ลู่เจียวได้ฟังเซี่ยอวิ๋นจิ่น คิดแล้วก็รู้สึกว่าที่เขาว่ามาน่าจะถูกทางอยู่บ้าง
“ต้องหาตัวคนผู้นี้ออกมาให้ได้ ไม่เช่นนั้นเรื่องนี้คงยุ่งยาก หากหาตัวคนผู้นี้ออกมาได้ก็จะรู้ว่าเรื่องนี้เขาได้นำไปบอกผู้ใด พวกเราจะไล่ตามเถาวัลย์ไปหาผลแตงได้ว่าคนบงการลอบสังหารเจ้าคือผู้ใด ไม่แน่คนผู้นั้นอาจเป็นช่องโจมตีที่พวกเจ้ากำลังหาอยู่”
ลู่เจียวกล่าวจบก็พลันนึกอะไรขึ้นมาได้ กล่าวว่า “หรือว่าข้าไปเป็นแขกตระกูลสวี่ดู ไม่แน่อาจช่วยพวกเจ้าหาคนผู้นั้นได้”
ลู่เจียวกล่าวจบ เซี่ยอวิ๋นจิ่นรีบปฏิเสธทันที “ไม่ได้ ตอนนี้คนบงการเบื้องหลังเพ่งเล็งพวกเราอยู่ พวกเราจะไปไหนมาไหนตอนนี้ไม่ได้”
ลู่เจียวคิดแล้วก็เงียบ นางไปตระกูลสวี่ย่อมเสี่ยงอันตรายอยู่บ้าง ที่สำคัญที่สุดก็คือนางไม่เป็นวิชายุทธ หากไม่มียอดฝีมือข้างกายคอยปกป้อง บุกไปตระกูลสวี่ก็อาจเจอเหตุลอบทำร้ายจากอีกฝ่ายได้
เพียงแต่ลู่เจียวเป็นห่วงเจ้าหนูน้อยทั้งสี่มาก ดังนั้นนางตัดสินใจว่าสองสามวันนี้จะไม่ให้เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ออกจากบ้านแม้แต่ก้าวเดียว
ในห้อง เซี่ยอวิ๋นจิ่นบนเตียงสงสัยว่าลู่เจียวไม่ได้ฟังคำพูดเขา เขาหันหน้าไปจ้องมองลู่เจียวบนเก้าอี้นอนกำชับว่า “ข้าพูดกับเจ้า เจ้าได้ยินไหม อย่าได้ไปเสี่ยง ควรรู้ว่าคนที่แอบซ่อนอยู่เบื้องหลังเป็นไปได้มากว่าจะเป็นคนสี่ตระกูลใหญ่ คนพวกนั้นโหดเหี้ยมอำมหิต หากไม่ทันระวังก็อาจทำร้ายเจ้าถึงแก่ชีวิตได้”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นยิ่งพูดยิ่งเป็นห่วง รอบกายเปล่งรัศมีกังวลหนักหน่วง เขาไม่อยากให้ลู่เจียวถูกลอบทำร้าย หากนางเกิดเรื่องอะไรขึ้น เขากับเจ้าหนูน้อยทั้งสี่จะทำอย่างไร
เซี่ยอวิ๋นจิ่นคิดไปคิดมาก็เอ่ยอีกครั้ง “คดีหลัวซินซื่อถูกสังหาร พวกเราสืบไปเจอคนที่สนิทกับเขา เป็นหญิงในหอชุนหง พวกเราจับตัวหญิงคนสนิทหลัวซินซื่อผู้นี้มาให้นางบอกว่าหลัวซินซื่อกุมความลับผู้ใดไว้หรือไม่ แต่เห็นได้ชัดนางหวาดระแวง กัดฟันไม่ยอมพูด”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวจบก็มองไปยังลู่เจียว ลู่เจียวหลับตาไม่พูดอะไร แต่เซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นขนตานางขยับไหว เห็นชัดว่าฟังอยู่
เซี่ยอวิ๋นจิ่นอดยิ้มมุมปากไม่ได้ “แต่หญิงคนสนิทเขาผู้นั้นคงทนได้ไม่นาน ย่อมต้องคายออกมา คนอยู่เบื้องหลังน่าจะนั่งไม่ติดแล้ว ต้องกำลังราวกับสุนัขร้อนใจจะโดดกำแพงคิดหาทางสังหารหญิงคนสนิทหลัวซินซื่อ ข้ากับมือปราบจ้าวได้วางกับดักแล้ว รอแค่พวกเขามาติดกับ”
“ที่ข้าถูกลอบสังหาร เป็นไปได้มากว่าคนบงการไม่อยากให้พวกเราสืบต่อ เพราะสืบต่อไปอาจจะเปิดเผยความลับที่หลัวซินซื่อกุมไว้ออกมา”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวจบก็กล่าวต่อว่า “ความจริงก่อนหน้านี้หลัวซินซื่อเคยพูดกับพวกเรา น่าเสียดายพวกเราไม่มีใครสนใจ”
