ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย – ตอนที่ 225 เขาต้องหาทางหาเงินแล้ว

ตอนที่ 225 เขาต้องหาทางหาเงินแล้ว

ตอนที่ 225 เขาต้องหาทางหาเงินแล้ว
ลู่กุ้ยคิดตามนางออกไป กลับถูกลู่เจียวค้อนใส่ “อยู่เป็นเพื่อนพี่เขยเจ้ากินข้าวกับแขก”

เจ้าหมอนี่ยังคิดเป็นพ่อบ้าน เห็นคนพอมีสถานะหน่อยก็ตื่นตระหนก คนอย่างนี้จะไปเป็นพ่อบ้านได้หรือ

ลู่กุ้ยหัวเราะแหะ เดินกลับไปนั่งเป็นเพื่อนแขก เขาไม่เข้าใจเลยว่าพวกเขาคุยอะไรกัน นั่งด้วยกันแล้วอึดอัด

แต่พี่สาวพูด เขาได้แต่ไปนั่งเป็นเพื่อนแขก

ในลานบ้าน เสียงลู่เจียวกับเจ้าหนูน้อยคุยกันดังแว่วมา “ต้าเป่า รู้ไหมว่าทำไมท่านลุงอาจารย์ใหญ่ชมพวกเจ้า”

ต้าเป่าไม่ได้กล่าวอะไร ซื่อเป่าดีใจกล่าวว่า “พวกเราฉลาดไง”

น้ำเสียงลู่เจียวกระจ่างใสเย็น “ผิดแล้ว เพราะท่านลุงอาจารย์ใหญ่เป็นผู้ใหญ่ เขาเห็นเด็กอายุน้อย ล้วนชมเช่นนี้ นี่คือการแสดงความรักของผู้ใหญ่ต่อผู้น้อย ไม่ใช่เพราะพวกเจ้าฉลาด”

เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ได้ฟังก็ไม่ได้รู้สึกผิดหวัง เพียงรับคำด้วยความเข้าใจกระจ่าง “ที่แท้เป็นเช่นนี้เอง”

คำพูดเหล่านี้ดังเข้าไปในห้องโถง อาจารย์ใหญ่หลูกับอาจารย์หวังสบตากัน จากนั้นทั้งสองคนก็หันไปมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นพร้อมกันกล่าวว่า “อวิ๋นจิ่น ภรรยาเจ้าไม่ใช่คนฉลาดมีปัญญาธรรมดาแล้ว เจ้ามีภรรยาเช่นนี้ ดังครอบครองของล้ำค่า วันหน้าครอบครัวเจ้าต้องเหนือผู้ใด”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นรู้สึกติดขัดในใจจนคุมอารมณ์แทบไม่อยู่ ลู่เจียวดีอย่างไรก็ไม่ใช่ของครอบครัวเขา และเขาก็รู้สึกเหมือนกันว่าวิธีการสอนลูกของลู่เจียวมีลักษณะเฉพาะของนาง หากให้นางอบรมเจ้าหนูน้อย พวกเขาต้องเป็นผู้มีความสามารถแน่นอน

กลับกัน เขากลับไม่ถนัดสอนเด็ก หรือว่าเขาจะยกเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ให้ลู่เจียวเลี้ยงดูดี

งั้นเขาไม่กลายเป็นคนตัวคนเดียวโดดเดี่ยวหรือ เซี่ยอวิ๋นจิ่นรู้สึกเศร้าใจอย่างมาก เงียบไปนานไม่พูดสักคำ

อาจารย์ใหญ่หลูกับอาจารย์หวังกินข้าวเสร็จ ก็คุยกันอีกสักครู่ ก่อนจะกลับไปกับหันถง

เซี่ยอวิ๋นจิ่นลุกขึ้นไปส่ง เจ้าหนูน้อยทั้งสี่กินข้าวเสร็จแล้วกำลังเลี้ยงสุนัขอยู่ข้างกรง พอเห็นอาจารย์ใหญ่หลูกับอาจารย์หวังจะไปแล้วก็โบกมือให้พวกเขา

“ท่านลุงอาจารย์ใหญ่ ท่านลุงอาจารย์ไว้พบกันใหม่ ครั้งหน้ามาเที่ยวอีกนะ”

อาจารย์ใหญ่หลูกับอาจารย์หวังได้ยินก็ดีใจ หันไปมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวว่า “อยากอุ้มเจ้าหนูน้อยทั้งสี่บ้านเจ้ากลับไปเลี้ยงดูจริง”

ได้ยินคำชมเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ เซี่ยอวิ๋นจิ่นย่อมดีใจ หน้าตายิ้มแย้มเปล่งประกายอบอุ่น เขาเดินออกไปส่งอาจารย์ใหญ่หลูกับอาจารย์หวัง เดินไปคุยไปถึงตรงข้างรถม้า เซี่ยอวิ๋นจิ่นเรียกหันถงไว้

“หันถง ข้าอยากจะรื้อบ้านเก่าสร้างบ้านใหม่ เจ้าหาอิฐชิงจวนมาได้ไหม”

อิฐชิงจวนไม่แพง แต่หายาก

ทว่าครอบครัวหันถงเป็นพ่อค้า หาอิฐชิงจวนย่อมไม่ใช่ปัญหา รีบตอบรับว่า “เจ้าต้องการสักเท่าไร”

“นี่ข้าก็ยังไม่ได้คำนวณ ไม่รู้ควรต้องใช้เท่าไร แต่ข้าเตรียมสร้างแบบบ้านที่มีสองลานตะวันตกกับตะวันออก ตรงกลางมีประตูฉุยฮวาเหมินกั้นกลาง[1] เรือนหลักแต่ละลานมีสามห้อง และห้องปีกข้างละสามห้อง และก็เติมห้องครัวอะไรพวกนี้ด้วย”

พอเซี่ยอวิ๋นจิ่นพูด หันถงก็รู้ว่าน่าจะต้องใช้อิฐเท่าไร ก็เอ่ยปากถามว่า “เจ้าจะเอาเมื่อไร ข้าส่งมาให้เจ้า”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นคิดถึงว่าตนเองรับปากอาจารย์ใหญ่กับอาจารย์หวังว่าจะช่วยชี้แนะการเรียนให้นักเรียน ดังนั้นบ้านนี้สร้างเสร็จยิ่งเร็วยิ่งดี บ้านสร้างเสร็จแล้ว เขาก็จะพาลู่เจียวและลูกๆ ไปอำเภอด้วยกัน

“เจ้าเอามาได้ตอนไหนก็ส่งมาได้เลย”

“ข้ากลับไปก็จะจัดการเรื่องนี้ให้ พอได้มาก็จะให้คนส่งมาให้เจ้า น่าจะราวสองวัน”

“ตกลง”

“ใช่แล้ว ระยะนี้ช่วยข้าดูๆ บ้านละแวกสำนักศึกษาในอำเภอให้หน่อย ข้ากะว่าจะเช่าบ้านละแวกสำนักศึกษา”

“เจ้าต้องการบ้านแบบไหน”

หันถงถามเซี่ยอวิ๋นจิ่น เซี่ยอวิ๋นจิ่นคิดแล้วก็กล่าวว่า “เอาแบบลานเดียวก็พอ”

หันถงรีบตบหน้าอกรับรองว่า “เรื่องนี้มอบให้ข้าจัดการเอง เจ้าไม่ต้องกังวลไป”

ทั้งสองคนกล่าวเรื่องพวกนี้จบ เซี่ยอวิ๋นจิ่นส่งหันถงขึ้นรถม้า รถม้าก็แล่นจากไปรวดเร็ว

เซี่ยอวิ๋นจิ่นหันหลังค่อยๆ เดินเข้าไปในลานบ้าน ลู่เจียวกำลังล้างจานอยู่ในครัว เซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นก็อึ้งไป ลู่เจียวไม่จำเป็นต้องทำเรื่องพวกนี้ นางดูแลพวกเขาพ่อลูกมากพอแล้ว

เซี่ยอวิ๋นจิ่นครุ่นคิดแล้วก็เดินไปที่ครัว ลู่เจียวเงยหน้าเห็นเขาเดินเข้ามาในครัว ก็คิดว่าเขามีธุระหานาง ก็หันไปถามว่า “มีธุระ?”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่ตอบ เดินไปถึงข้างกายนางแล้วก็ยองลงนั่งช่วยนางล้างจาน

แม้เซี่ยอวิ๋นจิ่นเป็นซิ่วไฉ แต่เมื่อก่อนทำงานบ้านพวกนี้ไม่น้อย ดังนั้นคุ้นเคยอย่างมาก

ลู่เจียวเห็นเขาลงมือช่วยล้างจานก็มองเขาอย่างตกใจ คนผู้นี้เป็นอะไรไป

“อยู่ดีๆ วิ่งมาช่วยข้าล้างจานทำไม”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นเงยหน้ามองนาง กล่าวว่า “วันหน้างานบ้านข้าช่วยเจ้าทำ รอไปถึงอำเภอ บ้านเราก็ซื้อคนรับใช้มาทำงานสักสองสามคน ไม่ต้องให้เจ้าทำ”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวจบก็รู้สึกว่าตนเองควรหาทางหาเงินให้มากๆ

วันหน้าเขาต้องเลี้ยงดูเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ ไม่ว่าตนเองสุดท้ายจะมอบเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ให้ลู่เจียวเลี้ยงดูหรือไม่ เงินนี้ก็ไม่อาจขาด

อีกอย่าง เขาไม่คิดให้ยามลู่เจียวอยู่ข้างกายเขาต้องเอาแต่ทำงานบ้านทั้งวัน

ลู่เจียวรู้สึกชื่นชมการมาช่วยทำงานบ้านของเซี่ยอวิ๋นจิ่นมาก ผู้ชายมาบอกว่าจะช่วยงานบ้านผู้หญิงเองนี่นับว่าไม่เลวเลย

เซี่ยอวิ๋นจิ่นย่อมเห็นสีหน้าลู่เจียว ใจเขาพลันรู้สึกปลอดโปร่งขึ้นมาก เมื่อก่อนรู้สึกว่าเป็นการล้างจานปกติ ตอนนี้ถึงกับสนุกขึ้นมาไม่น้อย

ทั้งสองคนล้างจานไปคุยไป

“ข้ากะว่าจะสร้างบ้านนี้ใหม่”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นบอกเรื่องนี้กับลู่เจียว ลู่เจียวไม่คัดค้านอะไร นี่เป็นเรื่องของเซี่ยอวิ๋นจิ่น ไม่เกี่ยวกับนาง

แต่นางก็บอกคำหนึ่งว่า “เจ้าสร้างบ้านเพื่อครอบครัวพี่รองหรือ”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นรีบรับคำ “ใช่ การไปอำเภอชิงเหอครั้งนี้ เจ้ากับลูกๆ ไปกันหมด วันหน้าข้าก็ไม่ค่อยได้มา ดังนั้นข้าอยากสร้างที่ทางให้ครอบครัวพี่รองให้ดีก่อน เช่นนี้วันหน้าไปแล้วก็วางใจ อีกอย่าง ที่นี่อย่างไรก็เป็นรากฐานเดิมของข้ากับลูกๆ ทั้งสี่ วันหน้าพวกเราย่อมต้องกลับมาไหว้บรรพชน”

“ดังนั้นข้าอยากสร้างเรือนเชื่อมกันสองหลัง ตรงกลางมีประตูฉุยฮวาเหมินกั้นไว้ พวกเราอยู่กันหลังหนึ่ง พวกพี่รองอยู่อีกหลังหนึ่ง ปกติให้พวกพี่รองช่วยพวกเราปัดกวาดก็พอ”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวจบ ลู่เจียวก็ไม่ได้คิดแก้คำพูดของเขาที่ว่าพวกเราอยู่กัน

นางคิดถึงว่าตระกูลเซี่ยทางนั้นมีพวกที่จัดการยากอยู่มากมาย อดกล่าวไม่ได้ว่า “ข้ากลัวบ้านพวกเจ้าทางนั้นไม่ยอมหยุด”

สีหน้าเซี่ยอวิ๋นจิ่นเข้มขึ้น แผ่กลิ่นอายเยียบเย็นรอบกาย

“หากพวกเขาไม่ยอมหยุด ข้าไม่ถือสาที่จะทำให้พวกเขาหยุดเอง”

ลู่เจียวไม่พูดอีก อย่างไรเขาพอรู้อยู่ก็ดี

ทั้งสองคนคุยไปไม่นานก็ล้างจานเสร็จ เซี่ยอวิ๋นจิ่นล้างมือด้วยน้ำสะอาด ล้างไปกล่าวไปว่า “เจ้าต้องการอะไรเกี่ยวกับบ้านไหม เสนอได้นะ”

ลู่เจียวโบกมือทันที “นี่เป็นบ้านเจ้า ไม่ใช่บ้านข้า ข้าไม่ต้องการอะไร”

คำพูดลู่เจียวทำให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นแน่นอก เขาต้องระงับอารมณ์อย่างมาก ราวกับความอัดแน่นครอบงำจิตใจ ไม่อาจปลดปล่อยทิ้งไปได้

[1] ‘ซื่อเหอย่วน’ หรือเรือนสี่ประสานบ้านแบบจีนประเภทหนึ่ง เป็นบ้านแบบเรือนสามทิศโอบล้อมลานบ้านตรงกลาง บ้านใหญ่ก็จะมีหลายลานบ้านได้ ขนาดเล็กใหญ่ตามแต่จำนวนห้องที่สร้างรายรอบ หากจะมีลานที่สามก็สามารถเป็นลานด้านหลังของลานสอง ทั่วไปลานที่สามด้านหลังจะเป็นเรือนแถวห้องพักคนงาน ทั่วไปจะมีประตู ‘ฉุยฮวาเหมิน’ ที่เป็นสถาปัตยกรรมแบบเสาลอยติดหลังคา ไม่ยันติดพื้น กั้นระหว่างเรือนชั้นนอกกับชั้นใน จะมีระเบียงทางเดินติดกับฉุยฮวา เหมินเรียกว่า ‘เชาโส่วอิ๋วหลาง’ เมื่อก้าวผ่านประตูฉุยฮวาเหมินจะเห็นเรือนตรงกลาง เรียกว่าเรือนกลางอาจมีสามถึงห้าห้อง สองข้างติดกันต่อออกไปทางซ้ายขวาของเรือนกลางเรียกว่า ‘เอ่อร์ฝัง’ หรือเรือนข้างตะวันออกและตะวันตก ส่วน ‘เซียงฝัง’ หรือเรือนปีกก็คือเรือนที่เข้าประตูฉุยฮวาเหมินไปแล้วเป็นเรือนแถวทางตะวันออกและตะวันตก เป็นเหมือนแขนสองข้างของเรือนกลาง นอกจากนี้ประตูหน้าบ้านสุดจะมีห้องแนวยาวติดไปกับกำแพงไว้ให้คนเฝ้าประตูพัก เรียกว่า ‘เต้าจั้วฝัง’

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

Status: Ongoing

เพราะสามีดันเป็น ‘ตัวร้าย’ สุดโหด ภารกิจแก้เดธแฟลคจึงเริ่มต้นขึ้น!

แพทย์ทหารจิตใจงดงามจากศตวรรษที่ 21 ผู้หนึ่งได้รับบาดเจ็บจนต้องนอนโรงพยาบาลเลยซื้อนิยายมาอ่าน

ในเนื้อหานิยายมีตัวร้ายอยู่สี่คน ไม่มีเรื่องชั่วใดไม่ทำ สังหารคนโดยไม่กะพริบตา

ทว่าภายหลังตัวร้ายสี่คนนี้ถูกพระเอกนางเอกร่วมมือกันสังหาร แต่ชายสี่คนนี้ดันมีบิดาเป็นถึงโส่วฝู่

เพื่อที่จะแก้แค้นแทนบุตรชาย เขาจึงกลายเป็นจอมปีศาจชั่วร้าย

สุดท้ายพระเอกนางเอกล้วนถูกฆ่าตาย…และนางก็ดันทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาที่จะตายแต่ยังสาวของตัวร้ายผู้นั้น!

เพื่อเปลี่ยนชะตาความตายที่จะเกิดขึ้นนางจำต้องหลีกหนีให้ไกลจากตัวร้ายผู้นี้

ทั้งสองจึงทำสัญญากันหากนางสามารถรักษาขาที่บาดเจ็บของ เซี่ยอวิ๋นจิ่น ตัวร้ายจอมโหดจนหายดีได้

เขาจะหย่าให้นาง และนางจะได้ไปใช้ชีวิตอิสระหลีกหนีเดธแฟลคที่จะเกิดขึ้น!

ปฏิบัติการการเอาอกเอาใจสามีตัวร้ายและขุนลูกชายแฝดสี่ให้จ้ำม่ำจึงเริ่มต้นขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท