บัญชามังกรเดือด บทที่ 328 งานแถลงข่าว
หลังสามวัน ฉินเทียนในชุดลำลอง ปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตูของซิงถูอีกครั้ง
สามวันมานี้ เขาพักอาศัยอยู่แต่ในคฤหาสน์ที่หวางเฉียงยกให้ ฝึกฝนบำเพ็ญตน
แม้จะไม่ได้ออกไปไหน แต่ก็ยังโทรติดต่อ คอยจัดการเรื่องราวต่างๆ
หวางเฉียงก็รู้จักวางแผน ในคืนนั้นเขาได้จองตั๋วเครื่องบินเสร็จสรรพ เช้าวันรุ่งขึ้นก็พาภรรยาและลูกเดินทางไปเกาะมลายู
แต่ว่า เพื่อไม่ให้บริษัทหวงฉาวต้องเกิดความสงสัย เขาแกล้งทำทีเป็นโทรหาโม่ชง แล้วเร่งเร้าให้รีบเซ็นสัญญาโดยเร็ว
อีกทั้ง ยังได้ติดต่อไปหาหลี่หยานเลขาของเขา สั่งกำชับให้หลี่หยานคอยดูแลรับผิดชอบอย่างเต็มที่ และจัดงานแถลงข่าวให้ใหญ่โต
เพราะมีข่าวใหญ่ที่ต้องประกาศบริษัทซิงถูก็จึงปลาบปลื้มยินดีเป็นที่สุด
สำนักข่าวต่างๆ ก็ได้เข้ามาจับจองพื้นที่ในห้องโถงขนาดใหญ่ตั้งแต่เช้าตรู่ เตรียมจัดตั้งอุปกรณ์ทั้งกล้องขนาดเล็กและใหญ่ไว้รอกันอย่างพร้อมเพรียง
หลี่หยานเลขาใหญ่ของประธานกรรมการบริหาร แต่เมื่อประธานกรรมการบริหารไม่อยู่ เธอก็รู้สึกราวกับตัวเองเป็นเจ้าบ้าน
แต่งตัวสวยเพริศพริ้งแต่เช้า ยุ่งจนหัวหมุนทั้งด้านในและด้านนอก
เมื่อไป๋เสี่ยวเชี่ยนเห็นหวางเฉียง ไม่ได้ผิดคำพูด เชิญสื่อต่างๆมามากมายให้เธอ เธอก็รู้สึกราวกับตัวเองเป็นผู้หญิงหมายเลขหนึ่งกันเลย
เธอสวมใส่ชุดเดรสหรูที่เช่ามา แล้วนั่งในตำแหน่งที่นั่งตรงกลางด้วยใบหน้ายิ้มแฉ่ง
ทุกอย่างพร้อมแล้ว รอแค่หวางเฉียงกับผู้บริหารของบริษัทหวงฉาวปรากฏตัวขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เท่านั้น
ฉินเทียนเดินเข้ามา
เมื่อเห็นเขา ทุกคนต่างก็ตกตะลึง
“นายมาทำไม?”ใบหน้าของหลี่หยานเปลี่ยนไปในทันที พูดอย่างเย็นชา
ฉินเทียนเลิกคิ้ว“ก็มาร่วมงานแถลงข่าวสิ ”
“คุณลืมเรื่องที่ผมบอกไปเมื่อสามวันก่อนเหรอ หลังสามวัน ผมจะมาที่นี่ เพื่อบอกพวกคุณ ว่าผมเป็นใคร”
หลี่หยานหัวเราะออกมาอย่างหัวเสีย และกล่าว“งั้นก็บอกพวกเรามาได้แล้ว ว่าตกลงนายเป็นใครกันแน่ ?”
“นายมันก็แค่เด็กเลี้ยงของหยางหรงผู้หญิงหน้าด้านคนนั้นไม่ใช่เหรอ ?”
“บอกนายไปแล้ว ว่าตอนนี้หยางหรงไม่มีอะไรเหลือแล้วทั้งนั้น นายอยากจะเซ็นสัญญากับบริษัทของเรา หากจะผ่านเธอไม่มีประโยชน์ ”
คนอื่นๆของบริษัทซิงถู ต่างก็พากันมองมาที่ฉินเทียนอย่างเย้ยหยัน
ไอ้หมอนี่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยหรือไง ? ต่อให้จะเป็นเด็กใหม่ที่เพิ่งเข้าวงการ ก็ไม่น่าจะตาถั่วขนาดนี้ไหม!
“อีกเดี๋ยว ทุกคนก็ได้รู้”ฉินเทียนเมินเฉยกับสายตาที่เยาะเย้ยของทุกคน ไปนั่งลงที่มุมห้องเพียงลำพัง
หลี่หยานพาลโมโห กัดฟันกร่อนแล้วพูด“คนอะไร ยังกล้ามาทำตัวกร่างที่นี่อีก!”
“ใช้ตาต่ำๆของนายดู ว่าที่นี่ใครกันแน่ที่เป็นเจ้าของ!”
“รปภ. มาลากตัวเขาออกไป!”
เมื่อเห็นรปภ.สองคนเดินเข้ามา ไป๋เสี่ยวเชี่ยนก็รีบพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม“พี่หยาน จะไปถือสาอะไรกับเด็กใหม่ล่ะค่ะ”
“ฉันเดาว่าน้องชายคนนี้อยากเข้าวงการจนสติฟั่นเฟือนไปแล้วแน่เลย”
“เขาคงรอ ให้ได้เจอกับประธานหวางและผู้บริหารของหวงฉาวแล้วจะประจบเอาใจต่อหน้าล่ะมั้ง”
“ประธานหวางและเถ้าแก่ของบริษัทหวงฉาวหากอารมณ์ดีขึ้นมา ไม่แน่อาจจะเซ็นสัญญากับเขาเลยก็ได้”
“พี่ไม่เห็นเหรอว่าวันนี้เขาไม่ได้มากับหยางหรง ? แสดงให้เห็นว่าเขาก็ยังเข้าใจในสถานการณ์อยู่ คงเตะหยางหรงออกไปแล้ว”
“แม้วิธีการนั้นจะดูไม่ค่อยเข้าท่า แต่อย่างน้อยก็ถือว่ายังมีสตินึกรู้นะ”
“พี่หยาน เราต้องใจกว้างกันหน่อย ให้โอกาสเด็กใหม่เขาด้วย”
ผู้คนบริเวณโดยรอบต่างก็พากันชื่นชม
“ในวงการตอนนี้ รุ่นพี่ที่คอยส่งเสริมเด็กใหม่อย่างพี่ไป๋ ไม่ได้มีให้เห็นมากแล้ว ”
“พี่ไป๋ พี่ช่างเป็นคนที่เก่งทั้งทักษะการแสดงและมีศีลธรรมจริงๆ!”
“พี่ไป๋ ต่อไปต้องส่งเสริมพวกเราด้วยนะ”
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคำเยินยอเหล่านี้ ไป๋เสี่ยวเชี่ยนตอบรับด้วยรอยยิ้ม ราวกับเธอเป็นรุ่นพี่ที่มากประสบการณ์ในวงการไปแล้ว
การแสดงในครั้งนี้ ทำให้เธอประสบความสำเร็จต่อหน้าสื่อ ได้รับความสนใจอยู่ไม่น้อย
ในเมื่อไป๋เสี่ยวเชี่ยนพูดมาแบบนี้แล้วหลี่หยานก็ไม่ได้คัดค้านอะไร
ทว่า เธอพูดเตือนฉินเทียน“เด็กใหม่ก็ต้องมีจิตสำนึกของผู้มาใหม่!”
“ฉันว่ารูปลักษณ์ของนายก็ไม่ได้ดูแย่ อยากจะอยู่ที่นี่ก็ได้ถ้าต้องการ”
“แต่ต่อไป ต้องเชื่อฟังคำฉัน ตัดขาดกับคนอย่างหยางหรงนั้นซะ!”
“มิฉะนั้น ที่บริษัทนี้ หากฉันจะไล่นายออก ก็สามารถไล่ออกได้เลยทุกเมื่อ!”
“นายชื่ออะไร ? เดี๋ยวฉันจะให้ฝ่ายบุคคลมาทำประวัติให้นาย”
ฉินเทียนท่าทีแปลกประหลาด เขาหัวเราะ และกล่าว “ฉินเทียน”
“ฉินเทียน ? ไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน”หลี่หยานเค้นเสียงหึ ยังอยากจะพูดอะไรต่อ จู่ๆ ที่หน้าประตูก็มีเสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นมา
“หลิวหรูยู่!”
“หลิวหรูยู่มาแล้ว!”นักข่าวต่างพากันยืนขึ้น แล้วกรูกันไปที่หน้าประตูอย่างบ้าคลั่ง
หลี่หยานกับไป๋เสี่ยวเชี่ยน รวมถึงพนักงานของซิงถูทุกคน ต่างก็พากันช็อกไปตามๆกัน
พวกเขามองไปด้วยความประหลาดใจ
เห็นเพียงหลิวหรูยู่ในชุดธรรมดา สวนใส่หมวกและหน้ากาก เดินเข้ามาภายใต้การดูแลของหยางหรง
ต่อหน้าสื่อที่บ้าคลั่ง เธอราวกับนกที่ตกใจคันธนู หวาดกลัวอย่างมาก
ดวงตาคู่คม กวาดมองไปรอบๆบริเวณอย่างตื่นตระหนก
จนเมื่อได้เห็นฉินเทียน เธอก็ราวกับได้พบจิตวิญญาณ แต่ขอบตาแดงก่ำ เกือบจะร้องไห้ออกมา
ฉินเทียนรู้สึกเจ็บปวดใจ
แม้หลิวหรูยู่จะปกปิดตัวเองอย่างมิดชิด แต่ว่า ก็สามารถมองเห็น ว่าเธอนั้นมีสภาพที่อิดโรยอย่างมาก!
