แดนนิรมิตเทพ บทที่ 791
แดนมองขวัญ เห็นชื่อก็ทราบถึงความหมายแฝง สามารถมองเห็นแดนเทพ และสัมผัสขอบเขตของแดนเทพได้
และแข็งแกร่งกว่าแดนคุ้มกายและแดนชี่แท้ไม่รู้กี่เท่า
“เจ้าหนู ดูเหมือนว่าแกจะมีความรู้เล็กน้อย มิน่าแกถึงกล้ามาที่นี่!” หัตถ์โลหิตล่าชีวิตมองเฉินโม่ และกล่าวด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย
เฉินโม่มองเขาด้วยสีหน้าราบเรียบ “ถึงแม้ว่าแกจะเป็นปรมาจารย์แดนมองขวัญ แต่แล้วไงล่ะ? วันนี้ฉันจะฆ่าแกก่อน!”
“ฮึ่ม คุยโวโอ้อวดอย่างไม่รู้สึกกระดากปาก!” สีหน้าของหัตถ์โลหิตล่าชีวิตเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม “แกรู้ไหมว่าทำไมฉันถึงชอบใส่เสื้อสีแดง?”
เฉินโม่มองเขาอย่างเงียบ ๆ โดยไม่สนใจไยดี
“เพราะว่าเมื่อเสื้อผ้าสีแดงเปื้อนเลือดแล้วมันจะสดใสยิ่งขึ้น!”
หลังจากกล่าวจบ หัตถ์โลหิตล่าชีวิตสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ กระโดดขึ้นไปกลางอากาศ แล้วปล่อยพลังหมัดไปที่เฉินโม่
เฉินโม่ปล่อยพลังหมัดออกมาต้านด้วยสีหน้าราบเรียบ
สองคนต่อสู้กันหมัดแล้วหมัดเล่า พลังที่ทรงพลังทำให้ถ้ำใต้น้ำสั่นสะเทือน และดูเหมือนว่าสามารถพังทลายได้ทุกเมื่อ
“เจ้าหนู ฝีมือของแกไม่เลวนี่ เกรงว่าพลังบำเพ็ญของแกคงอยู่ในแดนมองขวัญเช่นกัน!” หัตถ์โลหิตล่าชีวิตกล่าวขณะที่กำลังต่อสู้
“ด้วยอายุของแก สามารถมีพลังบำเพ็ญขนาดนี้ได้ มีพรสวรรค์จริง ๆ เอาแบบนี้ดีไหม แกมาเป็นลูกศิษย์ของฉัน หลังจากฉันตายแล้ว แกจะเป็นผู้นำคนใหม่ขององค์กรล่าชีวิต!”
“แกว่าไง?” หลังจากโจมตีแล้วทั้งสองคนก็ผละออกจากกัน นึกไม่ถึงว่าหัตถ์โลหิตล่าชีวิตจะเกิดความชื่นชมในพรสวรรค์ของอีกฝ่าย
“พวกเราเป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่มีรายได้หลายพันล้านต่อปี เมื่อแกได้ครอบครองแล้ว แม้แต่ผู้นำประเทศต่าง ๆ ก็ยังเกรงกลัวแก และไม่รู้ว่ามีคนอิจฉามากมายเท่าไหร่!”
เฉินโม่มองเขาและยิ้มด้วยความเหยียดหยาม “อยากเป็นอาจารย์ของฉัน แกยังไม่คู่ควร!”
อาจารย์ของเฉินโม่คือกษัตริย์เซียนตงหวา ถึงแม้ว่าอยู่ที่เผ่าฝึกเซียนทั้งหมื่น แต่ตอนนี้เขาอยู่บนจุดสูงสุดแล้ว นักบู๊เล็ก ๆ ที่ไม่เคยก้าวออกไปจากโลกจะสามารถเทียบเขาได้อย่างไร?
หัตถ์โลหิตล่าชีวิตคิดว่าเฉินโม่กำลังดูหมิ่นเขา สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที “เจ้าหนู แกมันรนหาความตาย!”
“แกคิดว่าเมื่อสักครู่สามารถต่อสู้ไล่เลี่ยกับฉันได้ ก็จะสามารถดูหมิ่นฉันได้เหรอ? แกคิดว่านั่นคือพลังทั้งหมดของฉันเหรอ?” หัตถ์โลหิตล่าชีวิตกล่าวเยาะเย้ย
เฉินโม่มองหัตถ์โลหิตล่าชีวิตที่กำลังพูดอวดตนเองอย่างเงียบ ๆ เหมือนกำลังมองลิงที่กำลังอวดความสามารถ
“ตอนนี้ฉันจะให้แกได้เห็นความแข็งแกร่งที่แท้จริง!”
หัตถ์โลหิตล่าชีวิตตะโกนด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หัตถ์โลหิตชูร่า!”
หมอกสีแดงหนาทึบปะทุออกมาจากร่างกายของหัตถ์โลหิตล่าชีวิต แล้วปกคลุมไปทั่วถ้ำใต้น้ำทันที
เฉินโม่พบว่าตอนนี้แม้แต่สายตาของเขาก็ไม่สามารถมองเห็นอะไรเลย
“น่าสนใจ!” เฉินโม่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ตอนนี้เขาไม่สงสัยเลยว่าหัตถ์โลหิตล่าชีวิตคนนี้คือคู่ต่อสู้แข็งแกร่งที่สุดที่เขาเคยพบเจอ
“ฮ่า ๆ เจ้าหนู ตอนนี้แกเป็นเหมือนคนตาบอด ฉันสามารถโจมตีแกได้อย่างเต็มที่ แต่แกมองไม่เห็นว่าฉันอยู่ที่ไหนด้วยซ้ำ!” ดูเหมือนว่าเสียงของหัตถ์โลหิตล่าชีวิตจะดังมาจากทุกทิศของถ้ำ
“นึกไม่ถึงว่าแกจะรู้วิธีปกปิดที่มาของเสียง แกคงจะใช้เคล็ดวิชานี้ทำร้ายนักบู๊ไปไม่น้อย!” เฉินโม่คิดอยู่ในใจ
“เจ้าหนู เมื่อสักครู่แกยังไม่เห็นความแข็งแกร่งที่แท้จริงของฉัน แกปฏิเสธข้อเสนอของฉัน มันก็สมเหตุสมผล ตอนนี้ฉันจะให้โอกาสแกอีกครั้ง ถ้าแกยังไม่สามารถเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันอีก ถ้าเช่นนั้นแกก็ตายเสียเถอะ!” หัตถ์โลหิตล่าชีวิตกล่าว
เฉินโม่หัวเราะเบา ๆ “แกคิดว่าฉันมองไม่เห็นแก แล้วก็จะไม่สามารถทำอะไรแกได้เหรอ?”
“ฉันยังคงพูดประโยคนั้น อยากเป็นอาจารย์ของฉัน แกยังไม่คู่ควร!”
หลังจากเฉินโม่กล่าวจบ เขาขยับร่างกาย แล้วปล่อยพลังหมัดตรงไปยังตำแหน่งทางด้านซ้าย
ปัง!