ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย – ตอนที่ 123 เขาเหมือนว่ารับปากเจ้าทุกเรื่อง

ตอนที่ 123 เขาเหมือนว่ารับปากเจ้าทุกเรื่อง

ตอนที่ 123 เขาเหมือนว่ารับปากเจ้าทุกเรื่อง
หลัววั่งไฉคิดไม่ถึงว่าลู่เจียวถึงกับช่วยเหลือเขาเช่นนี้ น้ำตาก็เอ่อล้นขอบตา ผู้ชายแท้ๆ ร้องไห้ออกมาต่อหน้าผู้คน

“ภรรยาอวิ๋นจิ่น ข้าวางอุบายล่อลวงเจ้าเช่นนั้น เจ้ายังดีกับข้าเช่นนี้ เจ้าเป็นคนดีจริง”

พอหลัววั่งไฉร้องไห้ หลัวเสี่ยวเฉ่าก็ตกใจร้องไห้ตาม

พอพ่อลูกสองคนร้องไห้ เด็กในลานบ้านก็พากันตกใจ แต่ละคนตกใจหันมามองกันหมด

เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ก็รีบปรี่เข้ามาขวางอยู่ด้านหน้าลู่เจียว

“พวกเจ้าทำอะไร”

“อย่าคิดรังแก่ท่านแม่ข้า”

“พวกเราจะปกป้องท่านแม่”

ซื่อเป่าจ้องมองหลัววั่งไฉกับหลัวเสี่ยวเฉ่าอย่างดุดัน ราวกับลูกหมาป่าดุร้าย

ลู่เจียวรีบยกมือลูบหัวหนูน้อยทั้งสี่ “เอาละ พวกเขาไม่ได้รังแกแม่ หลัวเสี่ยวเฉ่าอยากจะมาเรียนหนังสือกับพวกเจ้า”

แฝดสี่มองไปทางหลัวเสี่ยวเฉ่าทันที แค่มองก็จำได้ว่านางคือลูกสาวของเสิ่นซิ่ว เจ้าแฝดสี่จึงไม่ยอมสอน

เพราะพวกเขาจำได้ว่ามารดาหลัวเสี่ยวเฉ่าเหมือนอยากเป็นอนุท่านพ่อพวกเขา ไม่ได้ๆ พวกเขาไม่สอนลูกสาวผู้หญิงไม่ดี

“ท่านแม่ พวกเราไม่สอนนาง”

“ใช่ ท่านแม่นางคิดเป็นอนุท่านพ่อข้า ยังคิดมีลูกให้ท่านพ่อข้า ข้าไม่อยากสอนนาง”

หลัววั่งไฉพลันอับอายจนหน้าแดง

หลัวเสี่ยวเฉ่าข้างๆ เขาก็ตกใจจนกระถดตัวไปอยู่ข้างหลัววั่งไฉ

ลู่เจียวยื่นมือออกไปดึงเจ้าหนูน้อยทั้งสี่มาอบรม กล่าวว่า “ลูกรัก พวกเราอย่าได้ตัดสินว่านางเป็นคนไม่ดีเพราะท่านแม่นางไม่ใช่คนดี มีพ่อแม่ที่ไม่ดีได้ให้กำเนิดลูกที่ดี และมีพ่อแม่ที่ดีให้กำเนิดลูกที่ไม่ดีเช่นกัน เจ้าว่าจริงไหม ท่านแม่นางไม่ดีไม่ได้หมายความว่าหลัวเสี่ยวเฉ่าไม่ดี พวกเจ้าดูได้ว่านางดีหรือไม่ หากนางไม่ดี พวกเราก็ไม่สอนดีไหม”

เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ปั้นหน้าเคร่งเครียดคิดตามคำพูดลู่เจียวด้วยท่าทางจริงจัง สุดท้ายก็ยอมรับเหตุผลลู่เจียว

ต้าเป่ากล่าวกับสามหนูน้อยข้างๆ ท่าทางจริงจังเป็นการเป็นงานว่า “ท่านแม่กล่าวได้ถูกต้อง เจ้าดู ปู่ย่าพวกเราไม่ดี แต่ท่านพ่อกับท่านแม่ก็เป็นเด็กดี”

เด็กสามคนคิดแล้วก็พยักหน้าพร้อมกัน “ถูกต้อง”

สี่คนจึงไม่ได้รู้สึกไม่เป็นมิตรกับหลัวเสี่ยวเฉ่ามากเท่าไรแล้ว ลู่เจียวมองหลัววั่งไฉกล่าวว่า “เอาละ เจ้าทิ้งหลัวเสี่ยวเฉ่าไว้ ให้เรียนหนังสือกับพวกต้าเป่าละกัน”

หลัววั่งไฉพยักหน้าอย่างแรง ปาดน้ำตามองหลัวเสี่ยวเฉ่าข้างๆ “เสี่ยวเฉ่า เจ้าอยู่ที่นี่เรียนหนังสือกับพี่ๆ ไปดีๆ นะ ไว้พ่อจะมารับเจ้ากลับบ้าน”

หลัวเสี่ยวเฉ่ามองเด็กผู้ชายรอบๆ ก็อดกลัวไม่ได้ ยื่นมือออกไปคว้าเสื้อหลัววั่งไฉ

หลัววั่งไฉย่อตัวลงปลอบนาง เห็นท่าทางหวาดกลัวของหลัวเสี่ยวเฉ่า เขาก็คิดจะพากลับไปด้วย

แต่เขารู้ว่านี่คือโอกาส ด้วยความสามารถเขา ไม่อาจมีเงินพอส่งหลัวเสี่ยวเฉ่าไปเรียนหนังสือที่สำนักศึกษาส่วนตัวได้ นับประสาอะไรกับสำนักศึกษาส่วนตัวเองก็ไม่รับศิษย์หญิง นี่คือโอกาสของเสี่ยวเฉ่า

“เสี่ยวเฉ่า อย่าดื้อนะ ไว้พ่อจะซื้อลูกกวาดให้เจ้ากิน”

หลัวเสี่ยวเฉ่าได้ยินว่าลูกกวาด ในที่สุดก็ปล่อยมือ หลัววั่งไฉมองลู่เจียวกล่าวว่า “รบกวนภรรยาอวิ๋นจิ่นแล้ว”

เขากล่าวจบก็หันหลังก้าวเท้าจากไปทันที หลัวเสี่ยวเฉ่าแผดร้องเสียงดัง เด็กชายรอบๆ พากันสบตากัน สุดท้ายก็พึมพำเบาๆ

“ผู้หญิงนี่น่ารำคาญจริง รู้จักแต่ร้องไห้”

“เหมือนท่านแม่นาง ท่านแม่นางก็เอาแต่ร้องไห้”

ลู่เจียวกระแอมไอขึ้นเสียงหนี่ง มองไปทางเด็กสิบกว่าคนในลานด้านหน้า กล่าวว่า “เด็กผู้ชายก็ต้องรู้จักมารยาท ไม่อนุญาตให้พูดถึงเด็กผู้หญิงแบบนี้”

นางกล่าวจบก็มองแฝดสี่กล่าวว่า “เอาละ เล่นกันพอสมควรแล้ว พาเพื่อนๆ ไปในห้องโถงสอนให้พวกเราเรียนคัมภีร์สามอักษร”

แฝดสี่รีบยืดอก รับคำอย่างเต็มที่ “ขอรับ ท่านแม่”

เด็กๆ สิบกว่าคนพากันยกเก้าอี้ยาว เบียดกันเข้าไปในห้องโถงบ้านตระกูลเซี่ย ไม่นานในห้องโถงก็มีคนนั่งกันเต็ม ในบรรดาเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ ต้าเป่าขึ้นไปสอนเด็กๆ ในหมู่บ้านเรียนคัมภีร์สามอักษรเป็นคนแรก

“คนเกิดมา นิสัยดี นิสัยคล้าย ชินทำต่าง……”

ลู่เจียวเทน้ำต้มน้ำตาลเซี่ยอวิ๋นจิ่นชามหนึ่ง เดินเข้ามาในเรือนนอนตะวันออก

“รบกวนเจ้าหรือไม่ หรือว่าข้าให้พวกเขาออกไปอ่านข้างนอก”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นส่ายหน้า แต่เล็กก็เติบโตมาในบรรยากาศเช่นนี้ อย่างไรแล้ว การได้ยินเสียงท่องหนังสือดังเสนาะเช่นนี้ข้างหู ทำให้จิตใจสงบนิ่งมาก

“ไม่เป็นไร ข้าชินแล้ว”

ลู่เจียวยกน้ำเข้ามา “ดื่มน้ำหน่อยเถอะ”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นยื่นมือไปรับน้ำต้มน้ำตาลมาดื่ม พอดื่มน้ำหมด เขาก็เงยหน้ามองลู่เจียวกล่าวว่า “เมื่อก่อนเคยบอกว่าจะสอนคัมภีร์สามอักษรเจ้า หากก็เอาแต่ไม่มีเวลาอยู่อย่างนี้ งั้นพรุ่งนี้ก็จัดเวลาหน่อยละกัน ตอนนี้ขาข้าไม่เจ็บแล้ว พอจะสอนเจ้าเรียนหนังสือได้แล้ว”

ลู่เจียวเดิมคิดให้แฝดสี่สอนนาง ตอนนี้เซี่ยอวิ๋นจิ่นเอ่ยขึ้นมา นางก็ไม่ได้ปฏิเสธ หากยิ้มพยักหน้า แต่พอคิดถึงพรุ่งนี้เช้าต้องเข้าเมือง ก็รีบมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวว่า

“พรุ่งนี้เช้าข้าต้องเข้าเมือง”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นได้ยินว่านางจะเข้าเมือง ก็ถามอย่างห่วงใยว่า “เข้าเมืองไปซื้ออะไรหรือ”

“นอกจากซื้อของแล้ว ยังจะไปเอาหม้อที่หอยาเป่าเหอ ก่อนหน้านี้ข้าไหว้วานหมอฉีที่หอยาเป่าเหอช่วยข้าหาหม้อเหล็กมาสองใบ หมอฉีไปตัวจังหวัดช่วยข้าหามาได้แล้ว เมื่อครู่ตอนที่เขาพาอาจารย์เฉินมายังบอกว่าพรุ่งนี้ให้ข้าไปเอาหม้อได้แล้ว อีกอย่างข้ายังไหว้วานให้เขาไปหาแม่แพะจากตัวจังหวัดมาสักตัวอีกด้วย”

“เจ้าดู เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ นอกจากผอมแห้งแล้ว ยังตัวเตี้ยอยู่สักหน่อย เด็กที่อายุเท่าพวกเขา ส่วนใหญ่สูงกว่าพวกเขา”

“พวกเขาเดิมก็คลอดก่อนกำหนด ต่อมายังไม่ได้ดูแลให้ดี ดังนั้นลูกแต่ละคนจึงสูงไม่เท่าเด็กคนอื่น อันนี้ต้องระวัง ไม่อย่างนั้นวันหน้าย่อมไม่อาจสูงเท่าเด็กคนอื่น”

ลู่เจียวกล่าวจบ ก็ก้มหน้ามองเซี่ยอวิ๋นจิ่น

แม้ว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นนอนอยู่บนเตียง แต่ก็เห็นชัดว่าเขาไม่ใช่คนเตี้ย ประมาณจากสายตาน่าจะร้อยเจ็ดสิบห้าขึ้นไป ในยุคสมัยนี้ถือว่าสูงแล้ว

เซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นลู่เจียวมองเขา ก็อดยืดตัวด้วยสัญชาตญาณไม่ได้ ตอนเขาขยับนั้นไม่ทันได้รู้ตัว พอรู้ตัว ก็อดแอบเยาะการกระทำของตนเองไม่ได้

แต่ไม่นานเขาก็คิดได้ว่าลู่เจียวขอให้หมอฉีมาช่วยครั้งแล้วครั้งเล่า มักจะรู้สึกว่ามีอะไรไม่ถูกต้อง

เซี่ยอวิ๋นจิ่นเหลือบมองราวกับคิดอะไรอยู่ มองไปทางลู่เจียวกล่าวว่า “หมอฉีเหมือนจะรับปากเจ้าทุกเรื่อง เขาดีขนาดนั้นเลยหรือ”

ลู่เจียวคิดแล้วก็หัวเราะออกมาเบาๆ กล่าวว่า “ความจริงข้าได้รับปากเขาเรื่องหนึ่ง”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นตัวแข็งทื่อขึ้นมาทันที ขมวดคิ้วน้ำเสียงเยียบเย็น “เรื่องอะไร”

ครั้งก่อนนางรับปากหอยาเป่าเหอจะช่วยพวกเขารับผู้ป่วยหนัก ครั้งนี้ยังรับปากอะไรอีก

ลู่เจียวยิ้มกล่าวว่า “วันหน้าหากเจอผู้ป่วยที่อาการซับซ้อน ขอให้ศึกษาสภาพอาการกับเขา”

แม้ลู่เจียวไม่ได้กล่าวให้ชัดเรื่องฉีเหล่ยคารวะนางเป็นอาจารย์ แต่ก็แอบเผยให้รับรู้อยู่บ้าง

เซี่ยอวิ๋นจิ่นได้ฟังคำพูดลู่เจียว อารมณ์ก็ไม่ปลอดโปร่งอย่างมาก เขาขมวดคิ้วแน่น จ้องมองลู่เจียวกล่าวว่า “ข้าก็ว่า หมอฉีนั่นทำไมจึงดีกับเจ้าขนาดนี้”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวจบ ก็พลันกล่าวดังขึ้นว่า “หมอฉีผู้นั้นคงไม่ได้เอาเรื่องที่ผ่าตัดให้ข้ามาเป็นเงื่อนไขกับเจ้ากระมัง”

หากเป็นเช่นนี้ เขาก็ติดค้างน้ำใจลู่เจียวมากขึ้นอีกแล้ว

ลู่เจียวคิดอยู่ครู่หนึ่ง ฉีเหล่ยคารวะนางเป็นอาจารย์ก็คุยกันตอนนั้นจริงๆ

เพียงแต่นางคิดไม่ถึงว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นจะความรู้สึกไวเช่นนี้ ถึงกับคิดถึงขั้นนี้ได้ แต่ลู่เจียวไม่คิดบอกเขา

นี่เป็นเรื่องของนาง เกี่ยวอะไรกับเขา นางคิดเพียงได้อยู่อย่างเงียบๆ ไม่คิดหาเรื่องใส่ตัวไปเกี่ยวข้องอะไรอีก

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

Status: Ongoing

เพราะสามีดันเป็น ‘ตัวร้าย’ สุดโหด ภารกิจแก้เดธแฟลคจึงเริ่มต้นขึ้น!

แพทย์ทหารจิตใจงดงามจากศตวรรษที่ 21 ผู้หนึ่งได้รับบาดเจ็บจนต้องนอนโรงพยาบาลเลยซื้อนิยายมาอ่าน

ในเนื้อหานิยายมีตัวร้ายอยู่สี่คน ไม่มีเรื่องชั่วใดไม่ทำ สังหารคนโดยไม่กะพริบตา

ทว่าภายหลังตัวร้ายสี่คนนี้ถูกพระเอกนางเอกร่วมมือกันสังหาร แต่ชายสี่คนนี้ดันมีบิดาเป็นถึงโส่วฝู่

เพื่อที่จะแก้แค้นแทนบุตรชาย เขาจึงกลายเป็นจอมปีศาจชั่วร้าย

สุดท้ายพระเอกนางเอกล้วนถูกฆ่าตาย…และนางก็ดันทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาที่จะตายแต่ยังสาวของตัวร้ายผู้นั้น!

เพื่อเปลี่ยนชะตาความตายที่จะเกิดขึ้นนางจำต้องหลีกหนีให้ไกลจากตัวร้ายผู้นี้

ทั้งสองจึงทำสัญญากันหากนางสามารถรักษาขาที่บาดเจ็บของ เซี่ยอวิ๋นจิ่น ตัวร้ายจอมโหดจนหายดีได้

เขาจะหย่าให้นาง และนางจะได้ไปใช้ชีวิตอิสระหลีกหนีเดธแฟลคที่จะเกิดขึ้น!

ปฏิบัติการการเอาอกเอาใจสามีตัวร้ายและขุนลูกชายแฝดสี่ให้จ้ำม่ำจึงเริ่มต้นขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท