“ฝ่าบาท เจ๋ออ๋องใส่ร้ายหม่อมฉันเพคะ น้ำผึ้งเพียงแค่เล็กน้อยเช่นนั้นจะดึงดูดผีเสื้อจำนวนมากเช่นนี้ได้อย่างไร? และน้ำผึ้งก็วางอยู่บนโต๊ะผีเสื้อกลับไม่มาอย่าว่าแต่ทาในภาพวาดเลยเพคะ”
“เอ่อ……นี่……” ดูเหมือนว่าจะมีเหตุผลนะ
“ผีเสื้อถูกสิ่งเร้าทำให้ลุ่มหลงถึงได้ถูกดอกไม้ปลอมดึงดูดไปเพื่อที่จะดูดน้ำหวาน”
กู้ชูหน่วนกางมือออกแสดงให้เห็นว่าบริสุทธิ์ “เจ๋ออ๋องกล่าวอยู่ตลอดว่าหม่อมฉันใช้น้ำผึ้งมาโกง เช่นนั้นเจ๋ออ๋องก็ลองอีกครั้งว่าในหมึกที่ทาด้วยน้ำผึ้งจะสามารถดึงดูดผีเสื้อมาได้หรือไม่”
“ใช่ เจ๋ออ๋อง เจ้าลองดูสิ การประลองความรู้ไม่สามารถเลอะเลือนได้” จักรพรรดิเยี่ยทรงสนพระทัยขึ้นยิ่งนัก
กู้ชูหน่วนแขวะจักรพรรดิเยี่ยเป็นหลายพันหลายหมื่นครั้งอยู่ในใจ
คนโง่เขลาผู้นั้นจะถูกเทพแห่งสงครามรังแกหนักหนาเพียงใดถึงได้ต้องการหลอกใช้นางกดเทพแห่งสงครามไว้
ทุกคนต่างเฝ้ามองเจ๋ออ๋องทาน้ำผึ้งลงในหมึกด้วยใจที่สงสัย จากนั้นก็ได้วาดดอกโบตั๋นทีละดอกๆบานสะพรั่งเพื่อดึงดูดผีเสื้อ
หลังจากรอเป็นเวลาพักใหญ่ผีเสื้อแม้แต่ตัวเดียวกลับไม่ได้มาเชยชมเลย
เจ๋ออ๋องไม่ยอมรับความพ่ายแพ้จากนั้นก็เทน้ำผึ้งจำนวนมากลงในหมึกแล้ววาดภาพดอกโบตั๋นใหม่อีกภาพหนึ่ง
กู้ชูหน่วนเห็นเช่นนี้เข้าร่างกายก็ถอยออกห่างให้ไกลจากเจ๋ออ๋อง
ถอยไปพร้อมกันกับนางก็มีเยี่ยเฟิง
กู้ชูหน่วนเลิกคิ้ว
อยู่ดีๆเยี่ยเฟิงถอยหลังด้วยเหตุใด?
หรือว่าเขาคาดเดาสิ่งใดได้?
“ดูเหมือนว่าจะไร้ความเคลื่อนไหว?” ไม่รู้ว่าใครในฝูงชนบ่นพึมพำขึ้นประโยคหนึ่ง
“ใช่หน่ะสิ รูปดอกโบตั๋นของกู้ชูหน่วนสามารถทำให้ผีเสื้อมากมายหยุดอยู่ เหตุใดบนรูปดอกไม้นับร้อยดอกของเจ๋ออ๋องไม่มีผีเสื้อเลยสักตัว? หรือว่าความเชี่ยวชาญในการวาดภาพของกู้ชูหน่วนดีเลิศเช่นนั้นจริงๆ?”
จักรพรรดิเยี่ยทรงเป็นกังวล เจ๋ออ๋องยิ่งกังวลมากกว่า
แม่สาวอัปลักษณ์ผู้นั้นทำให้เขาอับอายไปทั่ว และครั้งนี้ไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะต้องกู้หน้าคืนมาให้ได้
ยิ่งเจ๋ออ๋องกังวลมากเท่าใดก็ยิ่งเทน้ำผึ้งมากขึ้นเท่านั้น
ทันใดนั้นดูเหมือนว่าในอากาศจะมีของบางสิ่งดังมา
ทุกคนดีใจขึ้นมา “ผีเสื้อมาแล้ว ต้องเป็นผีเสื้อมาแน่ๆ”
เจ๋ออ๋องถอนหายใจด้วยความโล่งอกและรอให้ผีเสื้อมาดูดน้ำหวานบนภาพวาดอย่างเงียบๆ
แต่เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าที่มานั้นจะไม่ใช่ผีเสื้อแต่เป็นผึ้งนับร้อยนับพันตัว
เนื่องจากเขาอยู่ใกล้ม้วนภาพวาดที่สุดผึ้งเหล่านั้นจึงได้ต่อยเข้า
ไม่รู้ว่ากู้ชูหน่วนวิ่งพุ่งไปตั้งแต่เวลาใดโดยตะโกนด้วยเสียงดังว่า “ผึ้งมาแล้ว ทุกคนรีบวิ่งหนี มีผึ้งมากมายนัก”
นางกล่าวไปด้วยพร้อมเทน้ำผึ้งทั้งอ่างไปที่ตัวเขาจากนั้นก็ก้าวเดินหนีไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อเทไปเช่นนั้นผึ้งทั้งหมดดูเหมือนจะพบทางออกและต่อยเข้าไปทางเจ๋ออ๋องเรื่อยๆทำให้เขาเจ็บปวดจนหน้าตาบูดเบี้ยว
“โอ๊ย……ข้าเจ็บปวดยิ่งนัก ไปให้พ้น ไปให้พ้น”
เจ๋ออ๋องเปลี่ยนจากความสุขุมมีระเบียบจากเดิมเป็นกลิ้งไปมาอยู่ยนพื้นอย่างไร้ความสง่างามแล้วตะโกนเสียงดังว่า “ช่วยด้วย ช่วยเร็วเข้าสิ”
ผู้ที่อยู่ใกล้กับเจ๋ออ๋องก็ถูกต่อยไปด้วย ทุกคนต่างก็แย่งกันวิ่งหนีออกจากเจ๋ออ๋อง
พวกองครักษ์จำต้องขับไล่ผึ้งออกไป แต่ว่าผึ้งจำนวนมากเช่นนี้ใช่ว่าพวกเขาจะสามารถขับไล่ไปได้อย่างง่ายดาย องครักษ์จำนวนไม่น้อยก็ถูกต่อยจนร้องตะโกนออกมาด้วยความเจ็บปวด
เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นกะทันหันจนทุกคนนั้นตื่นตระหนกตกใจกัน
กู้ชูหน่วนหยิบผลไม้ออกจากที่วางเตี้ยๆของตนและกินอย่างเอร็ดอร่อย ดวงตาทั้งคู่เหล่มองพร้อมกับรอยยิ้มอันหนักหน่วงพร้อมมองดูเจ๋ออ๋องกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนพื้นด้วยดวงตาอันเย็นชา
อี้เฉินเฟยนั้นอดหัวเราะไม่ได้
สาวน้อยผู้นี้ไม่ได้เจอมาพักหนึ่งแต่กลับยิ่งอยู่ยิ่งซนเสียแล้ว
ซั่งกวนฉู่ส่ายศีรษะด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น
เจ๋ออ๋องก็โกรธจนเลอะเลือนแล้ว กู้ชูหน่วนวางกับดักชัดเจนเช่นนี้แต่เขากลับดูไม่ออก