บัญชามังกรเดือด บทที่ 336 ปรมาจารย์สิบสามท่าน
ผัวะ!
ภายใต้การโกรธมากของจ้าวซวู่ หยิบแจกันกระจกขึ้นมาฟาดลงบนหัวของโม่ชงอย่างแรง
โม่ชงที่เดิมทีคุกเข่าอยู่ก็ร้องอย่างน่าเวทนาเสียงหนึ่ง กุมหัวล้มลงบนพื้น
ระหว่างนิ้วมือก็มีเลือดไหลออกมาทันที
เจ็บจนเขาร้องว๊าก
“พี่ซวู่ ผมผิดไปแล้ว!”
“ให้โอกาสผมอีกครั้งหนึ่ง!”
“ผมจะต้องฆ่าฉินเทียนให้ได้ เอาหลิวหรูยู่พามาที่ตรงหน้าของคุณ!” เขาพูดเสียงดังอย่างหวาดกลัว
“แกยังมีหน้าขอโอกาสกับกูอีก?”
“วันนี้กูจะตีแกให้ตาย!”
ภายใต้การโกรธมากของจ้าวซวู่ หยิบแส้มาเส้นหนึ่งจากบนชั้น ตีขึ้นมาอย่างรุนแรงและบ้าคลั่ง
ตีไปด้วยด่าทอไปด้วย
“สารเลว!”
“โม่ชงแกพวกหมาคนนี้!”
“เรื่องเล็ก ๆ นี้ต่างก็ทำไม่ดี ฉันเอาแกไว้มีประโยชน์อะไร?”
“แกแม่งรู้ไหมในงานประชุมของตระกูล กูสูญเสียคนไปเท่าไหร่แล้ว?”
“ฉันตีแกให้ตาย!”
“ร้องสิ!”
“แกร้องอีกสิ!”
มองเห็นท่าทางที่บ้าคลั่งของจ้าวซวู่ หญิงสาวสองคนที่อยู่ด้านข้างก็ตกใจจนสั่นเทา
พ่อบ้านกัวเซิงก็ไม่กล้าขึ้นมาห้ามปราม เพราะพวกเขาต่างก็รู้จ้าวซวู่กำลังโมโหมาก
เวลานี้ใครพูดใครตาย!
กุมหัวอยู่หดตัวที่พื้น ตอนนี้เขากัดฟันนิ่งไม่กล้าร้องอีก
เพราะเขาเข้าใจขอแค่เขาร้องเจ็บ จ้าวซวู่ก็จะใช้รูปแบบที่ยิ่งโหดร้ายมาลงโทษเขา
มีทางเดียวกัดฟันอดทนอยู่ รอถึงจ้าวซวู่ตีจนเหนื่อยแล้วตัวเองก็หยุดลงมาเอง
จ้าวซวู่ตีแล้วครึ่งชั่วโมงเต็ม ๆ เหนื่อยจนหอบแฮ่ก ๆ
มองเห็นโม่ชงไม่ขยับเขาถึงโยนแส้ทิ้ง หย่อนก้นนั่งลงบนโซฟาหอบเฮือกใหญ่
หญิงสาวสองคนรีบเทน้ำส่งไปถึงด้านหน้าของเขา
“กูไม่ดื่มน้ำ!”
“หยิบเหล้ามาให้กู!”สะบัดมือทำให้แก้วน้ำที่อยู่ในมือของหญิงสาวคนหนึ่งล้มคว่ำ แล้วยกเท้าถีบหญิงสาวอีกคนล้มคว่ำอีก
หญิงสาวสองคนตกใจจนสีหน้าขาวซีด รีบคลานขึ้นมาเปิดไวน์แดงขวดหนึ่งแล้ว
จ้าวซวู่จ่อปากขวดอยู่ดื่มอึก ๆ ไปครึ่งขวด ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นยิ่งแดงแล้ว
“สารเลว!”
“แกทำร้ายกูให้ขายหน้าจนหมดสิ้นต่อหน้าตระกูลแล้ว!”
“กูจะฆ่าแกให้ตาย!”มองเห็นโม่ชงที่อยู่ด้านหน้าเขาก็โกรธอีกครั้ง จับขวดไวน์แดงอยู่เตรียมที่จะระเบิดหัวของโม่ชง
“คุณชาย!”พ่อบ้านรีบขึ้นมาข้างหน้าก้าวหนึ่ง พูดเสียงต่ำว่า“ตีอีก ก็ตีตายจริง ๆ แล้ว ”
“ไม่สู้ พวกเราฟังคำพูดของประธานโม่ ฉินเทียนคนนั้นสรุปแล้วเป็นใคร”
จ้าวซวู่ถีบโม่ชงทีหนึ่งอย่างแรงแล้ว พูดอย่างโมโหว่า“อย่าแกล้งตายให้กู!”
“รีบพูด!”
