ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย – ตอนที่ 3 ตั้งสติ อย่าตกใจ

ตอนที่ 3 ตั้งสติ อย่าตกใจ

คนในเรือนที่อยู่ด้านหลังหันไปมองข้าวต้มและขนมไข่บนโต๊ะเล็กพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย แฝดสี่มองข้าวต้มสีขาวร้อนๆ มีควันลอยฉุย ได้กลิ่นหอมโชยของขนมไข่ ต่างอดกลืนน้ำลายไม่ได้ 

พวกเขาไม่ได้กินข้าวต้มเช่นนี้มานานนม ยิ่งไม่มีทางได้กินขนมไข่ที่หอมกรุ่นเช่นนี้อยู่แล้ว 

เดิมทีตระกูลเซี่ยก็มีคนมาก ส่วนที่ตกมาถึงพวกเขาก็มีไม่มากอยู่แล้ว แล้วยังมีมารดาใจอำมหิตแย่งของที่ได้มาไปอีก ฉะนั้นพวกเขาไม่เคยได้กินอิ่ม ใบหน้าจึงเหลืองซูบซีดเช่นนี้ 

แม้เจ้าแฝดสี่จะหิวจนกลืนน้ำลาย แต่ก็ไม่กล้าแตะต้อง ขณะเดียวกันก็หันไปมองบิดาบนเตียง 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นหรี่ตาลง ครุ่นคิดถึงท่าทีผิดปกติของลู่เจียวในวันนี้ 

แม่นางคนนั้นก็เคยประจบสอพลอเขาเช่นนี้มาก่อน ทว่ากลับเป็นครั้งแรกที่ใจกว้างเช่นนี้ ฉะนั้นเขาเลยสงสัยว่านางมีวัตถุประสงค์อื่น 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นครุ่นคิดพลางมองเซี่ยเอ้อร์จู้ตรงขอบเตียง “พี่รอง ช่วยยกข้าวต้มและขนมไข่มาให้ข้าดูที” 

เซี่ยเอ้อร์จู้ได้ยินก็พยักหน้าเห็นด้วย อย่างไรก็ต้องตรวจอย่างละเอียดก่อน นางอาจวางพิษในข้าวต้มและขนมไข่ก็ได้ 

พูดตามตรง นางใจกว้างเช่นนี้ แม้กระทั่งเขายังทนดูไม่ได้ นางแปลกจากเดิมเกินไป ฉะนั้นตรวจสอบให้ละเอียดก่อนดีกว่า 

แววตาของเซี่ยอวิ๋นจิ่นทอประกายแสงเย็นยะเยือก ทว่าไม่นานเขาก็หันไปทางฝั่งแฝดสี่ “ไปกินกันได้แล้ว” 

เจ้าแฝดสี่ขานรับพร้อมเพรียง “ท่านพ่อกินก่อนสิ” 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นได้ยินคำพูดของแฝดสี่ก็รู้สึกอบอุ่นในใจขึ้นมาทันที นับได้ว่าในใต้หล้านี้ สิ่งที่ชโลมหัวใจของเขาได้ก็มีเพียงแฝดสี่คนนี้เท่านั้น 

“อืม ข้าจะกินพร้อมกับพวกเจ้า ไปกินกันเถอะ” 

แฝดสี่ได้ยินก็พยักหน้าด้วยความดีใจ จึงเดินไปข้างโต๊ะเล็กทันที เซี่ยเอ้อร์จู้ที่อยู่ในเรือนยกข้าวต้มไปป้อนเซี่ยอวิ๋นจิ่น 

สมองของเซี่ยอวิ๋นจิ่นได้รับการกระทบกระเทือน คงขยับตัวมากไม่ได้ ไม่เช่นนั้นจะทำให้ปวดศีรษะและอาเจียนอย่างรุนแรง 

นอกจากศีรษะจะได้รับบาดเจ็บแล้ว ซี่โครงสามซี่ตรงหน้าอกก็หักด้วย ม้ามมีเลือดออก แต่โชคดีที่ปริมาณไม่มาก ค่อยๆ รักษาด้วยการกินยา ส่วนขา 

เมื่อเซี่ยอวิ๋นจิ่นนึกถึงขา ก็รู้สึกอาฆาตแค้นขึ้นมา 

ในห้องครัว ลู่เจียวกินข้าวต้มไปหนึ่งชาม อันที่จริงนางยังอยากกินอีก และยังรู้สึกหิวมาก ทว่าพอเห็นร่างที่อ้วนท้วน ก็ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดว่าตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปจะคุมอาหาร 

ลู่เจียวครุ่นคิดพลางล้างจานไป นึกถึงคนที่อยู่ในเรือนตะวันออกไปด้วย ป่านนี้คงจะกินมื้อเช้ากันเสร็จแล้ว นางเลยคิดว่าจะไปเก็บโต๊ะ 

เพิ่งจะเดินไปถึงหน้าต่างของเรือนตะวันออก จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงเยือกเย็นของเซี่ยอวิ๋นจิ่นดังขึ้น 

“เซี่ยเหวินเหยา เซี่ยเหวินเจีย เซี่ยเหวินเซ่า เซี่ยเหวินอวี่ เอาชามและตะเกียบของตัวเองไปล้างในครัว” 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นฝึกฝนแฝดสี่คนนี้ให้ทำงานบางส่วนตั้งแต่ครึ่งปีก่อน ฉะนั้นเด็กชายสี่คนนี้ได้ยินคำสั่งของบิดา ก็ไปรีบล้างจานอย่างเชื่อฟัง 

“ขอรับ ท่านพ่อ” 

นอกหน้าต่าง ลู่เจียวได้ยินคำพูดของเขาก็ทำหน้าราวกับโดนฟ้าผ่า ยังคงนิ่งงันอยู่กับที่ 

เพราะจนถึงบัดนี้ นางจึงมั่นใจได้เรื่องหนึ่ง ตนเองไม่เพียงแต่ทะลุมิติ ทั้งยังทะลุเข้ามาในหนังสือด้วย 

มีหมอทหารในภพอื่นคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บจนต้องนอนโรงพยาบาล เลยซื้อนิยายมาอ่าน ในเนื้อหานิยายมีตัวร้ายอยู่สี่คน ไม่มีเรื่องชั่วใดไม่ทำ สังหารคนโดยไม่กะพริบตา ทว่าภายหลังตัวร้ายสี่คนนี้ถูกพระเอกนางเอกร่วมมือกันสังหาร ชายสี่คนนี้มีบิดาเป็นถึงโส่วฝู่[1] เพื่อที่จะแก้แค้นแทนบุตรชาย เขาจึงกลายเป็นเป็นจอมปีศาจชั่วร้าย สุดท้ายพระเอกนางเอกล้วนถูกฆ่าตาย 

สี่ดาวร้ายนั้นมีมารดาจิตใจอำมหิต ซึ่งก็คือภรรยาที่ตายจากไปตั้งแต่ยังสาว นามว่าลู่เจียว ส่วนตัวร้ายทั้งสี่นี้มีนามว่าเซี่ยเหวินเหยา เซี่ยเหวินเซ่า เซี่ยเหวินอวี่ และเซี่ยเหวินเจีย ส่วนโส่วฝู่มีนามว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่น 

สีหน้าของลู่เจียวย่ำแย่ลงทันที 

นางกลับทะลุมิติมาเป็นมารดาใจอำมหิตของตัวร้ายสี่คนนี้ หรือก็คือภรรยาที่ตายไปตั้งแต่ยังสาวของโส่วฝู่ ช่างอับโชคจริงๆ 

ขณะที่ลู่เจียวตกอยู่ในภวังค์ แฝดสี่ก็ถือชามและตะเกียบออกมา หนึ่งในแฝดที่ดูโตที่สุดถือชามสองใบ ส่วนอีกคนก็ถือจานใส่ขนมไข่มาหนึ่งจาน 

แฝดสี่คนเห็นนางเข้าก็ตื่นตระหนกขึ้นมาทันที รีบเดินไปชิดด้านข้างอย่างระมัดระวังตัว ท่าทางเช่นนั้นมองไม่ออกเลยว่าในอนาคตจะกลายเป็นตัวร้ายที่ฆ่าคนไม่กะพริบตา 

ลู่เจียวมองเด็กชายทั้งสี่ที่สูงแค่เข่าของนาง พลางมองบุรุษพิการบนเตียงที่จะได้เป็นโส่วฝู่ในอนาคต ก็อดพึมพำในใจไม่ได้ ตั้งสติ อย่าตกใจ 

ในเรือนตะวันออก เซี่ยเอ้อร์จู้ถามเซี่ยอวิ๋นจิ่นด้วยความเป็นห่วง “น้องสาม จะไปฉี่ไหม” 

เซี่ยเอ้อร์จู้เป็นคนไร้การศึกษา คำพูดคำจาก็ตรงไปตรงมา ทว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นก็ไม่ได้รังเกียจเขาแม้แต่น้อย 

“ยังไม่ปวด พี่รองกลับไปทำงานก่อนเถอะ” 

สองสามีภรรยาเซี่ยเอ้อร์จู้ถูกตระกูลเซี่ยใช้งานหนักมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นงานที่เหนื่อยหรือสกปรกเพียงใด พวกเขาสองสามีภรรยาล้วนเป็นคนจัดการ แม้กระทั่งบุตรสองคนที่พวกเขาให้กำเนิด ยังต้องช่วยให้อาหารไก่ให้อาหารหมูในบ้านตั้งแต่เด็ก 

แต่ก่อนเซี่ยอวิ๋นจิ่นเคยเกลี้ยกล่อมสองสามีภรรยาเซี่ยเอ้อร์จู้ให้ทำงานสบายกว่านี้ ไม่ต้องอดทนอดกลั้นมากถึงเพียงนี้ ทว่าพวกเขาเป็นคนซื่อตรงและไม่ช่างพูด 

ภายหลังเซี่ยอวิ๋นจิ่นลอบให้เงินช่วยเหลือพวกเขา ให้ไปซื้ออาหารและยามาบำรุงสุขภาพของตัวเอง 

นึกไม่ถึงว่าวันหนึ่ง น้ำใจของตัวเองกลับได้รับการตอบแทนเช่นนี้ ตอนที่ทุกคนทอดทิ้งเขาไป พี่รองกลับเอาเงินทั้งหมดที่มีไปซื้อยามารักษาเขา 

ตอนนี้ความรู้สึกของเซี่ยอวิ๋นจิ่นซับซ้อนจนไม่อาจอธิบายได้ เซี่ยเอ้อร์จู่หันหลังเดินออกไปก้าวใหญ่ พลางกล่าวว่า “น้องสาม ข้ามีงานต้องทำ ค่อยมาเยี่ยมเจ้าตอนเที่ยง” 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นมองส่งเขาจากไป ชีวิตนี้ไม่รู้ว่าเขาจะลุกขึ้นยืนได้อีกหรือไม่ หากยืนขึ้นมาได้ เขาจะไม่ลืมตอบแทนบุญคุณพี่รองและครอบครัว 

ลู่เจียวที่อยู่นอกเรือนเห็นเซี่ยเอ้อร์จู้เดินออกมา ก็ทักทายอย่างอ่อนแรง “พี่รองจะกลับแล้วหรือ” 

เซี่ยเอ้อร์จู้หันไปมองน้องสะใภ้ของตนด้วยความตกตะลึง นี่ผีเข้าสิงหรือไร น่ากลัวชะมัด 

เซี่ยเอ้อร์จู้ไม่กล้าอยู่ต่อ จึงรีบเดินออกจากลานหน้าบ้านทันที นึกไม่ถึงว่าเขาเพิ่งจะเดินไปได้สองก้าว ห้องครัวทิศตะวันออกมีเสียงดังสนั่นขึ้นทันที 

คนในครัวทำถ้วยชามแตก 

เซี่ยเอ้อร์จู้มีสีหน้าเปลี่ยนไป รีบหันไปมองลู่เจียว ลู่เจียวเดินเข้าไปในครัว เซี่ยเอ้อร์จู้กลัววว่านางจะตีเด็กๆ จึงตามเข้าไปด้วย 

ในห้องครัว แฝดคนสุดท้องไม่ระวังทำชามแตกระหว่างล้างจาน เวลานี้เสียขวัญจนร้องไห้อยู่ 

ลู่เจียวเพิ่งจะเข้าไปในครัว ต้าเป่าก็ลุกขึ้นก่อน “ข้า ข้าเป็นคนทำแตกเอง” 

เอ้อร์เป่าก็พูดขัด “ข้าเป็นคนทำแตกเอง” 

ซานเป่าก็รีบพูดแทรก “ข้าต่างหาก ข้าต่างหาก” 

อันที่จริงแฝดทั้งสามกลัวจนกระทั่งขาสั่นงันงก ทว่ากลับไม่ยอมแพ้ 

ลู่เจียวกลับไม่ได้สนใจเรื่องนี้ ทว่าก็ไม่ได้เข้าไปปลอบใจ นางไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเผชิญหน้ากับเรื่องนี้อย่างไร 

“เอาเถอะ ออกไปกันให้หมด” 

แฝดสี่นึกว่าตัวเองฟังผิดไป จึงแลกเปลี่ยนสายตากัน ต้าเป่าได้สติกลับมาก่อน รีบไปจูงมือซื่อเป่าไว้ แล้ววิ่งออกจากครัว อีกสองคนก็วิ่งตามกันไป 

ลู่เจียวเดินไปล้างจาน เด็กสี่คนนั้นตัวเท่าลูกเจี๊ยบ จะล้างจานได้อย่างไร 

  

———————————————- 

[1] โส่วฝู่ คือคำทับศัพท์ภาษาจีน คือตำแหน่งขุนนางอาวุโสสูงสุดในเน่ยเก๋อ ซึ่งเทียบเท่าสมุหราชเลขาธิการ 

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

Status: Ongoing

เพราะสามีดันเป็น ‘ตัวร้าย’ สุดโหด ภารกิจแก้เดธแฟลคจึงเริ่มต้นขึ้น!

แพทย์ทหารจิตใจงดงามจากศตวรรษที่ 21 ผู้หนึ่งได้รับบาดเจ็บจนต้องนอนโรงพยาบาลเลยซื้อนิยายมาอ่าน

ในเนื้อหานิยายมีตัวร้ายอยู่สี่คน ไม่มีเรื่องชั่วใดไม่ทำ สังหารคนโดยไม่กะพริบตา

ทว่าภายหลังตัวร้ายสี่คนนี้ถูกพระเอกนางเอกร่วมมือกันสังหาร แต่ชายสี่คนนี้ดันมีบิดาเป็นถึงโส่วฝู่

เพื่อที่จะแก้แค้นแทนบุตรชาย เขาจึงกลายเป็นจอมปีศาจชั่วร้าย

สุดท้ายพระเอกนางเอกล้วนถูกฆ่าตาย…และนางก็ดันทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาที่จะตายแต่ยังสาวของตัวร้ายผู้นั้น!

เพื่อเปลี่ยนชะตาความตายที่จะเกิดขึ้นนางจำต้องหลีกหนีให้ไกลจากตัวร้ายผู้นี้

ทั้งสองจึงทำสัญญากันหากนางสามารถรักษาขาที่บาดเจ็บของ เซี่ยอวิ๋นจิ่น ตัวร้ายจอมโหดจนหายดีได้

เขาจะหย่าให้นาง และนางจะได้ไปใช้ชีวิตอิสระหลีกหนีเดธแฟลคที่จะเกิดขึ้น!

ปฏิบัติการการเอาอกเอาใจสามีตัวร้ายและขุนลูกชายแฝดสี่ให้จ้ำม่ำจึงเริ่มต้นขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท