บัญชามังกรเดือด บทที่ 331 คุณมาทำอะไร
ประธานโม่พอมาก็ต้องการเลื่อนตำแหน่งคนใหม่เหรอ?
คนใหม่ได้รับความสำคัญจากเขา พูดได้ว่าเลื่อนตำแหน่งสูงได้อย่างรวดเร็วในพริบตา!
ทุกคนเอาสายตาและเลนส์ทั้งหมดไปรวมกันที่ตัวของโม่ชงและฉินเทียนแล้ว
พวกเขาก็อยากรู้คนใหม่คนนี้ที่ปัจจัยรูปร่างลักษณะภายนอกดีอย่างนี้ สรุปแล้วเป็นใคร
“น้องสหาย นายมีชื่อว่าอะไร?”โม่ชงมองฉินเทียนอยู่ถามยิ้มตาหยี่
“ฉินเทียน”
ฉินเทียน?
สื่อมวลชนจำนวนมากต่างก็เปิดเผยสีหน้าที่สงสัยแล้ว พวกเขาต่างก็อยู่ในวงการบันเทิงมาหลายปีมีหูตามากมาย
พูดได้ว่าเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ในวงการบันเทิงต่างก็หนีไม่พ้นหูตาของพวกเขา
ถึงแม้บนสถานที่หนึ่งปรากฏคนเก่งที่มีความสามารถโดดเด่นคนหนึ่งออกมา หรือเน๊ตไอดอลในโลกโซเชียลคนหนึ่ง พวกเขาก็จะรู้ทั้งหมด
แต่ชื่อนี้ของฉินเทียน ทุกคนต่างก็มองหน้ากันกลับต่างก็ไม่มีภาพความทรงจำใด ๆ
ดูแล้วเป็นคนธรรมดาคนหนึ่งจริง ๆ
คนธรรมดาๆคนหนึ่งที่ไม่มีเบื้องหลังใดๆ กล้ามาที่นี่คนเดียว สนทนากับโม่ชงคนระดับเจ้าพ่อในวงการชนิดนี้เลยโดยตรง
สำหรับการเคลื่อนไหวของฉินเทียน พวกเขาต่างก็รู้สึกตลกมาก
แต่ในวงการนี้ตั้งแต่ไหนมาก็คือหน้าด้านจะได้รับประโยชน์ หน้าบางก็จะไม่ได้รับอะไรเลย
หลังพวกเขาตลกแล้วก็มีความเลื่อมใสเล็กน้อย
ฉินเทียนไม่ทำเรื่องตามกฏปกติที่วางไว้ ไม่แน่ว่าวันหลังจะกลายเป็นดาราดังจริง ๆ ก็ได้
มีนักข่าวสองสามคนอยากที่จะสร้างความสัมพันธ์ไว้กับฉินเทียนล่วงหน้า ต่างก็มาสัมภาษณ์เขาเองก่อน
“คุณฉินเทียน สามารถแนะนำสภาพการณ์รายละเอียดของคุณสักหน่อยได้ไหม?”
“ทำไมถึงเลือกหวงฉาว?”
“เพราะพวกเราต่างก็รู้ หวงฉาวอยู่ในวงการถึงแม้แข็งแกร่งมาก แต่ก็ไม่แน่ว่าจะเหมาะสมกับการพัฒนาของคนใหม่”
“และสาขาวิชาของคุณคืออะไร?”
โม่ชงก็ยิ่งเพิ่มความสนใจแล้ว เขาสะบัดมือแล้วแสดงให้นักข่าวรู้ไม่ต้องรีบร้อน
“สหายฉินเทียน ขอบคุณมากที่คุณสามารถเลือกหวงฉาวของพวกเรา ด้วยเหตุนี้ผมไม่พูดก็ไม่ได้ว่าคุณมีสายตาในการมองที่ดีมาก”
“ตอนนี้ผมก็อยากที่จะรู้ คุณจบการศึกษาที่โรงเรียนไหน? สาขาวิชาอะไร?”
“ศิลปะการร้องเพลง เต้นหรือการแสดง?”
“มองสหายฉินมีความหยิ่งทรนงตัว หรือว่ามาจากเทียนซี่?”
ฉินเทียนส่ายหน้าแล้วพูดจาง ๆ “ผมไม่ค่อยได้เรียน เหล่านี้ที่คุณพูดผมต่างก็ไม่เข้าใจ”
“ไม่เข้าใจ?”ใบหน้าของโม่ชงมีความมืดมนลงเล็กน้อย เดิมทีเขาก็คืออยากที่จะหยอกล้อฉินเทียนสักหน่อย
ตอนนี้ดูแล้วฉินเทียนคนนี้ดูเหมือนไม่เข้าใจกฏมาก เผชิญหน้ากับตัวเองมีท่าทางการแสดงออกที่หยิ่งผยอง ไม่มีมารยาทสักนิดจริง ๆ
“ไม่เข้าใจอะไรสักนิดก็กล้ามาสัมภาษณ์ที่หวงฉาวของพวกเรา ผมอยากรู้คุณอาศัยสิทธิ์อะไร?”
