กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ – บทที่ 764

บทที่ 764

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 764
“ท่านว่าหล่ะ”

เสียงครูดเสียงหนึ่ง

ฮวาอิ่งดึงดาบสั้นเล่มหนึ่งออกจากร่างพร้อมรอยยิ้มมืดมนในแววตาและก้าวเดินไปทางเหวินเฉิงเทียนทีละก้าวๆ

“เจ้ามีความสามารถก็ฆ่าข้าเลยโดยตรง

“ฆ่าท่านโดยตรงหรือ? เช่นนั้นก็เสียเปรียบไปแล้ว ข้าฮวาอิ่งฆ่าคนไม่เคยอฃปล่อยให้คนตายอย่างง่ายดายมาก่อนเกิน ท่านก็ไม่มีข้อยกเว้นเป็นธรรมดา”

นางกล่าวแล้วก็ยกมีดสั้นขึ้นเฉือนลงไปทีละแผลๆบนเนื้อที่แขนซ้ายของเหวินเฉิงเทียน

หนึ่งชิ้น สองชิ้น สามชิ้น สิบชิ้น ร้อยชิ้น……

เลือดสดๆปลิวกระเด็น

บางส่วนกระเด็นลงบนตัวของเหวินเฉิงเทียน

บางส่วนกระเด็นลงบนพื้นและบนตอไม้

บางส่วนกระเด็นใส่ร่างของฮวาอิ่ง

ยิ่งเลือดกระเด็นมากขึ้นฮวาอิ่งก็ยิ่งหัวเราะเสียงดังลั่นอย่างบ้าคลั่ง

“อ๊า……”

เหวินเฉิงเทียนสูดลมหายใจเย็นเข้าด้วยความเจ็บปวด เขาต้องการที่จะต่อต้านแต่ผู้ที่สูญเสียวรยุทธ์และได้รับบาดเจ็บสาหัสจะเป็นคู่ต่อสู้ของยอดฝีมือขั้นสูงสุดระดับหกได้ที่ใด

เลือดเนื้อบนแขนของเขาถูกเฉือนออกทีละชิ้นๆ ความเจ็บปวดนั้นทำให้เขาเจ็บปวดมากกว่าบาดแผลนับพันนับหมื่นเป็นหมื่นพันเท่า

เสียงความเจ็บปวดกับเสียงหัวเราะปนเปกันเปรียบเทียบเท่าเสียงอันแปลกประหลาดอย่างยิ่งชนิดหนึ่ง

“ช่างสนุก ช่างสนุก ฮ่าๆๆ……”

“ฉึก……”

ร่วงหล่นลงตามหลังมีดเล่มสุดท้ายทีละแผลๆ แขนซ้ายของเหวินเฉิงเทียนถูกเฉือนออกทีละชิ้นๆจนเหลือเพียงโครงกระดูกอันสมบูรณ์เท่านั้น

เป็นโครงกระดูก โครงกระดูกที่ไม่มีเศษเนื้อติดเหลืออยู่เลยแม้แต่ชิ้นเดียว

“ชู่ว์ๆๆ ไม่ได้สมบูรณ์แบบที่สุด มีเลือดสดๆไหลหลงเหลืออยู่บนโครงกระดูก ไม่งั้นเรามาลองดูทางขวากันเถอะ”

ไม่รอให้เหวินเฉิงเทียนกล่าวและไม่ได้รอให้เขาผ่อนคลายลง

เลือดเนื้อบนแขนข้างขวาของเขาก็ถูกเฉือนออกทีละชิ้นๆ ราวกับดีดตัวพิณดังชิ่วๆๆๆๆเช่นนั้น

“อ๊า……เจ้าฆ่าข้าเถอะ เจ้าฆ่าข้าเสียเถอะ”

“ฆ่าท่าน ข้าจะทนฆ่าท่านได้เช่นไรหล่ะ ท่านเป็นถึงพ่อแท้ๆของลูกชายข้า หากว่าข้าฆ่าท่านลยโดยตรง ลูกชายของเราจะต้องตำหนิข้าเป็นแน่ ข้าไม่เพียงแต่จะไม่สังหารคนยังจะต้องปรนนิบัติท่านเป็นอย่างดี ฮ่าๆๆ……”

สด……

กระเด็นกระดอนอย่าวงไร้ที่สิ้นสุด

เหวินเฉิงเทียนหมดสติไปหลายครั้งแล้วก็ปวดจนฟื้นขึ้นมา

เขาต้องการกัดฟันฆ่าตัวตายแต่ฮวาอิ่งไม่ให้โอกาสนี้กับเขาเลยแม้แต่น้อย

สถานที่อันห่างไกล

จู่ๆกู้ชูหน่วนก็หยุดลงกะทันหันและให้สัญญาณมือกับลูกน้องให้สงบเงียบลงก่อน

“เป็นอย่างไรบ้างท่านหัวหน้าเผ่า”

“พวกเจ้าได้ยินเสียงอะไรหรือไม่?”

“เสียง? ไม่มีขอรับ ใช่เสียงของอสุรกายปักษีหรือเปล่า?”

“ไม่ใช่ เป็นเสียงกรีดร้อง”

ผู้คนตั้งใจฟังอย่างละเอียดแต่กลับไม่ได้ยินสิ่งใดเลย

กู้ชูหน่วนก็รู้สึกแปลกใจ

เมื่อครู่นางได้ยินอย่างชัดเจน

เสียงนั้นอยู่ไม่ไกลจากนางนัก และกรีดร้องอย่างน่าเวทนายิ่งนัก

ตามมาด้วยยังเป็นเสียงหัวเราะอันบ้าคลั่งอันหนึ่ง

มีคนสร้างค่ายกลไว้เพื่อแยกเสียงออกไปหรือ?

“พวกเจ้าไปดูททางโน้น พวกเจ้าตามข้าไป”

กู้ชูหน่วนเร่งความเร็ว

ตลอดทางที่ผ่านไม่เห็นร่องรอยของฮวาอิ่งและคนอื่นๆ

ยิ่งไร้ร่องรอยนางก็ยิ่งรู้สึกว่าฮวาอิ่งอยู่ใกล้ๆ

เดินไปมาอยู่ตลอดทาง

ไม่รู้ว่าเนื่องจากการได้ยินอันแหลมคมกว่าผู้อื่นของนางหรือเปล่าทำให้นางสามารถค้นหาที่มาของเสียงได้จากความผันผวนของคลื่นลมหรือก้อนเมฆ

เข้าใกล้ทีละก้าวๆ

กู้ชูหน่วนได้เห็นเรื่องที่ทำให้นางรู้สึกชาหนังศีรษะมากที่สุดในชีวิตนี้

นั่นเป็นภาพอันโหดร้ายทารุณมากเช่นใด

ฮวาอิ่งใช้ดาบสั้นเล่มหนึ่งเฉือนเลือดเนื้อบนแขนทั้งสองข้างของเหวินเฉิงเทียนออก เฉือนจนเหลือเพียงแค่แต่โครงกระดูกก็ช่างเถอะ

ทั้งยังเฉือนขาทั้งสองข้างของเขาเป็นโครงกระดูกด้วย รวมทั้งจมูก หู ได้ถูกนางเฉือนออกจนหมด

เลือดหลั่งไหลริน ทั่วทั้งพื้นเต็มไปด้วยเลือดเนื้อ

ฉากนั้นเลือดท่วมนองและโหดเหี้ยมอำมหิต

ส่วนหญิงผู้นั้นกลับเพิกเฉยต่อความเจ็บปวดทุกข์ทรมานของเหวินเฉิงเทียนโดยเพียงแค่หัวเราะด้วยท่าทางมีความสุขเป็นอย่างมาก

ลูกน้องของกู้ชูหน่วนแต่ละคนทนไม่ไหวจึงได้ต่างอาเจียนกันออกมา

“หยุดนะ”

กู้ชูหน่วนโพล่งอย่างดุดัน นางเขย่งปลายเท้าและพุ่งทะยานไปเบื้องหน้าด้วยความเร็วอันสูงสุด

แม้ว่าเป้าหมายของการทรมานของนางคือเหวินเฉิงเทียน แต่ในเวลานี้ก็ไม่สามารถหยุดยั้งความโมโหโกรธเคืองของนางได้

การฆ่าคนก็เพียงแค่ศีรษะแตะพื้นแต่นางกับทรมานคนเช่นนี้

ดอกดาบของกู้ชูหน่วนกระพือขึ้นพร้อมด้วยปราณดาบประกายเป็นเส้นแหลมคมพุ่งไปทางฮวาอิ่ง

เมื่อฮวาอิ่งเห็นเช่นนั้นก็แว๊บร่างจากไปอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่ได้ต่อสู้มากมายใดๆกับกู้ชูหน่วน

กู้ชูหน่วนถือดาบเอาไว้ในมือและจ้องมองไปยังโดยรอบอย่างระมัดระวัง

นางคิดว่าฮวาอิ่งจะรอโอกาสจู่โจม แต่หลังจากที่รอเป็นเวลานานบรรยากาศโดยรอบไร้ซึ่งคลื่นความเคลื่อนไหวแม่เพียงเล็กน้อย คิดว่าฮวาอิ่งได้จากไปเลยเสียแล้ว

ลูกน้องของกู้ชูหน่วนยังคงจ้องมองดัวเดิม เกรงสว่าหากไม่ระวังเพียงเล็กน้อยเจ้านายของตนจะถูกโจมตีสังหาร

กู้ชูหน่วนเดินระยะสามก้าวเพียงสองก้าวมาถึงยังข้างกายเหวินเฉิงเทียน

นางต้องการช่วยเขาห้ามเลือดทายาแต่ว่าเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสจนเป็นดังตะเกียงที่ใกล้มอดตั้งนานแล้ว ไม่ว่าจะพยายามรักษาเช่นไรก็เป็นเพียงการเพิ่มพูนความเจ็บปวดให้มากขึ้นเท่านั้น

มือและขาทั้งคู่ถูกเฉือนจนเป็นโครงกระดูก จมูกและหูถูกเฉือน ร่างกายก็ถูกฟันเป็นกากบาทหลายสิบแผลซึ่งกู้ชูหน่วนมองแล้วยังทรมาน

นางถามขึ้นว่า “ต้องการให้ข้าช่วยท่านอย่างไร?”

“หากเจ้าต้องการช่วยข้าก็สังหารข้าเสีย” เหวินเฉิงเทียนขมวดคิ้วอย่างเจ็บปวดทรมาน

รสชาติการตายดีกว่ามีชีวิตอยู่ทำให้เขาไม่ต้องการรอช้าเลยแม้แต่ครู่เดียว

กู้ชูหน่วนยกดาบขึ้นและต้องการจัดการเขาด้วยดาบเดียว ไม่รู้ว่าเหตุใดในใจรู้สึกฝืนทำไม่ได้อยู่บ้าง

“ช่างเถอะ แม้ว่า……แต่การไว้ชีวิตๆหนึ่งก็ใช่ว่าจำทำไม่ได้ ข้าจะพยายามช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของท่านให้น้อยลง ท่านอดทนหน่อยนะ”

นางกล่าวพร้อมกับหยิบยาสำหรับห้ามเลือดและรักษาแผลออกมากองหนึ่งจากวงแหวนอวกาศ

เหวินเฉิงเทียนกล่าวเตือนว่า “ข้าเป็นหัวหน้าเผ่าของเผ่าเพลิงฟ้านะ”

และก็เป็นศัตรูตัวฉกาจเของเผ่าหยกด้วย

“วรยุทธ์ของท่านสูญสิ้นไปแล้ว ร่างกายก็ไร้ประโยชน์เสียแล้ว แม้ว่าท่านจะเป็นหัวหน้าเผ่าก็ไม่สามารถเป็นข่มขู่อันใดต่อเผ่าหยกได้ เผ่าหยกไม่รังเกียจที่จะเลี้ยงดูคนเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน”

“เจ้าจริงใจกับเส่าอี๋กี่ส่วน?”

“อะไรนะ?”

“เส่าอี๋เป็นเด็กดีคนหนึ่ง หากว่า……ข้าสามารถแบกหน้าขอร้องเจ้าให้เห็นแก่ที่เขาช่วยเจ้าเอาไว้ครั้งแล้วครั้งเล่าไว้ชีวิตเขาได้หรือไม่ นี่เป็นคำอ้อนวอนจากพ่อผู้ให้กำเนิดผู้หนึ่ง”

กู้ชูหน่วนไม่ได้กล่าวสิ่งใด แม้ไม่ได้รับปากแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ

โดยส่วนตัวแล้วนางจะปล่อยเหวินเส่าอี๋ไปเป็นธรรมดาอยู่แล้ว

โดยส่วนรวมแล้วนางจำเป็นต้องตัดรากถอนโคน

ด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่นางได้ทำต่อเผ่าเพลิงฟ้า เหวินเส่าอี๋ไม่แก้แค้นสิน่าแปลก

“ท่านอดทนเอาไว้ ไม่นานก็จะสามารถห้ามเลือดบรรเทาความเจ็บปวดได้แล้ว”

“เปล่า……เปล่าประโยชน์ ข้าได้รับบาดเจ็บสาหัสนัก แล้วยัง……ยังธาตุไฟเข้าแทรกจนเข้าสู่ห้วงมาร แล้วยังถูก……ถูกไฟน้ำแข็งมัวเมา เปล่าประโยชน์แล้ว……”

“ไฟน้ำแข็งมัวเมา?”

นางก็สังเกตเห็นว่าเขาถูกวางยาพิษอันร้ายกาจยิ่งนัก

แต่ยังไม่ได้รับตรวจพบว่าเขาถูกพิษชนิดใด

บาดแผลภายนอกไม่ได้รับการรักษา เขาก็จะเสียเลือดจนตายในทันที

จะกล่างถึงการถอนพิษและรับการรักษาอาการบาดเจ็บภายในอย่างไร

“อ๊า……”

ทันใดนั้นเหวินเฉิงเทียนก็กรีดร้องขึ้นมาอย่างทุกข์ทรมาน เขาก้มหน้ามองลงมาตรงหน้าอกของตนโดยมีแมงมุมพิษหลากสีจำนวนหลายตัวยังคงปีนป่ายไปมา

กู้ชูหน่วนหรี่ตาลง

“แมงมุมพิษเจ็ดสี”

นี่คือพิษร้ายแรงนัก

ไม่ต้องกล่าวถึงว่าถูกแมงมุมกัดแล้วจะตาย แม้เพียงจะแตะถูกมันก็ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย

และก่อนตายเลือดทั้งร่างกายแม้แต่จุดเส้นชีพจรไขกระดูกก็จะถูกใยแมงมุมแช่แข็งและฉีกขาดออกมาทีละเส้นๆ

“ผู้ใดวางยาพิษ? ฮวาอิ่ง?”

“ใช่……นาง……นางอยู่ที่เผ่าเพลิงฟ้าเป็นเวลาหลายวันโดยไม่รู้ว่าได้ร่ำเรียนวิชาเวทมาบางส่วนจากที่ใดแล้วรวมเข้ากับวิชาแพทย์ของเผ่าหยกสร้าง……สร้างแมงมุมพิษหลากสีออกมา……”

“เพียง……เพียงแค่ถูกแมงมุมพิษกัดเข้า ร่างทั้งร่างก็เต็มไปด้วยใยแมงมุม ข้า……ข้าไม่สามารถมีชีวิตอยู่รอดได้ ได้โปรด……สัง……สังหารข้าซะ ตัดศีรษะข้าทิ้งซะ”

เดิมทีเขาก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่รอดได้

ฮวาอิ่งก็ทรมานเขาเช่นนี้อีก

นางต้องการควบคุมร่างกายของเขาเอาไว้

แม้ว่าเขาจะเสียชีวิตไปก็ต้องการใช้เส้นใยพิษควบคุมร่างกายของเขา

“ตัดศีรษะทิ้ง?” กู้ชูหน่วนถาม

“ใช่……หากเจ้าเพียงแค่สังหารข้า เส้นใยจะควบคุมร่างกายของข้านอกจากจะตัดศีรษะของข้า”

“ไม่ได้ ข้าทำไม่ได้”

“ขอ……ขอร้องเจ้าหล่ะ ข้า……ข้าเกือบจะทนไม่ไหวแล้ว หากไม่ตัดอีกรอให้ข้าตายไปก็จะไม่ทันการเสียแล้ว……”

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท