แดนนิรมิตเทพ – บทที่ 560

บทที่ 560

แดนนิรมิตเทพ บทที่ 560
“เป็นไปได้ยังไง!” เจี่ยงไต้ซืออุทานออกมา

หนังสือตี้คุนสามารถใช้วิชาได้ทั้งหมดเพียงสามอย่าง เจี่ยงไต้ซือมีพลังบำเพ็ญระดับแดนทิพย์แท้แล้ว เทียบได้กับปรมาจารย์นักบู๊ เขาใช้วิชาสองกระบวนท่าติดกัน ถึงแม้จะเป็นปรมาจารย์นักบู๊ ก็คงตายไปนานแล้ว

แต่เฉินโม่กลับปกติดี ไม่มีแม้กระทั่งบาดแผลสักนิด ทำให้เจี่ยงไต้ซืออดรู้สึกหวาดกลัวไม่ได้

เฉินโม่มองเจียงไต้ซือ แล้วพูดอย่างสนใจว่า “ยังมีอีกมั้ย? ถ้าหากว่าไม่มีแล้วฉันก็จะลงมือแล้วนะ”

เจี่ยงไต้ซือกัดฟัน สีหน้าโหดร้าย “ฉันจะสู้ตายกับแก!”

พรูด!

เจี่ยงไต้ซือกัดลิ้น พ่นเลือดสดออกมาบนหนังสือตี้คุนแล้วตะคอกเสียงดังว่า “วิญญาณแห่งดิน ฟังคำสั่งข้า!”

“อสูรดินสิงสู่!”

หนังสือตี้คุนสลายเป็นผุยผง ลอยเข้าสู่ร่างกายของเจี่ยงไต้ซือ

เฉินโม่รู้สึกได้ว่าพลังชะตาธาตุดินรอบข้างกำลังคลุ้มคลั่ง แล้วเคลื่อนย้ายไปรวมตัวทางเจี่ยงไต้ซืออย่างบ้าคลั่ง

ส่วนร่างกายของเจี่ยงไต้ซือกำลังขยายใหญ่ เพียงชั่วพริบตาก็ขยายใหญ่สูถึงห้าสิบฟุต เสื้อผ้าทั่วร่างกายฉีกขาดเป็นเศษผ้า กล้ามเนื้อเหมือนดั่งก้อนหิน กลายร่างเป็นสัตว์ร้ายร่างคน!

นี่คือวิชาที่สามของหนังสือตี้คุน หากวิชานี้ถูกนำออกมาใช้ หนังสือตี้คุนก็จะมลายหายไป

“ตอนนี้ฉันรวมตัวเป็นหนึ่งเดียวกับผืนดินแล้ว ผืนดินก็คือฉัน เพียงแค่สองขาของฉันยังยืนอยู่บนผืนดิน ฉันก็จะได้รับพลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ฉันกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่ไร้เทียมทานที่สุด!”

เสียงของเจี่ยงไต้ซือดังสนั่น เหมือนดั่งเสียงฟ้าผ่า สั่นสะท้านจนทำเอาแก้วหูของทุกคนอื้ออึง

“พระเจ้า เจี่ยงไต้ซือกลายเป็นสัตว์ประหลาดไปแล้ว!พวกเรารีบหนีเร็ว!” ลูกน้องคนหนึ่งของไช่เหวินหย่าพูดอย่างขาสั่นตัวสั่น

“หุบปาก เจ้าโง่!เจี่ยงไต้ซือเพียงแค่ใช้วิชากลายร่างเท่านั้น หนีอะไรกัน!” ไช่เหวินหย่าด่าทอ

ดวงตาของเฉินโม่เป็นประกาย สีหน้าสนอกสนใจ “น่าสนใจ สามารถควบคุมร่างแห่งดิน แต่น่าเสียดายที่นายมาพบเจอกับฉัน!”

“เจ้าหนุ่ม ไปตายซะ!” เจี่ยงไต้ซือเหวี่ยงหมัดยักษ์ใหญ่ เฉินโม่ที่อยู่ตรงหน้าเขาเป็นเหมือนดั่งแค่มดเท่านั้น เมื่อเทียบพลังกันแล้วแตกต่างอย่างชัดเจน

เสียงหนึ่งดังก้องออกมา แสงสีทองฟาดฟันผ่านแขนที่แน่นหนาใหญ่ดั่งต้นไม้ของเจี่ยงไต้ซือ แขนข้างนั้นที่เหวี่ยงเข้าใส่เฉินโม่ถูกตัดทิ้งอย่างง่ายดายเหมือนดั่งมีดสับเต้าหู้

แต่เจี่ยงไต้ซือกลับไม่มีสีหน้ารู้สึกเจ็บปวดสักนิด และยังหัวเราะอย่างหนัก “เจ้าหนุ่ม ฉันบอกแล้วไง เพียงแค่ฉันยังยืนอยู่บนผืนดิน ฉันก็คือสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่ไร้เทียมทาน!”

“เติบโตออกมาซะ!”

แกร็กๆ!

เสียงดังสนั่น แขนข้างนั้นที่ถูกกระบี่สับสวรรค์ตัดทิ้ง ก็ได้กลับมาเป็นอย่างเดิมทันที

เฉินโม่ยิ้มเยาะ “แกคิดว่าฉันฆ่าแกไม่ได้งั้นหรอ?”

เฉินโม่ค่อยๆยกแขนขวาขึ้น แบฝ่ามือสู่ฟ้า ตะโกนเสียงนิ่งว่า “วิชากักขังห้าธาตุ!”

แสงสีที่ลึกลับและซับซ้อนลอยออกมาในอากาศ ภายในระยะขอบเขตหลายพันกิโลเมตร ล้วนถูกวิชากักขังห้าธาตุของเฉินโม่ครอบคลุมไว้จนหมด

“กระบี่เริ่ม!”

เฉินโม่พูดออกมานิ่งๆ กระบี่สับสวรรค์ก็กลายเป็นแสง เพียงชั่วพริบตา ก็ได้ฟันทะลุร่างกายของเจี่ยงไต้ซือนับร้อยครั้งอย่างรวดเร็ว

ร่างกายใหญ่โตของเจี่ยงไต้ซือ เป็นรูเหมือนดั่งรังผึ้ง

“ฮ่าๆๆ ไร้ประโยชน์ ฉันบอกแล้ว เพียงแค่ฉันยังยืนอยู่บนผืนดิน ฉันก็คือการมีชีวิตอยู่ที่ไร้เทียมทาน!” เจี่ยงไต้ซือหัวเราะอย่างได้ใจ เสียงหัวเราะดังสะท้อนไปทั่วพระราชวังใต้ดิน สั่นสะเทือนแก้วหู

“งั้นหรอ? งั้นนาลองดูร่างกายของนายตอนนี้ดูสิว่าเป็นยังไง!” เฉินโม่ยิ้มอย่างชั่วร้าย

เจี่ยงไต้ซือก้มหน้ามอง ทันใดนั้นก็ตะโกนออกมาอย่างหวาดกลัว “เป็นไปได้ยังไง? ทำไมถึงเป็นแบบนี้!”

พลังห้าธาตุที่ถูกปิดกั้นโดยวิชากักขังห้าธาตุอยู่ภายนอกหลายพันกิโลเมตร ทำให้ร่างกายผืนดินของเจี่ยงไต้ซือไม่สามารถดูดพลังชะตาธาตุดินได้ ความสามารถการก่อเกิดใหม่ที่แข็งแกร่งมากเพียงใดแต่เมื่อสูญเสียพลังทิพย์คอยสนับสนุน ก็ไม่สามารถเกิดผลได้

ร่างกายของเจี่ยงไต้ซือในตอนนี้ ได้ถูกกระบี่สับสวรรค์ฟาดฟันจนเป็นเสี่ยงๆไปแล้ว เหลือเพียงฟางเส้นสุดท้ายที่จะขาดทิ้งตายไป

แดนนิรมิตเทพ

แดนนิรมิตเทพ

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท