กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ – บทที่ 559

บทที่ 559

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 559
“ออกไปจากที่นี่ก่อน”เยี่ยจิ่งหานตะโกนขึ้น

ไม่ต้องพูดถึงความแข็งแกร่งของพวกเขา เพราะมันแตกต่างกันมาก ว่ากันว่าในดินแดนที่ว่างเปล่าเวิ้งว้างนี้ พวกเขาก็ไม่ได้รับประโยชน์ผลดีใดๆเลย

กู้ชูหน่วนต้องการการกล่าวเตือนจากเยี่ยจิ่งหานที่ไหนกัน

นางหยิบกุญแจรูปดาวออกมา แล้วรีบวิ่งออกไปตรงทางออกทันที ปากก็กล่าวตะโกนว่า“ลมแรงกรรโชก ไม่ได้การณ์แล้ว ฝ่ายตรงข้ามเก่งมาก รีบหนี”

“บึม….”

กุญแจรูปดาวถูกแย่งชิง กิเลนเขาเดียวโมโหเป็นอย่างมาก ปากของมันกวาดไปทั่วสารทิศ คิดไม่ถึงเลยว่ามันจะพังทะลายกำแพงหินที่อยู่ด้านข้างประตูหินจนแหลกราน แล้วมันยังขวางประตูถ้ำและขวางพวกของกู้ชูหน่วนไว้ด้วย

ดวงตาทั้งสองข้างของกิเลนเขาเดียวแดงก่ำ พร้อมที่จะสังหารทุกคนโดยเฉพาะกู้ชูหน่วน

สีชิ่นเป็นห่วงกู้ชูหน่วน โดยไม่สนใจว่ากิเลนเขาเดียวมีความแข็งแกร่งระดับเจ็ด และได้ขวางอยู่ตรงหน้าของนางไว้

รูม่านตาของกู้ชูหน่วนหดลง กรงเล็บที่แหลมคมแทบจะกรีดกรายลงบนร่างกายของสีชิ่นแล้ว

กู้ชูหน่วนไม่รู้เหมือนกันว่ามีเรี่ยวแรงมาจากไหน นางได้พุ่งอาวุธลับลอยไป มือข้างหนึ่งดึงสีชิ่นกลับมาทางด้านหลัง

อาวุธลับไร้ประโยชน์ใช้ไม่ได้กับกิเลนเขาเดียวหรอก

เพราะนางดึงอย่างนั้น ตัวเองจึงได้ปรากฎอยู่ตรงหน้ากิเลนเขาเดียวอีกครั้ง

“โฮก….”

เสียงคำรามดังขึ้น กิเลนเขาเดียวได้พ่นคำรามไฟออกมา

เวลาเดียวกัน เยี่ยจิ่งหานกับจอมมารได้ยื่นมือมาพร้อมกัน

เปลวไฟโหมกระหน่ำ ร่างกายของพวกเขาแทบถูกแผดเผา

ท่ามกลางไฟที่ลุกโหมกระหน่ำ ได้ยินได้เห็นเพียงเสียงถุยน้ำลายของเยี่ยจิ่งหาน ที่มีเลือดออกมาด้วย คนนั้นเหมือนกับเชือกว่าวที่ขาดสะบั้น ไร้เรี่ยวแรงร่องลอย สุดท้ายไปกระทบที่ประตูหิน

รูม่านตาของกู้ชูหน่วนหดลง

ท่ามกลางไฟโหมกระหน่ำ นางเห็นเยี่ยจิ่งหานเห็นตนเองไม่ใช่ศัตรู และยังใช้ร่างกายของตนเองบังการโจมตีของกิเลนเขาเดียวให้นางด้วย

ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก เร็วจนนางแทบจะมองไม่เห็นไป๋จิ่น สีชิ่น กับจอมมารว่าบาดเจ็บอย่างไร

กิเลนเขาเดียวบ้าระห่ำอย่างต่อเนื่อง ผู้อาวุโสของเผ่าเพลิงฟ้ามองจนตื่นตะลึงตกใจ และพยายามหาทางออก

พวกเขาไม่เคลื่อนไหวยังดี พอเคลื่อนไหว กิเลนเขาเดียวก็เพ่งเล็งมาที่พวกเขา และมุ่งตรงมาสังหาร

ผู้อาวุโสของเผ่าเพลิงฟ้าที่น่าสงสารสูญเสียศิลปะการต่อสู้ทั้งหมดของพวกเขาที่นี่ และทำได้เพียงถูกคนอื่นสังหาร ชั่วพริบตาเดียวก็แทบบาดเจ็บล้มตายได้หมด

การเดินทางเข้าสถานที่ต้องห้าม สำหรับเผ่าเพลิงฟ้านั้นถือเป็นการกระทบกระเทือนอย่างยิ่งใหญ่โดยไม่ต้องสงสัย

เหล่าอาวุโสของเผ่าเพลิงฟ้ามากมายตายอยู่ในสถานที่ต้องห้าม

หากไม่ใช่การกระทำที่รวดเร็วของเหวินเส่าอี๋ เกรงว่าเขาก็ต้องเสียชีวิตอยู่ที่นี่แล้ว

“เยี่ยจิ่งหาน ท่านเป็นอย่างไรบ้าง”

กู้ชูหน่วนประคองเยี่ยจิ่งหาน นางรู้สึกว่าร่างกายของเขาเย็นเฉียบ และพลังชีวิตกำลังค่อยๆจางหายไป

กู้ชูหน่วนรีบหยิบยาอายุวัฒนะยัดเข้าไปในปากเขา

“เยี่ยจิ่งหาน ข้าไม่อนุญาตให้ท่านตาย ท่านได้ยินข้าไหม”

เยี่ยจิ่งหานเห็นนางไม่เป็นไร ริมฝีปากจึงฉีกยิ้มอย่างเบาใจโล่งอกขึ้นมา

รอยยิ้มนี้ มันทิ่มแทงตาของกู้ชูหน่วนมาก

นางตาลายหรือ?

เยี่ยจิ่งหานยอมสละชีวิตเพื่อนางหรือ?

“แม่นางกู้ ไม่ควรอยู่สถานที่แห่งนี้นาน พวกเรารีบออกไปกันเถิด”

ไป๋จิ่นเพิ่งจะกล่าวออกมา และเหวินเส่าอี๋ที่บาดเจ็บหนักได้ล้มลงตรงหน้าพวกเขา เลือดสีแดงฉานกระอักออกมาจากปากเขา และเปื้อนเปรอะอยู่บนเสื้อขาว

จอมมารกล่าวว่า“พวกเจ้าพาท่านพี่หญิงออกไปก่อน ข้าจะรั้งเขาไว้เอง ข้าไม่เชื่อหรอกว่าแม้แต่สัตว์ตัวหนึ่งข้าจะไม่สามารถรับมือกับมันได้”

“เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นจอมมารที่แท้จริงหรือ ตอนนี้เจ้ามีวรยุทธ์หรือไม่?แบกเยี่ยจิ่งหาน ข้าประคองหลัง ทุกคนกลั้นหายใจ”

เมื่อคำพูดเปล่งออกมา กู้ชูหน่วนกลั้นหายใจและโรยผงยาสลบพิษหลายสิบเท่าตัว โดยตั้งใจจะวางยาพิษกิเลนเขาเดียว

ปริมาณยาหนักมาก แต่น่าเสียดายที่มันไม่ได้มีผลต่อระดับเจ็ดอย่างกิเลนเขาเดียวเลย

เวลานี้ประตูหินก็ปิดอยู่

กู้ชูหน่วนบวกปริมาณยาสลบอีกครั้ง

ทุกคนล้วนมึนงง แม้แต่ตัวนางเองที่เป็นคนวางยายังรู้สึกโดนยาสลบด้วยเลย แต่ว่ากิเลนเขาเดียวไม่มีปฏิกิริยาเลยสักนิดหนึ่ง

“เหี้ย….”

กู้ชูหน่วนอดไม่ได้ที่จะสบถออกมา

ใช้พิษมาตั้งหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่ใช้ปริมาณเยอะแบบนี้

และก็เป็นครั้งแรกที่จะทำให้ตนเองเกือบถูกพิษด้วย แต่มันก็ยังไม่สามารถทำอะไรกิเลนเขาเดียวได้

หรือวันนี้กำหนดไว้ว่าต้องตายที่นี่แล้ว?

ตอนที่ทุกคนไร้ซึ่งความหวัง เสียงประตูหินดังขึ้น ทันใดนั้นมันได้แตกแยกออก และคนแรกที่เข้าไปคือรองหัวหน้าเผ่าซือคงกับผู้อาวุโสเผ่าหยกจำนวนหนึ่ง

กู้ชูหน่วนเหลือบตาหันไปมอง และทิ้งกุญแจรูปดาวที่อยู่ในมือไปทางรองหัวหน้าเผ่าซือคง

ตนเองได้ประคองเยี่ยจิ่งหาน และพาพวกไป๋จิ่นถอยทัพ

รองหัวหน้าเผ่าซือคงมองกุญแจรูปดาวที่อยู่ในมือของตนเองด้วยความชะงักงัน และได้ยินเพียงเหวินเส่าอี๋ร้องตะโกนใส่เขา

“รีบทิ้งกุญแจรูปดาวเสีย”

“โฮก….”

รองหัวหน้าเผ่าซือคงอยากจะทิ้ง แต่น่าเสียดายช้าไปหนึ่งก้าว

กิเลนเขาเดียวได้โผเข้าหาเขาแล้ว อีกทั้งพอลงมือไม่มีการออมมือเลยแม้แต่น้อย

รองหัวหน้าเผ่าซือคงโมโห อยากจะขวางการเข้าหานี้

แต่ไม่รู้ว่าพลังภายในของจุดตันเถียนของเขาได้หายไปอย่างสมบูรณ์ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

ยอดฝีมือต่อสู้กัน เผลอแวบเดียวก็สามารถพ่ายแพ้ได้ เพราะเหตุใดรองหัวหน้าเผ่าซือคงได้ไร้ซึ่งจิตวิญญาณไปถึงสองครั้งล่ะ

“รองหัวหน้าเผ่า….”

เหวินเส่าอี๋โยนฉินหิมะที่อยู่บนหลังไป แม้ว่าเขาจะไม่มีทักษะศิลปะการต่อสู้ แต่เขาก็ยังโผตัวเองไปที่กิเลนเขาเดียว เพื่อหาโอกาสให้รองหัวหน้าเผ่าซือคงได้หายใจ

“อัก….”

เหวินเส่าอี๋บาดเจ็บหนัก ใบหน้าซีดเผือด

ไม่รู้ว่าชุดสีขาวบนร่างกายของเขาเปื้อนเลือดตั้งแต่เมื่อไหร่ หากว่าวิชาตัวเบาของเขาไม่โดดเด่น เกรงว่าจะกลายเป็นน้ำโลหิตเสียแล้วกระมัง

หลังจากที่กิเลนเขาเดียวทำให้เหวินเส่าอี๋บาดเจ็บหนัก ระดับความเร็วที่คงกระโจนเข้าหารองหัวหน้าเผ่าซือคงอย่างต่อเนื่อง

ช่วงเวลาคับขัน เพื่อการมีชีวิตรอด รองหัวหน้าเผ่าซือคงไม่เสียดายที่จะผลักเหวินเส่าอี๋ที่ช่วยเขาและได้รับบาดเจ็บหนักออกไป แล้วตนเองจึงวิ่งหลบหนีอย่างรวดเร็ว

กู้ชูหน่วนห่างจากเหวินเส่าอี๋ไม่ไกล นางเห็นเหตุการณ์อย่างแจ่มแจ้งชัดเจน

“สารเลว ไร้ยางอาย”

นางกับเผ่าเพลิงฟ้ามีความเคียดแค้นต่อกันอย่างหนัก เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้

นางไม่อยากไปช่วยเหวินเส่าอี๋ แต่นางไม่ชอบใจที่รองหัวหน้าเผ่าซือคงกระทำเลวทรามต่ำช้าเช่นนี้

“ไปตายซะเถิด”

กู้ชูหน่วนทิ้งเยี่ยจิ่งหานให้ไป๋จิ่นกับสีชิ่น ตนเองถอยหลัง เพื่อขวางทางรองหัวหน้าเผ่าซือคงไว้

“เจ้าเด็กอัปลักษณ์ เจ้าถอยออกไป ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ”

“ตาแก่ เจ้าดึงอะไรกัน อยู่ที่นี่เจ้าก็เป็นเพียงแค่คนแก่ที่เป็นไม้ใกล้ฝั่งเท่านั้นเอง เจ้าคิดว่าเจ้ามีอำนาจที่เหลือล้น คิดจะทำอะไรก็ได้อย่างนั้นหรือ”

“ปังๆๆๆ….”

เมื่อคุยกันไม่ได้ ทั้งสองก็ได้เกิดการต่อสู้กันขึ้น

หากเป็นปกติ กู้ชูหน่วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของรองหัวหน้าเผ่าซือคงหรอก

แต่คนสองคนตรงหน้าเวลานี้ได้สูญเสียวรยุทธ์ไปแล้ว วรยุทธ์พื้นฐานของพวกเขาไม่เลว กำลังร่างกายความแข็งแรงก็พอกัน คิดไม่ถึงว่าจะไม่สามารถบอกแยกผู้แพ้ชนะได้ชั่วขณะ

รองหัวหน้าเผ่าซือคงอยากจะรีบร้อนออกไปโดยทันที ไม่อยากจะพัวพันกับกู้ชูหน่วนมาก แต่กู้ชูหน่วนพยายามดึงรั้งเขาไว้

จอมมารเห็นสถานการณ์ ก็เข้าร่วมสนามต่อสู้ด้วย เพื่อจะช่วยกู้ชูหน่วนรับมือกับรองหัวหน้าเผ่าซือคง

“เจ้าเด็กน้อย ไม่ใช่ว่าเจ้าสนใจกุญแจรูปดาวมากหรือ เหตุใดถึงได้เอามันให้คนแล้ว?”

กู้ชูหน่วนกรอกตาขาวมองบน

โง่หรือ แน่นอนว่าของปลอม นางจะเอากุญแจรูปดาวของจริงให้ได้อย่างไร

สองต่อหนึ่ง บวกกับกิเลนเขาเดียวจับจ้องมอง และบ่อยครั้งที่แทบจะโผเข้ามาสังหาร

รองหัวหน้าเผ่าซือคงยิ่งรีบร้อนใจยิ่งล้มเหลว

เดิมกู้ชูหน่วนคิดจะเหลือรองหัวหน้าเผ่าซือคงไว้ ไม่รู้ว่านึกถึงความแค้นอันลึกซึ้งของเผ่าหยกได้หรือไม่ ความอำมหิตของนางจึงสำแดงออกมา และทุกการเดินหมากเหี้ยมโหดเป็นอย่างมาก

ภายในความว่างเปล่าเวิ้งว้าง การต่อสู้ได้เริ่มต้นอย่างเหี้ยมโหด

ช่วงระหว่างเข่นฆ่าโรมรัน ไม่รู้ว่าใครไปสัมผัสโดนเล่ห์กลอะไร

ทันใดนั้น ระลอกคลื่นน้ำก็ปรากฎขึ้นบนดินแดนอันเวิ้งว้างกว้างใหญ่ไพศาลและความแข็งแกร่งของมันเทียบได้กับพายุระดับสิบ ดูดทุกคนเข้าสู่ระลอกคลื่นน้ำนั้น

เหวินเส่าอี๋ที่ได้รับบาดเจ็บหนักถูกดึงดูดเข้าไปคนแรก

สีชิ่นคนที่สอง

ไป๋จิ่นดึงสีชิ่นไว้แน่น

ไม่ว่าทั้งสองคนจะดิ้นรนอย่างไรก็ยังคงล้มเหลว

กู้ชูหน่วนคว้ามือของไป๋จิ่นไว้แน่น แม้แต่นางก็ถูกดูดเข้าไปด้วย

เยี่ยจิ่งหานกับจอมมารพร้อมใจกันจับมือของกู้ชูหน่วน ผลสรุปได้ถูกดูดด้วยกัน

ก็แม้แต่ผู้อาวุโสเจ็ดกับฮวาฉี่หลัวที่ติดสอยห้อยตามมา ก็ถูกดูดเข้าไป

มีเพียงคนเดียวที่ไม่ถูกดูดเข้าไป นั่นก็คือกิเลนเขาเดียวแห่งความเวิ้งว้าง

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท