แดนนิรมิตเทพ – บทที่ 778

บทที่ 778

แดนนิรมิตเทพ บทที่ 778
มู่หรงยานเอ๋อร์สวมชุดเดรสกระโปรงสีขาว ผมดำยาวถึงเอว เมื่อลมพัดผ่าน มู่หรงยานเอ๋อร์เป็นเหมือนทะเลสาบที่น้ำใสเป็นระลอกคลื่น และสวยงามจนไม่มีใครทนที่จะทำลายมันได้

เธอยืนอยู่ตรงไหน ที่นั่นก็จะเป็นทิวทัศน์สวยที่สุด

เหล่าผู้ชายที่อยู่ชั้นบนหอพักต่างชะโงกหัวออกมาจากหน้าต่าง ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความเร่าร้อน

แต่น่าเสียดายที่ไม่นาน ก็มีความอิจฉาริษยาและความเกลียดชังปรากฏอยู่บนใบหน้าของพวกเขา

เฉินโม่สวมชุดวอร์มสีเทาแล้วเอามือซุกเข้าไปในกระเป๋ากางเกง เขาเป็นคนที่รูปร่างหน้าตาธรรมดามาก เขาเดินมุ่งหน้าไปทางมู่หรงยานเอ๋อร์อย่างช้า ๆ

“เฉินโม่ เร็วเข้า!” มู่หรงยานเอ๋อร์โบกมือให้เฉินโม่ด้วยรอยยิ้มงดงาม

เฉินโม่ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย เขาสามารถสัมผัสได้ถึงสายตาเฉียบคมที่อยู่รอบ ๆ ซึ่งเพียงพอที่จะยิงจนร่างกายของเขากลายเป็นรูพรุน ทำให้เขารู้สึกจำใจเล็กน้อย

และการที่จู่ ๆ มู่หรงยานเอ๋อร์ก็มาหาเขาที่ชั้นล่างของหอพักชาย ทำให้เขารู้ว่าตนเองจะต้องเจอสายตาพิฆาตของผู้ชายคนอื่นอย่างแน่นอน

“มีธุระอะไรหรือเปล่า?” เฉินโม่เดินไปอยู่ข้างมู่หรงยานเอ๋อร์ และถามอย่างไม่เข้าใจความหมายของยานเอ๋อร์

มู่หรงยานเอ๋อร์กลอกตาใส่เฉินโม่ แกล้งทำตัวอย่างไม่พอใจเล็กน้อยว่า “ทำไม? ไม่มีธุระ ก็ไม่สามารถมาหานายได้เหรอ?”

เฉินโม่พูดไม่ออก

มู่หรงยานเอ๋อร์รู้สึกพอใจมากและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ไป พวกเราไปเดินเล่นกันเถอะ!”

“ครับ!” เฉินโม่พยักหน้า

ทั้งสองเดินเคียงข้างบนถนนหินในมหาวิทยาลัย ซึ่งสามารถดึงดูดสายตาผู้คนได้มากมาย และทุกคนต่างมองด้วยความอิจฉาริษยา

ผู้ชายทุกคนล้วนมีความฝันแบบนี้?

ช่วงเวลาที่วิเศษและบริสุทธิ์ในช่วงเรียนมหาวิทยาลัย เดินอย่างเงียบ ๆ บนเส้นทางที่เงียบสงบกับนางในฝันของตนเอง ปล่อยให้ลมพัดหน้า และปล่อยให้ผู้ชายคนอื่นอิจฉาริษยา

ยิ่งมีคนอิจฉาริษยามากเท่าไหร่ ตนเองก็ยิ่งรู้สึกภูมิใจมากขึ้นเท่านั้น

ตอนนี้เฉินโม่กำลังเพลิดเพลินกับช่วงเวลาดี ๆ ที่เขาเคยฝันถึงเมื่อชาติก่อน

บรรยากาศแบบนี้ เกือบจะทำให้เฉินโม่หลงระเริง

เวลาผ่านไปหกร้อยปีนั้นเป็นเหมือนกับความฝัน

เฉินโม่ไม่ได้พูดอะไร มู่หรงยานเอ๋อร์รู้ว่าเฉินโม่เป็นคนที่ชอบความเงียบสงบ เธอก็ไม่ได้คิดที่จะทำลายบรรยากาศที่หายากแบบนี้ ทั้งสองคนยังคงเดินแบบนี้ต่อไป ดูเหมือนกับว่าพวกเขาจะเดินไปจนถึงตราบชั่วฟ้าดินสลาย

โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ตอนนี้พวกเขาสองคนก็เดินมาถึงที่ป่าห่างไกลที่อยู่ด้านหลังของมหาวิทยาเขตแล้ว

เฉินโม่หยุดกะทันหันตรงสุดถนนหิน แล้วหันไปมองมู่หรงยานเอ๋อร์

“ห๊ะ?” มู่หรงยานเอ๋อร์รู้สึกมึนงงเล็กน้อย หัวใจของเธอเต้นแรง เธอกะพริบดวงตาแล้วมองเฉินโม่ “มี…มีอะไรหรือเปล่า?”

เฉินโม่ไม่พูดอะไร เขายื่นมือไปโอบเอวเล็ก ๆ ของมู่หรงยานเอ๋อร์ทันที แล้วรีบเคลื่อนออกไปจากจุดนั้นอย่างรวดเร็ว

“ห๊ะ!” มู่หรงยานเอ๋อร์อุทานด้วยความตกใจ สีหน้าแดงระรื่นด้วยความเขินอาย

บูม!

เสียงดังสนั่นดึงความคิดของมู่หรงยานเอ๋อร์กลับมาสู่ความจริง

เห็นบริเวณที่พวกเขายืนเมื่อสักครู่ เกิดรอยแตกขนาดใหญ่ทันที จากนั้นไม่กี่วินาที มันก็ปิดอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

มู่หรงยานเอ๋อร์ตกใจจนหน้าซีด ถ้าพวกเขายังยืนอยู่ตรงนั้น พวกเขาจะต้องถูกกลืนอย่างแน่นอน

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” มู่หรงยานเอ๋อร์ตกใจจนหัวใจเต้นแรง

เฉินโม่ส่งสายตาเพื่อบอกมู่หรงยานเอ๋อร์ว่าไม่ต้องกลัว แล้วหันไปมองป่าที่อยู่ไม่ไกล กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ออกมาเถอะ!”

มีคนสามคนที่แปลก ๆ กระโดดออกมาจากป่า ภายใต้ดวงตาที่ตกใจกลัวของมู่หรงยานเอ๋อร์

คนหนึ่งสวมชุดบัณฑิตโบราณ สีหน้าเหลืองซีด ถือหนังสือโบราณที่มีพลังทิพย์ผันผวนอย่างรุนแรงอยู่ในมือ

อีกคนสวมเสื้อกล้าม ผิวคล้ำ รูปร่างสูงใหญ่ มีงูขนาดใหญ่สีสดห้อยอยู่บนลำคอ

คนสุดท้ายดูปกติหน่อย เป็นผู้ชายชาวตะวันออกที่อายุประมาณห้าสิบปี

“คนพวกนี้เป็นใคร พวกเขาแปลกประหลาดมาก!” มู่หรงยานเอ๋อร์ถามด้วยความประหลาดใจ

ผู้ชายที่ห้อยงูอยู่บนคอ กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “สาวน้อยหน้าตาสวยมาก แต่น่าเสียดายที่ผมไม่มีลูกชาย มิฉะนั้นผมจะจับคุณกลับไปเป็นเมียของลูกชายผมอย่างแน่นอน”

แดนนิรมิตเทพ

แดนนิรมิตเทพ

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท