แดนนิรมิตเทพ บทที่ 1006
แสงสีเงินเป็นดวงๆ ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าด้านบนหัวเฉินโม่ เหมือนดวงดาวเป็นดวงๆ แผ่ออร่าที่น่ากลัวมากออกมา
ระหว่างที่เกิดขึ้นดูเชื่องช้า แต่อันที่จริงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น เพียงพริบตาดวงดาวนั่นรวมตัวกันเป็นร้อยดวง ท่ามกลางท้องฟ้าอันมืดมิด มันดูสะดุดตาเป็นพิเศษ
เหมือนทุกคนสัมผัสถึงออร่าที่แข็งแกร่ง กำลังร่วงลงมาจากฟ้า เหมือนมีกระบี่คมเล่มหนึ่งแขวนอยู่บนหัวของทุกคน ไม่รู้กระบี่คมเล่มนั้นจะหล่นลงมาปลิดชีพตัวเองตอนไหน
ฝีเท้าของนักพรตยู่หลงโงนเงน เกือบลื่นตกลงมาจากหินก้อนนั้น เห็นได้ชัดว่าเมื่อเขาใช้การโจมตีนี้ ทำให้สูญเสียพลังของตัวเองไปมหาศาล
เฉินโม่มองดวงดาวขนาดจิ๋วเป็นร้อยดวงบนหัวตัวเอง แม้มันสวยงามมาก แต่เฉินโม่กลับไม่รู้สึกว่าพวกมันน่ารักเลย เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่ามีพลังน่ากลัว แฝงอยู่ในดวงดาวพวกนี้
ไม่ว่าดาวดวงไหน ก็เทียบได้กับการโจมตีสุดกำลังของปรมาจารย์แดนมองขวัญ
ถ้าดวงดาวมากมายขนาดนี้ร่วงลงมาพร้อมกัน ก็เท่ากับปรมาจารย์แดนมองขวัญเป็นร้อยคน โจมตีออกมาพร้อมกันอย่างสุดกำลัง
ถึงพละกำลังอย่างเฉินโม่ ก็ไม่สามารถต้านทานการโจมตีพร้อมกัน ของปรมาจารย์แดนมองขวัญเป็นร้อยคนได้
“หนังสือสวรรค์เล่มนี้ คงเหมือนกับหนังสือตี้คุนในมือเจี่ยงไต้ซือ เป็นเครื่องรางชิ้นหนึ่ง หนังสือตี้คุนสามารถควบคุมพลังผืนดินได้ ถึงกระทั่งที่สุดท้ายเจี่ยงไต้ซือสามารถหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับผืนดินได้ หนังสือสวรรค์เล่มนี้ คงสามารถควบคุมพลังแห่งดวงดาวได้”
เฉินโม่แอบครุ่นคิด เดาว่าหนังสือสวรรค์ที่ว่า คงเป็นเครื่องรางที่หลงเหลือมาจากยุคสมัยอันไกลโพ้น
ไม่งั้นดูจากพละกำลังของนักบู๊บนดาวไอกาในปัจจุบัน ไม่มีทางสร้างเครื่องรางที่มีพลานุภาพแข็งแกร่งแบบนี้ออกมาได้
นักพรตยู่หลงมองเฉินโม่ ใบหน้าดูผ่อนคลายเล็กน้อย ท่าทางเหมือนกุมชัยชนะเอาไว้แล้ว “เฉินไต้ซือ สัมผัสกับพลานุภาพกระบวนท่านี้ของฉันแล้วเป็นไงบ้าง”
พูดพลาง นักพรตยู่หลงชี้นิ้วขึ้นฟ้า “เริ่ม!”
ดวงแสงที่เหมือนกับดวงดาวบนท้องฟ้า เหมือนสัตว์ทิพย์ถูกเรียก เริ่มสั่นไหวไม่หยุด
สวบ!
ดวงแสงแรกร่วงลงมา ตามด้วยแสงที่สอง แสงที่สาม……
“ดี!”
เฉินโม่แผดเสียงดังออกมา ก้าวออกมาหนึ่งก้าว ซัดหมัดที่มีพลานุภาพแข็งแกร่งออกมา
“ท่าที่สามของหมัดเทพเทียนเสวียน ปรับฟ้าดิน!”
การเคลื่อนไหวอันแข็งแกร่ง กระเพื่อมออกไปอย่างรวดเร็ว เหมือนทั้งท้องฟ้ายามค่ำคืนสั่นสะเทือนไปครู่หนึ่ง
แสงดวงดาวที่ลอยอยู่บนหัวเฉินโม่ เหมือนเสือดุร้ายโดนยั่วโมโห จู่ๆ ก็ส่องแสงสว่างจ้า พุ่งลงมาทางเฉินโม่ทั้งหมด
ตู้มตู้มตู้ม……
เสียงระเบิดเหมือนสายฟ้าอึกทึก ดังสะเทือนแก้วหู ท้องฟ้าสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เหมือนขีปนาวุธระเบิดอยู่กลางท้องฟ้า
มีแสงจ้าระเบิดรอบตัวเฉินโม่ ทำให้นักบู๊ที่ต่ำว่าระดับปรมาจารย์ ถึงกับลืมตาไม่ขึ้น
เสียงระเบิดดังต่อเนื่องหนึ่งนาทีจึงหยุดลง ทุกคนหันไปทางเฉินโม่ พบว่าตำแหน่งที่เฉินโม่เคยยืนอยู่ โดนทำลายจนราบเป็นหน้ากลอง ส่วนเฉินโม่หายไปอย่างไร้ร่องรอย
“จบแล้วเหรอ”
ทุกคนตกใจเป็นอย่างมาก การโจมตีนี้แข็งแกร่งมากจริงๆ ถ้าเปลี่ยนเป็นพวกเขา เกรงว่าตอนที่แสงดวงดาวดวงแรกร่วงลงมา พวกเขาก็คงไม่สามารถต้านทานได้แล้ว
“เฉินไต้ซือน่าจะตายแล้วสินะ” ไช่เหวินหย่าเผยสีหน้าตื่นเต้นออกมา แล้วถามขึ้นเสียงเบา
คนระดับสูงของตระกูลไช่คนหนึ่ง เผยรอยยิ้มเย็นชาอย่างได้ใจออกมา “ตายแล้วแน่ๆ การโจมตีแข็งแกร่งขนาดนี้ ถึงเป็นคนเหล็กก็ต้านทานไม่ไหว มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ตายอีกล่ะ”
คนตระกูลไช่รู้สึกโล่งใจในเวลาเดียวกัน แค่เฉินไต้ซือตาย ความเสี่ยงของตระกูลไช่ก็หายไปทันที
“การโจมตีแข็งแกร่งมาก แต่จะเอาชนะผม ยังด้อยอยู่!”
อยู่ดีๆ มีเสียงเฉยเมยดังขึ้นมา ทุกคนช้อนตามองไป ตัวของเฉินโม่กำลังลอยลงมาจากฟ้า ลอยช้าๆ ลงมาบนหินขนาดใหญ่อีกก้อนหนึ่ง ตรงหน้านักพรตยู่หลง
“อะไรกัน!”
ทุกคนส่งเสียงตกใจออกมาพร้อมกัน “เฉินไต้ซือยังไม่ตายเหรอ อีกทั้งดูเหมือนไม่เป็นอะไรเลย!”
“นี่มันเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!”
ไช่เหวินหย่าอ้าปากค้างอย่างตกตะลึง ใบหน้าไม่อยากเชื่อ “เขา เขายังมีชีวิตอยู่!”
“เขาทำได้ยังไงกันแน่”