บัญชามังกรเดือด บทที่ 508 โยนความผิดให้คนอื่น
ได้ยินคำพูดของตาเฒ่าตาบอดแล้ว สีหน้าของพญายมสามตา ก็เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน
ใช่แล้ว อยู่ในตระกูลใหญ่มาตั้งนาน ธุรกิจสีเทาที่นำมาซึ่งผลประโยชน์แบบนี้ พวกเขาล้วนรู้ดีชัดเจนกว่าใคร
อันที่จริง พี่ใหญ่เองก็เพราะคิดว่าตาเฒ่าตาบอดนั้นจะฆ่าพวกเขา ดังนั้นเลยรีบแสดงความเป็นมิตรเห็นดีเห็นงามด้วย
นี่คือเวลาที่ดีที่สุดในการฆ่าพวกเขา
ถ้าเปลี่ยนเป็นหมอเทวดาตาบอดได้รับบาดเจ็บบ้าง พวกเขาถามตัวเอง อาจจะลงมือฆ่า จากนั้นก็โยนความผิดให้ฉินเทียนไป
คาดไม่ถึงว่า เมื่อครู่พึ่งจะหนีจากการฆ่าของปีศาจขาวตอนนี้ ลับมาอยู่ในกำมือของตาเฒ่าตาบอดอีก
ด้วยพลังของตาเฒ่าตาบอดนั้น อย่าพูดว่าพวกเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสเลย เรียกว่าสมบูรณ์ไม่มีบาดแผลใดๆเลยดีกว่า ก็ไม่ใช่ศัตรูนี่หน่า
“ท่านอาวุโส พวกเราไม่ได้เป็นศัตรูคู่แค้นกัน ล้วนแล้วแต่เป็นผู้มีวิทยายุทธด้วยกันทั้งนั้น…”
“ท่านอาวุโส ได้โปรดขอความเมตตา!”
“ขอเพียงแค่ท่านปล่อยพวกเราไป พวกเราสามคนพี่น้อง จากนี้จะยอมเป็นทาสรับใช้ท่าน!”
ทั้งสามคนรู้สึกได้ถึงรสชาติของความตาย เลยอดไม่ได้ที่จะขอร้องด้วยความหวาดกลัว
ตาเฒ่าตาบอดบ่นพึมพำ เคลื่อนไหวร่างกายดุจสายลม ไปปรากฏตัวอยู่เบื้องหน้าของพญายมสามตาอย่างรวดเร็ว
เขาลงมืออย่างรวดเร็ว ปักเข็มสองสามเล่มลงไปบนหน้าอกของพวกเขา
“ฮ่ะ!”
พญายมสามตาคิดว่าต้องตายแน่ๆ ท่ามกลางเสียงกรีดร้อง ทุกคนต่างก็หลับตาลง
“พวกแกโดนฝ่ามือของปีศาจขาวหากฉันไม่ช่วย พวกแกก็จะหนาวเหน็บไปถึงหัวใจและตายในที่สุด”
“ตอนนี้ ฉันสกัดจุดชีพจรของพวกแกไว้ เมื่อพวกแกกลับตระกูลเฉินไปรายงานต่อเฉินเถิง”
พูดจบ ร่างก็กะพริบ และหายไปทันที
พญายมสามตาลืมตาขึ้น รู้สึกได้ว่าความหนาวที่ขั้วหัวใจไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไร แขนขาก็เคลื่อนไหวได้แล้ว
คิดไม่ถึงว่าหมอเทวดาตาบอดไม่เพียงแต่ไม่ฆ่าพวกเขา แต่ยังช่วยชีวิตพวกเขาไว้อีกด้วย พวกเขาทั้งประหลาดใจและดีใจ
“พี่ใหญ่ ที่นี่มันอโคจรเกินไป พวกเรารีบไปกันเถอะ!”
พอรู้สึกตัว ทั้งสามคนก็วิ่งหนีไปอีกทางอย่างไม่คิดชีวิต
ทางด้านนอกของป่า ได้ยินเสียงกรีดร้องดังออกมาจากด้านใน รวมทั้งเสียงต่อสู้กันอย่างรุนแรง ผู้ติดตามทั้งสองคนของปีศาจขาวรวมทั้งคนขับ ต่างตกใจกลัวจนตัวสั่น
พวกเขาคิดจะทำอะไรบางอย่าง แต่ถูกคนชุดดำสองคนรวบจับตัวไว้
คนชุดดำสองคนนี้ ที่แท้ก็เป็นผู้มีฝีมือนี้เอง
จนกระทั่งเสียงต่างๆ เงียบหายไปจนหมด คนชุดดำที่ถูกปีศาจขาวทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บก็พูดอย่างเย้ยหยันว่า “หยางหยวนชิ่งช่างไร้เดียงสาเสียจริง”
“เขาคิดว่าแค่ของขวัญอันน้อยนิด จะสามารถซื้อพี่เทียนของพวกเราได้งั้นหรือ?”
“กลับไปบอกพวกเขานะว่า อยากจะสนิทกับพี่เทียนอ่ะได้ ให้เขามอบสมบัติตระกูลหยางทั้งหมดออกมาแล้วกัน”
“ไม่งั้น เขาจะเป็นแบบ ปีศาจขาว”
หลังจากพูดจบ ทั้งสองก็ขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว
คนขับและผู้ติดตามของปีศาจขาวลังเลอยู่นาน รวบรวมความกล้าหาญเดินเข้าป่าไป
เมื่อเห็น ปีศาจขาวนอนอยู่บนพื้น ไม่ขยับตัวแม้แต่น้อย พวกเขาก็อดที่จะตกใจไม่ได้
“ ปีศาจขาว แกเป็นยังไงบ้าง?”
พวกเขารีบเข้าไปช่วยประคอง ปีศาจขาวขึ้น ปรากฏว่าเขาได้ตายไปแล้ว
ทั้งสามคนกรีดร้องด้วยความตกใจอีกครั้ง
“เร็วเข้า แบกเขากลับไป รายงานต่อเจ้าบ้าน!”
พวกเขาร่วมแรงกันแบกศพของ ปีศาจขาวขึ้นรถ และหนีเตลิดออกไป
ตระกูลหยาง หยางหยวนชิ่ง ยังคงมีความสุขอย่างล้นเหลือ รอที่จะปรึกษาหารือกับ ปีศาจขาวว่าต่อไปจะจัดการกับใครต่อดี
เมื่อเห็นศพของปีศาจขาวถูกแบกเข้ามา เขาก็หน้ามืดและเป็นลมล้มลงทันที
“พ่อ!”
“พ่อไม่เป็นอะไรใช่ไหม? รีบฟื้นสิ!” หยางคุนกอดหยางหยวนชิ่งเอาไว้ และร้องตะโกนด้วยความหวาดกลัว
ผ่านไปครึ่งวัน หยางหยวนชิ่งถึงจะฟื้นคืนสติขึ้นมา พอได้ยินผู้ติดตามเล่าเรื่องราวแล้ว เขาเองก็คิดไม่ถึงว่าฉินเทียนจะกลับกลอกกลับคำ ฆ่า ปีศาจขาวระหว่างทาง เขาโกรธมากจนกระอักออกมาเป็นเลือด และหมดสติไปอีกครั้ง
หยางคุน รีบเรียกหมอประจำครอบครัวมา ช่วยชีวิตเขากันอย่างลนลาน
หยางหยวนชิ่ง แค่โกรธมากจนกระทบกระเทือนถึงหัวใจเท่านั้น ไม่ได้เป็นโรคอะไร
หลังจากฟื้นขึ้นมา เขาก็ด่าอย่างสาดเสียเทเสียด้วยความโกรธ
“ไอ้เจ้าหนูฉินเทียน แกทำเกินไปแล้วจริงๆ!”
“ฉันยอมอ่อนข้อให้แกครั้งแล้วครั้งเล่า คิดไม่ถึงว่าแกจะทำกับฉันแบบนี้!”
“ไม่ได้ ยังไงฉันก็ต้องได้รับคำอธิบาย!”
เขารีบออกไปอย่างไม่สนใจไยดีอะไร ให้คนขับพาไปโรงแรมที่ฉินเทียนพักอาศัยอยู่
หยางคุนรั้งเขาไว้ไม่ได้ ทำได้แค่โทรศัพท์หาหม่าจั๋วชุน และพาบอดี้การ์ดอีกสิบกว่าคนติดตามเขาไป
แต่ว่า บอดี้การ์ดพวกนี้ ก็ไร้ประโยชน์เสียแล้ว
คนที่ตระกูลหยางพึ่งพาอาศัยได้ก็คือปีศาจดำและปีศาจขาว แต่ตอนนี้ทั้งสองถูกฆ่าตายด้วยกันทั้งคู่ นักเลงธรรมดาที่เหลือพวกนี้ ยังไม่คณามือฉินเทียนกับคนของเขาเลย
ช่วงเวลาเช้าตรู่ คนกลุ่มหนึ่งท่าทางดุดันเดินทางมาถึงโรงแรม ดวงตาของหยางหยวนชิ่ง แดงก่ำ ตะโกนด่าอย่างเสียงดัง
เวลานี้ ฉินเทียนพึ่งจะวิดีโอคอลคุยกับซูซูอยู่ พอคุยนานจนเบื่อแล้วก็เตรียมตัวที่จะพักผ่อน
จู่ๆ ก็ได้รับรายงาน ซึ่งทำเอางงอยู่บ้างเล็กน้อย
“แกพูดว่า ปีศาจขาวตายแล้วหรือ?”
“ถูกฉันฆ่าตาย?” เขาเดินมาถึงหน้าประตู เห็นท่าทางของ หยางหยวนชิ่ง แล้วก็อดที่จะตกใจไม่ได้
หยางหยวนชิ่ง ตาแดงก่ำ กัดฟันและพูดว่า “คนแซ่ฉิน แกยังจะเสแสร้งอะไรอยู่อีก?”
“แกรับของขวัญของฉันไป ยังจะมาฆ่าคนของฉันระหว่างทางอีก ช่างไร้มนุษยธรรมเสียจริงๆ!”
“ฉินเทียน ฉันคิดไม่ถึงเลยว่าแกจะเป็นคนเช่นนี้!”
“วันนี้ถ้าฉันไม่ได้รับคำอธิบาย ตระกูลหยางของฉัน จะไม่ประนีประนอมให้แกเป็นแน่!”
ฉินเทียนขมวดคิ้วไม่พูดจา
จากท่าทีของหยางหยวนชิ่งแล้ว ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้โกหก
ปีศาจขาวตายแล้วจริงๆ
ทั้งยังแสดงให้เห็นว่า ถูกเขาฆ่าตายอีกด้วย
เขาอยู่แต่ในโรงแรมไม่ได้ออกไปไหนเลย ถ้างั้นใครหล่ะเป็นคนลงมือ? สวมรอยใช้ชื่อเขา มีจุดประสงค์อะไรกันแน่?
จะว่าไป เรื่องราวชักจะน่าสนใจมากขึ้นเสียแล้ว
ในเวลานี้ หม่าจั๋วชุน และคนที่พามาด้วยจำนวนหนึ่งก็มาถึงด้วยท่าทีหวาดกลัว
เขาแอบเป็นพันธมิตรกับฉินเทียนอย่างลับๆ แต่ภายนอกยังแสดงว่า เขายังคงเป็นศัตรูกับฉินเทียน และเป็นพวกเดียวกันกับหยางหยวนชิ่ง
“หยวนชิ่ง นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?”
“แกพูดมาเลยดีกว่า”
หยางหยวนชิ่ง โกรธมากและให้คนขับรถกับผู้ติดตามสองคน อธิบายเล่าเรื่องราวที่พบเจอมา
“พูดอย่างนี้ ก็หมายความว่าพวกแกฟังแต่คำพูดของคนชุดดำ ว่าฉินเทียนลอบฆ่าระหว่างทาง แต่ก็ไม่ได้เห็นฉินเทียนเองเลยใช่ไหม?”
พวกเขาพยักหน้า
หม่าจั๋วชุน มองฉินเทียนด้วยจิตใจที่เต็มไปด้วยความระทมทุกข์กังวล และพูดเบาๆ ว่า ” แกมีอะไรอยากจะแก้ตัวไหม?”
ฉินเทียนยิ้มอย่างฝืนๆ และตอบว่า” ถ้าฉันบอกว่าไม่ใช่ฉัน พวกแกจะเชื่อไหม? ”
หยางหยวนชิ่ง เกรี้ยวกราดอีกครั้ง สั่งให้ หม่าจั๋วชุน เรียกคนไปฆ่าฉินเทียนอย่างบ้าคลั่ง
ตอนนี้ ตระกูลหยางไม่มียอดฝีมือแล้ว แต่ตระกูลหม่ายังมีบูชาอู่ทั้งเจ็ดอยู่
ยกเว้น โซ่วอู๋ฉางกับเจ้าอ้วนถูกหม่าจั๋วชุนส่งไปต่างประเทศอย่างลับๆ เพื่อไปคุ้มครองหม่าจินหยู่ ในเวลานี้ผู้ติดตามข้างกายเขายังมีอยู่ห้าคน
แม้ว่าคนไม่กี่คนพวกนี้ จะเก่งไม่เท่า ปีศาจขาวแต่ถึงยังไงก็ยังเป็นผู้มีฝีมืออยู่ดี
หม่าจั๋วชุนขมวดคิ้ว เขาไม่มีทางลงมือจัดการฉินเทียนได้ และเขาเองก็รู้ว่าบูชาอู่ทั้งเจ็ดรวมกัน ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อกรของฉินเทียนอยู่ดี
สิ่งนี้ได้รับการยืนยันมาแล้วเมื่อไม่นานมานี้เอง
แต่ว่าจะปฏิเสธหยางหยวนชิ่ง ยังไงหล่ะ เขารู้สึกลำบากใจมากจริงๆ
โชคดีที่เขายังไม่ทันจะพูดจบ บูชาอู่ที่อยู่ข้างๆ เขาก็พูดอย่างเรียบเฉยว่า “เจ้าบ้านหม่า พวกเราสร้างโลกด้วยความเชื่อและคุณธรรม ”
“ในเมื่อเคยพูดแล้วว่า ภายในหนึ่งเดือนนี้ จะไม่ทำอะไรฉินเทียนยังไงก็ลงมือตอนนี้ไม่ได้”
อะไรคือความเชื่อและคุณธรรม มันเป็นเรื่องโกหกทั้งนั้น เรื่องจริงก็คือ แค่พวกเขาเห็นฉินเทียน ก็เกิดความหวาดกลัวขึ้นมาแล้ว
ก่อนหน้านี้ถูกฉินเทียนจัดการจนหงายเก๋งกันหมด ในใจยังหลงเหลือความเจ็บปวดอันใหญ่หลวงอยู่เลย