บัญชามังกรเดือด บทที่ 288 เดี๋ยวก็รู้
ได้ยินคำพูดนี้ของเหลิ่งหยุน หม่าหงเทาลังเลแล้ว
ตอนนี้ไม่มีใครยอมใคร
สีหน้าของฉินเทียนขุ่นเคือง พูดอย่างหนักแน่นว่า:“พวกคุณขัดแย้งภายในอยู่ต่อหน้าฉันเลยเหรอ?”
“ยังไม่รีบเก็บมีดอีก!”
หม่าหงเทาน้อมรับคำสั่งทันที รีบเก็บดาบแล้วถอยไป
เหลิ่งหยุนพ่นลมหายใจออกมา พูดว่า :“คุณให้ฉันเก็บมีดฉันก็ต้องเก็บมีดเหรอ? ฉันต้องการให้เธอขอโทษฉัน!”
เถียหนิงซวงหน้าแดงขึ้นมา กัดฟันพูด:“งั้นคุณก็ใจสลายได้เลย!”
“ถ้ากล้าพอก็ฆ่าฉันเลยสิ!”
เหลิ่งหยุนจ้องมองฉินเทียน พูดอย่างเย็นชาว่า:“นี่คือคนรักของคุณหรือเปล่า? ฉันฆ่าเธอแล้ว คุณจะปวดใจหรือเปล่า?”
ฉินเทียนกัดฟันพูด:“ถ้าคุณยังก่อเรื่องอีก ผมจะเอาคุณถอดเปลือยโยนลงทะเลไป”
“คุณกล้า!”
“คุณคิดว่าผมกล้าหรือไม่?”
“คุณ——”เหลิ่งหยุนกัดฟัน รูปหน้าที่แสนเย็นชา ก็แดงขึ้นมาแล้ว
ฉานเจี้ยนถอนหายใจออกมา พูดว่า:“คุณหนูใหญ่ ยังรู้จักผมคนไร้ค่าคนนี้ไหม?”
เหลิ่งหยุนพยักหน้า:“ฉันเคยเจอคุณครั้งหนึ่ง คุณคือคุณลุงฉานเจี้ยน ขาของคุณเป็นอะไรเหรอ?
ฉานเจี้ยนยิ้มแล้วพูดว่า:“ถูกดอกไม้แห่งความมืดที่กระทำ”
“คุณหนูใหญ่ สาวน้อยหนิงซวง เป็นคนของคำสาปสวรรค์ของผม เห็นแก่ผม แล้วเอามีดวางลงเถอะ”
“คำสาปสวรรค์เป็นไฟดวงใหม่ที่รับช่วงต่อมาจากวิหารพญายม และก็เป็นปณิธานของพ่อบุญธรรมของคุณ ดังนั้นเมื่อพูดขึ้นมาแล้ว ต่างเป็นคนในครอบครัว”
“ฉันเห็นแก่ลุงฉานเจี้ยน”เหลิ่งหยุนจึงยอมลดทิฐิลง วางมีดลงมาแล้ว
เพราะว่า เห็นว่าฉินเทียนหน้าดำแล้ว เธอก็รู้สึกผิดขึ้นมาบ้างแล้วจริงๆ
ไอ้เจ้าคนนี้พูดว่าจะเอาเธอถอดเปลือยแล้วโยนลงทะเล งั้นก็คงจะไม่เหลือผ้าเอาไว้ให้เธอได้ปกปิดความอับอายแม้แต่นิดเดียว
ด้วยลักษณะนิสัยของฉินเทียนคนนี้ เธอเองก็ยังเข้าใจดี
แต่ว่าเธอก็ยิ้มอย่างเย็นชาเตือนเถียหนิงซวงออกมา:“น้องสาว อย่าได้คิดว่ามีแซ่ฉินช่วยค้ำจุนคุณอยู่ แล้วคุณจะสามารถพูดอะไรออกมาก็ได้”
“บางครั้ง อาจตายได้”
เหมยหงเซว่ยิ้มออกมาอย่างเย็นชาพูดว่า:“ราชินีงูกล้าก่อเรื่องถึงเพียงนี้ เบื้องหลังก็ไม่ใช่ว่ามีคนค้ำจุนอยู่หรอกเหรอ?”
“คุณพูดอะไรนะ?”สีหน้าเหลิ่งหยุนเปลี่ยนสีอีกครั้ง
เหมยหงเซว่ยิ้มออกมาอย่างเย็นชาพูดว่า:“ฉันเพียงแค่อยากจะปรามคนบางคน อย่าเอาความเกรงใจของคุณอื่น กลายมาเป็นความมีวาสนาของตัวเอง”
“เอาน่าเอาน่า เรื่องงานมาเป็นอันดับแรก”
“ทุกคนไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว”
“คุณหนูใหญ่ รีบพาพวกเราไปพบทูตสวรรค์เถอะ หวังว่าจากปากของเขา จะงัดข้อมูลของปรมาจารย์พิษออกมาได้”ฉานเจี้ยนรีบคลี่คลายสถานการณ์
เหลิ่งหยุนจ้องเขม็งเหมยหงเซว่แวบหนึ่ง หันหลังกลับเขาไปในถ้ำ
ระหว่างผู้หญิง ความแค้นนนี้ถือว่าแล้วกันไป
ฉินเทียนโมโหขึ้นมาบ้างแล้ว ไอ้ห่าทูตสวรรค์ยังไม่ได้เจอ ก็ทำให้โมโหเสียก่อนแล้ว
เขาใบหน้าขุ่นเคืองเดินเข้าไปข้างใน
ปรากฏว่าเป็นอย่างที่ก่วนยี่ได้พูดเอาไว้ ถ้ำหินตามธรรมชาติอันนี้ ด้านใน เต็มไปด้วยขยะที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
เตียงหินด้านบน มีผู้ชายผิวขาวคนหนึ่งนอนอยู่ มองขึ้นไปลมหายใจแผ่วเบา กำลังสลบอยู่
บนร่างกาย ไม่ได้มีรอยบาดแผลที่ชัดเจนอะไร ไม่มีรอยเลือด แต่ว่าไม่ว่าใครได้เห็นแวบเดียว ต่างก็รู้แล้วว่าได้รับการทรมานเกินมนุษย์
ฉินเทียนรู้ได้เลยว่าก่อนตัวเองจะมา เหลิ่งหยุนทรมานให้สารภาพแล้ว
การลงมือของผู้หญิงคนนี้ เขาชัดเจนดี
เขาอดที่จะจ้องเขม็งไปที่เหลิ่งหยุนแวบหนึ่งไม่ได้ พูดว่า:“เกิดอะไรขึ้นแล้ว?”
เหลิ่งหยุนพูดออกมาอย่างอารมณ์ไม่ดี:“ก็ไม่มีอะไร”
ฉินเทียนพ่นลมหายใจออกมา:“ไม่ใช่ว่าผมบอกแล้วเหรอ ว่าให้ผมมาแล้วค่อยว่ากัน?”
“ไม่ง่ายกว่าจะจับได้สักคน คุณทำเขาตายจะว่ายังไง?”
ครั้งนี้ เหลิ่งหยุนกัดฟันกรอด ถือว่าไม่ได้เถียงออกมา
“ลุงฉาน ทำให้เขาตื่น”ฉินเทียนพูดออกมาอย่างอารมณ์เสียหนึ่งประโยค
ฉานเจี้ยนก้าวขึ้นมาข้างหน้าทันที ตบลงบนตำแหน่งหัวใจของผู้ชายคนนั้น
เดิมทีผู้ชายคนนี้ลมหายใจแผ่วเบา แต่ว่าหัวใจได้รับกระตุ้นจากภายใน ทันใดเต้นขั้นมาอย่างรวดเร็ว
เขาเปิดเปลือกตาออกมา แววตาล็อกอยู่บนใบหน้าของฉินเทียน
“คุณเป็นใคร?”เขาถามอย่างหวาดกลัว
ฉินเทียนนำเอาเข็มฉีดยาอันนั้นมาจากในมือของหลิวชิงเหยา เปล่งประกายอยู่ด้านหน้าของเขา
ผู้ชายคนนี้ยิ้มออกมาอย่างเย็นชา พูดว่า:“แกคือฉินเทียน?”
“คาดไม่ถึงผู้สืบทอดวิหารพญายมที่มีชื่อเสียงเรียงนามเกรียงไกร หนึ่งในราชาวิหารเทพ ยังหนุ่มยังแน่นขนาดนี้”
“น่าเสียดาย สาวน้อยคนนั้นไม่ได้ฆ่าแกตาย”
ฉินเทียนขุ่นเคืองเล็กน้อย พูดว่า:“ฉันเข้าใจ ลูกน้องของฉัน ใช้วิธีการเกินมนุษย์มาทรมานแก”
“แกก็ถือว่าเป็นลูกผู้ชายคนหนึ่ง ไม่ยอมเปิดปากออกมา”
“แต่ว่าตอนนี้ ฉันจะปรามแกเอาไว้เอาสิ่งที่รู้บอกมา ทั้งหมดบอกกับฉัน”
“เพราะว่าฉันรับรอง การลงมือของฉัน เทียบกับลูกน้อง จะเจ็บปวดกว่าเป็นร้อยเท่า”
“แกคงทนไม่ไหวจนอยากจะให้ฉันฆ่าแกทิ้งเสีย แต่ว่ายังไงก็ตายไม่ได้”
“รสชาติแบบนั้น ยากที่จะทนจริงๆ”
น้ำเสียงของฉินเทียนราบเรียบ เหมือนกับว่ากำลังพูดเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับตัวเองเรื่องหนึ่ง
แต่ว่าหลังจากได้ฟังแล้ว ในดวงตาของผู้ชายคนนี้ แสดงความหวาดกลัวออกมา
การลงมือของเหลิ่งหยุน เขาเคยได้รับการถูกสั่งสอนแล้ว เขารู้สึกเสียใจนับไม่ถ้วน ไม่น่าจะมาเกิดเป็นคนในโลกมนุษย์
เขาเคยได้รับการฝึกฝนอย่างมืออาชีพ ถือว่าพอกัดฟันรับมือเอาไว้ได้
แต่ว่าเวลานี้ เผชิญหน้ากับสายตาอันสงบของฉินเทียน เขากระวนกระวายทันใด
“ผมพูดแล้วผมเป็นเพียงตัวเล็กๆ ทำงานตามคำสั่ง อะไรอย่างอื่นต่างไม่รู้ เลย คุณเชื่อไหม?”เขายิ้มออกมาอย่างอ่อนแรง
เอิ่ม?
ฉินเทียนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง ทันใดสีหน้าเปลี่ยนสีแล้ว
ด้านนอก ความเงียบสงบในความมืด มีเสียงปึงปังดังมาหลายเสียง
ฉานเจี้ยนกับเหลิ่งหยุนก็ได้ยินแล้ว
พวกเขาหันหลังกลับพร้อมกัน พูดเสียงโทนต่ำออกมา:“มีคนยิงปืน!”
คำพูดพึ่งจะพูดออกมา เสียงปืนจากด้านนอกก็ดังถี่ขึ้นมา
หลังจากนั้น มองผ่านหน้าต่างออกไป คนคนหนึ่งวิ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง
คือก่วนยี่
“ราชาฉินรีบหนี!”
“พวกเราติดกับแล้ว!”
“ถูกซุ่มโจมตีแล้ว!”
ระหว่างตะโกน ขาของเขาถูกยิงเข้านัดหนึ่ง ล้มลงกับพื้น แต่ว่า เขายังถือว่าไหวพริบดี รีบไปหลบอยู่ด้านหลังก้อนหินก้อนหนึ่ง
หาจังหวะยิงสวนกลับออกไป
ด้านหลังของเขา คนชุดดำหนึ่งแถวเต็มๆ ถือปืนกลอยู่ในมือ บีบเข้ามาแล้ว
บนร่างกายของพวกเขา เป็นชุดนักดำน้ำมืออาชีพ และก็เป็นสิ่งที่คนทั่วไปเรียกกันว่า“ปีศาจน้ำ”
ชัดเจนมาก คนเหล่านี้ว่ายข้ามทะเลมา
น่าจะประมาณร้อยกว่าคน ปืนกลกว่าร้อยกระบอก
กำลังการต่อสู้แข็งแกร่งมาก เพียงพอสำหรับการยิงเกาะเล็กๆแห่งนี้ให้ราบเป็นหน้ากลอง
ก่วนยี่หนึ่งคนปืนหนึ่งกระบอก คงยับยั้งพวกเขาเอาไว้ได้ชั่วคราวเท่านั้น
“ฮ่าๆฮ่าๆ!”
“ฉินเทียน แกตายแน่!”
“คิดไม่ถึงล่ะสิ!”ผู้ชายผิวขาวที่นอนอยู่บนเตียงหิน ทันใดใช้กำลังเฮือกสุดท้าย ตะครุบเข้ามาหาฉินเทียน
ฉินเทียนขยับมือ นำเข็มอันนั้น ปักลงบนเส้นเลือดบริเวณลำคอของเขา
ผู้ชายคนนั้นอ้าปากค้าง ล้มลงบนพื้น โดยเร็ว ความมืดดำที่ดวงตาสามารถมองเห็นได้ ปกคลุมบนใบหน้าของเขา
ตายแบบไม่สามารถตายได้อีกแล้ว
ปรากฏว่าคือสารพิษเข้มข้น!
“เจ้าสำนัก ทำไงดี?”ฉานเจี้ยนถามอย่างหนักแน่น
คนของคำสาปสวรรค์ นอกจากผีหวูฉางกับชุยหมิงแล้ว ต่างตกใจกลัวขึ้นบ้างแล้ว
พวกเขายังไม่เคยเจอการฆ่าฟันแบบนี้
ในสถานการณ์เช่นนี้ มีดหอกดาบที่อยู่ในมือ เดิมทีแทบจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย
“ก็เพียงแค่ปลาเล็กกุ้งน้อยเท่านั้น ลุงฉานอย่าได้กังวลไป ฉันจัดการเอง”
เหลิ่งหยุนยิ้มออกมาอย่างเย็นชา ขยับร่างกาย ก็พุ่งออกไปแล้ว
ด้วยฝีมือวิทยายุทธกับความโหดเหี้ยมที่ไม่ธรรมดาของเธอ การจัดการนักฆ่าด้านนอกร้อยกว่าคนที่มีอาวุธร้ายแรง ไม่ถือว่าเป็นเรื่องหนักหนาอะไรเลย
“อย่ารีบร้อน”ฉินเทียน ดึงบ่าของเธอเอาไว้
“ทำอะไร?”เหลิ่งหยุนอดที่จะหน้าแดงขึ้นมาไม่ได้ มองฉินเทียนอย่างโมโห
ฉินเทียนรีบปล่อยมือ พูดว่า:“มีคนจัดการพวกเขา”
เอิ่ม?
เหลิ่งหยุนตะลึงงันสักพัก พูดว่า:“คุณยังวางกองหลังเอาไว้แล้ว?”
“คุณรู้ก่อนแล้ว นี่คือแผนการซุ่มโจมตี?”
ฉินเทียนเผยรอยยิ้มพูดว่า:“เดี๋ยวก็รู้เอง”