กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 469
เยี่ยจิ่งหานกล่าวอย่างเฉยเมย “อืม”
นี่เป็นครั้งแรกและทำใหม่อยู่หลายครั้ง เขาไม่รู้ว่าจะถูกปากนางหรือไม่
“สำหรับฝีมือของท่าน ถือได้ว่าเป็นลักษณะของผัวที่ยอดเยี่ยม”
“ผัว?”
“แปลว่าสามี”
เพียงแค่คำพูดเดียวก็ทำให้หัวใจที่มืดมิดของเยี่ยจิ่งหานกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
เขากำลังคิดอะไรอยู่ แม้ว่ากู้ชูหน่วนจะมีจุดประสงค์อื่น แต่อย่างน้อยก็มีความรู้สึกต่อเขา
“หากเจ้าชอบกินข้าวต้มปลา ต่อไปข้าจะทำให้เจ้ากินทุกวัน”
“แค่ก ๆ ๆ……”
กู้ชูหน่วนเกือบจะสำลักออกมา
เขากำลังแสดงความรักอันลึกซึ้งให้ใครดูกัน?
ทำให้นางกินทุกวัน?
นางไม่ได้ยินผิดไปใช่หรือไม่
หรือว่าเยี่ยจิ่งหานจะสนใจนางจริง ๆ ?
แต่อย่าเลยดีกว่า นางยังอยากมีชีวิตอยู่อีกหลายปี
“ท่านเป็นท่านองค์ ท่านทำข้าวต้มปลาให้ข้ากินทุกวัน ข้าจะรับไว้ได้อย่างไร ท่านควรจะต้มให้ผู้อื่นกิน”
กู้ชูหน่วนบอกเป็นนัย ๆ ว่าเขาทำให้หญิงอื่นกิน
แต่เยี่ยจิ่งหานเข้าใจผิด เขาจ้องมองท้องที่แบนราบของนางอย่างมึนงง และกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “อันที่จริง ไม่จำเป็นต้องเลือกที่รักมักที่ชัง”
“แค่ก ๆ ๆ……”
กู้ชูหน่วนก้มลงมองท้องของตัวเอง และเกือบจะสำลักออกมาอีกครั้ง เดิมที่ข้าวต้มปลาทั้งหอมและนุ่ม แต่ในตอนนี้นางไม่สนใจแล้ว
“โตขนาดนี้แล้ว ทำไมกินข้าวต้มปลาแล้วยังจะสำลักอยู่อีก” ในขณะที่พูด เยี่ยจิ่งหานก็ลูบหลังให้นาง
กู้ชูหน่วนรีบออกห่างจากเขา และยื่นชามในมือให้เขา “ข้าอิ่มแล้ว ท่านกินเถอะ”
“กินแค่ไม่กี่คำก็อิ่มแล้วหรือ?”
“อืม”
เยี่ยจิ่งหานโบกมือให้คนถอยออกไป และมุมปากของเขายกขึ้น “พรุ่งนี้เช้าข้าจะทำให้เจ้ากินอีก”
“ไม่ต้อง ๆ กินข้าวต้มปลาทุกวัน ข้ากลัวว่าคอเลสเตอรอลจะสูงเกินไป”
“คอเลสเตอรอล?”
“พูดไปท่านก็ไม่เข้าใจ ข้าอยากพักผ่อนแล้ว” นางต้องการจะบอกว่าท่านออกไปได้แล้ว คืนนี้นางจะนอนที่นี่
“คืนนี้จะพักที่นี่หรือ?”
กู้ชูหน่วนกะพริบตาปริบ ๆ อย่างที่ไร้เดียงสา และกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ออดอ้อน “ท่านพี่ คืนนี้ข้านอนที่นี่ได้หรือไม่?”
เยี่ยจิ่งหานขมวดคิ้ว สายตาเช่นนี้….
นางไม่ได้คิดจะก่อเรื่องอีกใช่หรือไม่?
เยี่ยจิ่งหานไอเบา ๆ เขาเอามือไพล่หลังและกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ตอนนี้เจ้ากำลังตั้งครรภ์ ควรจะยับยั้งชั่งใจไว้บ้าง”
กู้ชูหน่วนแบะปาก
ยับยั้งชั่งใจอะไรกัน
สมองกลวงหรือไม่
เห็นนางเป็นคนอย่างไร เห็นใครก็เข้าไปหาเรื่องงั้นหรือ?
กู้ชูหน่วนแทบอยากจะเขกกบาลเขาแรง ๆ สักที
คนหลงตัวเอง
“ท่านพี่ ไม่รู้ว่าเหตุใดเมื่อข้าเข้าไปในเรือนอุสุม ข้าถึงรู้สึกไม่สบายเนื้อไม่สบายตัว นอนก็นอนไม่หลับ แต่เมื่อมาที่ห้องบรรทมของท่าน ข้าก็รู้สึกสบายตัว เช่นนั้นท่านย้ายไปนอนที่อื่นดีหรือไม่”
“ความหมายของเจ้าคือต้องการจะไล่ข้าออกไป?”
“จวนหานอ๋องทั้งหมดเป็นของท่าน หากจะพูดว่าไล่ออกไปก็ไม่ค่อยน่าฟังมากนัก ท่านดูสิ ท่านนอนอยู่บนเตียงนี้ทั้งวัน จนไม่รู้ว่าในจวนยังมีห้องดี ๆ อีกหลายห้อง ท่านน่าจะไปลองดูสักหน่อย”
“ข้าอยากอยู่ที่นี่ หากเปลี่ยนที่แล้วข้าจะนอนไม่หลับ”
เยี่ยจิ่งหานไม่สบอารมณ์เล็กน้อย
หญิงผู้นี้กำลังคิดอะไรอยู่กันแน่?
นางพยายามให้เขาเปลี่ยนที่นอน หรือเป็นเพราะนางไม่อยากร่วมห้องกับเขา และต้องการจะหาอะไรบางอย่างในห้องบรรทมของเขา
เมื่อคิดเช่นนี้ ความใจดีของเยี่ยจิ่งหานก็หายไปอีกครั้ง
“เช่นนั้นจะทำอย่างไร ข้าก็อยากจะนอนที่นี่เช่นกัน”
“มิเช่นนั้นก็นอนด้วยกัน?”
“……”
กู้ชูหน่วนอยากจะปฏิเสธ แต่นางก็กลัวว่าจะพลาดโอกาสในคืนนี้ไป และคงเป็นเรื่องยากที่จะได้เข้ามาในห้องของเขาอีก
นางกัดฟัน “ก็ได้ นอนด้วยกันก็นอนด้วยกัน”
รอให้เขาหลับ แล้วนางก็แอบลุกขึ้นมาหาม้วนหนังแกะโบราณใช่หรือไม่
คืนนี้คงจะไม่ได้นอนอีกคืน
พระจันทร์สุกสกาว ในห้องบรรทมอันโอ่อ่าและสวยงามของจวนหานอ๋อง กู้ชูหน่วนและเยี่ยจิ่งหานต่างมองตากันปริบ ๆ ไม่มีใครยอมลงไปนอนลงพักผ่อนก่อน
แสงจันทร์สาดส่องเข้ามาในห้องผ่านหน้าต่างจัตุรัส ทำให้ใบหน้าอันอ่อนโยนของพวกเขาเด่นชัดมากยิ่งขึ้น
หัวใจของเยี่ยจิ่งหานเต้นตึกตัก ๆ
ความเยือกเย็นของเขา ความเย่อหยิ่งของเขา และความเฉยเมยของเขาหายไปในทันที มีเพียงประหม่า ประหม่าจนไม่รู้ว่าจะพูดอะไร
กู้ชูหน่วนแทบอยากจะไล่เขาออกไป แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่จะไล่เขา
กว่าครึ่งชั่วยามที่เขาเหม่อลอยอย่างไม่พูดไม่จา และนั่งอ่านตำราอยู่เช่นนั้น
กู้ชูหน่วนรู้สึกอึดอัดใจและเป่าผมที่หน้าผากของตัวเอง นางทนไม่ไหวแล้ว และเอ่ยปากพูดว่า “ท่านอ๋อง ท่านไม่พักหน่อยหรือ?”
“อีกประเดี๋ยว”
“แล้วก่อนที่จะพักผ่อน ท่านไม่อาบน้ำหรือ?อย่างเช่นเพื่อกำจัดกลิ่นกาย”
เยี่ยจิ่งหานตกใจ
เขาประหม่าจนลืมอาบน้ำ
จากนั้นก็ดมกลิ่นกายของตัวเอง มีกลิ่นเหม็นสาบจาง ๆ
เยี่ยจิ่งหานกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ใครก็ได้ มาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ข้าที”
ห้องบรรทมกว้างขวางมาก แบ่งออกเป็นสองห้อง ด้านในและด้านนอก โดยด้านในมีฉากกั้นสำหรับอาบน้ำ
เดิมทีเยี่ยจิ่งหานไม่อยากอาบน้ำในห้อง
แต่หากเขาไม่อาบน้ำในห้อง ก็จะดูเหมือนเขาขี้อายและขี้ขลาด?
ถึงตอนนั้นกู้ชูหน่วนก็จะไม่ปีนขึ้นไปบนหัวของเขาหรือ?
อีกอย่างคนรับใช้ทั้งหลายก็คงจะคิดว่าเขากลัวภรรยา โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่เขากับกู้ชูหน่วนมีความสัมพันธ์กันครั้งแรก เป็นกู้ชูหน่วนที่ขืนใจเขา และในตอนนั้นชิงเฟิงกับเจี้ยงเสวี่ยต่างก็เห็น
แม้ว่าเยี่ยจิ่งหานจะไม่เจ็มใจ แต่เขาก็กัดฟันและอาบน้ำข้างในห้อง
กู้ชูหน่วนถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก
ในที่สุดก็กำจัดเทพผู้ยิ่งใหญ่ออกไปได้
เนื่องจากกลัวว่าเยี่ยจิ่งหานจะสงสัย กู้ชูหน่วนจึงมองไปรอบ ๆ ห้องและกล่าวว่า “ท่านอ๋อง ห้องของท่านดูไม่เลวเลย ดูแจกันนี่สิ แต่ละอันล้วนประณีตงดงาม คงจะเป็นวัตถุโบราณ”
เยี่ยจิ่งหานไม่สนใจ
ในขณะที่เขากำลังอาบน้ำ เขารู้สึกได้ว่ากู้ชูหน่วนกำลังดูแจกัน และหยิบจับแจกัน เห็นได้ชัดว่ากำลังหาบางอย่าง
“ท่านอ๋อง ในห้องบรรทมมีตำราค่อนข้างมาก ปกติแล้วนอกจากไปทำงานที่ห้องตำรา ท่านก็ทำงานในห้องบรรทมด้วยหรือ?”
“อืม”
เยี่ยจิ่งหานรีบอาบน้ำอย่างรวดเร็ว และกลัวว่ากู้ชูหน่วนจะบุกเข้ามา
น้อยครั้งที่อาบน้ำแล้ว เขายังรู้สึกว่ามีกลิ่นเหม็นสาบอยู่ เขาจึงให้คนเอาน้ำมาเท แล้วอาบน้ำอีกรอบ
“ท่านอ๋อง ข้าเห็นว่าเครื่องเรือนในห้องบรรทมของท่านเป็นไม้จันทน์ทั้งหมด ท่านชอบไม้จันทน์หรือ?”
กู้ชูหน่วนลุกลี้ลุกลน
นางพลิกหาจนทั่วห้องบรรทมแล้ว แต่ที่นี่ไม่พบม้วนหนังแกะโบราณ
ในตอนนี้เหลือเพียงที่ที่เขาอาบน้ำ
กู้ชูหน่วนเลือกค้นหาจากเตียงก่อน
ทันใดนั้นเยี่ยจิ่งหานก็กล่าวอย่างเยือกเย็น “ข้าจะให้คนเปลี่ยนเครื่องนอนให้สะอาด”
ในขณะที่พูด เขาก็สั่งการ
กู้ชูหน่วนกล่าวอย่างกังวล “ไม่ต้อง ๆ เครื่องนอนเหล่านี้มีกลิ่นของท่าน ข้าชอบดม อย่างนี้ก็ดีแล้ว”
ทันทีที่คำเหล่านี้ออกมา กู้ชูหน่วนก็แทบอยากจะกัดลิ้นตัวเอง
นางพูดไร้สาระอะไร เยี่ยจิ่งหานต้องเข้าใจผิดแน่ ๆ
แต่สุดท้ายก็ไม่มีเสียงใด ๆ ออกมาจากด้านหลังฉากกั้น
“ท่านอ๋อง ข้าเห็นว่าบนเตียงเปื้อนเล็กน้อย ข้าจะช่วยทำความสะอาดให้ท่าน”
“ไม่ต้อง……”
เยี่ยจิ่งหานรีบอาบน้ำ และสวมชุดคลุมอาบน้ำเดินออกมา
เขาห้ามกู้ชูหน่วน
กู้ชูหน่วนกำลังค้นหาสิ่งของบนเตียง และในที่สุดก็พบหนังสือ ในขณะที่นางกำลังจะเปิดดูก็ถูกเยี่ยจิ่งหานแย่งไป
นางรีบร้อนและคิดว่าสิ่งที่นางกำลังหา นางจึงแย่งมันกลับมา
ทั้งสองคนต่างคนต่างแย่งกัน จนตำราเปิดออก และสิ่งที่เผยให้เห็นคือตำรากามสูตร