ลุกขึ้นยืน แต่ทรงตัวไม่อยู่ ล้มลงเข้าไปที่อ้อมแขนเขา
ปากก็พูดว่า “ขอโทษครับ ขอทางหน่อยครับ!”
ฉินเทียนยิ้มไม่พูดอะไร เขาเห็นแล้วว่า ชายผู้นี้ควักดาบเล่มหนึ่งออกจากอก
เขาแทะเนื้อก้อนสุดท้ายบนไม้เสียบ ไม่ได้ขยับอะไร
ที่ไกลออกไป สมาชิกของแก๊งมังกรทั้งสองก็พุ่งเข้าไปจับแขนทั้งสองของชายผู้นั้นภายในพริบตา
“พวกมึงเป็นใคร?”
“ปล่อยกูนะ!”
สมาชิกของแก๊งมังกรควักอาวุธลับที่อยู่ในอกของเขาออกมา ยิ้มและพูดว่า “คุณหลี่ ทำไมคุณดื่มเยอะแบบนี้หล่ะ”
“อย่าล่วงเกินแขกสิ”
“รีบไปเถอะ พวกผมจะส่งคุณกลับบ้านเอง”
พูดพลาง ก็ลากเขาขึ้นจนขาไม่ติดพื้น เอาชายผู้นี้ไปยัดใส่ไว้ในรถตู้ที่จอดอยู่ไกลออกไป
“พี่เทียน วันนี้ยังจะตกเหยื่ออีกไหม?” เหลยเป้าถามอย่างยิ้มๆ
“ไม่ตกล่ะ พรุ่งนี้แล้วกัน”
“แกกลับไปคิดก่อนก็ได้ ว่าพรุ่งนี้มีที่ไหนที่บรรยากาศครึกครื้นอีกบ้าง แล้วนัดบอกฉันอีกที”
“ครับ พี่เทียน”
“ผมจะกลับไปสืบสวนคนพวกนี้ก่อน ถ้ามีข่าวจะรีบรายงานพี่ทันที”
ฉินเทียนพยักหน้า เขาเองก็ไม่ได้คาดหวังจะได้เรื่องได้ราวอะไรจากปากคนพวกนั้น
ในเมื่อเกิดเรื่องพวกนี้ขึ้น แม้ว่าเหลิ่งเฟิงและทีมหมาป่าจะคอยคุ้มครองอุทยานมังกรอยู่ราวกับถังเหล็กอันแข็งแกร่ง
แต่เขาเองก็ยังรู้สึกห่วงถึงความปลอดภัยของซูซูอยู่ดี
เขาเจตนาเดินวางมาดปรากฏตัวอยู่ด้านนอก เพื่อเป็นการดึงดูดสายตาของบรรดานักฆ่าทั้งหลาย และให้พวกเขาอยู่ห่างๆ จากซูซู
ตอนนี้ การตกปลาเสร็จสิ้นแล้ว เขาอดใจรอไม่ไหวที่จะกลับไปดูสักหน่อย
จิตใจช่างว้าวุ่นเสียจริง