แดนนิรมิตเทพ บทที่ 323
ภายในสนาม บนพรมแดง จินเพ่ยอวิ๋นยืนอยู่ตรงหน้าของทุกคนอย่างสวยงาม
นายอำเภอเหมยจับมือของเฉินจิงเย่ไว้อย่างสนิทสนม ไม่เหมือนกับหัวหน้าลูกน้อง แต่เหมือนเพื่อนที่ไม่เจอกันมานาน
“ประธานจินครับ ผมเชิญกลับมาให้แล้วครับ!” นายอำเภอเหมยพยายามให้รอยยิ้มบนใบหน้าของตัวเองดูธรรมชาติที่สุด แต่สีหน้าที่อึดอัดใจเช่นนั้น ใครๆต่างก็ดูออก
จินเพ่ยอวิ๋นรีบเดินไปตรงหน้าของเฉินโม่ โค้งตัวทำความเคารพ “คุณเฉินคะ คุณปู่สั่งให้ฉันมาทักทายคุณแทนเขาค่ะ!”
คุณท่านจินพยายามมากเช่นนี้ เฉินโม่ไม่ให้เกียรติไม่ได้ จึงพูดนิ่งๆว่า “คุณท่านจินเกรงใจเกินไปแล้ว น้ำใจของเขา ผมจดจำไว้แล้วละ”
จินเพ่ยอวิ๋นดีใจ เฉินโม่ไม่ได้บอกว่าฉันยอมรับแล้ว แต่พูดว่าฉันจดจำไว้แล้ว หมายความว่าเฉินโม่พอใจกับน้ำใจที่ตระกูลจินให้ในครั้งนี้
“คุณเฉินไม่ต้องเกรงใจค่ะ คุณปู่บอกว่า บุญคุณที่ตระกูลเฉินติดค้างคุณไว้ ใช้ทั้งหมดของตระกูลจินก็ไม่เพียงพอที่จะตอบแทน ขอให้คุณเฉินอย่าได้ใส่ใจมากค่ะ”
คำพูดนี้เหมือนคุณท่านจินเป็นคนพูดเองจริงๆ
เฉินโม่พอใจกับท่าทางการกระทำของคุณท่านจินอย่างมาก เป็นคน อย่าได้ลืมรากเหง้า
แม้ว่าการที่เฉินโม่ช่วยเหลือคุณท่านจิน สำหรับเขาแล้วจะเป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก แต่กลับมีประโยชน์ต่อตระกูลจินไปอีกหลายรุ่นอายุ
บุญคุณที่เฉินโม่มีต่อตระกูลจิน มีค่ามากพอให้คุณท่านจินให้ความสำคัญเช่นนี้จริงๆ
“คุณท่านจินมีใจแล้วละ” จนตอนนี้ ภายในใจเฉินโม่ถึงได้ให้อภัยตระกูลจินอย่างแท้จริง
บทสนทนาของทั้งสองคนราบเรียบ แต่ในหูของผู้ที่ฟังอยู่ด้านข้างกลับกลายเป็นเหมือนดั่งสายฟ้าฟาดผ่าลงสมอง สะท้านจนทุกคนตกตะลึง
“คุณปู่ของประธานจิน อย่างนั้นก็คือคุณท่านจินผู้ก่อตั้งตระกูลจินแห่งฮ่านหยางในตำนานไม่ใช่หรือไง!”
“แม้แต่คุณท่านจินยังให้ความเคารพนอบน้อมกับเด็กมัธยมปลายคนนี้ เขาทำอะไรกันแน่ ทำไมถึงได้รับความสำคัญจากตระกูลจินมากเช่นนี้?”
“ก็ว่าทำไมเมื่อกี้มีประธานผู้มีอำนาจของอำเภอเฟิ่งซานมาสวัสดีปีใหม่กับเขา เหมือนดั่งข้าราชบริพารพบปะท่านจักรพรรดิ ขนาดนี้คุณท่านจินยังทำขนาดนี้ แล้วนับประสาอะไรกับพวกเขาละ?”
ในที่สุดทุกคนก็เข้าใจว่าทำไมประธานร่ำรวยพวกนั้นถึงได้ต่างก็มาสวัสดีปีใหม่และมอบของขวัญให้กับเด็กมัธยมปลายคนหนึ่ง
นายอำเภอเหมยแล้วถึงกับเหงื่อแตกพลั่ก แอบรู้สึกดีใจที่เมื่อกี้ตามไปเรียกเฉินโม่กลับมา ในใจรู้สึกไม่สงบสุข หวังเพียงแค่ว่าเฉินโม่จะไม่คิดแค้นเขา
“คุณเฉินครับ เมื่อกี้เสียมารยาทด้วย หวังว่าคุณเฉินนะให้อภัยด้วยครับ!”
นายอำเภอเหมยสีหน้าหวาดกลัว กล่าวขอโทษเฉินโม่อย่างจริงใจ ไม่สนใจว่าในฐานะนายอำเภอแล้วมาทำความเคารพเด็กมัธยมปลายคนหนึ่งจะเสียหน้ามากขนาดไหน
เฉินโม่มองนายอำเภอเหมยนิ่งๆ ไม่ได้พูดอะไร เฉินจิงเย่ที่อยู่ด้านข้างรีบส่งสายตาให้ เฉินโม่จึงได้ตอบกลับอย่างเอือมระอา “นายอำเภอเหมยไม่ต้องสุภาพเช่นนี้ครับ”
นายอำเภอเหมยลุกขึ้น มองเฉินจิงเย่อย่างขอบคุณ
สายตาที่กำนันหลี่มองเฉินโม่ เต็มไปด้วยความตะลึง นึกคิดว่าเมื่อก่อนเคยทำผิดอะไรต่อเฉินจิงเย่บ้างหรือเปล่า แล้วเดี๋ยวต้องรีบสานสัมพันธ์กับเฉินจิงเย่อีกด้วย
สารวัตรกำนันหวางที่มีปัญหากับตระกูลเฉินมาโดยตลอด จู่ๆก็กิริยาท่าทางเปลี่ยนไป เดินแทรกผู้คนเข้าไปกอดขาของเฉินจิงเย่และร้องไห้ “น้องจิงเย่ เมื่อก่อนฉันมันตาบอดไปเอง คอยเอาแต่มีเรื่องกับนาย ฉันผิดไปแล้ว หวังว่าน้องจิงเย่จะมีเมตตา ให้อภัยฉันด้วยนะ!”
สารวัตรกำนันหวางถนัดคิดแผนการ เขารู้ว่าไปขอร้องเฉินโม่นั้นไม่มีประโยชน์ จึงหันไปขอร้องอ้อนวอนเฉินจิงเย่ที่พูดคุยด้วยง่ายกว่า
แต่ว่า ถึงแม้เฉินจิงเย่จะซื่อสัตย์ แต่ก็ไม่ได้โง่ สารวัตรกำนันหวางเหยียบย่ำเขามานานหลายปีเช่นนี้ เขาไม่กล้าที่จะลืมสักนิด
“สารวัตรกำนันหวางล้อเล่นหรือครับ ผมไม่กล้ารับการขอโทษขนาดนี้หรอกครับ” เฉินจิงเย่พูดจบ ก็ถอยหลังหนึ่งก้าว
สารวัตรกำนันหวางล้มลงกับพื้น สีหน้ามืดมน “ตายแน่ ตายแน่ ไม่คิดเลยว่าฉันฉลาดมากเช่นนี้ แต่กลับตายในกำมือของไอ้เด็กน้อยคนนี้ พระเจ้าจงใจลงโทษฉันอยู่หรือไงกัน?”
นายอำเภอเหมยหัวสมองไวมาก เขารู้ว่าที่เฉินโม่ให้อภัยเขาเมื่อกี้เป็นเพราะให้เกียรติเฉินจิงเย่ ตอนนี้เป็นเวลาที่เขาควรจะแสดงออกแล้ว
“เป็นถึงปลัดอำเภอคนหนึ่งมาร้องไห้โวยวาย บ้าบอสิ้นดี!เสี่ยวหลี่ ส่งตัวสารวัตรกำนันหวางกลับบ้านไปซะ แล้วให้พักงานอยู่บ้านหนึ่งปี หน้าที่การงานในมือของเขาก็ให้สารวัตรกำนันเฉินช่วยดูแลแทน!”