แดนนิรมิตเทพ – บทที่ 952

บทที่ 952

แดนนิรมิตเทพ บทที่ 952
“ความสูญเปล่าที่คุณเสียไปในวันนี้ คือวันพรุ่งนี้ที่คนตายเมื่อวานเพ้อฝันไว้ ทุกอย่างที่คุณรังเกียจในตอนนี้ คืออดีตที่คุณในอนาคตไม่สามารถย้อนกลับไปได้อีก อย่าลืมความตั้งใจแรกเริ่ม รักษาเอาไว้อยู่เสมอ”

“ขอบคุณทุกคน!”

เฉินโม่พูดจบ รีบก้าวออกไป ราวกับพวกนักเรียนจมอยู่ความหมายแฝงของประโยคที่เฉินโม่พูด ทุกที่ที่เฉินโม่เดินผ่าน นักเรียนทุกคนเป็นฝ่ายหลีกทางให้เขาเอง

เมื่อเฉินโม่กับพวกผู้อำนวยการเดินเข้าไปในมหาวิทยาลัยได้ไม่กี่นาที กลุ่มคนค่อยๆ แยกย้าย นักเรียนส่วนใหญ่ใบหน้าทอดถอนใจ แอบเอ่ยชมว่า “มิน่าล่ะเฉินโม่ทำให้ศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญพวกนั้น เลื่อมใสอย่างเต็มใจได้ แค่ประโยคที่เขาพูดออกมาเฉยๆ ก็เพียงพอที่จะกระตุ้นใจคนให้คิดได้!”

“ใช่!” นักเรียนที่เหลือต่างเห็นด้วย

เฉินโม่ไปแล้ว แต่ประโยคที่เขาทิ้งไว้ กลับทำให้พวกนักเรียนอดครุ่นคิดไม่หยุด

วันต่อมา ผู้อำนวยการตั้งใจเรียกประชุมทั้งมหาวิทยาลัย เพื่อแสดงความยินดี พูดในงานประชุมด้วยตัวเองว่า “ความอัปยศสิบปี ถูกลบล้างเพียงชั่วครู่!”

อีกทั้งยังเอ่ยขอบคุณเฉินโม่ด้วยตัวเอง

ทันใดนั้น ชื่อเฉินโม่ดังไปทั่วมหาวิทยาลัยหัวหนาน!

ในฐานะที่เป็นเพื่อนเฉินโม่ แน่นอนว่าพวกจี๋ต๋าจิ่วตูรู้สึกมีหน้ามีตา มีคนเก่งขนาดนี้อยู่ในหอพักตัวเอง ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปไม่ว่าจี๋ต๋าจิ่วตูไปไหน ประโยคแรกที่จะพูดเมื่อเจอคนก็คือ “ฉันกับเฉินโม่เป็นรูมเมทกัน……”

ขนาดมู่หรงยานเอ๋อร์กับเล่หรูหั่ว ก็โดนคนให้ความเคารพเป็นพิเศษ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเฉินโม่

ปรากฏการณ์นี้ไม่ใช่แค่สิ่งแปลกใหม่ชั่วครู่ของพวกนักเรียน แต่มันดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เหมือนเป็นปรากฏการณ์พิเศษอย่างหนึ่งของมหาวิทยาลัยหัวหนาน

แต่สำหรับคนในเหตุการณ์อย่างเฉินโม่ ตอนพวกนักเรียนเห็นเขา กลับเคารพยำเกรง แต่ไม่ขอสนิทชิดใกล้ พยักหน้าเบาๆ แล้ววิ่งไปทันที

นักเรียนหญิงบางคน หลังจากเห็นเฉินโม่ มีสีหน้าแดงระเรื่อ ใบหน้าทำอะไรไม่ถูก

เฉินโม่รู้สึกเหนื่อยใจกับปรากฏการณ์แบบนี้ แต่เขาไม่ได้เก็บมาใส่ใจ เขารู้ว่านี่เป็นเพราะเขาช่วยทำให้มหาวิทยาลัยหัวหนานหลุดพ้นจากความอัปยศ พวกนักเรียนจึงเกิดความเลื่อมใสนับถือและตื้นตันในตัวเขา

อีกทั้งภายใต้สภาพแวดล้อม ที่ผู้อำนวยการอวยความดีความชอบของเฉินโม่ ในใจจึงเห็นเฉินโม่เกินกว่าตำนานไปแล้ว

หลังผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ จู่ๆ เฉินโม่ได้รับสายจากสวีจื่อหาว

สายนี้ทำให้เฉินโม่อึ้งไปเล็กน้อย ตั้งแต่จากกันครั้งก่อน ถึงแม้เคยติดต่อกับสองสามคน แต่การติดต่อเมื่อไม่นานมานี้ก็เมื่อสามเดือนที่แล้ว

เมื่อรับสาย เฉินโม่ยกยิ้มมุมปากเบาๆ “สวัสดี จื่อหาว!”

ทางฝั่งนั้น ผ่านไปครู่หนึ่งสวีจื่อหาวเพิ่งพูดออกมา “เฉินโม่ เกิดเรื่องกับเสี่ยวเชี่ยน”

เสียงสวีจื่อหาวเคร่งขรึมมาก แต่สีหน้าของเฉินโม่อึมครึมยิ่งกว่า

“เกิดอะไรขึ้น นายพูดมาให้ชัดเจน!”

เมื่อคุยกับสวีจื่อหาวเสร็จ เฉินโม่นั่งรถไฟกลับอำเภอเฟิ่งซานบ้านเกิดทันที

ตอนคุยกันในโทรศัพท์ สวีจื่อหาวไม่ได้พูดชัดเจน แต่เฉินโม่เข้าใจความหมายพอประมาณ

เนี่ยเสี่ยวเชี่ยนโดยคนที่แข็งแกร่งมากทำร้ายจนบาดเจ็บ

คนแข็งแกร่งที่สวีจื่อหาวพูดออกมา มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นนักบู๊ เรื่องนี้มีอะไรแปลกๆ

เฉินโม่รีบกลับมาที่อำเภอเฟิ่งซานบ้านเกิดอย่างรวดเร็ว มาที่บ้านของสวีจื่อหาวทันที

เห็นเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนนอนหน้าซีด หายใจรวยรินอยู่บนเตียง

“เฉินโม่ ในที่สุดนายก็มาแล้ว” เมื่อเห็นเฉินโม่ สวีจื่อหาวอดโล่งใจไม่ได้

เฉินโม่พยักหน้าเบาๆ เดินเข้าไปดูอาการของเนี่ยเสี่ยวเชี่ยน แล้วขมวดคิ้วขึ้นมาเบาๆ

อาการบาดเจ็บของเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนไม่เบาเลย สิ่งที่ทำให้เฉินโม่ยิ่งประหลาดใจคือ เนี่ยเสี่ยวเชี่ยนเป็นนักบู๊ระดับปรมาจารย์

สวีจื่อหาวพูดขึ้นข้างๆ ว่า “คืนวันนั้น จู่ๆ เสี่ยวเชี่ยนมาบ้านฉัน กระโปรงสีขาวเปื้อนเลือด ตอนนั้นฉันจะส่งเธอไปโรงพยาบาล แต่ไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่ยอม ก่อนสลบ เธอบอกให้ฉันรีบติดต่อนาย”

แดนนิรมิตเทพ

แดนนิรมิตเทพ

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท