กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 734
ผู้อาวุโสไท่ซั่งและผู้อาวุโสสูงสุดก็ไล่ตามไปด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม พวกเขาบาดเจ็บสาหัสอย่างมาก เพื่อจะลุกขึ้นได้ก็กลับล้มลงอีกครั้ง จึงทำได้เพียงปล่อยให้คนอื่นที่เคลื่อนไหวคล่องตัวกว่าไล่ตามไปและจำเป็นต้องหาเขาให้เจอ จากนั้นฆ่าเสียให้ตาย เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องปัญหาขึ้นอีก
กู้ชูหน่วนขยับร่างกายที่บาดเจ็บสาหัสและจากไปเพื่อค้นหาพวกเขาด้วยเช่นกัน
ในฐานะที่เป็นหัวหน้าเผ่าของเผ่าหยก นางควรจะฆ่าคนของเผ่าเพลิงฟ้าทิ้งเสียทุกคน
วินาทีนี้ นางกลับคาดหวังให้เหวินเส่าอี๋หลบหนีออกไปจากเผ่าหยกให้ได้ เพื่อจะได้มีชีวิตรอดออกไป
ที่ทางเข้าเหวไม่มีที่สิ้นสุดของเผ่าหยก เหวินเส่าอี๋และผู้อาวุโสสูงสุดอั้นเฮยต่างล้มลงกับพื้นและส่งเสียงดัง
เหวินเส่าอี๋ขมวดคิ้วด้วยความเจ็บปวด
เขาอดทนกับความเจ็บปวดและฝืนคลานขึ้นมา สิ่งที่ดึงดูดเขาก็คือผู้อาวุโสสูงสุดอั้นเฮยที่เลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เล็ก
ร่างกายของผู้อาวุโสสูงสุดอั้นเฮยเต็มไปด้วยบาดแผลและเต็มไปด้วยแผลที่มีเลือดไหลหยดย้อยออกมา
และมีหลายที่ในร่างกายที่เนื้อและผิวหนังถูกกัดขาดเป็นชิ้น เหมือนดังเช่นร่างกายของเขา ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเกิดจากการถูกสัตว์ร้ายกัด
เพียงแต่ผู้อาวุโสสูงสุดอั้นเฮยนั้นอาการแย่กว่าเขามาก
เพราะว่าขาข้างหนึ่งของเขาถูกกัดจนเหลือเพียงแค่โครงกระดูก และมือข้างหนึ่งก็ถูกกัดจนขาดลง ตอนนี้จึงเหลือเพียงมือและเท้าข้างเดียวเท่านั้น
“ท่านปู่อั้นเฮย เหตุใดท่านถึงบาดเจ็บถึงเพียงนี้……”
น้ำตาของเหวินเส่าอี๋หยุดไม่ได้อีกต่อไปและน้ำตาก็ไหลร่วงออกมา เขาตัวสั่นและอยากจะสัมผัสมือและเท้าของอั้นเฮย แต่กลับไม่กล้าสัมผัส เพราะกลัวว่าเมื่อสัมผัสมือและเท้าของเขาจะหลุดลงทันที
อั้นเฮยกล่าวอย่างเหนื่อยหอบ “เป็นเพราะนังปีศาจกู้ชูหน่วนนั่น นางใช้เจ้าเป็นเหยื่อล่อเพื่อหลอกล่อข้าไปยังเหวไร้ที่สิ้นสุดและสุดท้ายก็วางแผนให้ข้าตกลงไปยังนรกขุมที่สิบแปด บาดแผลเหล่านี้ล้วนได้รับมาจากเหวไร้ที่สิ้นสุดทั้งสิ้น”
เหวินเส่าอี๋ตกใจและดูเหมือนร่างกายของเขาจะแข็งทื่อ
อั้นเฮยคิดว่าเขาจะเป็นกังวลต่อบาดแผลของเขา จากนั้นเขาจึงฝืนยิ้มออกมาและพูดปลอบใจ “ไม่ต้องห่วงหรอก ปู่อั้นเฮยของเจ้ามีอายุมาจนถึงปูนนี้แล้วและพบเจออะไรมาเยอะแล้ว เรื่องแค่นี้เล็กน้อยมาก ข้าไม่เจ็บหรอก”
ร่างกายของเขาถูกกัดจนแทบเหลือแต่กระดูก จะไม่เจ็บปวดได้อย่างไร
สามารถรอดชีวิตมาถึงตอนนี้ได้ นับว่าเป็นเรื่องปาฏิหาริย์อย่างมากแล้ว
เขาเคยไปที่เหวไร้ที่สิ้นสุด ความอันตรายภายในนั้นไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้เลย
“เส่าอี๋ ข้าเกรงว่าจะไม่สามารถอยู่กับเจ้าไปได้อีกต่อไปแล้ว อนาคตข้างหน้าเจ้าคงต้องใช้ชีวิตด้วยตัวเองเสียแล้ว”
เหวินเส่าอี๋แสร้งทำเป็นยิ้มออกมาและกล่าวว่า “พูดเหลวไหลอะไรกัน ท่านเป็นถึงยอดฝีมือสูงสุดระดับหก บนโลกนี้ใครจะสามารถฆ่าท่านได้”
“ยอดฝีมือสูงสุดระดับหกแล้วอย่างไร แม้แต่ยอดฝีมือสูงสุดระดับเจ็บก็ไม่ใช่ผู้ที่เก่งกาจที่สุดบนโลกใบนี้ เจ้าเป็นเด็กดีและใสสะอาดบริสุทธิ์ ข้ารู้ดีว่าเจ้าคิดจะสร้างความสมานฉันท์ความโกรธแค้นชิงชังระหว่างเผ่าเพลิงฟ้าและเผ่าหยกมาโดยตลอด เรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้เจ้าก็เห็นแล้วว่า ความโกรธแค้นระหว่างสองเผ่านั้นไม่สามารถขจัดแก้ไขได้เลย ต้องมีใครตายไปฝั่งใดฝั่งหนึ่งเท่านั้น”
เหวินเส่าอี๋เงียบและไม่ต้องการพูดเรื่องนี้อีก
“ท่านบาดเจ็บสาหัสอย่างมาก ข้าจะหามท่านไปเอง เราช่วยกันหาทางออก ในเมื่อพวกเราสามารถเข้ามาได้ เช่นนั้นก็ต้องสามารถหาทางออกไปได้”
ผู้อาวุโสสูงสุดอั้นเฮยดึงมือของเขาเอาไว้ และดวงตาชราที่ขุ่นมัวนั้นกังวลและไม่สบายใจอย่างสุดซึ้งเหมือนกับผู้อาวุโสสูงสุดและผู้อาวุโสเสวี่ยเย่
“ข้ารู้ว่าเจ้ารู้สึกดีกับกู้ชูหน่วน แต่นางเป็นหัวหน้าเผ่าของเผ่าหยกและเรื่องทั้งหมดนั้นต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของเผ่าหยกเป็นหลัก หน้าที่และภารกิจที่สำคัญของนางในชีวิตนี้ก็คือการรวบรวมไข่มุกมังกรและขจัดทำลายคำสาปโลหิตของเผ่าหยก จากนั้นทำการระดมกำลังทั้งหมดเพื่อทำลายเผ่าเพลิงฟ้าของเรา เจ้าอย่าโง่เขลาอีกต่อไปเลย เดิมทีเจ้าและนางก็เป็นศัตรูต่อกันและกันและชีวิตนี้ไม่สามารถเป็นเพื่อนกันได้อีกต่อไปแล้ว”
“ท่านพูดเรื่องเหล่านี้กับข้าเพื่ออะไรหรือ”
“ข้าหาทางออกจากเผ่าหยกเจอแล้ว นั่นคือการเผาผลาญพลังจิตวิญญาณของยอดฝีมือสูงสุดระดับหก ใช้พลังและกำลังทั้งหมดและเริ่มเปิดใช้งานค่ายกลเคลื่อนย้าย เช่นนี้ก็สามารถส่งเจ้าออกไปจากเผ่าหยกได้แล้ว แม้ว่าข้าจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่หากข้าจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อส่งเจ้าออกไป เช่นนั้นก็น่าจะทำได้”
เหวินเส่าอี๋ตกตะลึง
“เผาผลาญพลังจิตวิญญาณ? พลังจิตวิญญาณจะถูกเผาผลาญได้อย่างไร หากถูกเผาผลาญไป วิญญาณของท่านจะแตกสลายไป เราหาทางอื่นเพื่อออกจากที่นี่เถอะ”
“นอกจากวิธีนี้แล้วก็ไม่มีทางอื่นที่จะออกไปได้อีกแล้ว เกรงว่าทุกคนในเผ่าหยกก็คงไม่มีใครรู้ว่านรกขุมที่สิบแปดยังมีค่ายกลเคลื่อนย้ายที่สามารถหนีออกไปได้ ฮ่าๆ……ไม่มีใครสามารถทำลายเผ่าเพลิงฟ้าของเราได้”
เหวินเส่าอี๋ปฏิเสธออกไปทันทีโดยไม่คิด
เขาไม่มีทางยอมให้ผู้อาวุโสสูงสุดอั้นเฮยต้องเสียสละชีวิตของตัวเองเพื่อช่วยชีวิตของเขาอย่างเด็ดขาด
การเดินทางมายังเผ่าหยกในครั้งนี้ เขาได้ทำลายชีวิตของผู้อื่นไปแล้วจำนวนมาก
เหมือนว่าผู้อาวุโสสูงสุดอั้นเฮยจะรู้ความคิดของเขาอยู่ก่อนแล้ว เขากดจุดด้วยมือข้างขวาไปที่จุดชีพจรของเหวินเส่าอี๋
“เผ่าเพลิงฟ้าไม่สามารถขาดเจ้าไปได้ ข้าอายุปูนนี้แล้วอยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร แต่เจ้าจำเป็นต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป”
“ศิลปะการต่อสู้ของข้าสูญสิ้นไปหมดแล้วและกระดูกไหปลาร้าของข้าก็ถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง และตอนนี้ข้าไม่ถือเป็นความภาคภูมิใจของเผ่าเพลิงฟ้าอีกต่อไปแล้ว”
เมื่อได้ยินคำพูดของเหวินเส่าอี๋ ผู้อาวุโสสูงสุดอั้นเฮยก็โกรธ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยรัศมีการฆ่าสังหาร
เผ่าหยก……
ช่างกล้าดีนักนะเผ่าหยก……
ฆ่าล้างพวกเขาไปเป็นจำนวนมากก็มากพอแล้ว แต่กลับกล้าทำลายความหวังทั้งหมดของเผ่าเพลิงฟ้าไปอีก
หากไม่ใช่เป็นเพราะเขาบาดเจ็บสาหัสและต้องพาเหวินเส่าอี๋กลับไป เช่นนั้นแล้วเขาแทบอยากจะพุ่งออกไปตอนนี้เลย เพื่อจะต่อสู้กับพวกเขาให้รู้แพ้รู้ชนะกันไปเลย
“กระดูกไหปลาร้าพังลงแล้วจะเป็นเช่นไร บนโลกนี้จะต้องมีคนที่สามารถต่อกระดูกไหปลาร้าของเจ้ากลับคืนมาอย่างดีแน่ๆ หัวหน้าเผ่ามีความสามารถอย่างมาก รอให้เจ้ากลับไปยังเผ่าเพลิงฟ้าเสียก่อน เขาอาจจะมีวิธีสามารถทำให้พละกำลังและศิลปะการต่อสู้ของเจ้าฟื้นฟูกลับคืนมาได้”
“ข้าไม่ต้องการฟื้นฟูพละกำลังการต่อสู้ ข้าเพียงต้องการให้ท่านมีชีวิตอยู่ต่อไป” เหวินเส่าอี๋สะอื้น
เขาอยากจะพุ่งทำลายการกดจุดชีพจร แต่ตอนนี้เขากลับไร้สิ้นเรี่ยวแรงและทำได้เพียงขอร้องให้ผู้อาวุโสสูงสุดอั้นเฮยยกเลิกการเผาผลาญพลังจิตวิญญาณ
รัศมีการฆ่าสังหารของผู้อาวุโสสูงสุดอั้นเฮยหายไปทันทีและแทนที่ด้วยความรักความสงสาร
เขาลูบไล้เส้นผมของเหวินเส่าอี๋และรวมไปถึงเลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผลของเขา ประกายแวววาวในดวงตาของเขา และพลังแห่งจิตวิญญาณของเขาก็เริ่มแผดเผา
“เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ของเจ้า ข้าก็รู้สึกดีมากแล้ว”
“ท่านปู่ ท่านรีบยกเลิก……ตอนนี้เรามาเริ่มหาทางใหม่กันเถอะ”
“เจ้าจำคำพูดของข้าเอาไว้ให้ดี บนโลกนี้นอกจากตัวของเจ้าแล้ว เจ้าห้ามเชื่อใจใครอีก เจ้าเป็นนายน้อยของเผ่าเพลิงฟ้า เช่นนั้นแล้วควรนึกถึงเผ่าเพลิงฟ้าเป็นหลักและรับผิดชอบภารกิจสำคัญของเผ่าเพลิงฟ้าให้ได้”
“ท่านปู่……”
เหวินเส่าอี๋ร้อนใจอย่างมากและต้องการจะทำลายจุดชีพจร
พลังจิตวิญญาณเผาไหม้ขึ้นและแสงอันเจิดจ้าพุ่งออกมาจากร่างของผู้อาวุโสสูงสุดอั้นเฮย
แสงนี้ได้ห่อหุ้มเหวินเส่าอี๋ไว้อย่างหนาแน่น
แสงที่เจิดจ้าระยิบระยับนี้แทบทำให้เหวินเส่าอี๋ไม่สามารถลืมตาขึ้นมาได้
ร่างของผู้อาวุโสสูงสุดอั้นเฮยที่อยู่ข้างหน้าเขาค่อยๆ หายไป และในที่สุดก็หายไปในทางเข้าของเหวไร้ที่สิ้นสุด เหลือไว้เพียงประโยคสุดท้ายที่พูดซ้ำไปซ้ำมา
“อย่าได้ยุ่งเกี่ยวใดๆ กับกู้ชูหน่วนอีก ผู้หญิงคนนั้นและเจ้าต่างกัน ชีวิตนี้ของพวกเจ้าทั้งสองคนได้ถูกลิขิตแล้วให้เป็นศัตรูต่อกัน หากเจ้ายังเห็นแก่ท่านปู่เสวี่ยเย่และข้าละก็ เมื่อเจ้าได้ฟื้นฟูพละกำลังการต่อสู้ของเจ้าแล้ว เช่นนั้นก็ฆ่านางเสียเพื่อล้างแค้นให้กับพวกข้า”
“อ่า……”
เหวินเส่าอี๋ส่งเสียงคำรามลั่น
เขาพยายามที่จะต่อต้าน แต่พละกำลังอันแข็งแกร่งกลับลากเขาเข้าไปยังภายในเหวไร้ที่สิ้นสุด พลังนั้นเป็นเหมือนกระแสน้ำวนอันทรงพลังซึ่งทำให้ศีรษะของเขามึนงงและในที่สุดก็หมดสติไป
ไม่ไกลออกไป กู้ชูหน่วนแอบอยู่ข้างๆ และเห็นทุกสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด
นางหาพวกเขาไม่เจอ เมื่อนางคิดได้ว่าสถานที่ที่อันตรายที่สุด บางครั้งอาจจะเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุด ดังนั้นนางจึงมายังเหวไร้ที่สิ้นสุด ไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นเข้ากับการที่ผู้อาวุโสสูงสุดอั้นเฮยกำลังเผาผลาญพลังจิตวิญญาณของตัวเอง เพื่อช่วยให้เหวินเส่าอี๋หนีออกไปจากเผ่าหยก
วินาทีนั้น หัวใจของนางรู้สึกสับสนอย่างมาก
อั้นเฮยและเสวี่ยเย่ก็เช่นกันที่เกลียดแค้นเผ่าหยกถึงขีดสุด แต่ก็อดพูดไม่ได้ว่าพวกเขาดีต่อเหวินเส่าอี๋อย่างมากจากก้นบึ้งของหัวใจ
ที่อั้นเฮยพูดมาก็ไม่ผิด
ชีวิตนี้ของนาง ถูกลิขิตไว้แล้วให้เป็นศัตรูกับเหวินเส่าอี๋และความเกลียดชังระหว่างพวกเขาได้ถูกส่งต่อมาเป็นเวลานานและไม่สามารถแก้ไขได้เลย
หลังจากผ่านหลายสิ่งหลายอย่าง บางทีครั้งหน้าที่ต้องพบเจอกัน นางและเหวินเส่าอี๋คงเป็นศัตรูตัวฉกาจซึ่งกันและกัน
กู้ชูหน่วนหัวเราะเยาะ
จะยังมีการพบหน้ากันครั้งได้อย่างไร
เจอกันครั้งหน้า ไม่แน่นางอาจไปพบพญามัจจุราชแล้วก็เป็นได้