แม้ว่า หวางเฉิง จางซินเหมิง และคนอื่นๆ จะไม่ชอบเฉินโม่ก็ตาม แต่ทุกคนก็ยังต้องยืนหยัดในแนวร่วมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในเวลานี้
“เฉินโม่ หานทงเป็นนักศึกษาปีสี่ และได้เข้าร่วมงานแปลกเปลี่ยนสามครั้ง นายไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ดังนั้นอย่าหลงกลไปกับเขา” หวางเฉิงเตือนด้วยน้ำเสียงที่ลึกล้ำ
จางซินเหมิงเองก็พูดชักชวน “หวางเฉิง พูดถูก แม้ว่านายจะปฏิเสธเขา ก็ไม่มีใครสามารถพูดอะไรนายได้ การแข่งขันครั้งนี้ไม่ยุติธรรมเลยนะ!”
คำพูดของคนเหล่านี้ถูกละเลยโดยเฉินโม่ เฉินโม่ไม่ได้คิดอะไรมากเกี่ยวกับมัน เขาพูดอย่างเฉยเมย: “ฉันตกลง บอกสิ่งที่จะพนันมา”
“นาย……”
หวางเฉิง จางซินเหมิงและคนอื่นๆ ตกตะลึงและจ้องไปที่เฉินโม่
นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงรอบๆ ก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงเช่นกัน: “ไอ้เด็กคนนี้ตกลงจริงๆ เหรอ? เขาโง่หรือเปล่าเนี่ย!”
“เด็กคนนี้กล้าดีจริงๆ เลย ปีหนึ่งแข่งกับปีสี่ แม้ว่าสุดแล้วเขาจะเป็นคนที่แพ้ก็ตาม เขาก็จะไม่เสียหน้าเลยสักนิด!
กลับกันทุกคนจะยกนิ้วโป้งให้เขา และชื่นชมเขาที่กล้าหาญเช่นนี้! กล้าดีกว่าคนพวกหัวหนานเยอะเลยแหละ!”
หวางเฉิงและคนอื่นๆ ได้ยินความเห็นถากถางดูถูกของทุกคน ใบหน้าของพวกเขาแดงก่ำด้วยความละอาย
ใบหน้าของหานทงเต็มไปด้วยตื่นเต้น เขาไม่คิดว่าเฉินโม่จะตกลงจริงๆ
แม้ว่าเขาจะรู้ว่าชัยชนะนั้นได้มาได้อย่างง่ายดายก็ตาม ตราบใดที่เขาสามารถทำให้เฉินโม่ขายหน้าได้ มันก็คุ้มค่าเช่นกัน
“เอาล่ะ ฉันและนายใครได้อันดับหลัง ต้องคุกเข่าไหว้ยอมรับความผิดพลาด นายกล้าพนันไหม?” หานทงพูดด้วยรอยยิ้มที่ร้ายกาจ
ถ้าเฉินโม่ปฏิเสธ เขาก็สามารถใช้โอกาสนี้ทำให้เฉินโม่ขายหน้าได้ ถ้าเฉินสังเกตตกลง เฉินโม่จะแพ้แน่นอน เพราะเป็นเด็กใหม่ปีหนึ่งแข่งกับรุ่นพี่ปีสี่ ถึงตอนนั้นเฉินโม่จะต้องคุกเข่าไหว้เพื่อยอมรับความผิดพลาดของเขา ความอับอายนี้ยิ่งรุนแรงเข้าไปใหญ่
นักศึกษาที่อยู่รอบๆ ดูออกความตั้งใจอันชั่วร้ายของหานทงทันที ต่างว่าหานทงนั้นไร้ยางอาย
และบางคนก็มีเกลี้ยกล่อมให้เฉินโม่ปฏิเสธ
คราวนี้ หวางเฉิงและคนอื่นๆ กลับไม่ได้พูดอะไร
เพราะถึงแม้เฉินโม่จะแพ้ก็ตาม คนที่เสียหน้าก็เป็นตัวเขาเอง ไม่เกี่ยวอะไรกับมหาวิทยาลัยหัวหนาน
กลับกัน พวกเขาอยากให้เฉินโม่ตกลงอีกด้วยซ้ำ พวกเขาจะได้ฆ่าความเย่อหยิ่งของเฉินโม่อย่างไร้ความปรานี
เฉินโม่จ้องไปที่ หานทงอย่างเย็นชาและมีเจตนาฆ่าอย่างแผ่วเบาบนร่างกายของเขา คนคนนี้ไร้กาจอย่างมาก เวลานี้ทำให้เฉินโม่โกรธอย่างมาก
แต่ในโอกาสนี้ เฉินโม่ไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก
“ฉันตกลง จำสิ่งที่นายจะพนันไว้”
การที่ไม่สามารถใช้กำลังได้ ไม่ได้หมายความว่าเฉินโม่จะไม่มีโอกาสชนะ หากเป็นวิชาอื่น เขาอาจไม่สามารถเอาชนะรุ่นพี่ปีสี่ได้ก็จริง แต่ในด้านวิทยาศาสตร์ชีวภาพ เฉินโม่มั่นใจว่าจะชนะ 100%
“ตกลง! พูดได้ทำได้ ทุกคนเป็นพยานให้พวกเรา!” หานทงดีใจอย่างมาก และพูดเสียงดังกับนักศึกษาที่กำลังดูความสนุกรอบตัวเขา โดยมีคนหลายคนเป็นพยาน ถ้าเฉินโม่แพ้และไม่ยอมทำตามที่ตกลงไว้ เขาจะสูญเสียความไว้วางใจจากพวกเขาเหล่านี้
“ตกลงเสร็จแล้วก็ไปไกลๆ ซะ” เฉินโม่นอนอยู่บนเก้าอี้ต่อ หลับตาพักผ่อน ไม่ได้จริงจังกับการพันนั้นเลยสักนิด
หานทงจ้องที่เฉินโม่ด้วยใบหน้ามืดมนและพูดในใจ: “ไอ้เด็ก ปล่อยให้นายหยิ่งไปสักพักก่อน อีกไม่นาน ฉันจะทำให้นายคุกเข่าต่อหน้าฉันยอมรับความผิดพลาดของนาย!”
ผู้คนในมหาวิทยาลัยตงหมิงกลับมาที่นั่งของตน ผู้คนที่เฝ้าดูความสนุกก็ค่อยๆ แยกย้ายกันไป
หลายคนส่ายหัวอย่างลับๆ โดยคิดว่าเฉินโม่ประมาทเกินไป ไม่ควรใช่อารมณ์ตัดสินใจตกลงพนันกับ หานทง
ถ้าแพ้ ก็จะน่าอายมากๆ
หวางเฉิงและคนอื่นๆ มองไปทางเฉินโม่ที่นอนอยู่บนเก้าอี้โดยหลับตาด้วยการและมีใบหน้าที่เยาะเย้ย
“เด็กคนนี้กล้าดีจริงๆ กล้าดีถึงที่สุดเลยจริงๆ เดี๋ยวถึงตอนที่เขาคุกเข่าไหว้หานทง ฉันจะดูว่าเขายังจะเย่อหยิ่งเช่นนี้อยู่หรือเปล่า!”
หลังจากรอครู่หนึ่ง ศาสตราจารย์เสิ่นก็กลับมา
เมื่อมองไปทางเฉินโม่ที่กำลังหลับตาอยู่บนเก้าอี้ ศาสตราจารย์เสิ่นที่เข้มงวดมาโดยตลอด ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มแหยๆ ออกมา “นายไม่ประหม่าเลยสักนิด ดูเหมือนนายจะมั่นใจมากเลยนะ!”
เฉินโม่ลืมตาและพูดเบา ๆ “ในเมื่อมาที่นี่แล้ว ก็วางใจเถอะ ประหม่าไปก็ไม่ได้อะไรใช่ไหมครับ?”