บัญชามังกรเดือด บทที่ 470 ปลาดุกที่ดี
ห้องรับรองด้านข้างที่เงียบสงบ หยางหยวนชิ่งลังเลอยู่ชั่วขณะ จากนั้นกดหมายเลขโทรศัพท์และโทรออกด้วยความระแวดระวัง
ขณะถือโทรศัพท์ เจ้าบ้านผู้ทะเยอะทะยานผู้นี้ที่อายุน้อยที่สุดในห้าตระกูลใหญ่ บนใบหน้านั้นเผยให้เห็นถึงสีหน้าของการแสดงความเคารพที่ยากจะได้เห็น
ราวกับว่าคนที่อยู่ปลายสายโทรศัพท์นั้นเป็นเสมือนผู้นำที่เขาหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
ในที่สุด สายโทรศัพท์ก็เชื่อมต่อกัน
ภายในสายโทรศัพท์ เสียงที่ราบเรียบดังสะท้อนกลับมา เมื่อฟังแล้วค่อนข้างยังเป็นวัยรุ่น
“หยางหยวนชิ่ง ในที่สุดนายก็โทรหาฉัน”
“ว่ามา เรื่องราวเป็นอย่างไรแล้ว”
“คุณชาย!” เมื่อได้ยินเสียงนี้ แม้ว่าจะคุยผ่านโทรศัพท์ แต่โดยสัญชาตญาณหยางหยวนชิ่งก็ยังคงก้มตัวแสดงความเคารพ
น้ำเสียงของเขาเผยให้ถึงความเคารพที่มากยิ่งขึ้น เอ่ยเรื่องของฉินเทียนด้วยเสียงแผ่วเบา
รวมถึงหลังจากที่ฉินเทียนมายังเมืองจิ่นหู เขาช่วยเหลือหลิวชั่นจากเงื้อมมือของหม่าจินหลงอย่างไรและกอบกู้ทงต๋าเอ็กซ์เพลส
ร่วมมือกับเถ้าแก่สองสามคนของเจียงหลงอย่างไร ใช้กลยุทธ์ปิดฟ้าข้ามทะเล[1] ชนะการประมูลที่ดินหรูอี้
รวมถึงความเป็นไปได้ที่เขาไปออสเตรเลียเพื่อเชื้อเชิญปรมาจารย์แห่งการออกแบบระดับโลก ซาโร
“คุณชาย ตามที่แอนโทนี่ได้กล่าว อาจารย์ซาโรของเขานั้นได้วางมือจากงานออกแบบไปนานแล้วและจะไม่ออกแบบให้ใครอีก”
“แต่ฉินเทียนนั้นร้อยเล่ห์เหลี่ยม ผมยังคงกังวลอยู่เล็กน้อย”
“หากว่าซาโรตอบตกลงที่จะรับทำงานให้ เช่นนั้นแล้วก็จะเป็นอันตรายต่อพวกเราครับ”
“ผมอยากถามคุณชายว่าควรทำอย่างไรต่อไปดี?”
ภายในสายโทรศัพท์เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “นายโทรมาหาฉัน ไม่ใช่ว่านายได้ตัดสินใจแล้วหรอกเหรอ?”
หยางหยวนชิ่งกัดฟันแน่นและเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบา “สถานการณ์ในต่างประเทศนั้นซับซ้อน ผมคิดว่า หากฉินเทียนเสียชีวิตด้วยเงื้อมมือของนักฆ่าต่างแดน สำหรับพวกเราแล้วนี่เป็นเรื่องที่ดีมาก”
“ไม่เพียงแต่ไม่ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ในเมืองจิ่นหู แต่ยังสามารถขจัดอุปสรรคขวากหนามได้อีกด้วย”
“ดังนั้นผมเลยตัดสินใจที่จะลงมือ”
“แต่ว่านี่ก็ไม่ใช่เรื่องเล็ก ดังนั้นผมเลยคิดอยากจะมาขอความเห็นจากคุณชาย”
ปลายสายโทรศัพท์เงียบไปสองสามวินาที
“อันที่จริงก็เป็นโอกาสดี แต่ว่าตอนนี้ฉินเทียนยังตายไม่ได้”
“ทำไมครับ?” หยางหยวนชิ่งนั้นไม่เข้าใจ การสังหารฉินเทียนที่ต่างประเทศ สำหรับสถานการณ์ในปัจจุบันเห็นได้ชัดว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
ชายผู้นั้นเอ่ยเย้ยหยัน “หยางหยวนชิ่ง นายไม่เข้างั้นเหรอ?”
“เมืองจิ่นหู จนกระทั่งเจ็ดเมืองทางใต้ เปรียบเสมือนแอ่งน้ำขนาดใหญ่”
“หลายปีที่ผ่านมา สถานการณ์มีความมั่นคง กองกำลังทุกฝ่ายต่างเข้ายึดครองด้านใดด้านหนึ่ง หากเราต้องการรวมเป็นหนึ่งก็ต้องไล่ต้อนให้พวกเขาลอยจากใต้น้ำขึ้นสู่ผิวน้ำ”
“และฉินเทียนเป็นเพียงปลาดุกตัวหนึ่งที่ผลีผลามเข้ามา”
“มีเพียงปลาดุกตัวนี้เท่านั้นที่จะสามารถกระตุ้นพลังของทุกฝ่าย ทำให้เหล่าสัตว์ประหลาดนั้นโผล่ขึ้นมาเหนือผิวน้ำ”
“พวกเราแยกแยะสถานการณ์ แยกแยะมิตรออกจากศัตรู เช่นนั้นแล้วจึงจะปกครองทางใต้ได้”
หยางหยวนชิ่งเข้าใจในทันใดจากนั้นรีบเอ่ย “ผมเข้าใจแล้ว!”
“คุณชายนั้นมีวิสัยทัศน์ก้าวไกลนัก”
“ดูเหมือนว่าผลการกระทำของฉินเทียนนั้นยิ่งใหญ่มาก เช่นนั้นก็ให้เขามีชีวิตอยู่ต่ออีกสักระยะ”
ชายผู้นั้นเอ่ยเย้ยหยัน “ฉินเทียนจะต้องตาย แต่ทว่าจะไม่ง่ายดายเช่นนั้น”
“เขาเป็นปลาดุกที่ดีตัวหนึ่งและเป็นคู่ต่อสู้ที่ดีเช่นกัน ทุกวันนี้คู่ต่อสู้ที่ดีมีไม่มากนัก เมื่อได้พบเจอแล้วพวกเราก็ควรจะทะนุถนอมให้ดีและเล่นให้สนุก”
“ฆ่าในปืนนัดเดียวมันจะไปมีความหมายอะไร?”
“หยางหยวนชิ่ง นายว่าถ้าหากฉันทำลายธุรกิจของเขาก่อน จากนั้นก็ค่อยๆทำลายลูกสมุนและพรรคพวกของเขา ทิ้งเขาไว้ตามลำพังในท้ายที่สุด เหมือนปลาตัวหนึ่งที่ดิ้นพรวดพราดอยู่ภายในบ่อน้ำ
“เมื่อถึงเวลานั้น เขาก็จะพยายามอ้าปากเพื่อหาทางรอดอย่างสุดชีวิต แต่กลับไร้หนทางรอด”
“แบบนั้นไม่น่าสนใจกว่าเหรอ?”
เมื่อเอ่ยเช่นนี้ ชายคนนั้นก็หัวเราะเสียงดังลั่น
เสียงหัวเราะนี้ทำให้หยางหยวนชิ่งขนผองสยองเกล้า
เขาพูดด้วยความกลัว “คุณชายวางแผนได้อย่างแยบยลและชาญฉลาด สามารถเล่นงานฉินเทียนให้ตายได้แน่นอน!”
“คุณชายครับ พวกเราจะต้องทำอย่างไรกันต่อ?”
“หากว่าฉินเทียนเชื้อเชิญซาโรได้ขึ้นมา?”
“ไม่ เขาไม่มีทางที่จะเชื้อเชิญได้” ชายคนนั้นยิ้มเย็นพลางเอ่ย “นักฆ่าต่างแดน เมื่อควรเรียกใช้ก็ต้องเรียกใช้”
“แต่อย่างไรก็ตามไม่ใช่การฆ่าฉินเทียน”
“นายเข้าใจไหม?”
หยางหยวนชิ่งชะงักงัน เขาเอ่ยเสียงเบา “ความหมายของคุณชายคือให้ผมส่งคนไปสังหารซาโร?”
ชายคนนั้นพ่นลมหายใจและเอ่ย “ฆ่าฉินเทียนบางทีอาจจะยุ่งยากลำบากนิดหน่อย แต่การฆ่าชายชราเกษียณแล้วนั้นง่ายกว่ามาก”
“ฉันต้องการทำลายเส้นทางเดินของฉินเทียนทีละน้อย”
หยางหยวนชิ่งรู้สึกขนพองสยองเกล้าอย่างไม่สามารถอธิบายได้ เขากลืนน้ำลายและเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบา “ผมเข้าใจแล้วครับ!”
“ผมจะไปจัดการทันทีครับ!”
“ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ตระกูลอื่นแล้วก็ผู้นำสมาคมอีกหกเมืองที่เหลือ ตอนนี้ผมสามารถติดต่อได้หรือเปล่า?”
“อย่างไรเสียตามแผนการ การประชุมสมาคมทางใต้ก็กำลังจะจัดขึ้นในเร็วๆนี้”
“ผมคิดว่าจะต้องมีคนอดไม่ได้ที่จะเริ่มลงมือ”
“ไม่” ชายคนนั้นเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบ “ฉันเคยบอกแล้ว คนเหล่านี้เหมือนปลาและเต่าที่ซุ่มอยู่ในสระน้ำ”
“หากลงมืออย่างผลีผลาม แผนการของพวกเราก็จะเสียหมด”
“รอให้ปลาดุกอย่างฉินเทียนนั้นกลับมา”
“เข้าใจครับ” หลังจากคุยกันอีกสองสามประโยค หยางหยวนชิ่งก็วางสาย
กระทั่งตอนนี้ เขาจึงจะกล้าที่จะยืดตัวตรง ไม่รู้เมื่อใดที่ศีรษะของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ
เจ้าบ้านที่ทะเยอทะยานเช่นเขา แม้ว่าจะติดต่อกับบุคคลนั้นทางโทรศัพท์แต่ก็ยังรู้สึกกดดันเป็นอย่างมาก
เขาเช็ดเหงื่อ สูดลมหายใจเข้าเต็มปอดจากนั้นก็ตั้งสติฟื้นคืนตัวเองให้กลับคืนสู่สภาพปกติ
“ฮัลโหล เจ้าสาม ฉันจำได้ว่าก่อนหน้านี้นายเคยพูดไว้ ที่ออสเตรเลียน่ะนายก็พอมีลู่ทางอยู่บ้างใช่ไหม?”
“หามือปืนที่น่าเชื่อถือได้ให้ฉันสักคน ห้าล้านดอลลาร์ สังหารชายชราคนหนึ่ง”
เมื่อวางสายโทรศัพท์ หยางหยวนชิ่งก็กลับไปยังห้องส่วนตัว เขาพบว่าแอนโทนี่นั้นดื่มจนเมามายเสียแล้ว
เมื่อเอ่ยถึงซาโรอาจารย์ผู้มีพระคุณ ราวกับว่าเขานั้นหงุดหงิดเป็นอย่างมาก ดื่มเหล้าแก้วแล้วแก้วเล่า
“พ่อ ความสัมพันธ์ระหว่างแอนโทนี่และซาโรเหมือนจะไม่ดีเท่าไรนัก” หยางคุนเอ่ยเสียงเบา
หยางหยวนชิ่งพยักหน้า เริ่มฟังคำพูดของแอนโทนี่
แอนโทนี่เอ่ยอย่างโกรธเคือง “ซาโรเป็นชายแก่เลอะเลือนที่ดื้อรั้น!”
“เขาขับไล่ฉันแล้วเป็นยังไงล่ะ? ฉันก็ยังเป็นนักออกแบบที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักระดับโลกไม่ใช่หรือไง?”
“ตราบใดที่ฉันมีเงิน เขาอยากจะพูดอะไรก็พูดเลย!”
“ก็แค่ภรรยาตายไม่ใช่เหรอ? เพื่อผู้หญิงคนเดียว ในตอนที่มีอำนาจกลับเกษียณ คนแบบนี้ไม่สมควรที่จะเป็นอาจารย์ของฉันแอนโทนี่หรอก!”
หยางหยวนชิ่งตกตะลึง เขารีบเอ่ย “คุณกำลังหมายความว่าที่ซาโรเกษียณเป็นเพราะภรรยาของเขาเหรอ?”
“ภรรยาของเขาเสียชีวิตได้อย่างไร?”
ลิ้นของแอนโทนี่ม้วนงอเล็กน้อย พูดคลุมเครืออยู่นาน แต่อย่างไรเสีย หยางหยวนชิ่งและหยางคุนต่างก็ฟังเข้าใจ
ชายผู้นี้ถูกซาโรขับไล่ออกมานานแล้ว
ทุกวันนี้เขายังคงใช้ชื่อลูกศิษย์ของซาโร ซาโรเองก็ไม่ได้ออกมาท้วงติงต่อหน้าสาธารณะ เป็นเพราะไม่อยากทะเลาะกับเด็กความรู้น้อยเช่นเขา
ส่วนที่ซาโรวางมือจากการออกแบบ เป็นเพราะการตายของภรรยา
วันนั้นเป็นวันครบรอบแต่งงานของพวกเขา ซาโรได้ให้สัญญากับภรรยาไว้ เขาจะรีบกลับบ้านและใช้เวลายามค่ำคืนที่ยากจะลืมเลือนกับเธอ
แต่ทว่า เป็นเพราะเพราะการแก้ไขแบบร่างการออกแบบทำให้ลืมเวลา
ภรรยาของเขานั้นเบื่อหน่าย ยามค่ำคืนจึงได้ออกไปเดินเล่นริมหาดเพียงลำพัง ถูกอันธพาลขูดรีดไถเงินฆ่าจนสิ้นใจ
ครั้นได้ทราบข่าวร้ายนี้ซาโรก็โศกเศร้าเสียใจเป็นอย่างมาก
เขารู้สึกว่าถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าตนนั้นมัวแต่หมกมุ่นอยู่กับการออกแบบจนลืมเวลาที่จะรีบกลับไปหาภรรยา ภรรยาของเขาก็คงไม่ตายอย่างสงสารเช่นนี้
ยามท้อแท้ใจหมดกำลังใจ เป็นช่วงเวลาที่กำลังมีชื่อเสียงโด่งดัง เขาประกาศเกษียณ สาบานว่าจะไม่รับแบบร่างการออกแบบใดๆอีก
และแบบที่เขาเพิ่งทำเสร็จไปนั้นถูกแอนโทนี่ขโมยไป แอบอ้างผลงานทำให้ผลงานชิ้นนั้นกลายเป็นของตนเอง
แอนโทนี่พึ่งพาผลงานชิ้นนั้นถึงได้รับรางวัลใหญ่และโด่งดังมีชื่อเสียง
กลยุทธ์ปิดฟ้าข้ามทะเล[1] หมายถึง การแสดงให้ข้าศึกเห็นว่าฝ่ายเราอ่อนแอไร้ความสามารถหรือขาดการตระเตรียม ข้าศึกก็จะเกิดความประมาท แต่แท้จริงแล้วเรากลับเตรียมแผนการโดยไม่ให้ฝ่ายข้าศึกล่วงรู้ เมื่อเห็นโอกาสโจมตีหรือลงมือก็ทำตามแผนที่วางไว้ทันที