กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 476
“ท่านอ๋องพระราชทานเครื่องประดับหยกสิบสองหีบ ภาพวาดพู่กันโบราณหกหีบ เรือนทางตอนใต้แปดเรือน ร้านทางตอนเหนือสามสิบหกแห่ง”
อู๊……
ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างพากันส่งเสียงอึ้งออกมา
เครื่องประดับหยกเป็นเครื่องประดับที่ดีที่สุดในใต้หล้า เป็นสัญลักษณ์ของฐานะ ไม่ว่าจะจักรพรรดิไปจนกระทั่งไพร่ฟ้า ล้วนรู้สึกมีเกียรติเมื่อได้ประดับหยกบนตัว
ท่านอ๋องมอบเครื่องประดับหยกมากถึงสิบสองหีบเลยทีเดียว
ร่ำรวยเกินไปหรือเปล่า
แล้วยังมีแปดเรือน ร้านค้าสามสิบหกแห่ง พวกเขาไม่ได้ฟังผิดใช่ไหม?
ร้านค้าในย่างตะวันตกของเมืองคือศูนย์การค้าของเมืองหลวง ซึ่งเจริญรุ่งเรืองที่สุด แค่หนึ่งร้านก็มีมูลค่ากว่าพันตำลึงทอง
ท่านอ๋องถึงให้มอบให้สามสิบหกแห่งเลยหรือ
หรูหราอลังการงานสร้างเกินไปแล้ว
ขนาดจักรพรรดิสู่ขออัครมเหสียังไม่มีสินสอดเท่านี้เลย
ดูเหมือนท่านอ๋องจะปักใจรักพระชายามาก และไม่มีทางสั่นคลอน
ถึงแม้กู้ชูหน่วนตะลึงตะลานกับสิ่งของมากมายจากเยี่ยจิ่งหาน ถึงกระนั้น นางก็ยังสนใจม้วนหนังแกะโบราณมากที่สุด
นางเดินฉับ ๆ เข้าไปเปิดหีบที่มีภาพวาดโบราณ
ภาพวาดโบราณที่งามวิจิตรตระการตาพวกนี้เป็นฝีมือคนเลื่องชื่อในราชวงศ์ก่อน ผลงานแต่ละชิ้นมีมูลค่าไม่ต่ำกว่าหนึ่งเรือน
ทว่ากู้ชูหน่วนไม่ได้สนใจสิ่งเหล่านี้ นางหยิบภาพวาดขึ้นมาแล้วคลี่ออกทีละม้วน จากนั้นก็โยนไปอีกด้านทุกแผ่น
โอ้…….
ทุกคนเห็นแล้วอึ้งตาค้าง?
ถ้าทำเสียจะทำเช่นไร?
กระทั่งชิงเฟิงยังนึกเสียดาย เขารีบกล่าวว่า “พระชายาพ่ะย่ะค่ะ พระองค์ทรงเบามือหน่อยเถอะ ภาพวาดพวกนี้ทั่วหล้ามีเพียงภาพเดียว ราคา…….”
“ของที่ข้าต้องการล่ะ?”
“หา……พระชายาต้องการสิ่งใดพ่ะย่ะค่ะ?”
“……”
กู้ชูหน่วนอยากกระทืบเขาเหลือเกิน
“ก็ม้วนหนังแกะโบราณไง”
มิฉะนั้นนางจะเอากระไร?
นางชื่นชอบพวกเพชรพลอย ทว่าเมื่อเทียบกับราษฎรนับพันนับหมื่นของเผ่าหยก ของพวกนี้ก็ไม่มีคุณค่าอันใด?
นางไม่อยากเห็นปวงชนเผ่าหยกต้องทนทุกข์ทรมานกับคำสาปโลหิตอีกต่อไป
ไม่อยากแม้แต่วินาทีเดียว
ชิงเฟิงดูรายการของขวัญ พลางส่ายหัวกล่าว “ทูลพระชายา รางวัลที่นายท่านมอบให้ไม่มีม้วนหนังแกะโบราณพ่ะย่ะค่ะ”
“เป็นไปได้เช่นไร เจ้าดูดี ๆสิ”
ชิงเฟิงอ่านอย่างละเอียดตั้งแต่ต้นจนบรรทัดสุดท้ายหลายรอบ แต่สุดท้ายก็ส่ายหัว “ไม่มีพ่ะย่ะค่ะ ไม่มีม้วนหนังแกะโบราณ”
กู้ชูหน่วนแย่งรายการมา ก่อนจะตั้งใจดูหนึ่งจบ จากนั้นก็โยนทิ้ง ใบหน้ามืดครึ้มประหนึ่งหม้อดำ “คนหลอกลวง ข้าจะไปหาเขา”
“คุณหนู ไยท่านจึงโกรธเกรี้ยวปานนี้ ท่านอ๋องให้รางวัลท่านมากมายแล้วนะเจ้าค่ะ ท่านควรขอบพระทัย จะไปขอรางวัลกับท่านอ๋องได้อย่างไรอีก”
“หลีกไป อย่ามาบ่นกระปอดกระแปดเหมือนคนแก่”
ทุกคนในล้วนอ๋องล้วนงงเป็นไก่ตาแตก
ท่านอ๋องมอบของขวัญให้มากมายเพียงนี้ พระชายายังไม่รู้จักพออีกหรือ?
โอ้สวรรค์ พระชายารู้จักคำว่า การรู้จักพอถึงจะมีความสุขหรือไม่
ชิงเฟิงก็คาดไม่ถึง พระชายาไม่รื่นรมย์ใจ ทั้งยังโกรธขึ้งอีกต่างหาก
เขารีบวิ่งตามไป ทว่ากู้ชูหน่วนได้ถีบประตูห้องหนังสือแรง ๆ แล้ว
นางกล่าวหน้าเย็นเยียบ “เยี่ยจิ่งหาน ของที่ท่านรับปากให้ข้าล่ะ?”
เยี่ยจิ่งหานวางแผนที่ในมือลง รู้สึกประหลาดใจว่าเหตุใดสีหน้ากู้ชูหน่วนจึงแย่ปานนี้
“ข้าให้ชิงเฟิงส่งไปแล้วนี่?”
“ท่านแกล้งโง่อันใด ด้านในไม่มีสิ่งที่ข้าต้องการ”
“ของที่เจ้าต้องการ?” เยี่ยจิ่งหานชะงักงัน
หรือว่าเขาไม่ได้ตรึกตรองถี่ถ้วน ลืมมอบบางสิ่งไป
“ม้วนหนังแกะโบราณล่ะ ท่านเคยรับปากว่าจะมอบให้ข้า ท่านเป็นท่านอ๋อง ตระบัดสัตย์คืนคำไม่ได้”
เยี่ยจิ่งหานเข้าใจในบัดดล
“เจ้าร้อนใจอยากได้ม้วนหนังแกะโบราณทำไม หรือมันมีความลับอะไร?” หรืออี้เฉินเฟยต้องการม้วนโบราณนั่น?
นางอยากมอบให้แมงดาอี้เฉินเฟย?
กู้ชูหน่วนปรับอารมณ์ตัวเอง ก่อนจะปั้นรอยยิ้มที่ไม่ธรรมชาติเอาซะเลย พยายามแสร้งพูดลอยหน้าลอยตา “มีความลับอะไร แต่สนใจม้วนหนังแกะโบราณเท่านั้น แค่อยากดูเฉย ๆ ”
นางยิ่งเป็นเช่นี้ เยี่ยจิ่งหานยิ่งสงสัย
“ใช่หรือ……”
“ใช่แน่นอน ดังนั้นท่านอ๋อง ท่านยืมให้ข้าดูหน่อยเถอะ ท่านดูสิ ข้ามอบกายให้ท่านแล้วมิใช่หรือ?”
“ไยข้าจึงรู้สึกว่าที่เจ้าหลับนอนกับข้าเพียงเพื่ออยากได้ม้วนหนังแกะโบราณนั่น”
“ฟ้าดินเป็นพยาน ข้าจะนอนกับท่านเพียงเพื่อม้วนหนังแกะโบราณหรือ กู้ชูหน่วนอย่างข้าเหมือนคนมักง่ายเช่นนั้นหรือ?”
สีหน้าเยี่ยจิ่งหานดีขึ้นเล็กน้อย ทว่าปากยังคงลั่นวาจาไม่น่าฟังนัก “เจ้าไม่ใช่คนมักง่าย แต่เจ้ามักง่ายขึ้นมาไม่ใช่คน”
“……”
“ดังนั้นท่านอ๋อง ควรมอบม้วนแกะโบราณให้ข้าใช่หรือไม่”
“เจ้าจะได้ทุกสิ่งที่ต้องการ มีเพียงม้วนแกะโบราณ ข้าไม่ให้เจ้า”
“ทำไม……”
กู้ชูหน่วนระเบิดอารมณ์
นางยอมคืนของทุกชิ้นเพื่อแลกกับม้วนหนังแกะโบราณ
“เพราะข้าชอบม้วนหนังแกะโบราณ ไม่อยากให้ใคร”
ตลกสิ้นดี หากมอบให้นาง นางก็จะเอาไปประจบไอ้หน้าขาวคนนั้นสิ
เขาจะโดนสวมเขาไม่ได้อีก
“เยี่ยจิ่งหาน ท่านไม่รักษาคำพูด ท่านเคยบอกว่าจะมอบม้วนหนังแกะโบราณให้ข้า”
“ข้ารับปากเจ้าตอนไหน”
กู้ชูหน่วนโกรธจนสั่นเทิ้ม
พอได้กินหนำใจแล้วก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้หรือ
“ข้าขอถามท่านครั้งสุดท้าย ท่านจะมอบม้วนหนังแกะโบราณหรือไม่?”
“ไม่มอบ”
“ได้”
กู้ชูหน่วนสะบัดชายเสื้อจากไป และยังไม่ลืมปิดประตูแรง ๆ ด้วย
คนด้านนอกได้ยินพวกเขาสองคนทะเลาะกัน ต่างพากันตัวสั่นเทา
มีเพียงพระชายาที่กล้าปฏิบัติเช่นนี้กับท่านอ๋อง
ชิงเฟิงกล่าวไม่ค่อยเต็มเสียง “นายท่าน พระชายาโกรธแล้ว เอ่อ……”
“นางโกรธ ข้าก็โกรธเหมือนกัน”
วันก่อนยังนัวเนียกับเขาอยู่เลย มาวันนี้กลับมาขอม้วนหนังแกะโบราณเพื่อไอ้หน้าขาวนั่น นางเห็นเขาเป็นตัวอะไร?
ชิงเฟิงหุบปากอย่างรู้งาน
เรื่องระหว่างนายท่านกับพระชายา เขาไม่ยุ่งจะดีกว่า
หวังว่าพระชายาจะไม่พาลใส่พวกเขานะ
เมื่อหายโกรธ เยี่ยจิ่งหานจึงกล่าวว่า “ไปดูพระชายา อย่าให้นางทำเรื่องโง่ๆขึ้นมา”
ชิงเฟิงอยากตอบว่าพระชายาไม่ใช่คนจิตใจบอบบาง
นางจะฆ่าตัวตายได้อย่างไร
ทว่านายท่านสั่งการ เขาก็ต้องไป
วันรุ่งขึ้น ทั่วทั้งเมืองหลวงต่างเผยแพร่ภาพวาดเหมือนของเทพสงครามร่วมเตียงกับสตรีที่อ้วนเตี้ยและอัปลักษณ์
ในภาพวาดเหมือน เทพสงครามนอนหน้าแดงก่ำอย่างหิวโหยอยู่ด้านล่าง
ส่วนสตรีผู้ซึ่งทั้งอัปลักษณ์และอ้วนเตี้ยประหนึ่งจักรพรรดินีกำลังเสพสุขจากเขาด้านบน
ภาพวาดเปลือยกาย
ชวนให้คนมองอดหน้าแดงเปล่งปลั่งไม่ได้
จึงอึกทึกกันทั้งเมืองหลวง
เทพสงครามกลายเป็นตัวตลกของคนทั้งเมืองหลวง
ถึงแม้ภาพวาดเหมือนพวกนั้นจะถูกทหารของเทพสงครามเผาทิ้งในเวลาอันสั้น
และผู้ที่ส่งต่อภาพวาดเหมือนล้วนถูกเทพสงครามจับกุม ไม่เว้นกระทั่งผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ ซึ่งถูกจับไปไม่น้อย
ทว่าก็สยบเสียงซุบซิบอื้ออึงของปวงชนไม่ได้
“ได้ยินหรือยัง เทพสงครามชอบพอกับสตรีที่ทั้งอ้วน อัปลักษณ์และเตี้ย ฮ่า ๆ ๆ และที่สำคัญ เทพสงครามเป็นฝ่ายรับ”
“หา…..ไม่ใช่กระมัง เทพสงครามเป็นใคร เขาจะเป็นฝ่ายรับได้เยี่ยงใด อีกอย่างเขาอยากได้สตรีแบบไหนล้วนทำได้ คงไม่ถึงขั้นชอบสตรีอ้วนและอัปลักษณ์กระมัง?”
“จริงนะ คนในเมืองหลวงเกือบรู้กันหมดแล้ว เจ้ารู้ไหมว่าทำไมเทพสงครามจึงสู่ขอคุณหนูสามแห่งตระกูลกู้”
“ทำไม?”
“ก็เพราะคุณหนูสามตระกูลกู้อัปลักษณ์ไง ตอนพวกเขาทำพิธีสมรส นางอัปลักษณ์มาก”
บทที่ 475