ตอนที่ 158 ถูกหย่าหรือถูกขับไล่
เจ้าหนูสามคนพอได้ฟังลู่เจียวสอน ก็รีบทำตามที่นางสอนแล้วยิงออกไป ปรากฏถึงกับยิงเข้าเป้าหมด
เจ้าหนูสามคนดีใจกันอย่างมาก พากันกระโดดร้องเสียงดัง “โอ้ ข้ายิงโดนแล้วๆ”
เอ้อร์เป่าเขย่งเท้าอย่างตื่นเต้น “ท่านแม่ ธนูให้ข้า ข้าจะยิงๆ”
เขาต้องร้ายกาจกว่าต้าเป่า ซานเป่า ซื่อเป่าแน่ เพราะเขาเป็นคนที่จะเป็นแม่ทัพ
ไม่เพียงเอ้อร์เป่าคิดยิง พวกเซี่ยเสี่ยวเป่าก็คิดยิง พวกต้าเป่าก็เอาธนูให้พวกเซี่ยเสี่ยวเป่า
สุดท้ายทุกคนทำตามที่ลู่เจียวสอนเริ่มยิงกัน ทุกคนร่วมเล่นด้วยกัน ครึกครื้นอย่างมาก
ลู่เจียวเห็นว่าสายแล้ว ก็รีบเร่ง กล่าวว่า “เอาละ พรุ่งนี้ค่อยขึ้นเขาฝึกใหม่ วันนี้ลงเขาก่อน ท่านพ่อเจ้าอยู่บ้านคนเดียว”
พอเอ่ยถึงเซี่ยอวิ๋นจิ่น เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ก็รีบเก็บของเล่น พร้อมใจกันกล่าวว่า “ลงเขา พรุ่งนี้เล่นใหม่”
ลู่เจียวพาเด็กๆ ลงเขาอย่างมีความสุข ตลอดทางพวกลูกทั้งสี่คุยเรื่องผลที่ได้รับจากการยิงธนูกันอย่างตื่นเต้นดีใจ พวกเซี่ยเสี่ยวเป่ากับมู่โถวก็ยิ่งตื่นเต้น บอกว่าคืนนี้จะให้ท่านพ่อตนทำธนูให้พวกเขาบ้าง พรุ่งนี้ก็จะเอาขึ้นเขามาประลองกัน
ลู่เจียวเดินตามหลังพวกเขาลงเขามาตลอดทาง จนกระทั่งถึงประตูลานบ้าน
“พวกเจ้ารีบกลับได้แล้ว อย่าให้ท่านพ่อท่านแม่เจ้าร้อนใจ”
เซี่ยเสี่ยวเป่ากับมู่โถวโก่วเซิ่งโบกมือให้กับลู่เจียวอย่างยินดี “พี่สะใภ้สาม ไว้พบกันใหม่”
ลู่เจียวโบกมือ พาเจ้าหนูน้อยทั้งสี่เข้าบ้านตัวเองไป แม่ลูกห้าคนเพิ่งก้าวเข้ามาในลานบ้าน ก็ได้ยินเสียงทะเลาะกันดังมาจากในเรือนนอนตะวันออก
“หร่วนซื่อ โอกาสครั้งนี้ควรให้ต้าเฉียง วันหน้ามีโอกาสอีกค่อยให้เจ้าสี่ก็แล้วกัน เจ้าสี่ตอนนี้ยังไม่แต่งงาน ร้อนใจอะไร บ้านต้าเฉียงมีลูกสองคนต้องเลี้ยงนะ”
“ไม่ได้ เจ้าสี่จะหมั้นหมายแล้ว จะแต่งงานแล้ว หลังแต่งงานไม่เป็นอะไรเลยจะเลี้ยงดูครอบครัวอย่างไร”
ในลานบ้าน เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ได้ยินเสียงดังแว่วมาจากเรือนนอนตะวันออก สีหน้าก็แปรเปลี่ยน แฝดงสี่กลัวท่านพ่อตนเองโดนรังแก ก็รีบแบกกระบุงหลังวิ่งตรงไปเรือนนอนตะวันออก
ลู่เจียวด้านหลังเดิมคิดจะเข้าครัวทำอาหารเย็น แต่ก็เป็นห่วงเจ้าหนูน้อยทั้งสี่โดนรังแก ดังนั้นจึงก้าวตามไป
ในเรือนนอนตะวันออก ยามนี้มีคนยืนอยู่สองกลุ่ม ถมึงทึงจ้องหน้ากัน ท่าทางเหมือนใกล้จะทะเลาะลงมือกันแล้ว
ลู่เจียวมองทุกคนในห้องอย่างรู้สึกแปลกใจ นี่ไม่ใช่ครอบครัวตระกูลเซี่ยที่รักกันหรือไง ทำไมท่าทางเหมือนจะลงมือกันแล้วล่ะ
“นี่มันเรื่องอะไรกัน”
ลู่เจียววางกระบุงหลังลง ถามเซี่ยอวิ๋นจิ่นบนเตียง
เซี่ยอวิ๋นจิ่นเดิมสีหน้าเย็นเยียบมองทุกคนในห้องอยู่ พอเห็นลู่เจียวกับเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ สีหน้าเขาก็อบอุ่นขึ้นมาไม่น้อย ได้ยินลู่เจียวถาม เซี่ยอวิ๋นจิ่นก็กล่าวเยาะขึ้นว่า
“วันนี้ตอนบ่าย ผู้ใหญ่บ้านกับจู๋จ่างเรียกประชุมชาวบ้านในหมู่บ้านหารือเรื่องเลี้ยงปลิง ท่านพ่อท่านแม่พาพี่ใหญ่กับน้องสี่มา คนหนึ่งบอกให้พี่ใหญ่เรียนเลี้ยงปลิง คนหนึ่งบอกให้เจ้าสี่เลี้ยงปลิง”
ลู่เจียวอดหัวเราะไม่ได้
ในห้องหร่วนซื่อขัดตาลู่เจียวที่สุด พอเห็นลู่เจียวหัวเราะ ก็โมโหตวาดว่า “เจ้าหัวเราะอะไร”
ลู่เจียวกล่าวอย่างไม่รีบไม่ร้อนว่า “ผู้ใหญ่บ้านกับจู๋จ่างไม่ได้บอกพวกท่านหรือว่าใครเป็นคนสอนเลี้ยงปลิง”
ทุกคนในห้องพากันอึ้งไปทันที ก่อนได้สติตามมา คนที่เลี้ยงปลิงเป็นคือลู่เจียว ดังนั้นผู้ใดเรียนเลี้ยงปลิงก็ย่อมต้องลู่เจียวตัดสินใจ พวกเขาแย่งกันไปก็ไร้ประโยชน์
ยามนี้ คนตระกูลเซี่ยต่างพากันหน้าดำคร่ำเครียด เฉินหลิ่วตั้งสติได้ไวสุด รีบยิ้มมองลู่เจียวกล่าวว่า
“น้องสะใภ้สาม เมื่อก่อนเป็นเราสองคนทำไม่ถูก เจ้าใจกว้างอย่าได้คิดเล็กคิดน้อยสิ่งที่พวกเราทำผิดพลาดไปเลย หากเจ้ายังโมโห พวกเราก็ขอโทษเจ้า”
เซี่ยต้าเฉียงครั้งนี้ไม่ห้ามเฉินหลิ่วขอโทษ เขาคิดเรียนเคล็ดลับการเลี้ยงปลิง หากเขาเรียนเป็น วันหน้าคนในหมู่บ้านคนใดจะไม่เอาอกเอาใจเขา ดังนั้นเซี่ยต้าเฉียงจึงไม่ได้ห้ามเฉินหลิ่วเอาใจลู่เจียว ซึ่งหาได้ยากมาก
อีกฝั่งในห้อง หร่วนซื่อเห็นท่าทางเฉินหลิ่วก็รีบส่งสายตาให้เจ้าสี่
เซี่ยอวิ๋นหวา[1]รีบกล่าวว่า “พี่สะใภ้สาม เมื่อก่อนข้าทำไม่ดี ข้าก็ขอโทษพี่กับพี่สามด้วย หากพี่สะใภ้สามสอนเคล็ดลับการเลี้ยงปลิงข้า วันหน้าข้าต้องจดจำบุญคุณพี่กับพี่สาม”
เซี่ยเหล่าเกินรีบตะโกนดังตามมา “สะใภ้สาม เจ้าสอนเคล็ดลับการเลี้ยงปลิงพี่ใหญ่เจ้า เขาต้องเลี้ยงดูทั้งครอบครัว ลูกชายสองคนนะ”
หร่วนซื่อรีบแหวเสียงแหลมขึ้น “เจ้าสี่ใกล้จะแต่งงานแล้ว ที่นาเขาก็ปลูกไม่เป็น ไม่เรียนรู้อะไรเลยจะใช้ชีวิตยังไง”
สองผู้เฒ่าดูท่าใกล้จะมีเรื่องกันแล้ว ลู่เจียวก็ไม่พูด มองพวกเขาทะเลาะกันเงียบ
ไม่คิดว่าเซี่ยหลานเอ่ยว่า “ท่านพ่อ ท่านแม่ พวกท่านไม่ต้องทะเลาะกัน เคล็ดลับการเลี้ยงปลิงนี่เป็นของพี่สะใภ้สาม พี่สะใภ้สามเป็นคนในครอบครัวเรา สอนคนเดียวไม่สู้สอนสองคน เช่นนี้พี่ใหญ่กับพี่สี่ก็สอนคนในหมู่บ้านเลี้ยงปลิง ไม่ใช่ว่าดีมากหรอกหรือ”
เซี่ยเหล่าเกินกับหร่วนซื่อพอได้ฟัง วาจานี้ถูกต้องดี ครอบครัวตนกุมเคล็ดลับไว้ ดีกว่าตกไปอยู่ในมือคนอื่น
เซี่ยเหล่าเกินกับหร่วนซื่อหันไปมองลู่เจียวพร้อมกัน
ลู่เจียวเดิมคิดดูสองผู้เฒ่าทะเลาะกัน คิดไม่ถึงว่ากลับถูกเซี่ยหลานรั้งไว้ ก็มองไปยังสองผู้เฒ่าด้วยสีหน้ารำคาญใจกล่าวว่า
“พวกท่านคิดว่าข้าสมองมีปัญหาหรือ”
เซี่ยเหล่าเกินกับหร่วนซื่อไม่เข้าใจความหมายที่นางถาม ก็ไม่ส่งเสียงตอบ
ลู่เจียวยกมือชี้ไปที่เซี่ยต้าเฉียง “คนผู้นี้ก่อนหน้านี้ยังคิดตบตีข้า เคล็ดลับข้าสอนเขา สมองข้าใช่ว่ามีปัญหา”
ลู่เจียวสะบัดหน้าไปชี้ใส่เซี่ยอวิ๋นหวา “เซี่ยอวิ๋นจิ่นนอนอัมพาต ก็เป็นเจ้าหมาป่าใจร้ายนี่ที่ยุยงให้ท่านพ่อท่านแม่ขับไล่พวกเราออกมา เจ้าว่าข้าจะสอนเจ้าหมาป่านี่หรือ”
นางกล่าวจบก็ขี้เกียจจะมองคนตระกูลเซี่ย กล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “เอาล่ะ รีบไปได้แล้ว หากจะสอน ข้าสอนแค่พี่รอง คนอื่นอย่าได้ฝัน”
เซี่ยเหล่าเกินกับหร่วนซื่อได้ฟังคำพูดลู่เจียว สีหน้าก็แปรเปลี่ยนพร้อมกัน
เซี่ยเหล่าเกินจ้องมองลู่เจียวตาไม่กะพริบ รู้ว่าแพ้แล้ว ก็โมโหจ้องมองลู่เจียว ตวาดเสียงดัง “ลู่เจียว นี่คือท่าทีสะใภ้ของเจ้าหรือ ท่าทางเจ้าเช่นนี้เรียกว่าเนรคุณ ข้ามีเหตุผลเต็มที่ให้หย่าเจ้าทิ้งซะ”
หร่วนซื่อพยักหน้ารับอย่างแรง “ใช่ เจ้ากล้าไม่สอนเจ้าใหญ่กับเจ้าสี่ พวกเราก็จะให้เจ้าสามหย่าเจ้าทิ้ง”
ลู่เจียวกำลังคิดตอบว่า แทบทนไม่ไหวแล้ว รีบหย่าเลยสิ!
เซี่ยอวิ๋นจิ่นบนเตียง สีหน้าเคร่งเครียดส่งเสียงกล่าวว่า “ท่านไปถามพวกผู้ใหญ่บ้านกับจู๋จ่างก่อนไหม ไม่แน่ยังไม่ทันหย่าลู่เจียว พวกท่านอาจถูกขับออกจากหมู่บ้านตระกูลเซี่ยไปก่อนแล้ว”
วาจาเดียวทำเอาเซี่ยเหล่าเกินกับหร่วนซื่อนิ่งค้าง สองเฒ่าย่อมรู้แก่ใจ ตอนนี้พวกเขาคิดจะให้หย่ากับลู่เจียวย่อมไม่มีทางเป็นไปได้
คนหมู่บ้านตระกูลเซี่ยย่อมไม่รับปาก หากพวกเขาก่อเรื่องมากไป พวกเขาก็อาจถูกขับออกจากหมู่บ้านตระกูลเซี่ยได้
เซี่ยเหล่าเกินกับหร่วนซื่อโมโหจนพูดไม่ออก จ้องมองลู่เจียวอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ จากนั้นก็ถลึงตาใส่เซี่ยอวิ๋นจิ่นบนเตียง
เจ้าสามเอาใจออกหากพวกเขาไปแล้วจริงๆ วันหน้าแม้เขาสอบติดจอหงวนเป็นขุนนางใหญ่ ก็ย่อมไม่ช่วยเหลือพี่น้อง ลูกเช่นนี้ไม่สู้ไม่เอาเสียดีกว่า
ลู่เจียวไม่ได้สนใจสองเฒ่าตระกูลเซี่ย หันหลังจะออกไปทำอาหารเย็น ตอนเที่ยงยังมีกับข้าวเหลืออยู่ เย็นนี้แค่ต้มโจ๊ก อุ่นซาลาเปาก็พอแล้ว ส่วนซาลาเปาก็จากที่บ้านผู้ใหญ่บ้านซื้อมาให้ก่อนหน้านี้
———————————————-
[1] เซี่ยอวิ๋นหวา ชื่ออย่างเป็นทางการของบุตรชายคนที่สี่ของเซี่ยเหล่าเกิน