เขามองเห็นมันได้ จากร่างกายที่อวบอิ่มและมีน้ำมีนวล ในตอนนี้กลับซูบผอมจนเหลือแต่กระดูก
เขาอดไม่ได้ที่จะลุกขึ้นยืน อยากจะเข้าไปทักทาย
หลิวหรูยู่ได้สติ ราวกับไม่อยากจะพบเจอเขา รีบเสหน้าไปอีกทาง แล้วเดินปรี่ไปที่ด้านหลังอย่างเร่งรีบ
แต่ว่า นักข่าวกลับไม่ยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ
พวกเขาห้อมล้อมเธอเอาไว้ กล้องถ่ายที่มีขนาดทั้งเล็กและใหญ่ในมือต่างจ่อไปที่ตรงหน้าของเธออย่างบ้าคลั่ง
“ดาราชื่อดัง อธิบายด้วย เรื่องข่าวที่เกิดขึ้นในโลกโซเซียล มันเป็นมายังไงกัน?”
“ดาราชื่อดัง มีคนบอกว่าคุณใช้ความสาวแลกกับถ้วยรางวัล ใช่เรื่องจริงหรือเปล่า?”
“ดาราชื่อดัง มีข่าวมากมายบนโลกออนไลน์กว่าหลายวันแล้ว คุณไม่พูดอะไรเลย เท่ากับยอมรับว่าเรื่องทุกอย่างเป็นความจริงใช่ไหม?”
ยิ่งไปกว่านั้น มีคนก่นด่า“หลิวหรูยู่ เธอใช้ความใสซื่อไร้เดียงสาของเธอหลอกลวงแฟนคลับมาโดยตลอด !”
“ไม่คิดว่าชีวิตส่วนตัวของเธอจะเหลวแหลกแบบนี้ เธอรู้สึกผิดกับแฟนคลับที่สนับสนุนเธอบ้างไหม ?”
ภายใต้การถูกรุมล้อมอย่างบ้าคลั่ง หลิวหรูยู่โอนเอนจะล้มมิล้มแหล่
เธอรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเรือลำน้อยท่ามกลางลมพายุ และกำลังจะจมลงได้ทุกเมื่อ
แม้หยางหรงจะเตรียมความพร้อมมาเป็นอย่างดี แต่ก็ไม่คิดว่า จะมีนักข่าวมากันเยอะแยะมากมายอย่างนี้
เธอเห็นฉินเทียนจากที่ไกลๆ ภายในใจก็มีความมาดมั่นอยู่บ้าง
“หลบ!”
“หลบออกไปให้หมด!”
“เรื่องที่ทุกคนถามมา อีกเดี๋ยวดาราชื่อดังจะมีคำตอบให้ทุกคำถาม ”
“ตอนนี้ ทุกคนช่วยหลบออกไปก่อนได้ไหม?”
นักข่าวที่คลุ้มคลั่ง ก็ถึงได้หลีกทางเดินให้ แต่ทว่า เพื่อกันไม่ให้หลิวหรูยู่หลบหนี พวกเขาก็พากันมาขวางกันที่ตรงประตู
หลิวหรูยู่ไม่มีทางเลือก จึงจำต้องขึ้นไปบนเวที
เจ้าหน้าที่และดาราหน้าใหม่ของบริษัทซิงถูก็แหวกทางเดินออกให้อย่างไม่รู้ตัว
แม้ตอนที่หลิวหรูยู่ไม่อยู่ พวกเขาจะดูถูกและพูดจาว่าร้าย เหยียบย่ำหลิวหรูยู่จนจมดิน
แต่ว่า เมื่อเธอมาปรากฏตัว
ออร่าและความสง่างามของหลิวหรูยู่ ก็ยังคงสร้างความตราตรึงใจได้อยู่
“หยุด!”หลี่หยานเค้นเสียงหึยืนขวางตรงหน้า
เธอมองหลิวหรูยู่ ยิ้มเยาะและกล่าว“นี่เธอยังมีหน้ามาอีกเหรอ?”
“เพราะพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของเธอ ทำชื่อเสียงของบริษัทเราต้องเสื่อมเสีย”
“ตอนนี้ ฉันจะบอกความจริงให้เธอได้รู้ ว่านี่คืองานพิธีลงนามสัญญากันของซิงถูกับหวงฉาว”
“ทำไม เธอมาเพื่อหวังจะเกาะกระแส ? หรือมาเพื่ออยากจะสร้างความเสื่อมเสียให้บริษัทอีกล่ะ?”
“หลิวหรูยู่ซิงถูกับประธานหวาง ชุบเลี้ยงเธอมานานหลายปี”
“หากเธอยังพอมีจิตสำนึกอยู่บ้าง และยังรู้จักอาย ตอนนี้ ก็ไสหัวออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!”