ตอนที่ 99 มีคนกระโดดน้ำ
ณ เรือนตะวันออก สวี่ตัวจินกับชาวบ้านที่อยู่ข้างกายถามถึงอาการของเซี่ยอวิ๋นจิ่นด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นสีหน้าของเซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่สู้ดี สวี่ตัวจินก็ถามไถ่อย่างใส่ใจ
“การผ่าตัดไม่มีปัญหาใช่ไหม เหตุใดสีหน้าเจ้าถึงย่ำแย่เช่นนี้ จะให้ข้าเชิญท่านหมอมาดูหน่อยไหม”
พอเขาพูดจบ ก็นึกขึ้นได้ว่าภรรยาของเซี่ยอวิ๋นจิ่นก็รู้วิชาแพทย์เช่นกัน จึงกล่าวเสริมทันทีว่า “หรือจะให้ภรรยาของเจ้ามาตรวจดีล่ะ”
มารดาของหลินเอ้อร์ตั้นพยักหน้าเห็นด้วยกับเรื่องนี้ทันที ทักษะการแพทย์ของภรรยาอวิ๋นจิ่นยอดเยี่ยมมาก
ลู่เจียวที่อยู่ด้านนอกยกน้ำเข้ามาได้ยินพอดี นางกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เขาเพิ่งผ่าตัดเสร็จ ยังปวดขาอยู่ หลังจากผ่านวันนี้ไปก็จะไม่ปวดเท่านี้แล้ว”
ลู่เจียวยกน้ำมาตรงหน้าเซี่ยอวิ๋นจิ่น “กินยาแก้ปวดเถอะ”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นนึกถึงสิ่งที่ลู่เจียวกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ นางบอกว่ายาแก้ปวดพวกนี้ หากทนเจ็บไหวก็อย่ากินจะดีกว่า
“ไม่ต้องหรอก ข้าทนได้” เขากัดฟันทน
ลู่เจียวเห็นใบหน้าเขาซีดเซียว เหงื่อกาฬท่วมหน้าผาก ดูท่าคงจะจะปวดมาก
ร่างกายคนเราแต่ละคนรับรู้ความเจ็บปวดได้ไม่เท่ากัน ดังนั้นไม่จำเป็นต้องดันทุรังฝืนทน
“พอแล้ว กินแค่เม็ดหนึ่งหรือครึ่งเม็ดไม่เป็นอะไรหรอก ขอเพียงทนให้ผ่านคืนนี้ไปได้ พรุ่งนี้ก็จะดีขึ้นแล้ว”
นางพูดจบก็นำยาแก้ปวดในมือยื่นจ่อปากเซี่ยอวิ๋นจิ่นแล้ว เซี่ยอวิ๋นจิ่นมองนางพร้อมเม้มริมฝีปากบางอย่างดื้อดึง
ท่าทางดื้อรั้นของเขาในเวลานี้เหมือนกับต้าเป่าไม่มีผิด
ในหัวลู่เจียวมีความคิดหนึ่งแวบเข้ามา เหตุใดนางจึงรู้สึกว่านางกำลังเลี้ยงลูกห้าคนล่ะ
“หากเจ้าไม่กินยา คืนนี้ก็ข่มตาหลับไม่ลงหรอก หากนอนไม่พอจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของขา ดังนั้นเจ้ากินสักเม็ดจะดีกว่า”
ลู่เจียวประคองเซี่ยอวิ๋นจิ่น ไม่สนว่าเขาจะเต็มใจหรือไม่ นางยัดยาแก้ปวดเม็ดเล็กเข้าปากเขาไปแล้ว
เซี่ยอวิ๋นจิ่นโมโหจนถลึงตาใส่นาง แต่นางยิ้มปลอบเขา “อย่าดื้อ มา ดื่มน้ำสักอึก”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นพ่ายแพ้ให้กับความอ่อนโยนในดวงตานาง ได้แต่ก้มหน้าดื่มน้ำอย่างหุงดหงิด กลืนยาแก้ปวดในปากลงไปแล้ว
เมื่อกินยาแก้ปวดหมดแล้ว เขาก็เอนกายลงบนเตียงอย่างหงุดหงิด ไม่อยากสนใจลู่เจียวอีก
ลู่เจียวหาได้แยแส ถือชามเปล่าลุกขึ้นเดินออกไป
สวี่ตัวจินกล่าวชี้แนะเซี่ยอวิ๋นจิ่นด้วยความจริงใจ “น้องอวิ๋นจิ่น น้องสะใภ้ทำไปเพราะหวังดีกับเจ้าทั้งนั้น เจ้าต้องเชื่อฟังนางมากๆ นะ”
พอพูดถึงตรงนี้ สวี่ตัวจินก็นึกถึงเรื่องที่ลู่เจียวช่วยถอนพิษงูให้เขา จึงมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นพร้อมกล่าวอย่างซาบซึ้งใจ
“พวกเจ้าสองสามีภรรยามีบุญคุณที่ช่วยให้ชีวิตใหม่กับสกุลสวี่ของข้า ข้าไม่รู้จะตอบแทนพวกเจ้าอย่างไรแล้ว เกรงว่าทั้งชาตินี้ก็คงจะตอบแทนได้ไม่หมด”
เมื่อเซี่ยอวิ๋นจิ่นได้ยินคำพูดของสวี่ตัวจิน ก็ส่ายหน้าด้วยสายตาอบอุ่น “พี่ใหญ่สวี่อย่าเก็บไปใส่ใจเลย พวกเราเป็นเพื่อนบ้านกัน หากช่วยได้ก็ช่วย ไม่ได้ควรค่าให้จดจำเอาไว้ตลอด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการตอบแทนอะไรเลย”
เมื่อได้ยินเซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวดังนั้น สวี่ตัวจินก็น้ำตารื้น
“น้องอวิ๋นจิ่น แม้ข้าจะเป็นคนเถื่อนไม่รู้หนังสือ แต่ก็รู้ว่าบุญคุณจากการช่วยชีวิตนั้นยิ่งใหญ่ดุจขุนเขา หากวันข้างหน้าพวกเจ้าสองคนมีอะไรจะใช้สกุลสวี่ของข้าก็บอกมาได้เลย พวกเราจะช่วยเต็มที่แน่นอน”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่แล้วนอกลานบ้านเล็กสกุลเซี่ยก็มีคนรีบร้อนวิ่งมา ร้องถามอย่างร้อนรนว่า
“อาสะใภ้สามอยู่หรือไม่”
ลู่เจียวกำลังถือชามเดินไปหน้าประตูเรือนตะวันออก เมื่อได้ยินเสียงก็รู้ทันทีว่าผู้มาคือเซี่ยเสี่ยวเจวียน บุตรสาวคนเล็กของผู้ใหญ่บ้าน “เสี่ยวเจวียน เป็นอะไรไป”
เดิมทีคนในเรือนตะวันออกกำลังคุยกันอยู่ แต่พอได้ยินเสียงด้านนอก พวกเขาก็หยุดคุยและหันไปมองนอกประตูพร้อมกัน
เซี่ยเสี่ยวเจวียนพุ่งเข้ามาแล้วตะโกนเสียงดังอย่างร้อนใจ “อาสะใภ้สาม เร็วเข้า ท่านตามข้าไปดูหน่อย ลูกสะใภ้ของแม่หม้ายหลี่กระโดดน้ำฆ่าตัวตายแล้ว ทุกคนอยากให้ท่านไปดูว่าจะช่วยชีวิตได้หรือไม่”
ซย่าเหลียน ลูกสะใภ้ของแม่หม้ายหลี่ นางเป็นคนที่มีชะตากรรมขมขื่นเช่นกัน เนื่องจากในครอบครัวมีพี่น้องเยอะ ในฐานะที่นางเป็นบุตรีคนโตจึงถูกมารดาขายให้แม่หม้ายหลี่ ผลปรากฏว่าเหมือนกระโดดเข้ากองไฟ กินไม่อิ่มนอนไม่อุ่น ทำงานบ้านทั้งวันก็ไม่เสร็จ
ซ้ำนางยังคลอดบุตรีสองคนติดต่อกัน แม่หม้ายหลี่จึงรังแกนางหนักกว่าเดิม ใช้งานนางเยี่ยงสัตว์เดรัจฉาน ไม่เห็นนางเป็นคน
แม้ลู่เจียวจะรังเกียจแม่หม้ายหลี่ แต่ก็อดเห็นอกเห็นใจซย่าเหลียนคนนี้ไม่ได้ เมื่อได้ยินที่เซี่ยเสี่ยวเจวียนบอก นางก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง นำชามเปล่าวางไว้บนโต๊ะในห้องโถง แล้วรีบเดินตามเซี่ยเสี่ยวเจวียนไป
เจ้าตัวเล็กทั้งสี่รีบวิ่งตามออกมาที่ลานบ้าน
“ท่านแม่”
ลู่เจียวมองเด็กๆ แล้วบอกว่า “แม่มีธุระ พวกเจ้าอยู่บ้านกับท่านยาย”
ตอนนี้ไม่รู้สถานการณ์ของซย่าเหลียน หากนางจมน้ำตายไปแล้ว เจ้าตัวเล็กทั้งสี่ไปเห็นศพเข้าจะต้องตกใจแน่นอน ลู่เจียวไม่อยากให้พวกเขาเห็น จึงให้พวกเขารออยู่ที่บ้าน
เถียนซื่อกลัวกว่าเจ้าตัวเล็กทั้งสี่จะก่อเรื่อง จึงรีบเข้ามาเกลี้ยกล่อมให้พวกเขารออยู่บ้าน
ส่วนลู่เจียวกับเซี่ยเสี่ยวเจวียนก็วิ่งตรงไปที่ริมแม่น้ำหน้าหมู่บ้าน
หน้าหมู่บ้านเซี่ยมีแม่น้ำที่ลาดเอียงสายหนึ่ง แม้จะไม่กว้าง แต่กลับลึกมาก
ริมแม่น้ำตอนนี้มีคนมุงดูอยู่ไม่น้อย แต่ละคนกำลังด่าทอแม่หม้ายหลี่ว่าสติฟั่นเฟือน บีบให้ลูกสะใภ้ตัวเองต้องตาย
“เกรงว่าจะช่วยไม่ได้แล้ว ไม่มีลมหายใจแล้ว”
“ข้าเพิ่งแตะตรงรูจมูกนาง ไม่มีลมออกมาเลยสักนิด”
“ทำไมหมู่บ้านเซี่ยของพวกเราถึงมีคนที่ไร้ความเป็นมนุษย์อย่างแม่หม้ายหลี่ได้ เช่นนี้จะไม่ทำให้หมู่บ้านพวกเราลำบากไปด้วยหรอกหรือ ต้องไล่สกุลเสิ่นออกไป”
“ใช่ จะปล่อยให้นางอยู่ที่หมู่บ้านเซี่ยต่อไปไม่ได้”
ขณะที่ทุกคนกำลังโมโห ก็มีคนสังเกตเห็นว่าลู่เจียวมาถึงแล้ว จึงรีบเอ่ยว่า “หลีกทางเร็วเข้า ภรรยาอวิ๋นจิ่นมาแล้ว ให้นางมาดูว่าจะช่วยชีวิตได้หรือไม่”
“ไม่มีลมหายใจแล้ว จะช่วยได้อย่างไร”
แต่ทุกคนก็หลีกทางให้แล้ว ลู่เจียวเดินสับเท้าก้าวยาวเข้ามาหยุดอยู่ข้างกายซย่าเหลียนที่ถูกคนนำตัวมาวางไว้บนพื้น นางฟังเสียงหัวใจและวัดชีพจรตรงคอให้ซย่าเหลียน หลังจากตรวจแล้ว ก็ยืนยันได้ว่าซย่าเหลียนหัวใจหยุดเต้นแล้ว
ลู่เจียวไม่ได้ลนลานหรือหวาดกลัว ทำการกู้ชีพอย่างเร่งด่วนทันที นางกำจัดโคลนและเศษอาหารในปากซย่าเหลียนก่อน จากนั้นคลายเสื้อผ้าบนตัวนาง แล้วสุดท้ายก็กระทุ้งร่างให้น้ำออกมาจากปอดและกระเพาะอาหารของนาง
คนที่มามุงดูเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ลู่เจียวออกคำสั่งเสียงเข้มโดยไม่เงยหน้ามอง “ทุกคนหลีกทางหน่อย ให้อากาศถ่ายเท”
เมื่อได้ยินนางสั่ง พวกชาวบ้านก็ถอยออกไปทันที พร้อมทั้งถามอย่างกระวนกระวายว่า “ภรรยาอวิ๋นจิ่น ยังช่วยชีวิตนางได้อยู่หรือไม่”
ลู่เจียวไม่มีเวลามาสนใจพวกชาวบ้าน พอทำให้ซย่าเหลียนคายน้ำออกมาได้แล้ว นางก็นำซย่าเหลียนวางนอนบนพื้นแล้วปั๊มหัวใจกู้ชีพ
ขณะที่นางกำลังปั๊มหัวใจก็กวาดตามองไปทางกลุ่มคน หาคนมาช่วยผายปอดให้ซย่าเหลียน
แม้นางจะสามารถผายปอดให้ซย่าเหลียนได้เหมือนกัน แต่เมื่ออยู่ท่ามกลางสายตาฝูงชน ไม่รู้ว่าคนอื่นจะวิพากษ์วิจารณ์เช่นไร คนเหล่านี้ไม่รู้ว่าอะไรคือการผายปอด นางไม่อยากช่วยชีวิตคนแล้วยังต้องหาเรื่องใส่ตัวอีก
ลู่เจียวเงยหน้ามองเสิ่นเสี่ยวซานที่แอบอยู่หลังกลุ่มคน เจ้าหมอนี่ เห็นตำตาว่าภรรยาตัวเองจะตายอยู่แล้ว ไม่น่าเชื่อว่าจะไม่รู้จักเศร้าเสียใจแม้แต่น้อย
“เสิ่นเสี่ยวซาน มานี่” ลู่เจียวเรียกเสิ่นเสี่ยวซานอย่างฉุนเฉียว
เสียงเรียกของนางทำให้ชาวบ้านที่มุงอยู่พากันมองหาเสิ่นเสี่ยวซาน ไม่นานก็พบ แล้วก็มีคนผลักเขาเข้ามา
“มาเป่าลมเข้าปากให้ภรรยาเจ้า” ลู่เจียวสั่งเสิ่นเสี่ยวซาน