แดนนิรมิตเทพ บทที่ 645
เซี่ยไห่หลงเคยเป็นสมาชิกของโลกฝึกบู๊มาก่อน และรู้ดีว่าคำพูดเมื่อสักครู่ของเฉินโม่สร้างปัญหาใหญ่เพียงใด มันเป็นความผิดเพียงพอที่จะทำให้โลกฝึกบู๊ทั้งหมดโจมตีเฉินโม่
เขาอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองเฉินโม่แวบหนึ่ง แล้วแอบรู้สึกกังวล
เฉินโม่ไม่สนใจคำขู่ของพานรุ่ยหมิงแม้แต่น้อย เขายังคงแสดงสีหน้าราบเรียบเหมือนเดิม “พูดจบแล้วใช่ไหม? ถ้าพูดจบแล้ว คุณกลับไปเลย คนภายนอกอย่ามารบกวนการฝึกของพวกเรา”
เมื่อมองท่าทางที่จริงจังของเฉินโม่แล้ว ทันใดนั้นสมาชิกของหน่วยรบพิเศษก็เกิดความรู้สึกสงสารครูฝึกพาน เพราะพานรุ่ยหมิงเป็นครูฝึกบู๊ที่ได้รับการว่าจ้างเป็นพิเศษจากเบื้องบน แต่ตอนนี้เขาถูกเฉินโม่ไล่ราวกับเป็นแมลงวัน แล้วยังบอกว่าเขาเป็นคนนอกอีก
พานรุ่ยหมิงรู้สึกว่าตนเองถูกหยามศักดิ์ศรีมาก โดยเฉพาะต่อหน้าสมาชิกของหน่วยรบพิเศษที่เคารพเขาเสมอมา
“เจ้าเด็ก ฉันคิดว่าแกเบื่อที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้วใช่ไหม? พอให้เกียรติแก ได้คืบก็จะเอาศอก!” พานรุ่ยหมิงตะโกนด้วยความโมโห
“แล้วแกจะเอายังไง?” เสียงของเฉินโม่เรียบ และดูเหมือนจะไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ แต่มันทำให้พานรุ่ยหมิงรู้สึกกดดันทุกย่างก้าว
สีหน้าของพานรุ่ยหมิงเคร่งขรึม และคิดว่าถ้าเขาไม่ลงมือจัดการคงจะไม่ได้แล้ว มิฉะนั้นต่อไปตนเองจะมีหน้าเป็นครูฝึกบู๊อยู่ที่นี่ได้อย่างไร
“ถ้าแกอยากขับไล่ฉันออกไปได้ แกต้องเอาชนะฉันก่อนถึงจะมีคุณสมบัติ!” พานรุ่ยหมิงกล่าวเยาะเย้ย มองเฉินโม่ด้วยสีหน้ายั่วยุ
เฉินโม่กล่าวด้วยสีหน้ารำคาญว่า “พูดแบบนี้ตั้งแต่แรกมันก็จบเรื่องแล้ว จะได้ไม่เปลืองน้ำลายเปล่า ๆ”
“ลงมือเถอะ แกมีโอกาสลงมือเพียงครั้งเดียว แล้วอย่ามาหาว่าฉันไม่เตือนล่ะ!” เฉินโม่กล่าวด้วยสีหน้าสบาย ๆ และไม่เห็นพานรุ่ยหมิงอยู่ในสายตา
พานรุ่ยหมิงกัดฟันด้วยความโกรธ และกล่าวด้วยเสียงลอดไรฟันว่า “แกอย่าเสียใจภายหลัง!”
พานรุ่ยหมิงไม่รู้ตื้นลึกหนาบางของเฉินโม่ เมื่อเขาเห็นว่าเฉินโม่อายุน้อย เขาเลยดูหมิ่นเฉินโม่ แต่ถ้าเขารู้ว่าเฉินโม่เป็นเฉินไต้ซือ เขาจะไม่กล้าจองหองต่อหน้าเฉินโม่อย่างแน่นอน
เมื่อเหล่าสมาชิกของหน่วยรบพิเศษเทพอินทรี เห็นว่าทั้งสองคนกำลังจะต่อสู้กันแล้ว พวกเขาไม่เพียงแค่ไม่รู้สึกกังวล แต่กลับแสดงสีหน้าตื่นเต้น
พวกเขารู้ความแข็งแกร่งของครูฝึกพานเป็นอย่างดี นอกจากอดีตหัวหน้าฮั่วตงหมิงแล้ว ไม่มีใครสามารถเอาชนะเขาได้ แม้แต่รองหัวหน้าเซี่ยไห่หลงก็ทำไม่ได้
ส่วนเฉินโม่ที่เป็นหัวหน้าใหม่ ถึงแม้ว่าเขาจะอายุน้อย แต่เฉินโม่เคยแสดงความแข็งแกร่งออกมาแล้ว ความสามารถในการจับกระสุนด้วยมือเปล่าในระยะทางห้าเมตร แม้แต่ฮั่วตงหมิงก็ทำไม่ได้
ดังนั้นระหว่างพวกเขาสองคน จะต้องเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดอย่างแน่นอน!
สำหรับสมาชิกของหน่วยรบพิเศษที่มีความแข็งแกร่งอยู่เพียงแค่ระดับแดนนอก การต่อสู้ระหว่างยอดฝีมือแดนใน เป็นโอกาสที่พวกเขาหาไม่ได้อีกแล้ว และอาศัยการสังเกต สามารถทำให้พวกเขาเรียนรู้ได้มากมาย
“เจ้าเด็ก วันนี้ฉันจะอบรมสั่งสอนแทนพ่อแม่ของแก เพื่อทำให้แกรู้ว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนก็ยังมีคน!”
ยังไม่ทันที่พานรุ่ยหมิงจะพูดจบ เฉินโม่ก็กลอกตาด้วยความรำคาญ “ไร้สาระ!”
“แกมันรนหาความตาย!”
เจตนาฆ่าประกายผ่านดวงตาของพานรุ่ยหมิง ตอนแรกเขาคิดจะใช้พลังเพียงแปดส่วน เพื่อทำให้เฉินโม่พิการ แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนใจแล้ว เขาต้องการใช้โอกาสนี้ฆ่าเฉินโม่ตาย
“หมัดทะลวงภูเขา!”
แสงสีทองพุ่งออกมาจากร่างของพานรุ่ยหมิงราวกับพระพุทธรูปขนาดใหญ่ เมื่อเขายื่นมือออกไป มือที่สัมผัสทุกอย่างกลายเป็นฝุ่นผงทันที
เหล่าสมาชิกของหน่วยรบพิเศษเทพอินทรีรู้สึกตกใจ พวกเขาเคยเห็นพานรุ่ยหมิงใช้กระบวนท่านี้มาแล้ว นี่เป็นเคล็ดวิชาบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา และเป็นกระบวนท่าที่สามารถเอาชนะรองหัวหน้าเซี่ยไห่หลงได้
พานรุ่ยหมิงใช้ท่าไม้ตายตั้งแต่กระบวนท่าแรกแล้ว แน่นอนว่าการต่อสู้ระหว่างทั้งสองคนไม่ใช่แค่เรียนรู้กันและกันเท่านั้น เกรงว่าถึงขั้นหมายเอาชีวิต
เฉินโม่จะตกอยู่ในอันตรายหรือไม่? ต้องรายงานเบื้องบนหรือไม่
สมาชิกทุกคนของหน่วยรบพิเศษเทพอินทรีมองเซี่ยไห่หลงด้วยการสอบถาม
แต่ก่อนที่เซี่ยไห่หลงจะตอบ การต่อสู้ก็สิ้นสุดลงแล้ว