“ก็อาศัยหน้าตาของคุณที่ไม่เลวเหรอ?”
“คนหนุ่ม อยู่ในวงการบันเทิงหน้าตาถึงแม้สำคัญแต่ก็ยังคงต้องอาศัยความสามารถ”
หลังนักข่าวมากมายฟังแล้วต่างก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้นมา
ตอนนี้พวกเขารู้สึกว่าฉินเทียนก็คือมาทำเรื่องตลก แต่กลับโม่ชงเผชิญหน้ากับคนใหม่ที่ไม่มีมารยาทคนหนึ่ง ตั้งแต่ต้นจนจบก็ไม่ได้โกรธ
สมแล้วที่เป็นเถ้าแก่ใหญ่มีการเลี้ยงดูสั่งสอนจริง ๆ
หลี่หยานที่อยู่ด้านข้างก็จับโอกาสรีบพูดว่า“ฉันก็พูดแล้ว หมอนี่อะไรก็ทำไม่ได้”
“ประธานโม่ไม่ต้องเสียเวลากับเขาแล้ว ไม่งั้นคุณมาตรงกลางก่อน พูดสองสามประโยคให้กับทุกคน?”
พูดอยู่ยังไม่ลืมตำหนิฉินเทียน“พวกที่ไม่เข้าใจความหวังดีของคนอื่น ยังไม่รีบไสหัวไป!”
โม่ชงมองเห็นตอนที่เขาพูดกับฉินเทียน มู่เฟยเฟยที่อยู่ด้านข้างก็ก้มหน้าตลอดไม่กล้ามองฉินเทียนสักนิดหนึ่ง
กระทั่งร่างกายก็สั่นเล็กน้อย ดูเหมือนตื่นเต้นมาก
ในดวงตาของเขาประกายความดุร้ายมา
“ไม่ใช่จบเฉพาะทางก็ไม่มีอะไร”
เขาเปลี่ยนหัวข้อพูด ยิ้มเย็นชาพูดว่า“เป็นที่ทราบกันดี เช่นคุณมู่เฟยเฟยดาราดังของพวกเราก็ไม่ใช่จบเฉพาะทาง”
“แต่นี่จะมีอะไร? วงการบันเทิงตั้งแต่ไหนมาก็คือไม่ปิดกั้น สามารถรับได้กับทุก ๆ อาชีพ”
“ขอแค่คุณมีใจที่จะหาความก้าวหน้าด้วยความเคารพและจริงใจ มีพรสวรรค์ ยอมศึกษาก็มีความเป็นไปได้ทั้งหมด”
“สหายฉินเทียน คุณรู้จักคุณมู่เฟยเฟยเหรอ?”
ฉินเทียนมองมู่เฟยเฟยที่ก้มหน้าอยู่แวบหนึ่งแล้ว อมยิ้มพูด“มีวาสนาเจอหน้ากับคุณมู่ครั้งหนึ่ง”
วาสนาเจอหน้าครั้งหนึ่ง? ฉันดูว่ามีความโชคดีครั้งหนึ่งที่เคยได้คบหาเป็นแฟนกับคุณมู่เฟยเฟยล่ะมั้ง!
โม่ชงยิ่งเพิ่มการยืนยันคาดเดาของตัวเองแล้ว ฉินเทียนเป็นคนรักเก่าของมู่เฟยเฟย
“เหรอ? คิดไม่ถึงคุณกับคุณมู่รู้จักกัน” เขายิ้มตาหยี่พูด“เฟยเฟย เพื่อนเก่ามาแล้วคุณไม่ทักทายสักหน่อยเหรอ?”
“ศิลปินของหวงฉาวพวกเราไม่มีมารยาทอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่แล้ว?”
ได้ยินที่นี่ มู่เฟยเฟยถึงเงยหน้ามองฉินเทียนแวบหนึ่งแล้ว พูดอย่างเขินอายว่า“สวัสดี คุณฉิน”
ฉินเทียนอมยิ้มพยักหน้า“สวัสดี”
มู่เฟยเฟยมองเห็นสายตาของฉินเทียน ใบหน้าแดงรีบเบือนหน้าอีก
ผู้ชายที่อยู่ด้านหน้ายิ้มตาหยี่ มองไปแล้วสวยงามไม่มีอันตรายแต่หล่อนลืมไม่ลงที่หนานเจียงคืนนั้น
เขาคือเคลื่อนไหวคนเดียวยังไง เข้าฆ่าคุณชายของตระกูลพานที่อาศัยอยู่ที่คฤหาสน์หลงกง
ฆ่าอย่างไม่ไว้หน้าใช้พลังของตัวเองคนเดียว รื้อถอนทั้งตระกูลพาน
อีกทั้งในใจของมู่เฟยเฟยมีความลับที่ยิ่งใหญ่อันหนึ่ง นั่นก็คือที่จริงแล้ว เวลาสุดท้ายพานหลงถูกหล่อนฆ่าตายด้วยมือของตัวเอง
หล่อนทำอย่างนั้นก็คือเพื่อถวายความจงรักภักดีต่อฉินเทียน
“ประธานโม่ฉันไม่สบายเล็กน้อย ไปห้องน้ำสักหน่อย” หล่อนพูดประโยคหนึ่งอย่างกังวล เตรียมออกไป
“อย่าสิ”โม่ชงดึงแขนของมู่เฟยเฟยไว้ยิ้มตาหยี่พูด“เฟยเฟย เดี๋ยวคุณก็เป็นเบอร์หนึ่งของบริษัทเราแล้ว”
“ในเมื่อคุณกับคุณฉินรู้จักกันมาก่อน งั้นรบกวนคุณมาช่วยผมพิจารณาหน่อย ผมควรจะรับเขาไหม?”
“ถ้าหากรับแล้วควรจะให้ตำแหน่งอะไรแก่เขาล่ะ?”
“ฉันไม่รู้ ประธานโม่คุณดูทำเองแล้วกัน!” มู่เฟยเฟยกระวนกระวายเล็กน้อย
ถึงตอนนี้ในที่สุดโม่ชงก็สูญเสียความอดทนแล้ว
เขาเอากุญแจดอกหนึ่งของเบนท์ลีย์โยนให้ฉินเทียนแล้ว ยิ้มอย่างเย็นชา“เห็นแก่หน้าของคุณเฟยเฟย วันนี้ให้คุณได้หน้าแล้ว”
“คุณสามารถเข้าสู่หวงฉาวได้ นับตั้งแต่เริ่มขับรถให้ผมแล้วกัน”
“วันหลังผมกับคุณเฟยเฟยจะมีการเข้าร่วมงานเลี้ยงที่สำคัญมากมาย คุณมีตำแหน่งหน้าที่เฉพาะรับผิดชอบขับรถให้พวกเรา”
“ฉินเทียน อย่าดูถูกคนขับรถ ผมและคุณเฟยเฟยสามารถเปิดโลกใหม่อันหนึ่งให้คุณได้ให้คุณเปิดโลกกว้างให้มาก ๆ ”
ให้คนที่มู่เฟยเฟยเคยรัก ให้เขาขับรถส่งเขาและมู่เฟยเฟยให้มีความใกล้ชิดกัน
โม่ชงรู้สึกว่าไม่มีอะไรที่จะสามารถเหยียดหยามฉินเทียนได้มากกว่านี้แล้ว เวลาเดียวกันก็กระตุ้นมู่เฟยเฟยแล้ว
เขาคิดไม่ถึงว่าจะรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย
หลี่หยานพูดอย่างอารมณ์เสียว่า“ฉินเทียน ยังไม่รีบขอบคุณประธานโม่!”
“นายคิดว่าขับรถให้ประธานโม่คือง่ายอย่างนั้นเหรอ? วันหลังนายจะต้องฟังคำของประธานโม่ให้ดี ๆ ให้ได้”
ประธานโม่เห็นฉินเทียนถือกุญแจเบนท์ลีย์อยู่ สีหน้าแปลกประหลาด เขาตั้งใจแกล้งพูดอย่างโอเวอร์
“ทำไม คุณคงจะไม่เคยขับรถที่ดีอย่างนี้ ไม่รู้ควรจะขับยังไงใช่ไหม?”
“ไม่เป็นไร ยิ่งเป็นรถหรูการทำงานก็ยิ่งง่าย พูดอย่างไม่เกรงใจพวงมาลัยแขวนเนื้อไว้ชิ้นหนึ่งหมาต่างก็สามารถขับได้”
คำพูดอย่างนี้ก็คือมีความตั้งใจที่จะเย้ยหยันอย่างชัดเจนมาก
คนอื่น ๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์ ทั้งหมดต่างก็หัวเราะเสียงดังขึ้นมาแล้ว
นักข่าวบันเทิงคนหนึ่งยิ้มเยาะพูด“สหายฉินเทียน ตอนนี้รู้แล้วใช่ไหมวงการนี้ไม่ใช่เข้าไปได้ง่าย ๆ อย่างนั้น?”
“ไม่มีความสามารถ อาศัยใบหน้าอย่างเดียวไม่ได้”
“คุณยอมที่จะขับรถให้ประธานโม่เหรอ?”
ฉินเทียนยิ้มแล้วพูด“ผมเคยพูด ที่ผมมาสัมภาษณ์เหรอ?”
นักข่าวตะลึงเล็กน้อย พูด“งั้นคุณมาทำอะไร?”
ฉินเทียนมองทุกคนรอบ ๆ พูดจาง ๆ “สองวันก่อนวู่วามเกิดความคิด เลยซื้อบริษัทเล็ก ๆ ไป”
“ผมมาดูบริษัทของตัวเอง มันผิดเหรอ?”