ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย – ตอนที่ 92 ไม่อยากเห็นพวกเขาอีกแม้เพียงแวบเดียว

ตอนที่ 92 ไม่อยากเห็นพวกเขาอีกแม้เพียงแวบเดียว

ตอนที่ 92 ไม่อยากเห็นพวกเขาอีกแม้เพียงแวบเดียว
เมื่อแม่หม้ายหลี่ได้ฟังคำด่าของเถียนซื่อก็โมโห นางคิดจะด่ากลับ แต่พอเงยหน้ามาเห็นลู่เจียวที่กำลังมองนางด้วยสีหน้าเย็นยะเยือก นางก็ตกอกตกใจ

นางหันหลังแล้วเดินออกไป หลัววั่งไฉกับเสิ่นเสี่ยวซานที่ตามนางมาก็ไม่กล้าอยู่ต่อเช่นกัน

เพียงแต่ทั้งสามเพิ่งเดินออกไปได้ไม่กี่ก้าว ลู่เจียวที่อยู่ข้างหลังกลับกล่าวเสียงต่ำว่า “หยุดก่อน”

แม่หม้ายหลี่ หลัววั่งไฉ กับเสิ่นเสี่ยวซานตัวสั่นเล็กน้อย ทั้งสามหันกลับมามองพร้อมกัน

“เจ้า เจ้าคิดจะทำอะไร” แม่หม้ายหลี่แข็งใจถาม

ลู่เจียวเดินเข้าไปมองนางด้วยสายตาเยียบเย็น “หากไม่ใช่เพราะเห็นว่าเจ้าอายุมากแล้ว วันนี้ข้าไม่ปล่อยเจ้าไปหรอก ขอเตือนเจ้าอีกครั้ง หากวันหลังเจ้ากล้ามาก่อเรื่องที่เรือนของข้าอีก ข้าไม่ปล่อยเจ้าไปแน่”

ลู่เจียวพูดจบแล้วเงยหน้ามองหลัววั่งไฉกับเสิ่นเสี่ยวซาน ทั้งสองส่ายหน้ารัวๆ

“ไม่ใช่ข้านะ แม่ยายข้าอยากมาเอง”

“ข้าไม่ได้อยากมานะ ท่านแม่ข้าต่างหากที่อยากมา”

ผู้ชายสองคนนี้พูดจบก็รีบจูงมือแม่หม้ายหลี่เดินออกไป เพราะกลัวว่าอยู่ต่อแล้วจะถูกตบ

นอกรั้วของสกุลเซี่ยมีคนยืนมุงอยู่หลายคน เมื่อเห็นพวกแม่หม้ายหลี่ก็กล่าวอย่างหงุดหงิด

“ลูกสาวเจ้าหายไป เจ้าไปตามหาในตัวเมืองไม่เป็นหรืออย่างไร ถ่อมาหาถึงเรือนคนอื่น ทำอย่างกับคนอื่นติดหนี้เจ้า”

“วันนี้ภรรยาอวิ๋นจิ่นเข้าไปในตัวเมืองก็เพราะเรื่องการผ่าตัดของอวิ๋นจิ่น จะมีเวลาไปสนใจลูกสาวนางได้อย่างไร”

“แม่นางเสิ่นซิ่วนั่นอาจจะหนีตามใครไปแล้วก็ได้ ก่อนหน้านี้นางบอกว่าไม่อยากแต่งงานกับหลัววั่งไฉ ไม่แน่ว่าอาจจะฉวยโอกาสนี้หนีไป”

“ข้าเองก็คิดเช่นกันว่านางอาจจะหนีไป ไม่อย่างนั้นเหตุใดจึงไม่เห็นนางล่ะ”

คำพูดของพวกชาวบ้านทำให้แม่หม้ายหลี่กับหลัววั่งไฉสีหน้ามืดครึ้ม ในหัวของทั้งสองมีความคิดอย่างเดียวกัน เสิ่นซิ่วคงไม่ได้หนีไปจริงๆ ใช่หรือไม่ แม้ว่าก่อนหน้านี้นางจะไม่เต็มใจแต่งงานกับหลัววั่งไฉจริงดังว่าก็ตาม

หลังจากลู่เจียวทักทายคนที่อยู่นอกรั้ว ก็กลับมานอนที่ห้องตัวเอง

วันนี้ตอนค่ำ แฝดสี่คนว่าง่ายรู้ความและไม่ได้รบเร้าให้นางเล่านิทานให้ฟัง

“ท่านแม่นอนไวๆ พรุ่งนี้ต้องส่งท่านพ่อไปรักษาขาในตัวเมือง”

“ได้ พวกเจ้าก็รีบนอนด้วย” ลู่เจียวกล่าวพร้อมรอยยิ้ม

ต้าเป่า เอ้อร์เป่า ซานเป่ายังคงไปนอนกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นที่เรือนตะวันออก ส่วนซื่อเป่าน้อย ลู่เจียว และเถียนซื่อไปนอนที่เรือนตะวันตก

วันต่อมา ในลานบ้านเล็กของสกุลเซี่ย มีคนมารวมตัวกันไม่น้อย นับดูคร่าวๆ ก็เห็นคนประมาณสี่สิบห้าสิบคน ทั้งหมดล้วนเป็นคนในครอบครัวอื่นของตระกูลเซี่ย ส่งตัวแทนมาครอบครัวละคน

ลู่เจียวเห็นว่ามีคนมากมายขนาดนี้ นางก็ปวดหัวนิดหน่อย นี่จะไปผ่าตัดหรือจะไปทะเลาะวิวาทกัน จะขนคนมากขนาดนี้ไปทำไม

นางเรียกผู้ใหญ่บ้านกับจู๋จ่างไปคุยกันอีกด้าน “คนเยอะเกินไปแล้ว เดี๋ยวคนอื่นเขาจะคิดว่ายกพวกไปตีกัน ทำเช่นนี้จะเกิดความวุ่นวายได้ ข้าว่าให้คนไปน้อยๆ จะดีกว่า”

ผู้ใหญ่บ้านกับจู๋จ่างคิดตามก็พบว่า ที่นางพูดมีเหตุผล ทั้งสองจึงปรึกษากันครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ให้ไปเรือนละคน ทำให้เหลืออยู่ยี่สิบกว่าคน

เกวียนของผู้ใหญ่บ้านมารอนานแล้ว เซี่ยอวิ๋นจิ่นก็รับประทานอาหารเช้าแล้วเช่นกัน เก็บเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว

ลู่เจียวมองเขา แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “เจ้าไม่ต้องห่วง ไม่เป็นอะไรหรอก การผ่าตัดวันนี้จะต้องสำเร็จแน่นอน อย่ากังวลแล้วทำใจให้สงบ ทำเช่นนี้จะเป็นผลดีต่อการผ่าตัด”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นเหลือบตามองสตรีที่อยู่ข้างกาย ใบหน้าของหญิงสาวซูบลงไม่น้อย คางสองชั้นกลายเป็นชั้นเดียวแล้ว ดวงตาก็โตขึ้นเล็กน้อยเช่นกัน ทำให้เห็นได้ชัดเจนว่านางมีดวงตาลูกบ๊วย

เซี่ยอวิ๋นจิ่นมองนางแล้วก็นึกขึ้นได้ เอ้อร์เป่าและซานเป่าหน้าตาเหมือนผู้หญิงคนนี้มาก เดิมทีเขาไม่เคยเข้าใจเลยว่าเด็กน้อยสองคนนั้นหน้าตาเหมือนใคร ที่แท้ก็เหมือนมารดาของพวกเขานี่เอง

ขณะที่เซี่ยอวิ๋นจิ่นกำลังคิด ลู่เจียวก็โน้มตัวลงจะอุ้มเขาไปขึ้นเกวียน

นึกไม่ถึงว่าจะถูกเซี่ยอวิ๋นจิ่นห้ามไว้ นอกลานบ้านมีคนมากมายขนาดนั้น เขาไม่สะดวกใจที่จะให้ลู่เจียวอุ้มออกไปจริงๆ

“ให้น้องเขยอุ้มข้าออกไปแล้วกัน”

ลู่เจียวไม่ได้ปฏิเสธ ตะโกนเรียกลู่กุ้ยที่อยู่ข้างนอกให้เข้ามาอุ้มเซี่ยอวิ๋นจิ่นไปขึ้นรถม้าด้านนอก

“ลู่กุ้ย ระวังหน่อยนะ”

ลู่เจียวรอให้ลู่กุ้ยอุ้มเซี่ยอวิ๋นจิ่นขึ้นมา แล้วนางก็นำที่นอนเก่ารวมทั้งผ้าห่มผืนบางจากข้างห้องเดินตามไป พอไปถึงข้างนอก นางก็รีบเดินนำหน้าไปก่อน นำที่นอนปูบนเกวียน จากนั้นก็บอกใบ้ให้ลู่กุ้ยวางเซี่ยอวิ๋นจิ่นลง นางค่อยนำผ้าห่มผืนบางคลุมบนตัวเซี่ยอวิ๋นจิ่น

คนของตระกูลที่เตรียมตัวจะส่งเซี่ยอวิ๋นจิ่นไปผ่าตัดในตัวเมืองล้วนเข้ามาทักทายเขา

“อวิ๋นจิ่นทำใจให้สงบ วันนี้การผ่าตัดของเจ้าจะต้องสำเร็จแน่นอน”

“ใช่แล้ว เจ้าวาสนาดีจะตาย”

“เจ้าไม่ต้องกังวล ได้ยินว่าหมอฉีเป็นหมอที่เก่งที่สุดในเหมืองหลวง อาการบาดเจ็บแค่นี้เป็นเพียงเรื่องเล็กสำหรับเขา”

เมื่อเซี่ยอวิ๋นจิ่นได้ยินพวกเขาพูดเช่นนี้ บนใบหน้าก็เจือรอยยิ้มบางๆ ขณะมองคนในตระกูลที่อยู่ข้างกายเหล่านี้ เขาก็บอกกับตัวเองในใจว่า หากวันข้างหน้าเขาได้ออกจากหมู่บ้านสกุลเซี่ย เขาจะไม่ลืมคนในสกุลเซี่ยเหล่านี้แน่นอน

ขณะที่เซี่ยอวิ๋นจิ่นครุ่นคิด จู่ๆ ก็มีเสียงสะอื้นดังมาด้านนอกกลุ่มคน “เจ้าสาม แม่มาส่งลูกไปผ่าตัดแล้ว”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นที่อยู่บนเกวียนมีความรู้สึกรำคาญแวบผ่านเข้ามาในดวงตา

หร่วนซื่อพาทุกคนในบ้านตามมาแล้ว แต่หลังจากมองให้ละเอียดกลับพบว่าเซี่ยเอ้อร์กับภรรยาไม่มา

คนของสกุลเซี่ยที่มาก็คือ เซี่ยเหล่าเกินและภรรยา เซี่ยต้าเฉียงกับภรรยา อีกทั้งยังมีเซี่ยอวิ๋นหวากับเซี่ยหลานด้วย

หร่วนซื่อนำครอบครัวเดินไปข้างกายเซี่ยอวิ๋นจิ่น แล้วมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นด้วยสีหน้ารักใคร่เอ็นดู

“เจ้าสามอย่ากังวลไป พวกเราทุกคนจะไปอยู่เป็นเพื่อนตอนเจ้าผ่าตัด ขาของเจ้าจะดีขึ้นโดยเร็วแน่นอน”

เซี่ยเหล่าเกินที่ตามติดอยู่ข้างหลังพยักหน้า “เจ้าสาม ผ่อนคลายจิตใจเข้าไว้ ในเมื่อหมอฉีเป็นคนผ่าตัดให้ เจ้าจะต้องหายดีแน่นอน”

เซี่ยต้าเฉียงที่อยู่ข้างหลังก็ฉีกยิ้มพูดกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นเช่นกัน “น้องสาม รอให้เจ้าหายดีแล้ว พี่กับเจ้าต้องไปดื่มด้วยกันสักจอก”

“น้องสาม พอรู้ว่าวันนี้เจ้าจะเข้ารับการผ่าตัด ท่านพ่อท่านแม่กับพวกเราก็ไม่ได้นอนกันเลยทั้งคืน ในใจพวกเราต่างก็เป็นห่วงน้องสามนะ” เฉินหลิ่วกล่าวด้วยใบหน้าประจบสอพลอ

เมื่อเฉินหลิ่วพูดจบ ชาวบ้านที่อยู่ข้างหลังก็เผยสีหน้าดูถูกเหยียดหยามออกมาอย่างไม่คิดปิดบัง นี่เป็นเพราะเห็นว่าขาของอวิ๋นจิ่นกำลังจะหายดีน่ะสิ เลยรีบมาประจบสอพลอ เมื่อก่อนใครกันคือคนแรกที่ไล่อวิ๋นจิ่นไป

แม้ชาวบ้านจะนึกดูหมิ่น แต่ก็ไม่ได้เอ่ยออกมา อย่างไรเสียอวิ๋นจิ่นก็เป็นบุตรของเซี่ยเหล่าเกิน

ไม่แน่พวกเขาอาจจะกลับมาคืนดีกันในภายหลังก็ได้ หากพวกตนปากมาก จะกลายเป็นศัตรูกันเปล่าๆ

เมื่อเฉินหลิ่วพูดจบ เซี่ยอวิ๋นหวา บุตรคนที่สี่ของสกุลเซี่ยก็เดินเข้ามาเช่นกัน เขามองเซี่ยอวิ๋นจิ่นด้วยดวงตาแดงก่ำ “พี่สาม เรื่องก่อนหน้านี้ล้วนเป็นความผิดของน้องชาย รอให้ท่านหายดีแล้ว น้องชายจะชดใช้ให้ท่าน”

“พี่สี่ พี่สามรักเอ็นดูพวกเรามาตลอด ไม่โทษเจ้าหรอก” เซี่ยหลานที่อยู่ข้างหลังพูดต่อจากเขา

เซี่ยอวิ๋นจิ่นมองแฝดชายหญิงคู่นี้อย่างไม่อินังขังขอบ ยกมุมปากแสยะยิ้ม ในอดีตเขาดีกับพวกนี้ขนาดไหน แล้วตอนนี้เป็นอย่างไรล่ะ สุดท้ายก็เป็นเพียงหมาป่าอกตัญญูคู่หนึ่ง คนประเภทนี้เลิกฝันไปได้เลยว่าเขาจะหยิบยื่นความปรารถนาดีอะไรให้อีกในภายหลัง

เซี่ยอวิ๋นจิ่นพลันหลับตา ไม่อยากเห็นคนเหล่านี้อีกแม้เพียงแวบเดียว

ข้างๆ เกวียน ลู่เจียวบอกเขาว่า “เอาละ สายแล้ว พวกเราออกเดินทางกันเดี๋ยวนี้เลย หมอฉีนัดผ่าตัดไว้ช่วงเช้า”

ลู่เจียวกำลังจะขึ้นเกวียน แต่แล้วแฝดสี่ก็วิ่งพรวดพราดเข้ามาอยู่ข้างกายนาง เรียกเป็นเสียงเดียวกันว่า “ท่านแม่”

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

Status: Ongoing

เพราะสามีดันเป็น ‘ตัวร้าย’ สุดโหด ภารกิจแก้เดธแฟลคจึงเริ่มต้นขึ้น!

แพทย์ทหารจิตใจงดงามจากศตวรรษที่ 21 ผู้หนึ่งได้รับบาดเจ็บจนต้องนอนโรงพยาบาลเลยซื้อนิยายมาอ่าน

ในเนื้อหานิยายมีตัวร้ายอยู่สี่คน ไม่มีเรื่องชั่วใดไม่ทำ สังหารคนโดยไม่กะพริบตา

ทว่าภายหลังตัวร้ายสี่คนนี้ถูกพระเอกนางเอกร่วมมือกันสังหาร แต่ชายสี่คนนี้ดันมีบิดาเป็นถึงโส่วฝู่

เพื่อที่จะแก้แค้นแทนบุตรชาย เขาจึงกลายเป็นจอมปีศาจชั่วร้าย

สุดท้ายพระเอกนางเอกล้วนถูกฆ่าตาย…และนางก็ดันทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาที่จะตายแต่ยังสาวของตัวร้ายผู้นั้น!

เพื่อเปลี่ยนชะตาความตายที่จะเกิดขึ้นนางจำต้องหลีกหนีให้ไกลจากตัวร้ายผู้นี้

ทั้งสองจึงทำสัญญากันหากนางสามารถรักษาขาที่บาดเจ็บของ เซี่ยอวิ๋นจิ่น ตัวร้ายจอมโหดจนหายดีได้

เขาจะหย่าให้นาง และนางจะได้ไปใช้ชีวิตอิสระหลีกหนีเดธแฟลคที่จะเกิดขึ้น!

ปฏิบัติการการเอาอกเอาใจสามีตัวร้ายและขุนลูกชายแฝดสี่ให้จ้ำม่ำจึงเริ่มต้นขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท