ตอนที่ 204 เจ็บนานไม่สู้ตัดใจ เจ็บสั้นกว่า
ลู่เจียวฉีกยิ้มกล่าวว่า “ไม่มีอะไร ข้าอารมณ์ไม่ดี กล่าวหนักไปหน่อย เจ้าหนูน้อยทั้งสี่เลยโมโหจนร้องไห้”
ฮูหยินผู้เฒ่ารองพอได้ฟังรีบพูดจากล่อมลู่เจียวว่า “เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ครอบครัวพวกเจ้าเชื่อฟังมาก ยังรู้ความและมีมารยาท ดังนั้นเจ้าอย่าได้ตำหนิลูกๆ ทั้งสี่เลย”
จ้าวซื่อพยักหน้าเห็นด้วย ได้ยินเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ร้องไห้ ในใจนางก็แอบปวดใจตามไปด้วย
ชาวบ้านในหมู่บ้านด้านหลังฮูหยินผู้เฒ่ารองกับจ้าวซื่อก็พากันพูดจากล่อมลู่เจียว อย่าเข้มงวดกับพวกลูกทั้งสี่มากไป พวกเขารู้ความกันมากพอแล้ว ตอนนี้แม้อายุแค่สี่ขวบ แต่ความจริงก็แค่สามขวบเท่านั้น
ลู่เจียวพยักหน้าเห็นด้วย แสดงท่าทีว่าวันหน้าตนเองจะระวัง พวกฮูหยินผู้เฒ่ารองกับจ้าวซื่อจึงได้พากันกลับไป
ลู่เจียวหันหลังเดินกลับไปในเรือนตะวันตก กล่อมเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ว่าจะพาพวกเขาไปเที่ยวในเมือง
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ชอบเที่ยวในเมืองมาก ผู้คนมากมายครึกครื้น
แต่ครั้งนี้ลู่เจียวล้มเหลว พวกเขาคว่ำหน้าบนเตียง ซุกหน้าเข้ากับหมอน ร้องไห้อย่างเศร้าเสียใจมาก
ลู่เจียวมองแล้วก็ปวดหัวมาก หันหลังเดินไปยังเรือนตะวันออก นางตัดสินใจไปกล่อมเซี่ยอวิ๋นจิ่นอีกครั้ง ให้ยกเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ให้นางเลี้ยง นางไม่เอาเงินเขา รับรองช่วยเขาสอนสั่งให้รู้ความและรู้มารยาทอย่างแน่นอน
“เซี่ยอวิ๋นจิ่น พวกเราคุยกันหน่อย”
ชายที่นอนอยู่บนเตียง ค่อยๆ หันมามองนาง ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยความเยียบเย็น ดวงตาดำมีหมอกดำทะมึน แววตาที่มองนางเหมือนว่านางเป็นชายที่เปลี่ยนใจไปรักผู้อื่น
ลู่เจียวแอบอยากด่า นี่มันอะไรกันนี่
“เห็นชัดว่าเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ไม่อาจยอมรับเรื่องที่พวกเราจะหย่ากัน ดังนั้นคิดว่าว่าเจ้ามอบเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ให้ข้าเลี้ยงดูก่อนดีไหม รอให้รู้ว่าเรื่องระหว่างพวกเราไม่อาจเป็นไปได้ พวกเขาก็จะยอมรับได้เอง ถึงตอนนั้นเจ้าค่อยรับพวกเขากลับไปก็ได้”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นแววตาเย็นเยียบกล่าวว่า “ในเมื่อจะไป ก็ไปให้เด็ดขาด อย่าให้ความหวังพวกเขา ให้ความหวังพวกเขาแล้ว สุดท้ายก็ยังจะไป เป็นการทำร้ายพวกเขายิ่งมากกว่า!”
ลู่เจียวคิดได้ คำพูดเซี่ยอวิ๋นจิ่นมีเหตุผลมาก เห็นชัดว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่ยอมยกเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ให้นางดูแลแน่ นางเลี้ยงดูพวกเขาระยะหนึ่งแล้วก็ส่งคืน ถึงตอนนั้นในใจเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ก็คงยิ่งเจ็บปวด
“เจ้าพูดมาก็ถูก ข้าคิดน้อยไป”
ลู่เจียวกล่าวจบก็ลุกขึ้นเดินออกไปทันที เซี่ยอวิ๋นจิ่นด้านหลังมองตามสตรีที่จากไปแววตาหม่น
หญิงผู้นี้ใจร้ายกว่าที่เขาคิดไว้มาก แม้ว่าใบหน้านางมักมีแต่รอยยิ้ม แต่ใจกลับแข็งมาก
เห็นอยู่ว่านางชอบเจ้าหนูน้อยทั้งสี่มาก ใจที่รักพวกเขาไม่ได้ด้อยไปกว่ามารดาแท้ๆ แต่พอตัดใจ นางก็สละทิ้งได้อย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย
เซี่ยอวิ๋นจิ่นหลับตาครุ่นคิด ระหว่างนางกับเขาจะหย่าจริงหรือ
เซี่ยอวิ๋นจิ่นคิดถึงตรงนี้ก็รู้สึกท้อแท้ ความรู้สึกไร้สิ้นเรี่ยวแรงครอบงำเขาไปหมด
ลู่เจียวออกจากเรือนนอนตะวันออก ไม่ได้ไปเรือนนอนตะวันตก นางหันหลังเดินออกจากห้องโถงไปยังห้องครัวหยิบกระบุงหลังแล้วก็ตรงออกจากประตูบ้านตระกูลเซี่ยไป
ตอนนี้นางสับสนเล็กน้อย ตัดสินใจขึ้นเขาไปเก็บสมุนไพรสงบสติอารมณ์สักหน่อย แล้วค่อยคิดเรื่องราวต่อจากนี้
ก่อนหน้านี้นางเอาแต่คิดช่วยเซี่ยอวิ๋นจิ่นเลี้ยงดูเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ แต่เห็นชัดว่าเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ไม่อาจยอมรับเรื่องหย่าของนางกับเซี่ยอวิ๋นจิ่น
ดังนั้นเจ็บนานไม่สู้ตัดใจ เจ็บสั้นกว่า นางไปไกลจากพวกเขาหน่อย จากนั้นไม่แน่พวกเขาก็จะสงบสติอารมณ์ได้เอง
ลู่เจียวขึ้นเขาเก็บสมุนไพร ได้พบกับชาวบ้านในหมู่บ้านหมู่บ้านตระกูลเซี่ยมาเก็บสมุนไพรกันหลายกลุ่ม เรื่องที่เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ร้องไห้กันเช้านี้ ชาวบ้านในหมู่บ้านรู้กันหมดแล้ว พอเห็นลู่เจียว พวกนางก็ถามถึงเรื่องว่าทำไมเช้านี้เจ้าหนูน้อยทั้งสี่จึงร้องไห้กันอย่างห่วงใย
ลู่เจียวจึงได้นำคำกล่าวอ้างที่ก่อนหน้านี้อ้างไว้มากล่าวอีกครั้ง หลายคนเตือนนางว่าอย่าได้เข้มงวดกับเจ้าหนูน้อยทั้งสี่มากนัก พวกเขารู้ความมากแล้ว
ลู่เจียวพยักหน้าหงึกๆ
เพราะคนถามกันมาก ลู่เจียวแอบนึกรำคาญ ดังนั้นนางจึงเดินเข้าไปในป่าลึก สุดท้ายเดินไปไกลสักหน่อย รอให้นางเก็บสมุนไพรเสร็จออกมาก็บ่ายแล้ว คิดถึงว่าเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ตอนเช้ายังไม่ได้กินอะไร ตอนเที่ยงนางไม่อยู่บ้าน ก็ไม่รู้ว่ากินอะไรกันแล้วหรือยัง
ลู่เจียวเป็นห่วงมาก หันหลังเดินกลับบ้าน นางครุ่นคิดว่าเจ้าหนูแฝดสี่ได้สงบจิตใจมานานขนาดนี้ ย่อมต้องกลับคืนสู่ความสงบกันแล้ว
นางค่อยคุยกับพวกเขาดีๆ น่าจะพอคุยได้
ลู่เจียวแบกกระบุงหลังเดินกลับบ้าน ในและนอกลานบ้านเงียบกริบ ไม่มีเสียงเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย เสี่ยวเฮยกับฮวาฮวาเหมือนว่าหิวแล้ว กำลังวิ่งพล่านไปมาในบ้าน พอเห็นนางกลับมาก็พุ่งเข้ามาเลีย
พอลู่เจียวเห็นสภาพเช่นนี้ก็รู้ว่าเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ไม่ได้กินอะไร หากพวกเขากินแล้วย่อมต้องเลี้ยงเสี่ยวเฮยกับฮวาฮวา
ลู่เจียวได้แต่จนใจ วางกระบุงหลังลงก้าวไปยังเรือนนอนตะวันตก
ปรากฏว่าในเรือนนอนตะวันตกไม่มีแม้เงาของเจ้าหนูน้อยทั้งสี่
ลู่เจียวเลิกคิ้วแปลกใจ เดินไปยังเรือนนอนตะวันออก
ในเรือนนอนตะวันออก เซี่ยอวิ๋นจิ่นกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียง แผ่รังสีเย็นเยียบไม่อาจเข้าใกล้ออกมารอบกาย พอเห็นลู่เจียวเข้ามา เขาก็แค่มองนางเล็กน้อยก่อนจะอ่านหนังสือต่อ เหมือนไม่คิดจะสนใจนาง
ลู่เจียวไม่สนใจเขา เอ่ยปากถามว่า “เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ล่ะ ไม่ได้มาหาเจ้าหรือ”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นส่ายหน้า คิดถามลู่เจียวว่าในเมื่อห่วงใยพวกเขา ทำไมจะหย่าและจากไปอีก
แต่ก็นึกถึงสถานะลู่เจียวได้อย่างรวดเร็ว นางไม่ใช่คนเดิมคนนั้น ดังนั้นนางไม่ได้ติดค้างพวกเขาพ่อลูก กลับกันพวกเขาเองที่ติดค้างนาง
เซี่ยอวิ๋นจิ่นพยายามระงับความเย็นชา กล่าวน้ำเสียงนิ่งเรียบว่า “พวกเขาไม่ได้มา คิดว่าออกไปข้างนอกแล้ว”
ลู่เจียวรับคำเสียงหนึ่ง นางคิดว่าเจ้าหนูน้อยทั้งสี่อารมณ์ไม่ดี ออกไปหาเด็กๆ ในหมู่บ้านเล่น ดังนั้นจึงไม่ได้สนใจ
คิดถึงว่าเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ยังไม่ได้กินอะไร ลู่เจียวเก็บของบนโต๊ะอาหารในห้องโถง ไปห้องครัวทำหมี่เซ่าจื่อเมี่ยน[1] ให้เจ้าหนูน้อยทั้งสี่
ก่อนหน้านี้นางเคยทำสองครั้ง เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ชอบกินมาก
ทว่าพอลู่เจียวทำเซ่าจื่อเมี่ยนเสร็จ ก็พบว่าเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ยังไม่กลับมา
ลู่เจียวแอบนึกเป็นห่วง เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ไปไหนกัน อีกอย่างพวกเขาคงไม่ได้เอาเรื่องหย่าของนางกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นไปบอกคนในหมู่บ้านกระมัง นางคิดแค่อยากจะหย่ากับเซี่ยอวิ๋นจิ่นเงียบๆ จากนั้นก็จากไป ไม่คิดอยากให้เป็นเรื่องจนคนในหมู่บ้านรู้
ลู่เจียวตัดสินใจออกไปตามหาเจ้าหนูน้อยทั้งสี่
ปรากฏว่าพอนางออกไปตามได้รอบหนึ่ง ก็หาเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ไม่พบ และนางถามไปทั่วแล้ว ผู้ใดก็ไม่เห็นเจ้าหนูน้อยทั้งสี่
ตอนนี้ลู่เจียวเริ่มเป็นห่วงแล้ว ร้อนใจดังไฟแผดเผาวิ่งไปทางเรือนนอนตะวันออก
“เซี่ยอวิ๋นจิ่น ไม่ได้การแล้ว ลูกๆ ไม่รู้ไปไหนกัน ข้าตามหาทั้งหมู่บ้านก็ไม่เจอ และคนในหมู่บ้านก็ว่าไม่เห็นพวกเขา พวกเขาจะไปที่ไหนกัน”
พอลู่เจียวกล่าว เซี่ยอวิ๋นจิ่นบนเตียงในเรือนนอนตะวันออกก็สีหน้าแปรเปลี่ยน รีบลุกลงจากเตียงออกจากห้อง
ลู่เจียวเห็นเขาเดินอย่างรีบร้อน ก็อดเตือนเขาไม่ได้ “เจ้าเดินระวังหน่อย ตอนนี้ขายังไม่หายดีนะ”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวอย่างร้อนใจว่า “ข้าไม่เป็นไร”
ทั้งสองคนเดินออกจากบ้าน คิดจะไปตามหาในหมู่บ้านสักรอบ ดูว่าเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ไปไหนกันแน่
ไม่คิดพอทั้งสองคนเพิ่งเดินออกมา ก็เห็นหลินชุนเยี่ยนเดินมาพร้อมกระบุงหลัง มาจากทางเดินบนเขา
ลู่เจียวเห็นหลินชุนเยี่ยน ถามไปตามสัญชาตญาณ “ชุนเยี่ยน เจ้าเห็นเจ้าหนูน้อยทั้งสี่บ้านข้าไหม”
หลินชุนเยี่ยนรีบรับคำกล่าวว่า “เห็น พวกเขาขึ้นเขาไปกับเสี่ยวเป่า”
หลินชุนเยี่ยนกล่าวจบก็มองลู่เจียวอย่างแปลกใจ กล่าวว่า “พวกเขาไม่ได้บอกท่านหรือ”
[1] หมี่ขึ้นชื่อของมณฑลส่านซี ใส่มะเขือเทศให้รสเปรี้ยวเล็กน้อย