กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 534
“เขตหวงห้ามอยู่ที่ใด ท่านพาข้าไปเปิดหูเปิดตาหน่อยสิ”
จู่ๆกู้ชูหน่วนก็หัวเราะแล้วกล่าว
น่าหลานหลิงลั่วมองนางอย่างละเอียดราวกับว่าเข้าใจอะไรบางอย่างอยู่ในสายตา
“เจ้ามาที่หุบเขาตันหุยไม่ใช่ว่าพุ่งตรงมายังเขตหวงห้ามหรอกหรือ?”
“ข้าเกิดมาก็เป็นผู้ที่ชอบเสี่ยงอันตราย ยิ่งเป็นสถานที่ยิ่งลึกลับข้าก็ยิ่งอยากไป ท่านบอกมาคำเดียวว่าท่านจะพาข้าไปหรือไม่เถอะนะ”
“น่าขันสิ้นดี ข้าเป็นนายน้อยแห่งหุบเขาตันหุย เจ้าเป็นผู้ใดกันเหตุใดข้าถึงต้องเสี่ยงอันตรายพาเจ้าเข้าไปด้านใน นอกเสียจากว่าเจ้าจะเป็นภรรยาของข้า”
“ภรรยา? อันนี้พูดง่าย เช่นนั้นก็มอบให้ท่าน”
กู้ชูหน่วนหยิบหยกแขวนออกมาจากเอวแล้วโยนให้เขาโดยตรง
น่าหลานหลิงลั่วตกตะลึงและจ้องมองตรงไปยังหยกแขวนสี่เหลี่ยมซึ่งอบอุ่นดังชิ้นหยกในมือ
“นี่เอาไว้ทำสิ่งใด?”
“สิ่งของแทนใจอย่างไรหล่ะ การแต่งงานไม่ใช่เรื่องหนึ่งหรือสองวัน ข้ามอบสิ่งของแทนใจไว้ให้ท่านก่อนพวกเราก็ถือว่าหมั้นกันเอาไว้ก่อนแล้ว”
“……”
เนื่องจากน่าหลานหลิงลั่วรู้อยู่แล้วว่ากู้ชูหน่วนนั้นไม่ได้มากพิธีและตรงไปตรงมาแต่ก็อดตกใจไม่ได้
หญิงผู้นี้ก็ช่างง่ายดายเกินไปกระมัง
พวกเขาพบกันเพียงแค่สองครั้ง ครั้งแรกที่หุบเขาโลหิตหูหลู
นางไม่ได้มีความรู้สึกใดๆต่อเขาแต่เพียงแค่คำพูดประโยคเดียวกลับหมั้นหมายกันเลยโดยตรงหรือ?
นี่ช่างเร็วเกินไปหรือเปล่า?
“เหตุใด ท่านไม่ยินยอมหรือ?” กู้ชูหน่วนถามกลับ
น่าหลานหลิงลั่วไม่รู้จะตอบอย่างไรในเวลานี้
เขาเต็มใจอยู่แล้วแต่ว่าเลอะเทอะมากเช่นนี้จุดประสงค์นั้นก็ช่างชัดเจนยิ่งนัก
“หญิงที่ข้าต้องการ หัวใจและร่างกายของนางจะต้องเป็นของข้าเท่านั้นไม่ใช่ว่าหลอกใช้ข้า”
“ดวงตาข้างใดของท่านเห็นข้าหลอกใช้ท่านหรือ?”
“……”
กู้ชูหน่วนแย่งหยกแขวนกลับมาแล้วกล่าวอย่างโกรธเคืองว่า “ช่างเถอะ ในเมื่อท่านไม่ต้องการงั้นก็ถือซะว่าข้าไม่ได้พูด เช่นไรวันมะรืนก็เป็นงานชุมนุมกลั่นยาแล้วข้าจะเข้าไปด้วยความสามารถของข้าเองก็พอแล้ว”
น่าหลานหลิงลั่วมือเท้าว่องไวจึงได้แย่งหยกแขวนกลับมาอย่างมีเงื่อนไข
“มีหลักการใดที่นำสิ่งของแทนใจที่ให้แล้วกลับไปกัน ต่อจากนี้ไปเจ้าก็เป็นคู่หมั้นของข้าและเป็นคู่หมั้นของข้าแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น เจ้าไม่สามารถแต่งงานกับผู้ใดได้อีก”
เขากล่าวแล้วก็หยิบหยกแขวนชิ้นหนึ่งออกจากอ้อมอกให้กู้ชูหน่วน หยกชิ้นนั้นเป็นหยกสีเขียวทั้งชิ้นโปร่งใสงดงาม เพียงแค่มองดูก็รู้ว่าเป็นหยกชั้นดี
กู้ชูหน่วนเพียงแค่ชำเลืองมองดูไปเช่นนั้นแล้วก็ใส่เข้าไปในวงแหวนอวกาศเลย
ยิ้มพร้อมกล่าวว่า “ได้ ข้ารับหยกแขวนของท่านเอาไว้แล้วงั้นตอนนี้ท่านพาข้าไปยังเขตหวงห้ามได้หรือยัง?”
“ต่อให้ข้าเป็นนายน้อยก็ไม่มีสิทธิ์พาเจ้าเข้าไป เว้นแต่ว่าเจ้าจะเป็นเจ้าแห่งหุบเขาหรือเป็นอันดับหนึ่งในการร่วมชุมนุมกลั่นยา แต่ว่าข้าสามารถพาเจ้าไปดูด้านนอกของเขตหวงห้ามได้”
กู้ชูหน่วนกัดฟัน “ได้ ด้านนอกเขตหวงห้ามก็ด้านนอกเขตหวงห้ามสิ”
นางไปสำรวจดูก่อน ถึงเวลานั้นก็จะช่วยประหยัดเวลาได้บ้าง
สำหรับคู่หมั้น……
หึ……
ฐานะในตอนนี้ของนางยังคงเป็นพระชายาหานอยู่ ต้องการจะแต่งงานกับนางเช่นไรก็ต้องผ่านด่านของเยี่ยจิ่งหานซะก่อน
“ท่านรอข้าสักครู่ข้าจะไปเรียนท่านพ่อบุญธรรมก่อน”
“เฮ้ๆๆท่านบอกท่านผู้เฒ่าผู้นั้นท่านผู้เฒ่านั้นยังจะให้ข้าไปด้านนอกเขตหวงห้ามอีกหรือ? เจ้าหนุ่มนี่ไม่ใช่ว่ามีกลอุบายใดอยู่หรอกนะ”
น่าหลันหลิงลั่วหัวเราะและร้องไห้ไม่ออก
ผู้มีกลอุบายไม่ใช่นางหรอกหรือ?
เขารู้ว่านางไม่ชอบเยี่ยจิ่งหานแต่ว่าตอนนี้นางก็ยังอยู่ในฐานะพระชายาหานแต่กลับรับปากว่าจะแต่งงานกับเขา นี่ไม่ได้เป็นการให้เขาบีบเยี่ยจิ่งหานซึ่งๆหน้าเข้าหรอกหรือ?
“พ่อบุญธรรมมีข้าเป็นลูกเพียงคนเดียว เรื่องการแต่งงานเรื่องใหญ่เช่นนี้จึงต้องเรียนให้พ่อบุญธรรมทราบเป็นธรรมดา ข้าไม่เพียงแค่จะเรียนให้พ่อบุญธรรมทราบเท่านั้นและยังต้องแจ้งทุกคนในหุบเขาตันหุยแม้กระทั่งทุกคนทั่วทั้งใต้หล้า”
“ไม่ต้องลำบากเช่นนี้หรอก”
นี่ไม่ได้ผลักนางไปยังตรงหน้าเยี่ยจิ่งหานหรอกหรือ?
ถึงตอนนั้นเยี่ยจิ่งหานก็จะไม่ตัดศีรษะนางหรอกหรือ
“ต้องสิ เจ้าแต่งงานกับข้าไม่ว่าอย่างไรข้าก็จะต้องมอบของขวัญแต่งงานอันมีมูลค่าแก่เจ้า จะทำให้เจ้ารู้สึกไม่ยุติธรรมได้เช่นไร”
กู้ชูหน่วนกลอกตาใส่
น่าหลานหลิงลั่วก็เป็นจิ้งจอกตัวหนึ่งเช่นกัน
จิ้งจอกเฒ่าตัวหนึ่ง
“ตามแต่ใจท่านเถอะ ข้ามีข้อเรียกร้องเพียงแค่ข้อเดียว พาข้าไปยังเขตหวงห้ามทันทีในตอนนี้ไม่เช่นนั้นการแต่งงานครั้งนี้จะถูกยกเลิกไป”
“รอข้าสิบห้านาที หลังจากสิบห้านาทีแล้วจะพาเจ้าไปในทันที”
เพิ่งกล่าวจบน่าหลานหลิงลั่วก็ได้หายตัวไปแล้ว
ในไม่ช้าหุบเขาตันหุยก็ตีระฆังมงคลขึ้น แม้แต่ผ้าสีแดงและโคมไฟสีแดงก็ได้แขวนขึ้นไปแล้ว
กู้ชูหน่วนหูดีได้ยินการสนทนาของลูกศิษย์ผู้ลาดตระเวน
“ได้ยินว่านายน้อยจะแต่งงานแล้ว เหตุใดถึงได้กะทันหันเช่นนี้ พวกเรายังไม่เคยเห็นนายหญิงน้อยเลย”
“ก็ใช่หน่ะสิ หากไม่ใช่นายน้อยถ่ายทอดคำสั่งด้วยตนเองข้ายังไม่อยากที่จะเชื่อเลย”
“ที่สำคัญที่สุดคืองานแต่งงานจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ บอกว่าพรุ่งนี้เป็นวันชุมนุมการกลั่นยาอันใดหากนายน้อยแต่งงานอีกในหุบเขาก็จะยิ่งครึกครื้นมากขึ้นอีก”
“แล้วรู้หรือไม่ว่านายหญิงน้อยผู้นั้นเป็นคนไหน?”
“ไม่รู้สิ ไม่มีวี่แววเลยแม้แต่น้อย น่าจะเป็นลูกสาวของผู้อาวุโสคนใดกระมัง ก่อนหน้านี้ท่านเจ้าหุบเขาไม่ได้กล่าวว่าจะคัดเลือกจากรายชื่อหลานสาวของผู้อาวุโสสองสามท่านไม่ใช่หรือ?”
“หากว่าเป็นหลานสาวของผู้อาวุโสจริงๆก็น่าจะมีข่าวแพร่ออกมาแล้ว ไม่มีทางเป็นหลานสาวของผู้อาวุโสเป็นแน่”
“ข้าได้ยินมาว่าดูเหมือนว่าจะเป็นบุตรสาวที่รักของในขุนนางท่านใดในเมืองหลวงของรัฐเยี่ย”
“ไม่ใช่สิ เป็นหลานสาวของผู้อาวุโส”
“บุตรสาวของขุนนางในเมืองหลวง”
ผู้ลาดตระเวณหลายคนร้อนรนจนหูตาแดงก่ำ
กู้ชูหน่วนอดไม่ได้ที่จะกระทบลิ้น
เจ้าน่าหลานหลิงลั่วช่างรวดเร็วยิ่งนัก
นี่คือการประหารก่อนค่อยรายงานทีหลัง
งานชุมนุมการกลั่นยาเป็นวันเดียวกับงานแต่งงานแล้วนางจะเข้าร่วมการชุมนุมกลั่นยาได้อย่างไร?
และเมื่อเข้าร่วมแล้วหากว่านางได้อันดับหนึ่งหล่ะ? แล้วนางจะแต่งงานอันใดอีก
แต่งงานให้เหงาหรือ?
ในขณะที่ครุ่นคิดอยู่น่าหลานหลิงลั่วก็ได้มาถึงแล้วโดยที่บนใบหน้านั้นเผยรอยยิ้มอันสดใสอยู่
“เรียบร้อยแล้ว งานแต่งงานของเรากำหนดไว้วันมะรืนนี้ซึ่งมงคลเป็นทวีคูณ”
“……”
“มีความสุขหล่ะสิ”
หึ……
ความสุข……มีสิ่งใดน่ามีความสุข นี่ขุดเอาไว้ให้นางกระโดดเลยนะ
ดวงตาของกู้ชูหน่วนกลอกไปมาและทันใดนั้นแสร้งทำเป็นบ่นว่า “วันมะรืนนี้? เร่งด่วนเช่นนี้? ไม่มีสามหนังสือหกพิธีการ? ไม่มีเครื่องยศ? การแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่ง ข้าไม่เข้าใจแจ่มแจ้งและแต่งงานกับท่านง่ายๆเช่นนี้เลยช่างไม่ยุติธรรมเกินไปหล่ะมั้ง”
“เครื่องยศได้ตระเตรียมไว้ตั้งนานแล้ว ชุดแต่งงานเป็นรุ่นจำกัดของร้านอวิ๋นเทียนและเครื่องประดับก็เช่นเดียวกัน ส่วนสามหนังสือหกพิธีการท่านแม่ของอาหน่วนเสียชีวิตเร็วและก็ได้ตัดขาดความสัมพันธ์กับท่านพ่อ ดังนั้น……แต่เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง ข้ารับประกันว่าจะจัดงานแต่งงานอันยิ่งใหญ่ให้แก่เจ้า”
อะไรวะ……
เจ้าจิ้งจอกตัวนี้ได้ตรวจสอบภูมิหลังของนางเรียบร้อยหมดแล้วสินะ
“แต่ว่า……ก่อนหน้านี้ข้าเคยแต่งงานมาก่อน และอีกฝ่ายคือเทพแห่งสงครามแห่งรัฐเยี่ย เขาทรงพลังและมีอำนาจมหาศาลเกรงว่าจะทำให้ขุ่นเคืองไม่ได้ ที่สำคัญที่สุดคือตอนนี้ข้ายังไม่ได้เลิกรากับเขา”
“ไม่เป็นไร เพียงแค่เจ้าต้องการแต่งงานกับข้า ทุกสิ่งทุกอย่างข้าสามารถจัดการให้หมดได้ ถึงแม้ว่าจะแตกหักกับเยี่ยจิ่งหานแล้วเช่นไร พวกเราหุบเขาตันหุยไม่เกรงกลัวผู้ใดอยู่แล้ว”
“……”
เขาแน่วแน่ที่จะแต่งงานกับนางสินะ
“หญิงผู้หนึ่งจะแต่งงานครั้งที่สองได้อย่างไร เช่นไรก็ต้องให้เวลากับข้าบ้างเพื่อให้ข้าตัดความสัมพันธ์กับหานอ๋องก่อน ไม่เช่นนั้นแพร่ออกไปชื่อเสียงของข้ากู้ชูหน่วนก็ช่างไม่น่าฟังนัก”
น่าหลานหลิงลั่วขมวดคิ้วพร้อมโบกพัดไปมาเบาๆแล้วกล่าวลองใจว่า “เจ้าคงจะไม่ได้ไม่ต้องการแต่งงานกับข้าหรอกนะ?”
“จะเป็นไปได้เช่นไร……ท่านคิดไปถึงที่ใดแล้ว เพียงแค่ว่าหากไม่ตัดขาดการหมั้นหมายก็ไม่เป็นการดีทั้งกับท่านและข้าท่านว่าใช่หรือไม่ ไม่เช่นนั้นก็เอาอย่างนี้ท่านให้เวลาข้าสักหน่อย ให้ข้าจัดการเรื่องราวที่ผ่านมาให้เรียบร้อยเสียก่อน”
“ข้าจะจัดการเอง”
“นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของข้าก็ให้ข้าจัดการเองเถอะนะ”
“เจ้าต้องการเวลานานเพียงใด?”
“สามวัน เพียงแค่สามวันก็พอแล้ว สามวันให้หลังข้าจะแต่งงานกับท่าน งานแต่งงานล่าช้าไปสามวันให้หลังดีไหม”
“ไม่ต้องหรอกก็เป็นวันมะรืนเถอะ วันมะรืนเป็นวันดี สามวันให้หลังฤกษ์ยามนั้นเลือกได้ลำบาก”
กู้ชูหน่วนกล่าวสิ่งใดน่าหลานหลิงลั่วก็ไม่เห็นด้วย จึงทำได้เพียงละทิ้งไป
“ตามแต่ใจท่านเถอะ แต่ว่าข้าจะบอกท่านเอาไว้ซะก่อนข้าจะต้องเข้าร่วมการชุมนุมกลั่นยาก่อนผู้ใดก็ไม่สามารถขวางข้าได้”
“ตกลง”
น่าหลานหลิงลั่วยิ้มกว้าง
หากว่านางสามารถได้รับอันดับที่หนึ่งในการชุมนุมกลั่นยา เจ้าแห่งหุบเขาและทุกคนในหุบเขาตันหุยก็จะมองนางด้วยสายตาที่ต่างออกไป
หมายเหตุ
สามหนังสือหกพิธีการ ขั้นตอนการสู่ขอเจ้าสาวแบบจีนโบราณโดยจะเป็นการแลกเปลี่ยน
หนังสือสามฉบับระหว่างตระกูล(หนังสือหมั้นหมาย หนังสือ
สินสอด หนังสือรับตัว) และการดำเนินตามพิธีการหกข้อ(การสู่ขอ
ขอวันเดือนปีเกิด การเสี่ยงทาย มอบสินสอด ดูฤกษ์ยาม
แต่งงาน)