ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย – ตอนที่ 12 มิตรแท้ในยามทุกข์ยาก

ตอนที่ 12 มิตรแท้ในยามทุกข์ยาก

ลู่เจียวป้อนน้ำเชื่อมให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นเสร็จ ก็ไม่มองเขาแม้แต่ปราดเดียว หันหลังเดินออกไปด้านนอกทันที ก่อนหน้านี้นางให้เขาปฏิเสธ แต่เขากลับทำหน้าตาโง่เง่าไร้เดียงสา 

“ท่านแม่ ข้าจะรินให้ท่านอีกหนึ่งถ้วย” 

เถียนซื่อที่อยู่ด้านหลังพูดขึ้น “รินให้เอ้อร์จู้ดื่มด้วยสิ” 

เซี่ยเอ้อร์จู้ผุดลุกขึ้น พร้อมผายมือทันที “ไม่ต้อง ไม่ต้องแล้ว” 

เขาพูดจบก็ใคร่จะจากไป เถียนซื่อกลับรั้งเขาไว้ “เอ้อร์จู้ นั่งดื่มน้ำหวานๆ ก่อน น้ำหวานไม่ใช่ของล้ำค่าอะไร แต่อย่างไรข้าก็อยากใช้แทนคำขอบคุณที่ดูแลบุตรเขยของข้ามาโดยตลอด ที่จริงนี่เป็นธุระของเจียวเจียว แต่ก็รบกวนเจ้าแล้ว” 

เซี่ยเอ้อร์จู้ส่ายหัวทันที “ไม่เป็นไร นี่เป็นเรื่องที่ข้าสมควรทำอยู่แล้ว” 

พูดจบเซี่ยเอ้อร์จู้ก็นิ่งเงียบไป เพราะวันนี้เกิดเรื่องเช่นนี้ เขากลัวว่ามารดาตนจะไม่ให้มาดูแลน้องสามอีก ฉะนั้นจึงกังวลใจมาก 

เถียนซื่อก็นึกถึงจุดนี้ เพียงแต่รู้สึกตรงกันข้ามกับเซี่ยเอ้อร์จู้ นางดีใจที่บุตรีจะได้เป็นคนดูแลบุตรเขย 

เจอมิตรแท้ยามทุกข์ยาก ไม่นานความสัมพันธ์ของทั้งสองย่อมดีขึ้นเอง 

เถียนซื่อครุ่นคิดก็มองเซี่ยเอ้อร์จู้พร้อมพูดด้วยเสียงอ่อนโยน “เอ้อร์จู้ วันนี้มารดาของเจ้ามาโวยวายเช่นนั้น วันข้างหน้านางต้องไม่อนุญาตให้เจ้ามาดูแลบุตรเขยอีกแน่ๆ” 

ความเย็นชาแผ่ซ่านออกมาจากทุกอณูของเซี่ยอวิ๋นจิ่น อุณหภูมิในเรือนลดต่ำลงมาก 

นึกถึงสามวันแรกที่เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส บิดา มารดา พี่ใหญ่และน้องๆ ของเขา ไม่มีใครเคยมาเยี่ยมเขาแม้แต่คนเดียว 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นแสยะยิ้มเย็นชา ไม่ต้องพูดถึงคนอื่น แม้แต่น้องแฝดที่เขารักใคร่และเอ็นดูมาก สุดท้าย ก็เหมือนให้อาหารสุนัข เรื่องที่ตนโดนพ่อแม่ไล่ออกจากบ้าน ก็คือฝีมือของน้องสี่ 

เพราะช่วงนี้น้องสี่ต้องตาต้องใจกับแม่นางผู้เป็นถึงดาวเด่นในหมู่บ้านคนหนึ่ง ได้ยินว่านางมีหน้าตาเพริศพริ้ง เพียงแต่แม่นางผู้นี้เรียกสินสอดไม่น้อย น้องชายของเขากลับไม่สนเศษเงินพวกนี้ เพราะที่ผ่านมาในบ้านก็มีเงินเก็บไม่น้อย 

เพียงแต่น้องสี่แต่งงานยังขาดเรือนหอ เขาอยากได้เรือนของตนมาเป็นเรือนหอมาก ฉะนั้นจึงอ้างเรื่องที่ตนได้รับบาดเจ็บ ยุยงให้พ่อแม่ไล่ตนออกจากบ้าน 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นคิดถึงเรื่องนี้ก็รู้สึกเย็นวาบในใจ นี่ก็คือญาติพี่น้องของเขา 

เสียงของเถียนซื่อดังขึ้นในเรือน “แต่เจ้าวางใจเถอะ วันข้างหน้าเรื่องดูแลบุตรเขย เจียวเจียวจะเป็นคนรับผิดชอบเอง” 

ลู่เจียวที่กำลังยกน้ำหวานเข้ามาจากนอกประตู พอได้ยินคำนี้ก็เกือบจะทำน้ำหวานหก นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ 

ลู่เจียวพลันเดินเข้าไป อยากจะขัดขวางมารดานางที่กำลังจะพูดต่อ นึกไม่ถึงว่าเถียนซื่อเห็นนางเข้าไปก็กวักมือเรียกนางทันที 

“เจียวเจียว วันนี้แม่สามีของเจ้าขายหน้าเช่นนั้น คงไม่ยอมให้พี่รองของเจ้ามาที่นี่แล้ว วันข้างหน้าเรื่องดูแลสามีเจ้า เจ้าจัดการเองเถอะ” 

ลู่เจียวไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไร ตามหลักแล้วนางควรดูแลจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องดูแลคนอื่นก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับนาง ประเด็นคือนางกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นตกลงว่าจะหย่าร้างกัน ตอนนี้นางกลับมาดูแลเขา เขาจะคิดมากหรือเปล่า 

เถียนซื่อกลับตัดสินใจไปฝ่ายเดียว “ได้ เรื่องนี้ตกลงตามนี้ เอ้อร์เกิน[1]ดื่มน้ำหวานๆ หน่อยเถอะ” 

เถียนซื่อยกน้ำให้ตัวเองหนึ่งถ้วย ยกให้เซี่ยเอ้อร์จู้หนึ่งถ้วย “ดื่มหน่อยเถอะ” 

เซี่ยเอ้อร์เกินรับไว้ทันที ทันทีที่ดื่มก็รู้สึกถึงรสชาติหวานฉ่ำ น้องสะใภ้สามใส่น้ำตาลในน้ำ เป็นเรื่องที่หายากจริงๆ 

เขามองเถียนซื่อ ภายในใจคิดว่า เพราะบารมีของเถียนซื่อ ตนถึงได้ดื่มน้ำหวานเช่นนี้ ไม่เช่นนั้นน้องสะใภ้สามไม่มีทางชงน้ำหวานให้เขาดื่มแน่นอน 

เถียนซื่อดื่มน้ำหมดถ้วยแล้วมองเซี่ยอวิ๋นจิ่น “บุตรเขยอย่างกังวลเลย พักฟื้นร่างกายให้สบายใจเถอะ เรื่องเงิน ทุกคนค่อยช่วยกันคิดวิธีแก้ปัญหา” 

นางกล่าวจบก็ลุกขึ้นดึงลู่เจียวไปด้านนอก ลู่เจียวถือโอกาสคว้าถ้วยในมือของเซี่ยเอ้อร์จู้ออกไปด้วย 

รอให้พวกนางสองแม่ลูกออกไปด้านนอก เซี่ยเอ้อร์จู้หันไปมองเซี่ยอวิ๋นจิ่น “แม่ยายของเจ้าไม่เลว” 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นก็มองเถียนซื่อด้วยสายตาเย็นชา แต่พอนึกถึงมารดาตัวเอง ก็ยกมุมปากเผยยิ้มเย้ยหยัน 

เขาหันไปมองเซี่ยเอ้อร์จู้ “พี่รอง ต่อไปตอนว่างค่อยมา ลู่เจียวต้องดูแลข้าอยู่แล้ว” 

ผ่านเรื่องราวมากมายในช่วงนี้ เซี่ยอวิ๋นจิ่นรู้สึกว่าเซี่ยเอ้อร์จู้ไม่มา ลู่เจียวต้องดูแลเขาแทนแน่อยู่แล้ว 

แม่นางผู้นี้เหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคนจริงๆ แต่ทุกครั้งที่มองหน้านาง เขาก็ยังคงเคียดแค้นใจ 

ตอนนี้เขาก็คร้านจะมานั่งคิดว่าเหตุใดแม่นางคนนี้ถึงเปลี่ยนไป แค่นางดูแลเขาก็พอแล้ว อย่างน้อยนางก็บอกว่าจะหาหมอทหารมารักษาขาของเขา ลำพังเท่านี้เขาก็ไม่อยากจะเชื่อแล้ว 

เซี่ยเอ้อร์จู้ได้ยินคำพูดแสนย่อท้อและเศร้าระทมของน้องสาม เขาก็ไม่สบายใจและเสียใจมาก เพราะเขาเองก็เป็นบุตรที่ไม่สำคัญในตระกูลเช่นกัน 

“น้องสาม เช่นนั้นข้าขอกลับก่อน” 

“อืม กลับเถอะ” 

ณ ห้องครัวฝั่งตะวันออกของเรือน ทีแรกเถียนซื่อกำลังจะพูดคุยกับลู่เจียว เห็นว่าเซี่ยเอ้อร์จู้ออกมา นางก็รีบเข้าไปถาม “เจ้าจะกลับไปแล้วหรือ” 

“อืม ยังมีงานต้องทำ ข้าขอตัวกลับก่อน” 

เซี่ยเอ้อร์จู้ก็ไม่กล้าเชิญเถียนซื่อไปที่บ้าน ในเมื่อมารดาของเขาเกลียดเถียนซื่อเข้ากระดูกดำปานนั้น 

เถียนซื่อส่งเขาออกไปด้านนอก ค่อยกลับมากำชับลู่เจียว 

“สิ่งที่ข้าพูดกับเจ้า จำได้หรือยัง ดูแลสามีเจ้าให้ดี แต่ก่อนเขาไม่ชอบขี้หน้าเจ้า ตอนนี้ยังมีโอกาส เจ้าอย่าโง่จนปล่อยโอกาสดีๆ นี้ไป คนเราจะได้เจอมิตรแท้ในยามทุกข์ยาก บุตรเขยไม่ได้มีจิตใจอำมหิต เจ้าปฏิบัติต่อเขาดีๆ วันข้างหน้าจะได้มีชีวิตที่สุขสบาย” 

“อีกอย่างเจ้ายังมีแฝดทั้งสี่ ดูหน้าตาพวกเขาน่าเกลียดน่าชังแค่ไหน โตมาต้องหล่อเหลาเหมือนพ่อแน่ๆ ถึงตอนนั้น เจ้าคงได้เสพสุขไม่สิ้นสุดแน่นอน ฉะนั้นต่อไปต้องทำดีกับบุตรเขยและเด็กๆ ให้มาก” 

คนอื่นไม่เข้าใจบุตรี เถียนซื่อกลับเข้าใจบุตรีที่สุด ตอนนั้นที่บุตรีออกเรือนมาเป็นภรรยาของเซี่ยอวิ๋นจิ่น นางดีใจจนเนื้อเต้น 

ใครจะไปรู้ว่าหลังออกเรือนมา นับวัความสัมพันธ์สามีภรรยานยิ่งย่ำแย่ นางรู้ว่าบุตรสาวอยากให้บุตรเขยรักและเอ็นดู ทว่าเขากลับไม่หมายปองนาง 

เถียนซื่อก็โกรธเคืองกับเรื่องนี้เช่นกัน นางพยายามสรรหาทางแก้มาตลอด ตอนนี้โอกาสมาเยือนแล้ว 

ลู่เจียวขนหัวลุก ตอนนี้คงไม่อาจบอกเรื่องที่นางกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นจะหย่าร้างกัน ช่างเถอะ ค่อยบอกนางทีหลังแล้วกัน 

“ท่านแม่ ข้าจะดูแลเขาให้ดี วางใจได้เลย” 

เถียนซื่อพยักหน้าอย่างพอใจ แล้วควักห้าตำลึงเงินออกจากอกเสื้อยื่นให้ลู่เจียวด้วยความระมัดระวัง 

“บางส่วนเป็นเงินเก็บในบ้าน บางส่วนไปยืมมา เอาไปรักษาบุตรเขยก่อนเถอะ ตอนนี้มีเท่านี้ วางใจเถอะ ข้ากับท่านพ่อของเจ้าต้องหาวิธีช่วยอยู่แล้ว อย่ากังวลใจไปเลย” 

ลู่เจียวมองเงินในมือของเถียนซื่อ ในความทรงจำร่างเดิม ตระกูลลู่อัตคัดจนไม่มีเงินเก็บ นึกไม่ถึงว่าตอนนี้ถึงกับเอาห้าตำลึงเงินมาให้นาง 

ลู่เจียวจินตนาการ หากพี่สะใภ้ใหญ่และพี่สะใภ้รองรู้เรื่องนี้ ต้องเกลียดชังมารดานางแน่นอน 

ลู่เจียวรีบผลักเงินกลับไป “ท่านแม่ ครั้งที่แล้วท่านก็ให้ข้ามาสองสามตำลึงเงินแล้ว ครั้งนี้คงรับไว้ไม่ได้” 

เถียนซื่อไม่สน ยัดเงินเข้าไปในมือของนาง “เอาเถอะ วันไหนเจ้ามีค่อยคืนแม่แล้วกัน รักษาบุตรเขยให้หาย ต่อให้วันข้างหน้าเขาจะเดินไม่ได้ แต่อย่างน้อยถ้ารักษาก็อาจนั่งได้ แล้วค่อยเปิดสอนวิชาในเรือนเป็นการส่วนตัว ชีวิตก็จะค่อยๆ ดีขึ้นเอง” 

ลู่เจียวยังอยากขัด เถียนซื่อกลับหันหลังเดินออกไปด้านนอกพลางพูดอย่างคนใจร้อน “เอาละ ในเรือนยังมีธุระ แม่กลับก่อน” 

ลู่เจียวนิ่งงันไปชั่วขณะ รีบตามออกไปรั้งเถียนซื่อไว้ ทว่าเถียนซื่อเดินเร็วยิ่งกว่าสายฟ้า “เอาเถอะ แม่ยังมีธุระต่อ เจ้ากลับไป กลับไปได้แล้ว” 

นางเดินไปถึงประตูลาน ก็ขานเรียกลู่กุ้ยที่กำลังเล่นกับหลานชาย “เสี่ยวกุ้ย กลับกันเถอะ” 

—————————————— 

[1] เอ้อร์เกิน เป็นคำทับศัพท์ภาษาจีน ซึ่งมีความหมายว่า บุตรคนรอง 

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

Status: Ongoing

เพราะสามีดันเป็น ‘ตัวร้าย’ สุดโหด ภารกิจแก้เดธแฟลคจึงเริ่มต้นขึ้น!

แพทย์ทหารจิตใจงดงามจากศตวรรษที่ 21 ผู้หนึ่งได้รับบาดเจ็บจนต้องนอนโรงพยาบาลเลยซื้อนิยายมาอ่าน

ในเนื้อหานิยายมีตัวร้ายอยู่สี่คน ไม่มีเรื่องชั่วใดไม่ทำ สังหารคนโดยไม่กะพริบตา

ทว่าภายหลังตัวร้ายสี่คนนี้ถูกพระเอกนางเอกร่วมมือกันสังหาร แต่ชายสี่คนนี้ดันมีบิดาเป็นถึงโส่วฝู่

เพื่อที่จะแก้แค้นแทนบุตรชาย เขาจึงกลายเป็นจอมปีศาจชั่วร้าย

สุดท้ายพระเอกนางเอกล้วนถูกฆ่าตาย…และนางก็ดันทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาที่จะตายแต่ยังสาวของตัวร้ายผู้นั้น!

เพื่อเปลี่ยนชะตาความตายที่จะเกิดขึ้นนางจำต้องหลีกหนีให้ไกลจากตัวร้ายผู้นี้

ทั้งสองจึงทำสัญญากันหากนางสามารถรักษาขาที่บาดเจ็บของ เซี่ยอวิ๋นจิ่น ตัวร้ายจอมโหดจนหายดีได้

เขาจะหย่าให้นาง และนางจะได้ไปใช้ชีวิตอิสระหลีกหนีเดธแฟลคที่จะเกิดขึ้น!

ปฏิบัติการการเอาอกเอาใจสามีตัวร้ายและขุนลูกชายแฝดสี่ให้จ้ำม่ำจึงเริ่มต้นขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท