ไข่มุกเหยินหยวนดึงดูดใจเขามาก
แต่ตำรายากลั่นอายุวัฒนะมีแรงดึงดูดต่อเขามากกว่า
สองชิ้นแรกที่ประมูลไปไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ชิ้นที่สามนี้ต่อให้ต้องยกเอาของทุกสิ่งทุกอย่างเท่าที่มีอยู่ทั้งหมดออกมา เขาจะต้องประมูลมาให้ได้และจะไม่ยอมสูญเสียอีกต่อไป
ซั่งกวนฉู่เงยหน้าขึ้นมองเล็กน้อย ราวกับเขาก็ให้ความสนใจกับของประมูลชิ้นที่สามนี้อยู่ไม่น้อย
ไม่นานเขาก็ก้มหน้าลงหมกมุ่นกับกาน้ำชา ราวกับความสนใจนั้นมีเพียงน้อยนิด
แววตาของชิงเฟิงเป็นประกาย “นายท่าน ตำรายาอายุวัฒนะในสมัยโบราณนี้ไม่ธรรมดาเลยนะพ่ะย่ะค่ะ ไม่เช่นนั้นเรา……”
“รีบร้อนอะไร ของดีมักจะอยู่เป็นอันดับท้ายๆ ”
ลำดับท้ายๆ ?
อันดับท้ายๆ จะมีของดีอะไร?
หรือว่านายท่านจะรู้ว่าของมีค่าในงานประมูลของวันนี้คืออะไร?
แววตาของกู้ชูหน่วนเปล่งประกายอย่างประหลาดใจ
ของประมูลชิ้นที่หนึ่ง นางต้องการใช้วิธีของนางดูว่าจะสามารถทำออกมาเป็นยาอายุวัฒนะขลุ่ยหยกได้หรือไม่ นางจึงยอมประมูลด้วยราคาที่สูงเช่นนั้น
ของประมูลชิ้นที่สอง นางต้องการประมูลมาเพื่อมอบให้กับเยี่ยเฟิง ไข่มุกเหยินหยวนเม็ดนี้มีความน่าจะเป็นสูงมากว่าจะเป็นไข่มุกเม็ดนั้นของเยี่ยเฟิงที่ถูกแย่งชิงไป
ส่วนของประมูลชิ้นที่สามนั้น กลับเป็นของที่ตัวนางเองสนใจ
เมื่อต้องย้อนเวลามายังยุคโบราณ เพราะนางไม่มีความสามารถ จึงทำให้นางต้องทนทุกข์ทรมานไม่น้อยและตอนนี้นางก็อดไม่ได้ที่จะเพิ่มทักษะความสามารถของนางเอง
โดยผ่านยาอายุวัฒนะเพื่อการเพิ่มทักษะความสามารถ และนับเป็นวิธีการที่ง่ายดายที่สุดแล้ว เพราะนางเข้าใจในทักษะการรักษา ฉะนั้นนางจึงต้องการได้ครอบครองตำรายากลั่นอายุวัฒนะและศึกษา ฝึกฝนปรุงยาด้วยตัวเอง อีกทั้งยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสามารถและการพัฒนาของนางเองด้วย
อัครเสนาบดีฟื้นกลับมาต่อสู้แย่งชิงขึ้นอีกครั้ง
เขาสามารถได้มาอยู่ในตำแหน่งอัครเสนาบดีนี้ หนึ่งเลยเป็นเพราะแม่ของกู้ชูหน่วน
สองก็คือเพราะเขาได้เคยรู้จักปรมาจารย์นักปรุงยาเล่นแร่แปรธาตุคนหนึ่งเข้า และมีคนไม่น้อยที่คอยเข้ามาประจบประแจงและจากนั้นก็ได้รับประโยชน์จากตำแหน่งนี้อย่างมาก
ตำรายากลั่นอายุวัฒนะ นี้ เขาจะต้องได้มาครอบครอง
มีเพียงแค่การได้ตำรายากลั่นอายุวัฒนะมาครอบครองเท่านั้น ที่จะสามารถทำให้จวนอัครเสนาบดีของเขายังคงเจริญรุ่งเรืองต่อไปอีกหลายร้อยปี
กู้ชูอวิ๋นก็ต้องการได้ตำรายากลั่นอายุวัฒนะมาครอบครอง แต่ความคิดของนางไม่เหมือนกับอัครเสนาบดีกู้
สิ่งที่นางต้องการไม่ใช่ต้องการให้จวนอัครเสนาบดียังคงเจริญรุ่งเรืองต่อไปอีกหลายร้อยปี แต่นางเพียงต้องการให้ทักษะความสามารถของนางเพิ่มขึ้นในระยะเวลาอันสั้นๆ นี้
“ท่านพ่อ เรานำเงินมาทั้งหมดเท่าไรหรือ?” นางไม่ต้องการสูญเสียอีกครั้งเพราะเงิน
“เจ้าวางใจได้ กู้ชูหน่วนและท่านเจ๋ออ๋องและรวมไปถึงองค์หญิงตังตังไม่ได้มีเงินมากมายเช่นนั้น พวกเขาไม่กล้าแย่งชิงกับเราหรอก”
กู้ชูอวิ๋นรู้สึกวางใจขึ้นมาก
พวกเขามีทั้งองค์ชายและองค์หญิง ต่อให้ไม่มีเงินมากมายอะไร ก็คงยังดีกว่าจวนอัครเสนาบดีของพวกนาง อีกทั้งที่นี่ก็ยังมีผู้รากมากดีคนอื่นอีกจำนวนมาก
“ของประมูลชิ้นที่สาม ราคาประมูลเริ่มต้นที่สามล้านตำลึง”
อัครเสนาบดีกู้และท่านเจ๋ออ๋อง องค์หญิงตังตังและคนอื่นๆ กำลังคิดจะเปิดราคา กู้ชูหน่วนได้ยกป้ายขึ้นและตะโกน “ยี่สิบล้านตำลึง”
ซู่……
ผู้หญิงคนนี้ บ้าไปแล้วหรืออย่างไร?
เมื่อสักครู่ห้าสิบล้านตำลึงยังไม่มีปัญญาจ่ายเลย ตอนนี้กลับกล้าเปิดราคาที่ยี่สิบล้านตำลึง?
และที่สำคัญก็คือ นางเพิ่มราคาให้สมเหตุสมผลและไม่ดุเดือดเช่นนี้ไม่ได้เลยหรือ?
จากสามล้านตำลึงกระโดดไปที่ยี่สิบล้านตำลึง ระหว่างนี้เพิ่มไปไม่รู้กี่เท่า?
นางมีสมองหรือไม่นะ?
“ท่านพ่อ ท่านรีบเสนอราคาสิเจ้าคะ” กู้ชูอวิ๋นกล่าว
อัครเสนาบดีกู้สีหน้าซีดเผือด
ยี่สิบล้านตำลึง?
เขาจะไปหาเงินมาจากไหน?
ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิตของเขาแล้ว ก็ไม่สามารถยวบรวมเงินได้ถึงยี่สิบล้านตำลึง
มือที่ท่านเจ๋ออ๋องถือป้ายอยู่นั้น ราวกับมีน้ำหนักเป็นร้อยเป็นพันกิโลกรัม
ผู้หญิงอวดดี นางมาที่หอประมูลเฟิงเซียงเพื่อต้องการก่อกวนอย่างนั้นหรือ?
เคยเห็นคนที่ไม่ต้องการเงิน แต่ไม่เคยเห็นคนที่รีบโยนเงินออกจากตัวเองเช่นนี้
องค์หญิงตังตังไม่ยอมและยกม่านขึ้น จากนั้นวิ่งไปที่ราวกั้นและตรัสออกมา “นางไม่มีเงิน นางจะประมูลตำรายากลั่นอายุวัฒนะได้อย่างไร? เงินเมื่อสักครู่ก็เป็นคนอื่นจ่ายแทนนาง ข้าแนะนำให้ไล่นางออกไป เพื่อไม่ให้เป็นที่รบกวนสายตา”
กู้ชูหน่วนพูดขึ้นมาอย่างเยาะเย้ย “ท่านรู้ได้อย่างไรว่าข้าไม่มีเงิน ก่อนหน้านี้ข้าชนะเงินไปเป็นจำนวนมาก ไม่เช่นนั้น ข้าจะเล่าให้ฟังอย่างละเอียดว่าข้าชนะมาได้อย่างไร?”
องค์หญิงตังตังโมโหจนเจ็บปวดหัวใจ
ชนะได้อย่างไร?
ไม่ใช่เพราะหลอกล่อไปจากในมือของนางหรอกหรือ?
จงใจที่จะยั่วยุนางอย่างนั้นหรือ