บัญชามังกรเดือด บทที่ 534 ตกลง
พอได้ยินสิ่งที่ฉินเทียนพูด สีหน้าของลิเว่ยจงก็ยิ่งหวาดกลัวยิ่งขึ้น
เขาจ้องฉินเทียนตาเขม็งกัดฟันเอ่ยว่า: “เรื่องราวทั้งหมดไม่เกี่ยวกับฉุนเอ๋อร์”
“ถ้าคุณกล้าดึงเธอเข้ามาเกี่ยว หรือใช้เธอมาต่อรอง ผมจะไม่ปล่อยคุณแน่!”
เขาในเวลานี้เหมือนคนแก่พิการนั่งรถเข็นตรงไหน เห็นชัด ๆ ว่าเป็นสัตว์ร้ายที่พร้อมกระโจนพลีชีพเพื่อปกป้องลูกน้อยได้ทุกเมื่อ
ฉินเทียนยิ้มเล็กน้อย: “พูดอย่างนี้แสดงว่าผมเดาถูกแล้ว?”
“ว่าแต่มีบางอย่างที่ผมยังไม่เข้าใจ”
“ทำไมลิเหลียงต้องทำกับคุณอย่างนี้ หรือว่า เขาไม่ใช่ลูกชายแท้ ๆ ของคุณ?”
ถ้าเป็นลูกชายแท้ ๆ อย่างนั้นกิจการของตระกูลลิ ไม่ช้าหรือเร็วก็ต้องตกเป็นของเขา ทำไมเขาต้องใช้วิธีกักขังพ่อมายึดกิจการด้วย
อีกอย่าง หลังจากได้พบลิฉุน ลิเหลียงกับลิเว่ยจง ฉินเทียนอดยอมรับไม่ได้ว่า ลิฉุนเหมือนกับลิเว่ยจง ดูก็รู้ว่าเป็นลูกแท้ ๆ
ส่วนลิเหลียง ไม่เพียงไม่เหมือนลิฉุนแม้แต่นิดเดียว ยังไม่คล้ายกับลิเว่ยจง เลยสักนิด
กระทั่งรูปหน้าก็ไม่เหมือน
ลิเว่ยจงตัวคุณพ่อกับลูกสาว ต่างดูสง่ามีสกุลรุนชาติ ส่วนลิเหลียงแม้จะมีรอยยิ้มตลอดแต่ก็ไม่อาจบดบังความเจ้าเล่ห์เพทุบายของเขาได้
ลิเว่ยจงขรึมลงชั่วครู่ก็แสยะยิ้มเอ่ยว่า: “พรุ่งนี้เป็นวันประชุมใหญ่เลือกตั้งผู้นำ เมื่อถึงเวลานั้นก็เป็นวันประชุมใหญ่กำจัดพญามารด้วย”
“พญามารอย่างคุณ ไม่คิดเรื่องเอาตัวรอด แต่กลับเอาเวลามาสอดรู้เรื่องพวกนี้?”
“คุณคงไม่คิดว่าลำพังแค่คุณคนเดียว จะต่อต้านพลังเจ็ดเมืองทางใต้ทั้งหมดได้หรอกนะ?”
ฉินเทียนอยากจะพูดอะไรต่อ แต่มีเสียงคำรามโกรธดังมาจากนอกลานเรือนพร้อมกับเสียงเดินเท้าที่โกลาหล
น่าจะเป็นบอดี้การ์ดของตระกูลลิที่ได้ข่าวจึงรีบมากัน
ฉินเทียนรวบรวมสมาธิเอ่ยด้วยเสียงคล้อยต่ำว่า: “เอาแต่หลบหนีไม่ได้หรอก”
“ตอนนี้ ผมช่วยคุณได้”
“ถ้าคุณเชื่อผม สามารถหาคนที่ชื่อจุยเฟิง เขามีแขนข้างเดียว เพิ่งเข้ามาในตระกูลลิ”
สิ้นเสียงคำพูด คนกลุ่มหนึ่งก็พรวดพราดเข้ามาในลานเรือน
ฉินเทียนเห็นตัวนำ สีหน้าเย็นชา ถือมีดข้างเดียว แขนเสื้ออีกข้างว่างเปล่า ก็อดตกตะลึงไปชั่วขณะไม่ได้
จุยเฟิง!
นาทีนี้เอง อยู่ ๆ ใจของเขาก็เหมือนถูกมีดกรีด
“นายมาที่นี่ทำไม?” จุยเฟิงนำคนบุกเข้ามา ขยับมือเดียว มีดเหล็กก็ค้ำอยู่ที่หัวไหล่ของฉินเทียน
แขนที่ขาดของเขาคือข้างขวา ตอนนี้มือซ้ายถือมีด ความเร็วเลยช้าไปมาก แม้แต่มีดก็ไม่มั่นคง
ใจฉินเทียนก็ยิ่งเหมือนถูกมีดกรีด
แต่ว่า ต่อหน้ากลุ่มคนก็ไม่สามารถแสดงออกได้
เขาแสยะยิ้มเอ่ยว่า: “ฉันมาเป็นเพื่อนคนเขาเยี่ยมญาติ มีปัญหาเหรอ?”
“คนขี้แพ้ แม้แต่แขนข้างนี้นายก็ไม่อยากจะเอาไว้แล้วเหรอ?”
พูดจบ ก็ผลักจุยเฟิงออก สาวเท้าก้าวใหญ่ออกไปข้างนอก
“หยุดนะ!”
“นายอยากมาก็มา อยากไปก็ไป เห็นที่นี่เป็นอะไร!”
“สารเลว!”
“หัวหน้าจุยเฟิง สั่งการเถอะ!”
“ฆ่าเขา!”
เห็นฉินเทียนจะไป ลูกน้องเหล่านั้นของจุยเฟิง คำรามกันกระโจนเข้ามาล้อมเขาไว้
มหาสงครามกำลังเริ่ม
ฉินเทียนมองดูจุยเฟิงแสยะยิ้มเอ่ยว่า: “หัวหน้าจุยเฟิง?ยินดีด้วย”
“ว่าแต่ นายก็รู้ชั้นเชิงของฉันดี”
“นายเพิ่งจะขึ้นเป็นหัวหน้า คงไม่อยากให้ลูกน้องเหล่านี้ตายที่นี่ใช่มั๊ย?”
จุยเฟิงมองฉินเทียนตาเขม็งอยู่นานจึงกัดฟันเอ่ยว่า: “ปล่อยเขาไป”
“แต่ว่าหัวหน้า——”
“ฉันบอว่า ปล่อยเขาไป!”
“ครับ!”
ลูกน้องทั้งขโยงได้แต่หลีกทาง
“เจ้าบ้านลิ ขอลา”
“คุณวางใจได้ ผมจะดีต่อลูกสาวของคุณ” ฉินเทียนทิ้งท้ายโดยไม่เหลียวหันมาสาวเท้าก้าวใหญ่ออกจากเรือน
จนกระทั่งนาทีนี้ หวางโปที่สลบโยนอยู่หัวมุมจึงค่อย ๆ ได้สติ
เขามองดูเงาหลังของฉินเทียนหายไปจากประตูด้านนอก ในดวงตาคู่นั้นยังคงตกตะลึงไม่หาย
เขาฝึกฝนอย่างลับ ๆ ปกติไม่เปิดเผยให้เห็น แต่พลังที่แท้จริง เป็นหนึ่งในกลุ่มคนฝีมือดีของตระกูลลิติดสามอันดับต้น
สองอันดับแรก ก็คือถงเหรินกับเสินเฟิงจอมลึกลับผู้นั้น
ฝีมือดีอย่างนี้ กลับไม่มีโอกาสแสดงฝีมือต่อหน้าฉินเทียน
เขาจะไม่ตกตะลึงได้ยังไง
ฉินเทียนไปจากลานเรือน พอเหลียวหันก็ตกตะลึงในทันที
วินาทีต่อมา ไอสังหารก็แผ่ซ่านไปทั่วร่าง!
เห็นข้าง ๆ แลนด์ครุยเซอร์คันนั้น มีคนทั้งหมด 4 คน
นอกจากเถียหนิงซวงกับลิฉุนก่อนหน้า ก็มีเพิ่มขึ้นมาอีก 2 คนคือลิเหลียงกับมนุษย์ทองแดง
เวลานี้เอง ในมือของมนุษย์ทองแดงมีกระบี่ทองแดงเล่มหนึ่ง ค้ำอยู่ที่คอของเถียหนิงซวง
ลิเหลียงมองเขาด้วยรอยยิ้ม สายตาแฝงความเย้ยหยันเล็กน้อย
ส่วนลิฉุน นัยน์ตาทั้งคู่กลับอาบด้วยน้ำตาเต็มไปด้วยความสงสัย
“นายกล้าแตะต้องเธอสักนิดเดียวฉันจะฆ่านาย!”
ฉินเทียนกัดฟันพูดขึ้น ไอสังหารบนตัวที่แสดงธาตุแท้แบบมืดฟ้ามัวดิน ม้วนตัวอย่างบ้าคลั่งไปยังถงเหริน
เดิมถงเหรินที่ยังสงบนิ่ง พอสัมผัสถึงไอสังหารนี้ก็อดคำรามจนสีหน้าเปลี่ยนไม่ได้
เป็นไปได้ยังไง?
เขาประเมินกำลังของฉินเทียนไว้ในใจแล้ว แต่ยังคงประเมินต่ำเกินไป
เพียงแค่ไอสังหารที่แสดงธาตุแท้ ยังถึงกับทำให้เขาอดที่จะคุกเข่าลงไม่ได้!
ทว่า ทั้งที่เขาเป็นมือหนึ่งข้างกายลิเหลียง เป็นอันดับหนึ่งแห่งเจ็ดเมืองทางใต้ แม้แต่หมอเทวดาตาบอดก่อนหน้า ก็ตายอย่างอนาถในมือของเขา
แม้จะตกตะลึงอย่างเหลือคณา แต่มือของเขายังคงกำกระบี่ทองแดงไว้แน่น ซึ่งปาดคอเถียหนิงซวงได้ทุกเมื่อ
“บอกฉันที สิ่งที่น้องชายฉันพูดเป็นความจริงเหรอ?”
ภายใต้บรรยากาศเข่นฆ่า ลิฉุนเอ่ยปากรำพัน
ในดวงตาคู่สวยของเธอ นอกจากความสงสัยแล้วก็คือความปวดใจที่เหลือคณนา
ตั้งแต่เกิดเรื่องเหล่านั้นที่ออสเตรเลียขึ้น เธอก็ประทับใจในตัวฉินเทียนมาก จึงไม่เสียดายที่จะมอบผลงานเปิดตัวของเธอให้กับเขา
ครั้งนี้ จึงผิดต่อคำสาบาน มาเหยียบที่ดินผืนนี้อีกครั้ง เพื่อช่วยฉินเทียนทำโปรเจ็คให้สำเร็จ
นาทีที่ได้พบฉินเทียนที่สนามบิน ความรู้สึกจากใจของเธอ เหมือนสาวน้อยที่มีความรักวิ่งเข้าไปหาคนรัก
แต่ว่า——
หลังจากที่ลิเหลียงเล่าการกระทำทุกอย่างของฉินเทียนที่เจ็ดเมืองทางใต้ให้เธอฟังแล้ว โดยเฉพาะ ที่ฉินเทียนปฏิบัติต่อเจี่ยงเถียนเถียน
โลกในใจของลิฉุนพังทลายลง
เธอไม่เชื่อ!
นี่ไม่ใช่ความจริง!
ตอนนี้ เธออยากให้ฉินเทียนบอกกับเธอด้วยตัวของเขาเอง!
ฉินเทียนขรึมลง
เนื่องจากความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของตระกูลลิ เขารู้ว่า ถ้าฝืนเก็บลิฉุนไว้กับตัว มีแต่นำภัยที่คาดไม่ถึงมาให้เธอ
ลิเหลียงน่ากลัวเหลือเกิน!
ฉินเทียนไม่แน่ใจ ถ้าเจ้าหมอนี่บ้าขึ้นมาจะลงมือกับลิฉุนหรือไม่
“ปล่อยคนของฉัน แล้วฉันจะปล่อยพี่สาวนายไว้ที่นี่” สุดท้าย เขาไม่เลือกเผชิญหน้าลิฉุนโดยตรง แต่พูดกับลิเหลียงอย่างเย็นชา
ลิเหลียงเลิกคิ้วขึ้นเอ่ยว่า: “ตกลง”
ฉินเทียนทำหน้าขรึมขึ้นรถไปกับเถียหนิงซวง ไปอย่างไม่ทิ้งฝุ่น
“ฉินเทียน หยุดนะ!”
“พูดกับฉันให้รู้เรื่องก่อน!” ลิฉุนพังทลายลง ไล่ตามอยู่ข้างหลังจนหกล้มร้องไห้โฮ
เธอหอบความหวังไว้เต็มอกจึงมา แล้วผลลัพธ์ล่ะ พ่อของเธอยังคงเย็นชาเหมือนเคย ทำให้ใจของเธอสลายอีกครั้ง
และชายเพียงคนเดียวที่นำแสงแห่งชีวิตมาให้เธอ กลับ……ดับฝันลงอย่างรวดเร็ว
นาทีนี้ เสียใจมากกว่าตายจากใจ
“พี่สาว ทุกอย่างจะผ่านไปเอง”
“วางใจเถอะ ไว้หลังจากเสร็จธุระวันพรุ่งนี้แล้ว ผมจะหาเจ้าบ่าวที่สมใจปรารถนาให้พี่อย่างแน่นอน……”
“ผมจะให้มนุษย์ทองแดงพาพี่ไปพักผ่อน”
ลิเหลียงฟื้นภาพลักษณ์ที่อบอุ่นกลับมาอีกครั้ง
สมกับฐานะที่เป็นน้องชาย ประคองลิฉุนอย่างระมัดระวัง สั่งถงชวนให้คุ้มครองลิฉุนส่งไปโรงแรม