คนนี้เวลาปกติออกเดินทางต่างก็มีดาราหญิงติดตามมาเป็นเพื่อน ก็อดฟาเธอร์ของวงการบันเทิงที่มีหน้าตามากอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เวลานี้ก็เหมือนหมาตกน้ำตัวหนึ่งอย่างนั้น
เขากัดฟันคลานขึ้นมาคุกเข่าที่ด้านหน้าของจ้าวซวู่ร้องไห้น้ำมูกไหล
“ผมตรวจสอบเป็นเวลาแรกได้รู้ว่าฉินเทียนเป็นประธานกรรมการบริหารของซูยู่กรุ๊ป สามีของซูซู”
“หลิวหรูยู่เป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าครีมซูยู่ของซูยู่กรุ๊ป”
“ครั้งนี้พวกเราทำให้หล่อนเสียชื่อเสียง กระทบต่อปริมาณการขายของครีมซูยู่แล้ว”
“ผมคิด ฉินเทียนจะต้องเป็นเพราะอันนี้ถึงได้ทำลายแผนการของพวกเราแล้วแน่นอน!”
“ซูยู่กรุ๊ป?”จ้าวซวู่พูดอย่างอารมณ์เสีย“นั่นเป็นของอะไร?”
ถึงแม้ตอนนี้ซูยู่กรุ๊ปก็มีชื่อเสียงบ้างเล็กน้อย แต่ก็คืออยู่ที่พื้นเมืองของหลงเจียง
ขยายกว้างอีกหน่อย แรงผลกระทบก็ไม่ออกเมืองหนานเจียง
และจ้าวซื่อกรุ๊ปของตระกูลจ้าวทรัพย์สินหลายแสนล้าน อยู่ในประเทศต่างก็สามารถถือได้ว่าเป็นตระกูลมหาเศรษฐีชั้นหนึ่ง
ดังนั้นจ้าวซวู่เดิมทีก็ไม่เคยได้ยินบริษัทใหม่ที่มีมูลค่าตลาดหลายพันล้านอย่างซูยู่กรุ๊ปอย่างนี้
เห็นสภาพการณ์ พ่อบ้านกัวเซิงก็รีบเอาเอกสารบางอย่างของซูยู่กรุ๊ปอีกทั้งซูซูและฉินเทียนมาทำเป็นรายงานที่ละเอียดแล้ว
“พูดอย่างนี้ คนแซ่ฉินกับอานกั๋วก็มีความเกี่ยวข้อง?”
“ฉันก็ว่าล่ะ คนหนึ่งที่ไม่มีชื่อเสียงทำไมถึงกล้าขวางทางของกู”
“อาศัยเขาก็เป็นไปไม่ได้ที่จะมีพลังงานมากอย่างนี้”
“ที่แท้นายท่านอานยังคงอดไม่ได้ที่จะลงมือแล้ว เขาไม่กล้าเผชิญหน้าอย่างซึ่ง ๆ หน้ากับฉันดังนั้นก็แกล้งยืมมือของฉินเทียนที่ไม่มีมันสมองคนนี้”
กัวเซิงยิ้มพูด“คุณชายฉลาดหลักแหลม ผมก็คิดว่าอย่างนี้”
“ด้านหลังฉินเทียนจะต้องเป็นอานกั๋วที่สนับสนุนอย่างเต็มที่”
“คุณชาย ในเมื่อเรื่องได้เกิดขึ้นแล้ว คุณด่าตำหนิประธานโม่อีกก็ไม่มีประโยชน์”
“อีกอย่างอานกั๋วลงมืออยู่ด้านหลัง โม่ชงแพ้ให้เขาก็สามารถให้อภัยได้”
“ตอนนี้ คุณเตรียมจะทำยังไง? จะไปหาอานกั๋วถามหาความผิดเลยไหม?”
“หรืออาศัยโอกาสนี้เปิดสงครามรอบด้าน เอาหนานเจียงมาให้สำเร็จเลยทีเดียว!”
จ้าวซวู่ใจเย็นลงมา
เขาเกิดในจ้าวซื่อตระกูลมหาเศรษฐีระดับสูงอย่างนี้ และสามารถถูกยืนยันให้เป็นทายาทผู้สืบทอดอีกไม่ใช่มีสมองง่าย ๆ อย่างเด็ดขาด
ในความจริงแล้วภายนอกของคนนี้คือทายาทเศรษฐีที่ไม่มีความรู้ความสามารถ ที่จริงแล้วในใจละเอียดและโหดเหี้ยมมาก
เขาคิดเล็กน้อยพูดเสียงหนักว่า“เมืองหนานเจียงฉันมุ่งมั่นที่จะต้องได้มา!”
“วันนี้ในงานประชุมของตระกูล ฉันก็ทำการรับรองต่อทุกคนแล้ว”
“ในสามเดือนเอาหนานเจียงมาไม่ได้ ฉันถอยออกมาจากตำแหน่งของทายาทผู้สืบทอดอัตโนมัติ”
“เพียงแต่เปิดสงครามรอบด้าน ผลกระทบมากไปตอนนี้ยังไม่ใช่เวลา”
กัวเซิงพูดเสียงต่ำว่า“คุณชายเตรียมจะทำยังไง?”
ในดวงตาของจ้าวซวู่เปิดเผยสีที่ชั่วร้าย ยิ้มอย่างเย็นชาพูดว่า“อานกั๋วไม่ใช่เต่าที่หดหัวในกระดองไม่โพล่หน้า ส่งฉินเทียนออกหน้ามาเหรอ?”
“งั้นกูก็กำจัดฉินเทียนคนนี้ก่อน!”
“กำจัดฉินเทียนเอาหลิวหรูยู่มา ฉันต้องการให้อานกั๋วมาหาฉันเองก่อน!”
“ไป เอาสามพี่น้องของหยวนซื่อเรียกมา!”
กัวเซิงพูดอย่างตื่นเต้นว่า“สามพี่น้องหยวนซื่อ เป็นผู้ที่เก่งมากในบอดี้การ์ดสิบสามคนของตระกูล คุณชายต้องการใช้พวกเขาเหรอ?”
จ้าวซวู่พูดอย่างได้ใจว่า“วันนี้ในการประชุมของตระกูล พ่อฉันตัดความคิดเห็นมากมายออกไปให้ตัวเองได้เปรียบ เพื่อสนับสนุนฉันต่อกรกับหนานเจียง เอาพวกเขาส่งให้ฉันแล้ว”
“จากนี้ไป บอดี้การ์ดสามคนนี้ก็คือบอดี้การ์ดส่วนตัวของฉัน”
“ดีมากแล้ว!”
“มีบอดี้การ์ดสามคนนี้แล้ว ไม่ต้องกังวลฉินเทียนจะไม่ตาย ไม่ต้องกังวลหนานเจียงจะไม่สงบสุข!”
“เอาหนานเจียงมาได้ คุณชายก็สามารถอุดปากของผู้ที่คัดค้านเหล่านั้นในตระกูลได้ นั่งตำแหน่งของทายาทผู้สืบทอดได้อย่างมั่นคง!”
“วันหลังคุณก็คือหัวหน้าของจ้าวซื่อ!”
กัวเซิงพูดชมอย่างสวยงามสองสามประโยคก็แจ้งให้แผนกคุ้มกันของตระกูลจ้าวรู้ทันที ให้สามพี่น้องหยวนซื่อมาหาจ้าวซวู่รายงานตัว
แผนกคุ้มกันของตระกูลจ้าวเท่ากับเป็นเจ้าของบ้านบริหารจัดการโดยตรงเอง เหมือนกับประเภทกองทัพที่ทำหน้าที่คุ้มครองจักรพรรดิ
ปรมาจารย์หลายร้อยคนเคยได้รับการฝึกฝนอย่างมืออาชีพ โดยการนำของปรมาจารย์สิบสามท่าน
ปรมาจารย์สิบสามคนนี้ก็คือสิบสามบอดี้การ์ด
ครั้งนี้จ้าวเทียนเล่อหัวหน้าตระกูลจ้าวส่งบอดี้การ์ดสามคนให้แก่จ้าวซวู่ลูกชายของเขา แบ่งเรียงลำดับเป็นสิบเอ็ด สิบสองและสิบสาม
พวกเขาก็คือสามพี่น้องมีชื่อว่า หยวนหู่ หยวนเป้า หยวนหลาง
สามพี่น้องเกิดที่ครอบครัวศิลปะการต่อสู้ เป็นปรมาจารย์ของมวยแปดสุดยอด
ไม่นาน ผู้ชายสามคนรูปร่างแข็งแกร่งกำยำ สายตาเคร่งขรึมเดินเข้ามาแล้ว
บนตัวของพวกเขาเปิดเผยกลิ่นไอของการฆ่าอยู่
หลังเดินเข้ามาอุณหภูมิของในห้องก็เหมือนลดลงแล้วเล็กน้อย
พี่ใหญ่หยวนหู่พูดเสียงหนักว่า“คารวะคุณชาย!”
“บอดี้การ์ดสิบเอ็ด บอดี้การ์ดสิบสอง บอดี้การ์ดสิบสามอีกทั้งลูกน้องกลุ่มเล็กสามกลุ่ม รวมสมาชิกทั้งหมดหนึ่งร้อยคน”
“ส่งมอบสำเร็จ!”
“นับจากตอนนี้ไป พวกเราฟังคำสั่งการโยกย้ายของคุณชายทุกเวลา!”
หยวนเป้าใบหน้าไร้ความรู้สึกพูดอย่างเย็นชา“พวกเรายอมช่วยเหลือคุณชายกวาดหนานเจียงให้ราบคาบ สร้างความดีความชอบที่ยิ่งใหญ่!”
น้องสามหยวนหลางเป็นคนที่โหดเหี้ยมดุร้ายที่สุด เขากัดฟันพูด“ตอนนี้ก็ออกเดินทางใช่หรือเปล่า?”
“ขอให้คุณชายออกคำสั่งเถอะ!”
“ผมยอมเป็นคนที่นำข้างหน้าหั่นหัวของอานกั๋วลงมา!”