กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ – บทที่ 344

บทที่ 344

“………..”

เจ๋ออ๋องล้มตัวลงลนเก้าอี้

แบ่งความสนใจเพียงครู่เดียว ไข่มุกเหวินหยวนก็ได้ถูกประมูลไปเสียแล้ว

ตอนนี้ต่อให้ยืมตั๋วเงินฝ่าบาท ก็ไม่มีปฏิหาริย์อะไรแล้ว

เมื่อก้มศีรษะมองลงไป เขาเห็นว่ากู้ชูหน่วนยิ้มอย่างมีชัยให้เขา ซึ่งทำให้เขารู้สึกอึดอัดมากขึ้นเรื่อยๆ ราวกับว่ามีไฟที่ไม่สามารถเผาไหม้ได้ จนอึดอัดกระวนกระวายใจ

“ท่านอ๋อง เอาอย่างนี้ดีไหมพวกเราไม่เอาไข่มุกเหวินหยวนแล้ว ของประมูลชิ้นถัดไปหากว่าเหมาะถูกใจ พวกเราค่อยทำการประมูล”

เจ๋ออ๋องยิ้มด้วยความขมขื่น

ก็ต่อให้เขาต้องการ มันก็ไม่ทันแล้ว

ตั๋วเงินของกู้ชูหน่วน ไม่รู้ว่าของนางเอง หรือว่าเป็นเทพแห่งสงครามที่ให้นาง

เงินห้าสิบล้านตำลึงเชียว แม้แต่ตาของนางยังไม่กระพริบเลย

ในห้องส่วนตัวหมายเลขสาม ซั่งกวนฉู่อยู่ในชุดสีขาวราวกับหิมะ เขานั่งข้างหน้าต่าง จิบชาพร้อมกับชงชาด้วยรอยยิ้มอบอุ่นที่บริเวณมุมปากของเขา มองลงมาอย่างแผ่วเบาเรียบเฉย

สำหรับการประมูลราคาสองชิ้น เขาไม่ได้ทำการเสนอราคาเลย

บนห้องธรรมดา ชิงเฟิงกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า“ท่านอ๋อง พระชายาเสนอราคาสูงเกินไป พวกเรากลัวมาก”

หูของกู้ชูหน่วนไวมาก ยกนิ้วโป้งขึ้นกล่าวว่า“ชิงเฟิง ครั้งนี้เจ้าฉลาดมาก เป็นเด็กที่สั่งสอนได้”

ชิงเฟิงสะดุ้งเล็กน้อย มักจะรู้สึกว่ามีเรื่องที่ไม่ดีเกิดขึ้น

เป็นอย่างที่คิด กู้ชูหน่วนกล่าวขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัยว่า“ไปจ่ายตั๋วเงินเถิด”

“อะ…..อะไรนะ? จ่ายตั๋วเงินอะไร?”

“ยังจะต้องจ่ายตั๋วเงินอะไร แน่นอนว่าเป็นตั๋วเงินที่จ่ายการประมูลไข่มุกเหวินหยวนสิ”

“นี่…..นายท่านไม่ได้เข้าร่วมการประมูล เหตุใดข้าน้อยจะต้องไปจ่ายตั๋วเงิน?”

กู้ชูหน่วนกระพริบตาอย่างไร้เดียงสา จากนั้นกล่าวอธิบายให้ชิงเฟิงฟังทีละคำทีละประโยคว่า“เขาเป็นนายท่านของเจ้า ข้าเป็นฮูหยินของนายท่านเจ้า เช่นนั้นข้านับว่าเป็นนายท่านของเจ้าครึ่งหนึ่งหรือไม่?”

“นี่……คือ…….”

“ในเมื่อข้าเป็นนายท่านของเจ้าครึ่งหนึ่ง เช่นนั้นเจ้าว่าใช่หรือไม่ว่าจะต้องฟังข้า”

ชิงเฟิงคิดไปคิดมาเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมาบ้าง เขาเลยรีบถอยหลังหนึ่งก้าว กล่าวความสัมพันธ์อย่างชัดเจนว่า“ข้าน้อยเป็นองครักษ์ข้างกายของนายท่าน ฟังแค่คำพูดของนายท่านผู้เดียว ฮูหยินอย่าทำข้าน้อยลำบากใจเลย”อยู่ด้านนอกเขาเรียกว่าฮูหยิน ไม่เรียกว่าพระชายา

“สามีภรรยาเป็นกายเดียวกัน ทรัพย์เป็นของร่วมกัน นายท่านของเจ้าก็เป็นของข้าด้วย เข้าใจหรือไม่? ”

“ข้าน้อยไม่เข้าใจ”

ชิงเฟิงยืนอยู่ด้านหลังของเยี่ยจิ่งหาน พยายามซ่อนการปรากฏตัวของเขาให้มากที่สุด

ความสามารถในการพูดของเขาไม่ดี พูดไม่สู้พระชายา ทำได้เพียงคิดรักษาระยะห่างกับนาง

เยี่ยจิ่งหานกล่าวอย่างเย็นชาว่า“ประมูลเอง จ่ายเอง”

กู้ชูหน่วนดึงหน้า กล่าวอย่างจริงจังว่า“ท่านอ๋อง ท่านกล่าวพูดเช่นนี้อาจจะไร้หัวใจความรู้สึกไปหน่อยแล้ว เหตุใดข้าถึงต้องการประมูลไข่มุกเหวินหยวน ก็ไม่ใช่ว่าเพื่อที่จะรักษาขาทั้งสองข้างกับพิษเหมันต์ของท่านหรือ ท่านก็รู้ ว่าไข่มุกเหวินหยวนสามารถรักษาพิษบาดแผลทั้งหมด แทบจะสามารถพูดได้ว่าฟื้นคืนจากความตายได้เลย”

เยี่ยจิ่งหานกระตุกริมฝีปากขึ้น

ผู้หญิงคนนี้ เริ่มปั้นเรื่องอีกแล้ว

นางเฉียบแหลมอยู่ตลอด ตายก็สามารถพูดได้ด้วย

“ท่านดูข้า ปีนี้ยังไม่ถึงยี่สิบ ไม่มีโรคไม่มีเคราะห์ร้าย ยังมีท่านที่ปกป้องข้า ผู้ใดก็ไม่สามารถทำร้ายข้าได้ ข้าจะเอาไข่มุกเหวินหยวนมาทำสิ่งใด?หากว่าข้ามีตั๋วเงิน ข้าก็อยากประมูลมาเองแล้วจะมอบแก่ท่าน แต่ว่าห้าสิบล้านตำลึงมันมากล้นเกินไปแล้ว ข้าเอาออกมาไม่ได้ไหมเล่า”

กู้ชูหน่วนกล่าวพร้อมกระพริบตาปริบๆ มือน้อยดึงอยู่ที่แขนเสื้อของเขา พูดน่าสงสารแค่ไหนก็น่าสงสารแค่นั้น

เยี่ยจิ่งหานดึงแขนเสื้อตัวเองกลับ อย่างไม่แยแส

เจ้าภาพงานกล่าวว่า“ขอเชิญแขกพิเศษหมายเลขยี่สิบแปดขึ้นมาจ่ายตั๋วเงินแล้วรับไข่มุกได้เลย”

ทุกคนต่างมองมาที่กู้ชูหน่วน เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังขึ้นเวลานี้

“เหตุใดหมายเลขยี่สิบแปดถึงยังนั่งอยู่อย่างไร้การเคลื่อนไหวล่ะ?นางคงไม่ใช่ว่าเอาตั๋วเงินห้าสิบล้านตำลึงออกมาไม่ได้หรอกนะ?”

“นั่นยังต้องพูดอีกหรือ ต้องเอามาไม่ได้อย่างแน่นอน ห้าสิบล้านตำลึงเชียว เกรงว่าลูกท่านหลานเธอตระกูลสูงศักดิ์ก็เอามามิได้หรอก”

“ชิ ไม่มีตั๋วเงินยังจะมาเสแสร้งกระเป๋าหนักอะไรกัน แม้แต่ห้าสิบล้านตำลึงก็กล้าตะโกน สมน้ำหน้าที่หามาไม่ได้”

กู้ชูหน่วนกระพริบตาอย่างน่าสงสารอย่างต่อเนื่อง กล่าวพึมพำว่า“ดูเอาเถิด มีคนพูดว่าฮูหยินของท่านไม่มีตั๋วเงินแล้วเสแสร้งทำเป็นกระเป๋าหนัก ท่านดูนะว่าศักดิ์ศรีนี้จะดึงรั้งกลับมาได้อย่างไร”

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท