แดนนิรมิตเทพ บทที่ 920
“ที่แท้ผู้ชายคนนี้ก็คือแฟนเก่าของอานเข่อเยว่งั้นหรอ ดูแล้วไม่มีอะไรเลย? ห่างไกลจากหมิงเจ๋อเสวียนอย่างมากเลย!” ผู้ชายส่วนมากมองเฉินโม่ สีหน้ามีความดูถูก
“ว้าว ฉันจะได้เห็นอัศวินสองคนสู้กันเพื่อองค์หญิงใช่หรือเปล่า!น่าตื่นเต้นจริงๆ หากว่าวันไหนมีผู้ชายยินดีทำอย่างนี้ให้กับฉันบ้าง ฉันจะแต่งด้วยทันทีเลย!” หญิงสาวผู้มีส่วนสูงร้อยห้าสิบเซนติเมตร น้ำหนักเก้าสิบกิโล ใบหน้าเต็มไปด้วยสิวพูดออกมาอย่างบ้าผู้ชาย
ชายหนุ่มด้านข้างต่างก็พูดว่า “พอเถอะสาวบ้านนอก ยังคิดจะต่อสู้? เธอหาคนได้แต่งงานด้วยก็ไม่เลวแล้ว”
“นี่ ผู้ชายที่มองคนจากภายนอกอย่างพวกนาย ฉันขอสาปแช่งให้พวกนายหาแฟนไม่ได้ตลอดกาล!” หญิงอ้วนโมโห
ชายหนุ่มสองคนหัวเราะ “หาไม่ได้ก็หาไม่ได้สิ อย่างน้อยก็ดีกว่าได้สาวบ้านนอกอย่างเธอ!”
“พวก พวกนาย…ฮือๆ!” หญิงอ้วนโมโหจนร้องไห้ “หน้าตาขี้เหร่ไม่ใช่ความผิดของฉันสักหน่อย ที่จริงแล้วตอนเด็กฉันเองก็สวยเหมือนกัน แต่ยิ่งโตก็ยิ่งอ้วน!โทษฉันได้ด้วยหรือไง?”
ชายหนุ่มสองคนเยาะเย้ยต่อไปอย่างไม่มีความเห็นใจว่า “โอ๊ะๆๆ สาวบ้านนอก อย่าร้องๆ หน้าตาขี้เหร่ไม่ใช่ความผิดของเธอ แต่ออกมาทำคนอื่นตกใจถือเป็นความผิดของเธอนะ”
คราวนี้ หญิงอ้วนไม่ร้องไห้แล้ว ถลึงตาใส่สองคนนั้นแล้วตะโกนว่า “พวกนายสองคนอย่าหนีนะ!”
พูดจบ หญิงอ้วนก็พุ่งเข้าใส่ทั้งสองคน ทำเอาทั้งสองคนตกใจรีบวิ่งหนี
เฉินโม่อยากจะปฏิเสธอย่างมาก แต่เหมือนว่านักศึกษารอบข้างมากมายต่างก็เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างเขาและอานเข่อเยว่ผิดไป หากว่าปฏิเสธในตอนนี้ ก็เท่ากับว่ายอมแพ้
ครั้งนี้เฉินโม่มาในนามตัวแทนมหาวิทยาลัยหัวหนาน หากว่ายอมแพ้เช่นนี้ ไม่ได้อับอายขายหน้าเขาผู้เดียว แต่มหาวิทยาลัยหัวหนานจะต้องได้รับผมกระทบด้วยวแน่นอน
“ฉันรับคำท้าของนาย พูดมาสิ นายจะท้าอะไร?” เฉินโม่มองหมิงเจ๋อเสวียนด้วยสีหน้าเฉยชา
หมิงเจ๋อเสวียนพูดว่า “ในเมื่อนายมาร่วมงานแลกเปลี่ยน ฉันเองก็เป็นตัวแทนมหาวิทยาลัยชิงหัวเข้าร่วมแข่งขันกล่าวสุนทรพจน์ระดับนักศึกษาเช่นกัน อย่างนั้นพวกเราก็มาแข่งขันความสามารถกล่าวสุนทรพจน์แล้วกัน!”
เฉินโม่อยากจะพูดอย่างมากว่าเขาไม่ได้เข้าร่วมกล่าวสุนทรพจน์ระดับนักศึกษา แต่เป็นกล่าวสุนทรพจน์ระดับอาจารย์ แต่ดูแล้วมันก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกัน
“ตกลง เดิมพันละ?” ในเมื่อจะพนัน อย่างนั้นก็ต้องมีสิ่งเดิมพัน
หมิงเจ๋อเสวียนหันมองอานเข่อเยว่ แล้วพูดด้วยสีหน้าอ่อนโยนว่า “เธออยากจะเดิมพันเป็นอะไร?”
อานเข่อเยว่มองหมิงเจ๋อเสวียนอย่างซึ้งใจ ผู้ชายเช่นนี้ดีกว่าเฉินโม่นับสิบเท่า แต่เธอก็ยังรู้สึกไม่พอใจ
บางทีอาจจะเพราะว่าเธอนิสัยเจ้าบงการ สิ่งที่ไม่ได้ครอบครองจึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด สุดท้ายจึงไม่สามารถหลุดพ้นจากเงาของเฉินโม่ได้
มองไปทางเฉินโม่ ในแววตาของอานเข่อเยว่มีความชั่วร้าย กัดฟันพูดว่า “ฉันอยากให้เขาคุกเขาตรงหน้าของฉัน แล้วขอโทษฉัน!”
หมิงเจ๋อเสวียนพยักหน้า มองไปทางเฉินโม่ พูดด้วยรอยยิ้มว่า “คำพูดของเข่อเยว่นายก็ได้ยินแล้ว เดิมพันนี้นายยอมรับมั้ย?”
เฉินโม่สีหน้าเยือกเย็น ในแววตามีความโมโห ในที่สุดเขาก็ถูกอานเข่อเยว่ทำให้โมโหจนได้
“ตกลง ฉันยอมรับ! แต่ถ้าหากฉันชนะ ฉันหวังว่าเธออย่าได้มาปรากฏตัวต่อหน้าฉันอีก เธอทำได้หรือเปล่า?”
อานเข่อเยว่โกรธเคืองพูดว่า “ทำได้!”
เฉินโม่พยักหน้าด้วยสีหน้าเฉยชา แล้วหันหลังเดินจากไป
อานเข่อเยว่มองเฉินโม่ด้วยสีหน้าชั่วร้าย ตะโกนว่า “เฉินโม่ นายแพ้แน่นอน นายรอคุกเข่าขอโทษฉันได้เลย! ชีววิทยาของเจ๋อเสวียนอยู่ในอันดับต้นของมหาวิทยาลัยชิงหัว นายแพ้แน่นอน!”
เฉินโม่ไม่ได้สนใจเธอ ค่อยๆเดินออกมาจากสายตาของทุกคน
หมิงเจ๋อเสวียนมองดูแผ่นหลังของเฉินโม่ แล้วถามอย่างสงสัยว่า “เขาอวดดีแบบนี้ตลอดเลยงั้นหรอ?”
อานเข่อเยว่พยักหน้า ในแววตาเต็มไปด้วยความโกรธเคือง “ใช่แล้ว เขาเป็นคนอวดดีที่ไม่แคร์คนอื่นมาโดยตลอด ต้องมีสักวันที่ตัวเขาจะได้รับผลกรรม แล้วชดใช้ให้กับความอวดดีของตัวเขาเอง!”
ในแววตาของหมิงเจ๋อเสวียนมีความเยือกเย็น “สบายใจได้ วันนั้นของเขาใกล้จะมาถึงแล้ว!”