กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ – บทที่ 785

บทที่ 785

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 785
เมื่อคิดเช่นนี้แล้ว กู้ชูหน่วนก็เริ่มคิดหาค่ายกลที่จะกักขังพวกเขา

เสียงที่สั่นเครือของหลินซือหย่วนดังเข้ามาในหู

“แม่นาง เจ้ารีบไปยืนข้างหลังข้า ข้าจะปกป้องเจ้าเอง”

กู้ชูหน่วนเอาผมทัดหูและยิ้ม “เจ้าปกป้องท่านปู่และตนเองก็พอ”

“แล้วเจ้าเล่า?”

“ข้าจะไปทำลายค่ายกลนั่น”

“ทำลายอย่างไร?ที่นี่มีค่ายกลที่ไหนกัน?”

“บรู๊ว……”

พญาหมาป่าหิมะส่งเสียงร้อง

หมาป่าหิมะนับร้อยตัวล่าถอยออกไป ขาหน้าเหยียดไปข้างหน้าแล้วก้มตัวลง

กรงเล็บอันแหลมคมพุ่งเข้าไปหาชาวบ้านอย่างดุร้าย

เสียงร้องไห้

เสียงร้องโหยหวน

เสียงหมดหนทาง และเสียงดังขึ้น

แม้แต่วัยหนุ่มสาวก็ยังตกใจกลัวจนปัสสาวะราด

กู้ชูหน่วนหยิบหินขึ้นมาแล้วขว้างใส่หมาป่าหิมะอย่างแรง

นางขว้างหินไปหลายสิบก้อน

และแต่ละคนก็โจมตีจุดตายของหมาป่าอย่างแม่นยำ

“ปัง……”

“ปัง……”

“ขวับ……”

หมาป่าหิมะที่ถูกหินกระแทกล้มลงทีละตัว และนานกว่าจะลุกขึ้นมาได้ จากนั้นก็กระโจนเข้าใส่ชาวบ้านอีกครั้ง แต่หลายตัวในนั้นก็ไม่สามารถลุกขึ้นได้

ชาวบ้านต่างพากันประหลาดใจ

กู้ชูหน่วนก็ประหลาดใจเช่นกัน

พละกำลังของนาง…อ่อนแอขนาดนี้เลยหรือ?

หินแต่ละก้อนที่ขว้างออกไป ควรจะสามารถฆ่าหมาป่าหิมะได้สักตัวไม่ใช่หรือ?

แต่ทำไมถึงทำให้หมาป่าหิมะแค่ได้รับบาดเจ็บเท่านั้น?

ไป๋หลี่หมิงและคนอื่น ๆ ที่อยู่บนเขาก็ยิ่งประหลาดใจมากขึ้นไปอีก

หญิงผู้นี้เป็นใคร?

นางถึงขว้างหินได้ทีละหลายสิบก้อน และแต่ละก้อนก็รวดเร็ว แม่นยำ และโหดเหี้ยม อีกทั้งยังโดนจุดสำคัญของหมาป่าหิมะ

“ขวับ ๆ ๆ ……”

ก้อนหินอีกหลายสิบก้อนถูกขว้างออกไป

แต่ผลที่ได้ก็เป็นเหมือนเดิม

ไป๋หลี่สยงขยี้ตาและกล่าวด้วยความประหลาดใจ “คุณชาย ดูเหมือนว่าจะเป็นคุณหนูสามตระกูลมู่ มู่หน่วน ”

“ข้าเห็นแล้ว เจ้าสวะนั่น นางมีเพียงวรยุทธระดับหนึ่งไม่ใช่หรือ?นางจะสามารถโจมตีหมาป่าหิมะจำนวนมากเช่นนั้นได้อย่างไร?”

“นี่……บางทีอาจจะเป็นแมวตาบอดที่เจอหนูที่ตายแล้ว?”

“ตาบอดอะไรจะแม่นยำขนาดนั้น?อีกอย่างมู่หน่วนก็ตายแล้วไม่ใช่หรือ?แล้วนางจะมาปรากฏตัวที่นี่อได้ย่างไร?”

“นี่……ผู้น้อยก็ไม่แน่ใจขอรับ ผู้น้อยจะให้คนไปสืบเดี๋ยวนี้”

เมื่อมองดูวิธีการใช้อาวุธลับที่คุ้นตา เสียงแหบแห้งของเยี่ยจิ่งหานก็ค่อย ๆ ดังขึ้น

“นางชื่อมู่หน่วนหรือ?”

ไป๋หลี่หมิงนั่งตัวตรง

เขาไม่รู้ว่าชายที่ขาทั้งสองพิการและสวมหน้ากากผีอยู่ข้าง ๆ ผู้นั้นเป็นใคร?

แต่หัวหน้าตระกูลก็ได้อธิบายเป็นพัน ๆ ครั้งแล้ว ต้องให้เกียรติและอ่อนน้อมกับเขา ห้ามละเลยอย่างเด็ดขาด

ไม่ว่าเขาต้องการอะไร ก็ต้องตกลงอย่างไม่มีเงื่อนไข

ไป๋หลี่หมิงกล่าวตามตรง “ใช่ ตระกูลมู่เป็นเพียงพวกไร้ประโยชน์ มิเช่นนั้นวรยุทธของนางจะยังอยู่ที่ขั้นแรกได้อย่างไร ปกติแล้วได้แต่ทำตามคำสั่ง และไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง วันนี้ช่างพิลึก นึกไม่ถึงเลยว่าฝีมือของนางจะน่าเกรงขาม ”

“ที่พิลึกไปกว่านั้นคือเมื่อสองสามวันก่อน ข้ากับบรรดาพี่สาวหลายคนเห็นว่านางถูกทุบตีจนตาย แล้วโยนลงไปที่หุบเขารกร้าง ไม่คิดเลยว่านางจะมาปรากฏอยู่ที่นี่ หากไม่ใช่ว่าเป็นเวลากลางวันแสก ๆ ข้าคงคิดว่าข้าเห็นผี”

“มู่หน่วน?คุณหนูสามตระกูลมู่ นางจัดอยู่ในอันดับที่สามของตระกูล และมีชื่อว่าหน่วน นางกับนางมีความคล้ายคลึงกันหลายอย่าง”

“อะไรนะ……”

ไป๋หลี่หมิงเข้าใจเพียงครึ่งหนึ่ง จึงซักถาม

เยี่ยจิ่งหานเป็นคนที่คาดเดาได้ยากจนน่ากลุ้มใจ และไม่พูดอะไร

ไป๋หลี่สยงอารมณ์ดี “คุณชาย มู่หน่วนเป็นเพียงแค่คนไร้ประโยชน์ไม่ใช่หรือ นางโชคดีที่เมื่อสองสามวันก่อนไม่ตาย แต่วันนี้นางต้องกลายเป็นเนื้อในจานของพญาหมาป่าหิมะอย่างแน่นอน”

คนรับใช้อีกคนที่อยู่ด้านข้างก็คอยสรรเสริญเยินยอ

“ใช่ขอรับ ท่านดูสิว่านางโง่เขลาแค่ไหน เห็นได้ชัดว่าในมือของนางยังมีก้อนหิน แต่นางก็ไม่ขว้างใส่หมาป่าหิมะ นางขว้างก้อนหินไปทั่วทุกที่ ข้าว่านางจะต้องหวาดกลัวจนปัสสาวะราดอย่างแน่นอน ถึงได้ขว้างก้อนหินไปมั่วซั่วเช่นนี้”

ชิงเฟิงและเจี้ยงเสวี่ยอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะ

คนที่โง่เขลาน่าจะเป็นพวกเขามากกว่า

แม่นางมู่หน่วนผู้นั้นดูออกว่าค่ายกลมีข้อบกพร่องแล้ว ดังนั้นนางจึงใช้ก้อนหินโจมตีเพื่อทำลายค่ายกล

ตามที่พวกเขาเห็น ค่ายกลที่ปิดล้อมภูเขาหมาป่าหิมะกำลังจะถูกนางทำลาย

พวกเขาต้องยอมรับว่าฝีมือของแม่นางผู้นี้เก่งกาจมาก นางสามารถทำลายค่ายกลได้ในระยะเวลาอันสั้น ด้วยฝีมือของพวกเขาแล้ว หากต้องการจะทำลายค่ายกล ต้องใช้เวลาพอสมควร

และนางยังคงอยู่ในสถานการณ์ที่คับขันเช่นนั้น

ลุงเกิ่งอุทาน “แย่แล้ว นางใช้ก้อนหินทำลายค่ายกล”

ไป๋หลี่หมิงไม่เข้าใจ “ลุงเกิ่ง ไม่ใช่ว่าท่านแก่ชราแล้วตาพร่ามัวหรอกนะ คนไร้ประโชน์เช่นนางจะสามารถทำลายค่ายกลได้อย่างไร?หยุดล้อเล่นได้แล้ว”

“ค่ายกลใกล้จะต้านทานไม่อยู่แล้ว คุณชาย พวกท่านรีบออกไปจากที่นี่เร็วเข้า มิเช่นนั้นหมาป่าหิมะมากมายขนาดนี้ เกรงว่าพวกเราจะไม่สามารถรับมือกับมันได้”

ไป๋หลี่สยงหัวเราะเยาะ “ลุงเกิ่ง ต้องมีวรยุทธอย่างน้อยระดับสองขึ้นไปจึงจะสามารถทำลายค่ายกลนี้ได้ หากเจ้าสวะนั่นสามารถทำลายค่ายกลได้ ข้าจะตัดหัวให้ท่านเอาไปเตะเล่นเดี๋ยวนี้เลย”

“ตูม……”

ในทันทีที่ไป๋หลี่สยงพูดจบ ค่ายกลก็ระเบิด และถูกกู้ชูหน่วนทำลายจริง ๆ

นางทำลายค่ายกลก็ไม่เป็นไร แต่ไม่รู้ว่าจะไปเอาไม้มาจากที่ไหน หมาป่าหิมะที่กระโจนเข้าใส่ชาวบ้านถูกตีจนกระเด็น

นางเป็นเพียงหญิงที่อ่อนแอผู้หนึ่ง

อีกทั้งยังมีวรยุทธเพียงแค่ขั้นที่หนึ่ง แต่เมื่อโจมตีหมาป่าหิมะ พลังของนางดูเหมือนจะมีมากมาย แต่ละไม้ที่ตีรวดเร็วและแม่นยำ จนทำให้หมาป่าหิมะได้รับบาดเจ็บสาหัส

ไป๋หลี่หมิงขยี้ตา

เจ้าสวะนั่น… ไม่คิดเลยว่าอยู่ท่ามกลางฝูงหมาป่า ไม่ว่าจะแยกออกหรือเตะหรือฟันหรือทุบ ทุกการเคลื่อนไหวนั้นรวดเร็วและไร้ความปรานีราวกับกระแสน้ำเชี่ยว สง่าผ่าเผยและบึกบึนแข็งแรง

อีกทั้งแววตาของนาง ไม่รู้ว่าไม่เหมือนเดิมตั้งแต่เมื่อไหร่ และกลับ……เฉียบคม ลึกล้ำและเต็มไปด้วยความมั่นใจในตนเอง

นี่ ๆ ๆ ……

เห็นผีกลางวันแสก ๆ จริง ๆ หรือ?

ไป๋หลี่สยงกลืนน้ำลาย “นางคือมู่หน่วน เจ้าสวะนั่นจริง ๆ หรือ?วรยุทธเพียงแค่ขั้นที่หนึ่งจะมีกระบวนท่ามากมายเช่นนี้ได้อย่างไร?”

“คุณชาย ไปเถอะ รีบไปเร็วเข้า……”

ลุงเกิ่งตะโกนด้วยความร้อนใจ

แน่นอนว่าชาวบ้านเหล่านั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหมาป่าหิมะ

ไม่นานพวกเขากถูกหมาป่าหิมะกินจนหมด และหมาป่าหิมะจะต้องหันกลับมาโจมตีพวกเขาอย่างแน่นอน

ด้านล่างภูเขาหมาป่าหิมะ

กู้ชูหน่วนหายใจหอบ ด้วยสัญชาตญาณของนาง นางตีหมาป่าหิมะกระเด็นออกไป และพยายามที่จะปกป้องชาวบ้านให้มากที่สุด

แต่นางเพียงคนเดียว ไม่สามารถที่จะปกป้องชาวบ้านทั้งหมด อย่างไรก็ตามมีชาวบ้านจำนวนไม่น้อยถูกหมาป่าหิมะกัดจดเลือดไหลนอง

ร่างกายของนางอ่อนแอมากเกินไป

ไม่ว่านางจะเคลื่อนไหวอีกสักกี่กระบวนท่า ร่างกายของนางก็ไม่ไหวแล้ว

พญาหมาป่าหิมะยังคงจ้องมอง

“ซือหย่วน เจ้าพาชาวบ้านออกไปจากภูเขา เร็วเข้า……”

“ได้……”

“ชิ่ว ๆ ๆ ……”

ไป๋หลี่หมิงที่อยู่บนภูเขาสูง ไม่เพียงแต่จะไม่ยอมถอย แต่ยังให้คนยิ่งธนูใส่ชาวบ้านที่กำลังถอยออกไปจนตาย

ชาวบ้านนับสิบคนหนีไม่ทันและถูกยิงจนตาย

“ท่านปู่ ท่านเป็นอย่างไรบ้าง……ท่านปู่……”

ท่านปู่หลินรีบวิ่งไปข้างหน้า แต่เคราะห์ร้ายโดนลูกหลงจากธนู และล้มลงตายอยู่ตรงนั้น โดยไม่ได้พูดอะไรเลยแม้แต่คำเดียว

“ใครกล้าออกไปจากภูเขาหมาป่าหิมะ อย่าโทษว่าธนูในมือข้าไม่มีตา” ไป๋หลี่หมิงเตือน

กู้ชูหน่วนโกรธจัด

ใช้พวกเขาเป็นเหยื่อล่อ เป็นเนื้อในจานของหมาป่าหิมะบนภูเขาหมาป่าหิมะ นางยังไม่ทันได้คิดบัญชีกับพวกเขาเลย

ตอนนี้ยังจะมาขวางทางนาง และยิงชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ รวมทั้งท่านปู่หลินจนตาย

บางอย่างสามารถทนได้ บางอย่างไม่สามารถทนได้

พญาหมาป่าหิมะยังคงจ้องมองอย่างพร้อมที่จะจู่โจมได้ทุกเมื่อ และฆ่านางให้สิ้นซาก

กู้ชูหน่วนเงยหน้าขึ้นอย่างเย็นชา

เมื่อพญาหมาป่าหิมะเปิดการโจมตี ไม้ในมือของนางก็ตีไปที่พญาหมาป่าหิมะอย่างแรง และในขณะเดียวกัน ก้อนหินที่อยู่ในมือก็ขว้างไปที่ไป๋หลี่หมิง ไป๋หลี่สยง และคนอื่น ๆ ที่อยู่บนภูเขาสูง

พญาหมาป่าหิมะคือเจ้าแห่งหมาป่าและอสุรกายระดับหนึ่ง และมีพลังจิตมานานแล้ว ดังนั้นจะถูกกู้ชูหน่วนทำร้ายง่าย ๆ ได้อย่างไร

และไป๋หลี่หมิงก็มีลุงเกิ่งที่เป็นยอดฝีมือระดับสองอยู่ข้าง ๆ เขาจะหล่อยให้ก้อนหินโดนไป๋หลี่หมิงจนได้รับบาดเจ็บได้อย่างไร

หินก้อนแรกถูกลุงเกิ่งปัดกระเด็นออกไป

หินก้อนที่สองก็ถูกลุงเกิ่งปัดกระเด็นออกไปเช่นกัน

เมื่อพญาหมาป่าหิมะเห็นว่าหมาป่าหิมะไม่สามารถฆ่าผู้หญิงที่อ่อนแอเพียงคนเดียวได้ และนางยังกล้าที่จะยั่วยุตนเอง หมาป่าส่งเสียงหอนและกระโจนเข้าใส่กู้ชูหน่วนอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าแลบ

พญาหมาป่าหิมะโจมตีกู้ชูหน่วน ตามหลักแล้วกู้ชูหน่วนจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย

ทุกคนต่างก็คิดว่านางไม่มีชีวิตรอดอย่างแน่นอน

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท