บทที่ 102
เฉินโม่เป็นคนธรรมดา ธรรมดาแบบที่ว่าไม่ต่างจากคนทั่วไปเลย แต่เอียนชิงเฉิงนั้นเป็นดั่งไข่มุกอันเจิดจ้า ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็จะเปล่งประกายออกมา เมื่อคนสองคนยืนอยู่ด้วยกัน เห็นได้ชัดว่าพวกเขาอยู่คนละโลกกัน
เฉินโม่ปวดหัวเล็กน้อย เอียนชิงเฉิงเป็นเจ้าปัญหาจริงๆ เลย
สีหน้าของมู่หรงยานเอ๋อร์ผิดหวังเล็กน้อย เธอมองเฉินโม่อย่างไม่พอใจและถามว่า ” เฉินโม่ เธอเป็นคู่หมั้นของนายจริงๆ เหรอ?”
เฉินโม่เหลือบมองเอียนชิงเฉิงซึ่งดูเชิดหน้าชูตาเล็กน้อย จากนั้นก็ถอนหายใจ “ใช่ แต่ถอนหมั้นแล้ว”
เมื่อมู่หรงยานเอ๋อร์ได้คำว่า “ใช่” หัวใจของเธอก็จมดิ่งลง แต่เมื่อเธอได้ยินประโยคถัดไป ใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความสุขในทันใด เธอเลิกคิ้วขึ้นอย่างได้ใจเล็กน้อย และมองเอียนชิงเฉิงอย่างท้าทาย
เอียนชิงเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอไม่พอใจกับคำตอบของเฉินโม่เท่าไหร่ ” หึ ใครบอกว่าถอนหมั้นแล้ว? หากว่าฉันไม่ตกลง งานหมั้นของฉันเอียนชิงเฉิงไม่มีใครสามารถมากำหนดได้!”
“เอียนชิงเฉิง!” หลินทาวตะลึงไปครู่หนึ่ง และอุทานออกมา “คุณคือหญิงงานอันดับหนึ่งแห่งยานจิง คุณเอียนชิงเฉิง!”
“มิน่าล่ะ ไม่เคยได้ยินว่าที่อู่โจวมีหญิงงามมากก่อน ที่แท้คุณคือหญิงงามอันดับหนึ่งแห่งยานจิงนี่เอง!” หลินทาวถามเองตอบเอง สีหน้าของเขากระจ่างและประหลาดใจอย่างมาก
อานเข่อเยว่และมู่หรงยานเอ๋อร์พร้อมทั้งคนอื่นๆ ดูเหมือนจะเคยได้ยินชื่อเสียงของเอียนชิงเฉิงมาก่อน ต่างก็สงสัยและมองดูเอียนชิงเฉิงอีกครั้ง
แววตาที่แผดเผาดั้งเดิมในดวงตาของหลินทาวหายไปในทันที แววตาที่เขามองเอียนชิงเฉิงเผยความหวานกลัวออกมาเล็กน้อย
จากนั้นหลินทาวมองไปที่เฉินโม่ด้วยท่าทางเยาะเย้ย ” ไม่คาดคิดว่าคนบ้านนอกจะกล้าที่จะยั่วยวนหญิงงามอันดับหนึ่งแห่งยานจิง ฮ่าๆ เฉินโม่ ฉันจะรอดูจุดจบของนาย!”
แม้ว่าหลินทาวไม่ใช่คนยานจิง แต่เขาก็รู้ว่าในยานจิงนั้น มีนายน้อยผู้ทรงอิทธิพลมากมายที่จับจ้องหญิงงามอันดับหนึ่งแห่งยานจิงอยู่ แม้แต่ผู้มีอำนาจระดับน้อยในยานจิง ก็มีกำลังมากพอที่จะเดินเชิดหน้าชูตาในอู่โจว เฉินโม่กล้าที่จะยั่วเย้าเอียนชิงเฉิง หาเรื่องใส่ตัวชัดๆ !
เฉินโม่ขมวดคิ้วเล็กน้อย ตัวตนของเอียนชิงเฉิงถูกเปิดเผย เขากลัวว่ามันจะทำให้เกิดปัญหามากขึ้นในภายหลัง แต่ในเมื่อเอียนชิงเฉิงมาที่อู่โจว ตัวตนของเธอก็คงต้องเปิดเผยในสักวัน จะช้าหรือจะเร็ว มันมีค่าเท่ากัน เฉินโม่ครุ่นคิด จากนั้นก็ทำใจยอมรับ
หลังจากที่หลินทาวเปิดเผยตัวตนของเอียนชิงเฉิงไป ผู้คนที่เดินผ่านไปมาซึ่งถูกความงามของเอียนชิงเฉิงดึงดูดแต่แรก ต่างก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่เฉินโม่ พวกเขาสงสัยว่าเฉินโม่เป็นใครมีอำนาจแค่ไหน จึงกล้าที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับหญิงงามอันดับหนึ่งของยานจิง
เอียนชิงเฉิงดูเหมือนจะคิดว่าปัญหาที่เธอนำมาแก่เฉินโม่ยังไม่มากพอ เธอจึงเอ่ยขึ้นมาว่า “ทำไมถึงต้องไม่กล้าที่จะยุ่งเกี่ยวล่ะ? ฉันจะบอกความจริงให้นะ ตอนนี้ฉันอาศัยอยู่กับเฉินโม่แล้ว!”
ประโยคนี้เหมือนระเบิดที่โยนใส่ฝูงชน ทำให้แก้วหูของทุกคนดังก้อง
คราวนี้ทุกคนมองไปที่เอียนชิงเฉิงด้วยความตกใจ จากนั้นสายตาของทุกคนก็หันไปหาเฉินโม่ พูดอะไรไม่ออกเป็นเวลานาน
แม้แต่ซังซังก็ยังทำหน้าเหม่อลอย เธอจ้องมองไปที่หญิงสาวที่เติบโตมาด้วยกัน ราวกับว่านี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้จักกัน เธอคิดไม่ออกว่า คุณหนูพูดจาเช่นนี้ออกมาในที่สาธารณะได้อย่างไร
หากคุณท่านอยู่ ท่านคงจะบ้านตายกับการกระทำของเอียนชิงเฉิง เอียนชิงเฉิงขายหน้าตระกูลเอียนอย่างมาก
มู่หรงยานเอ๋อร์และอานเข่อเยว่มองไปที่เฉินโม่ด้วยสีหน้าที่ตกตะลึง มู่หรงยานเอ๋อร์ถามด้วยเสียงเบาว่า “เฉินโม่ ที่เธอพูดมาเป็นความจริงหรือไม่?”
เอียนชิงเฉิงจงใจเข้าใกล้เฉินโม่มากขึ้นและโอบแขนของเฉินโม่ ราวกับจะพิสูจน์คำพูดของเธอ จากนั้นเธอก็มองไปที่มู่หรงยานเอ๋อร์ด้วยใบหน้าภาคภูมิใจ
เฉินโม่ขมวดคิ้วแล้วขมวดคิ้วอีก…….
แน่นอนว่าเขารู้ว่าเอียนชิงเฉิงทำเช่นนี้ไม่ใช่เพราะเธอชอบตน แต่ทำเพราะถูกผู้หญิงสวยๆ อย่างมู่หรงยานเอ๋อร์กระตุ้น
มันเหมือนกับเด็กที่มีของเล่นอยู่ในมือ เมื่อมีเด็กคนอื่นๆ มาจับจ้อง เธอจึงแสดงตนว่าเป็นเจ้าของ แม้ว่าของเล่นนั้นเธอจะไม่ชอบก็ตาม แต่ก็ไม่ยอมให้ใครเข้ามายุ่งเกี่ยว
บทที่ 101 โอ้อวด
บทที่ 103 คนโง่เขลา