บัญชามังกรเดือด บทที่ 343 กลยุทธ์ที่ชั่วร้าย
เมืองหยุนชวน คลับเฮ้าส์เฉิงซวู่
จ้าวซวู่จิบไวน์แดงหนึ่งอึก พูดอย่างหมดความอดทน “สามวันแล้ว ฉินเทียนและซูซู ทำไมพวกมันถึงยังไม่มาร้องขอความเมตตาจากฉัน?”
“กัวเซิง คนที่ฉันให้แกส่งไปที่หลงเจียงล่ะ?”
“นี่สามวันแล้ว พวกมันทำอะไรกันอยู่?”
กัวเซิงรีบเอ่ยอย่างร้อนใจ “คุณชายครับ คนที่ผมได้ส่งไปได้บอกข่าวมาครับว่าตอนนี้บริษัทซูยู่ ทุกคนต่างหน้านิ่วคิ้วขมวดราวกับว่าญาติสนิทเสียไปอย่างไรอย่างนั้นเลยล่ะครับ”
“สินค้าเหล่านั้นที่ตัวแทนจำหน่ายตีคืนกลับไป ตอนนี้ถูกบรรจุเต็มโกดังของพวกเขาแล้วครับ”
“โกดังของพวกเขาถูกปิดผนึกเหมือนกับว่ากำลังเตรียมพร้อมที่จะทำลาย”
จ้าวซวู่ยิ้มเย้ยหยัน “พวกเขาไม่ได้พยายามหาตัวแทนจำหน่ายอื่นหรอกเหรอ?”
กัวเซิงยิ้มและกล่าว “ไม่เลยครับ”
“ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของพวกเขา สามารถเปิดตลาดจังหวัดทางภาคใต้ได้”
“แต่ตัวแทนทางภาคใต้นั้นใครก็ไม่กล้าที่จะยั่วยุพวกเรา”
“ส่วนทางภาคเหนือ ต่อให้พวกเขาจะไปก็ไม่มีใครสนใจพวกเขา”
จ้าวซวู่หัวเราะเสียงดังก้องจากนั้นเอ่ย “ทำได้สวย!”
“ฉันจะบีบคอพวกมันให้ตาย ดูสิว่าพวกเขาจะทนได้อีกกี่วัน!”
“ถ้าพวกเขายอมล้มละลาย ไม่ยินดีมาขอร้องอ้อนวอนฉัน งั้นฉันก็จะมองพวกนั้นให้สูงขึ้นสักหน่อย”
หยวนเป้ากัดฟันแน่นพลางกล่าว “ไม่สามารถปล่อยคนแซ่ฉินให้รอดไปได้!”
“ฉันจะทำให้เขาตาย!”
จ้าวซวู่ยิ้มและเอ่ย “วางใจเถอะ”
“ให้เขาตายตอนนี้ก็หมดสนุกสิ ฉันจะคอยเหยียบย่ำซ้ำเติมเขา เมื่อเขาหมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง ตอนนั้นค่อยจัดการเขาซะ”
“หยวนหู่หยวนเป้า ฉันเข้าใจถึงความสัมพันธ์แน่นแฟ้นระหว่างพี่น้องของพวกนาย เพื่อล้างแค้นให้แก่หยวนหลาง”
“รออีกสองสามวัน”
“เมื่อถึงเวลา ค่อยบดขยี้ฉินเทียน ตอนนั้นฉันเองก็จะบุกจู่โจมหนานเจียงครั้งใหญ่”
กัวเซิงยิ้มและรีบเอ่ย “คุณชายเฉียบขาดเหนือชั้นยิ่งนัก!”
“ฉินเทียนคือปืนในมือของอานกั๋ว การเล่นฉินเทียนจนตายนั้นเทียบเท่ากับการเชือดไก่ให้ลิงดู อานกั๋วจะต้องไตร่ตรองอย่างรอบคอบแน่นอน”
“บางทีไม่แน่ว่าภายใต้ความหวาดกลัวเขาอาจจะเป็นฝ่ายริเริ่มพึ่งพิงคุณชายก็เป็นได้”
“ตอนนั้นคุณชายอาจจะได้ครอบครองหนานเจียงได้อย่างง่ายดาย คนภายในตระกูลจะไม่ตั้งคำถามถึงความสามารถของคุณชายอีก”
จ้าวซวู่หัวเราะเสียงดังก้อง “ครอบครองหนานเจียง พวกนายเองก็มีส่วนร่วมด้วยเช่นกัน”
“พวกนายคอยอยู่ข้างกายฉันอย่างดี เมื่อฉันได้กลายเป็นเจ้าบ้าน พวกนายก็ได้เป็นบุคคลสำคัญ!”
“ฉันจะให้ชีวิตแห่งความรุ่งโรจน์และความมั่งคั่งแก่พวกนาย!”
“มา ดื่มเหล้า!”
“คุณชายครับ จ้าวเฟิงมาแล้ว” ลูกน้องใต้บัญชาคนหนึ่งเดินเข้ามารายงาน
จ้าวซวู่สีหน้านั้นเปลี่ยนไปทันใด เอ่ยด้วยเสียงเย็นเยียบ “ไอ้ลูกนอกสมรสนี่มาทำอะไร?”
“คุณชายจ้าวเฟิงกล่าวว่ามีคนมีคนมอบไวน์แดงอันทรงคุณค่าของคฤหาสน์บอร์โดซ์ให้เขาขวดหนึ่ง เขาไม่คู่ควรที่จะดื่มมัน ตั้งใจมามอบมันให้แก่คุณชาย”
จ้าวซวู่ยิ้มเย็นและเอ่ยเย้ยหยัน “ไอเศษขยะนี่จะมีไวน์ดีอะไรได้”
“อย่างไรก็ตาม ครั้งก่อนที่มีการประชุมตระกูล จ้าวข่ายของบ้านสามนั้นรู้เรื่องเส้นทางดาว มันโจมตีฉันซะยับเยิน”
“ไอขยะนี่ ออกตัวเพื่อฉัน”
“เรียกให้เขาเข้ามา”
ในไม่ช้า มองเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งรูปร่างผอมบาง ท่าทีหวาดกลัว เดินเข้ามาด้วยใบหน้าปีติยินดี
ภายในอ้อมแขนของเขากอดขวดไวน์แดงไว้ขวดหนึ่ง
“สวัสดีครับพี่ซวู่!” เมื่อมองเห็นพี่ซวู่เขารีบพยักหน้าและทักทายด้วยท่าทีเคารพและท่าทีหวาดกลัว
จ้าวซวู่และหยวนหู่ หยวนเป้าต่างก็กำลังดื่มเหล้า ราวกับว่าไม่ได้ยินเสียงของจ้าวเฟิง ไม่มีใครมองไปที่เขาเลยแม้แต่คนเดียว
“มา พี่หู่ พี่เป้า”
“ดื่มเหล้าแก้วนี้แล้ว ฉันรับรอง ใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน จะพาพวกนายไปบุกฆ่าหลงเจียง เพื่อแก้แค้นให้แก่หยวนหลาง!”
จ้าวซวู่ไม่ได้กล่าวสิ่งใด จ้าวเฟิงนั้นยืนก้มหน้าก้มตาอยู่ด้านหน้า ใบหน้านั้นประดับด้วยรอยยิ้มที่เก้ๆกังๆ
เวลาผ่านพ้นไปประมาณครึ่งชั่วโมง ราวกับว่าจ้าวซวู่เพิ่งค้นพบ
“นี่ไม่ใช่จ้าวเฟิงหรอกเหรอ? แกมาตั้งแต่เมื่อไร?” จ้าวซวู่เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“พี่ซวู่!” จ้าวเฟิงรีบพยักหน้าและโค้งคำนับ จากนั้นกล่าว “นี่คือไวน์แดงที่เพื่อนของผมซึ่งทำธุรกิจค้าขายกับต่างประเทศนำกลับมาจากต่างประเทศ เป็นไวน์แดงที่สั่งทำให้แก่ราชวงศ์ของยุโรปโดยเฉพาะ”
“ไวน์ที่ดีขนาดนี้ ผมไม่คู่ควรที่จะดื่มมันและผมเองก็ไม่เข้าใจรสชาติของไวน์”
“มีเพียงพี่ซวู่เท่านั้นที่จะสามารถลิ้มรสได้”
“พี่ซวู่คุณลองชิมดูนะครับ”
จ้าวซวู่เอ่ยด้วยรอยยิ้มเย็น “นายช่างมีจิตใจที่ดี”
“แต่ นายคิดว่าฉันขาดไวน์อยู่งั้นเหรอ? หรือว่าฉันไม่สามารถดื่มไวน์ที่ดีได้งั้นเหรอ?”
จ้าวเฟิงรีบพูดด้วยความตื่นตระหนก “น้องไม่ได้หมายความแบบนั้น!”
“พี่ซวู่ผมนั้นเพียงแค่นำมาเพื่อแสดงความเคารพต่อคุณด้วยความจริงใจ”
จ้าวซวู่เยาะเย้ย “งั้นเหรอ?”
“แกคิดนำมาให้ฉันด้วยความเคารพ ทำไมถึงไม่เอาไปให้พ่อล่ะ?”
“ถึงอย่างไรแกก็เป็นลูกของเขา ฉันได้ยินมาว่าเมื่อไม่กี่วันก่อนแกได้ให้ซิการ์พิเศษกล่องหนึ่งให้กับเขา”
“แกรู้ว่าพ่อชอบสูบซิการ์ จงใจนำไปเอาใจเขา”
“คิดอยากจะเรียกร้องความสนใจจากเขาสินะ?”
“แกคิดสินะว่าแกก็สกุลจ้าว ทรัพย์สินของตระกูลจ้าวของพวกฉันก็จะเป็นส่วนหนึ่งของแกด้วย?”
จ้าวเฟิงรีบคุกเข่าลงบนพื้น เอ่ยด้วยความหวาดกลัว “พี่ซวู่คุณอย่าได้เข้าใจผิดไป!”
“ผมไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นเลย!”
“หลังจากนี้ผมไม่กล้าอีกแล้วครับ พี่ซวู่ได้โปรดลงโทษด้วย!”
จ้าวซวู่ดื่มเหล้าหนึ่งอึก จากนั้นกล่าว “แกคิดว่าแกเป็นใครสำหรับฉัน?”
จ้าวเฟิงคิดจะกล่าว “ผมคือน้องชายของคุณ” ทว่าเขาเห็นสายตาของจ้าวซวู่ เขารีบเอ่ยขึ้นทันที “ผมเป็นเพียงสุนัขตัวหนึ่งของพี่ซวู่!”
“พี่ซวู่นั้นคอยให้อาหารผม ผมไม่อดตาย”
“ไม่มีพี่ซวู่ ผมก็ไม่ใช่อะไรทั้งนั้น”
“ในเมื่อแกบอกว่าแกคือสุนัขของฉัน งั้นก็ร้องเห่าให้ฉันฟังสักสองครั้งสิ”
จ้าวเฟิงนอนราบลงกับพื้นทันที เรียนรู้ที่จะเลียนเสียงสุนัข
จ้าวซวู่หัวเราะชอบใจและเอ่ย “จำไว้ แม่แกเป็นแค่นังแพศยา”
“ปีนั้นพ่อฉันดื่มจนเมาก็เลยมีแกเกิดมา”
“เขารับแกมา ให้แกใช้สกุลจ้าว แต่ไม่ได้หมายความว่าแกคือคนของตระกูลจ้าว”
“ในสายตาคนในตระกูลจ้าวของพวกเรา แกมันก็คือคนนอก แกก็แค่สุนัขตัวหนึ่งที่ฉันจ้าวซวู่เป็นคนเลี้ยงมา เข้าใจไหม?”
จ้าวเฟิง เอ่ยอย่างหวาดกลัว “ครับ ผมเข้าใจแล้ว!”
จ้าวเฟิงเอ่ยเยาะเย้ย “เห็นว่าการประชุมตระกูลครั้งล่าสุด แกต่อต้านจ้าวข่ายไอสุนัขบ้าตัวนั้นแทนฉัน ฉันจะรับไวน์ขวดนี้ไว้”
“วางไว้เถอะ”
“ครับ ขอบคุณครับพี่ซวู่!” จ้าวเฟิงวางไวน์ลงบนโต๊ะด้วยสีหน้าตื่นเต้น
“พูดมาเถอะ มีเรื่องอยากจะขอร้องฉันใช่ไหม?”
“หัวหน้าทีมขายของบริษัทลาออกแล้ว ผมคิด….”
“แกต้องการเป็นหัวหน้าทีมขาย? จ้าวเฟิง แกคิดว่าตัวเองเหมาะสมเหรอ?”
จ้าวเฟิงรีบกล่าว “ผมไม่เหมาะสม!”
“ผมคิดมากไป ผมคิดเพียงแค่ว่าถ้าหากผมเป็นหัวหน้าทีมขาย ผมจะสามารถทำงานให้กับพี่ซวู่ได้อย่างดีขึ้น”
“เพราะที่ผมรู้มา ภายในบริษัทนั้นมีคนของจ้าวข่ายเป็นจำนวนมาก”
“คนของเขานั้นไม่เคารพพี่ซวู่มาโดยเสมอ”
เมื่อได้ยินชื่อ“จ้าวข่าย” นัยต์ตาของจ้าวซวู่เต็มไปด้วยความโกรธ
“ไอหมาบ้าตัวนี้ ไม่ช้าก็เร็วฉันฆ่ามัน!”
เมื่อมองไปที่จ้าวเฟิงที่อยู่ข้างหน้าเขา ฉับพลันจ้าวซวู่ก็คิดแผนการชั่วร้ายขึ้นได้
“จ้าวเฟิง ในเมื่อแกจงรักภักดีต่อฉันขนาดนี้ เช่นนั้นแล้วมีงานสำคัญงานหนึ่งที่ฉันจะมอบหมายให้แกทำ”
“เพียงแต่ว่าอาจจะทำให้แกรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย แกยินดีไหม?”
จ้าวเฟิงรีบเอ่ย “สามารถรับใช้พี่ซวู่ได้ แม้ต้องตายก็เต็มใจ”
“งั้นก็ดี ขยับเข้ามานี่หน่อย”
จ้าวเฟิงรีบคุกเข่าลงและขยับไปด้านหน้า เขาเงยหน้าขึ้น รอให้จ้าวซวู่ออกคำสั่ง
นัยต์ตาของจ้าวซวู่มีรูปลักษณ์ที่ดุร้ายปรากฏขึ้น
ทันใดนั้นเขาก็คว้าขวดไวน์ที่จ้าวเฟิงนำเสนอเมื่อครู่นี้ หยิบขึ้นมาและกระแทกลงบนศีรษะของจ้าวเฟิง
เสียงเพล้งดังขึ้น ขวดไวน์แตก ไวน์แดงข้างในถูกโปรยลงบนศีรษะของจ้าวเฟิง
จ้าวเฟิงร้องโอดโอยคร่ำครวญ จากนั้นเขาล้มหมดสติลงบนพื้น
เลือดสีแดงสดบนศีรษะ ผสมเข้ากับไวน์แดงขวดนั้น เมื่อมองไปแล้วช่างน่าสยดสยองเป็นอย่างมาก