พอเซี่ยอวิ๋นจิ่นเอ่ยถึง ลู่เจียวพลันลืมตาขึ้นหันไปมองเขา นางหันหน้าไปก็เห็นแววตาดำขลับส่องประกายของชายบนเตียงที่กำลังมองนาง
ลู่เจียวอดกระแอมไอไม่ได้ ถามว่า “เขาเคยเอ่ยอะไร”
“เขาว่านายอำเภอหูพ่อลูกโง่เง่ามาก ที่ทำการอำเภอชิงเหอถูกรองนายอำเภอหยางกับเผิงจู่ปู้คุมไว้แล้ว หากไม่เหนือความคาดหมาย เขาต้องหาหลักฐานความผิดรองนายอำเภอหยางกับเผิงจู่ปู้ได้แน่ ข่มขู่เอาเงินสักหน่อย รองนายอำเภอหยางกับเผิงจู่ปู้ทำงานให้คหบดีมีเงินในอำเภอชิงเหอ โดยเฉพาะตระกูลใหญ่ทั้งสี่ เรื่องที่พวกเขาสองคนปิดบังไว้ย่อมต้องเป็นเรื่องที่สี่ตระกูลใหญ่ไม่อยากให้ถูกเปิดโปง คนพวกนั้นพอรู้ว่าพวกเราจะสืบเรื่องนี้ก็ลงมือลอบสังหารข้า คิดหยุดยั้งไม่ให้พวกเราสืบต่อ”
ลู่เจียวได้ฟังเซี่ยอวิ๋นจิ่นก็คิดถึงหลัวซินซื่อขึ้นมา สีหน้านางแอบมีแววรังเกียจ
“คนเช่นหลัวซินซื่อ ตายไปก็สมควร สมน้ำหน้า”
คนไม่สนใจภรรยาและลูก รู้แต่จะกินดื่มหาความสำราญ ไม่พอใจก็กลับบ้านไปทุบตีภรรยา ผู้ชายอย่างนี้ตายไปก็เพราะสวรรค์ลงโทษเขา
ลู่เจียวคิดแล้วก็หันหน้าไปมองเซี่ยอวิ๋นจิ่น กล่าวว่า “งั้นตอนนี้ข้าไม่ไปตระกูลสวี่ชั่วคราวแล้วกัน ดู การเคลื่อนไหวจัดการทางนี้ของพวกเจ้าก่อนค่อยว่ากัน”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นโล่งอก เขาไม่อยากให้ลู่เจียวมายุ่งกับเรื่องพวกนี้จริงๆ
“อืม”
บนเก้าอี้นอนลู่เจียวรู้เซี่ยอวิ๋นจิ่นพูดกับนางมากมาย ความจริงทั้งหมดทั้งสิ้นเพื่อให้นางละทิ้งความตั้งใจจะไปตระกูลสวี่ กลัวนางโดนลอบสังหาร
ลู่เจียวยอมรับน้ำใจนี้ กล่าวเบาๆ ว่า “ข้าขอบคุณเจ้าแล้ว และก็ขอขอบคุณเจ้าแทนราษฎรอำเภอชิงเหอด้วย”
ตอนนี้ที่เซี่ยอวิ๋นจิ่นทำทุกอย่างก็เพื่อประโยชน์ของราษฎรอำเภอชิงเหอ ขอเพียงขจัดแมลงศัตรูพืชพวกนั้นทิ้ง เขาจึงจะกล่อมนายอำเภอหูให้พัฒนาการเกษตรของราษฎรได้ ทำให้ราษฎรร่ำรวย แต่หากไม่ขจัดภัยแมลงศัตรูพืชพวกนั้นทิ้ง แมลงศัตรูพืชพวกนั้นก็จะขัดขวางแผนพัฒนาพวกเขา
อำเภอชิงเหอยากจนมากอย่างเห็นได้ชัด แต่พ่อค้าพวกนั้นกลับอวบอ้วน กล่าวกันถึงที่สุดแล้วก็เพราะขูดรีดราษฎร
เซี่ยอวิ๋นจิ่นบนเตียงอ่อนแรงเพราะได้รับบาดเจ็บ ได้ฟังคำพูดลู่เจียวก็อดหัวเราะเบาๆ ขึ้นมาไม่ได้
เขาอยากบอกกับนางว่า ความจริงเป็นเพราะเจ้า เจ้านำแสงตะวันงดงามมาสู่ใจข้า ทำให้จิตใจข้าสว่างขึ้นอีกครั้ง ดังนั้นข้าจะทุ่มเทกำลังทั้งหมดเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น เจ้าคือตะเกียงนำทางที่ส่องแสงสว่างนำทางข้า
แต่วาจาเหล่านี้ สุดท้ายก็เก็บไว้แค่ในใจเขา เขาไม่ได้พูดอะไรออกไปทั้งนั้น
ช้าเร็วสักวันหนึ่ง เขาจะบอกนาง นางนำพาอะไรมาสู่เขาบ้าง เมื่อก่อนเขาเป็นคนมีข้อบกพร่องมากมาย แต่พอได้อยู่ร่วมกับนางก็ค่อยๆ ทำให้เขารู้ข้อบกพร่องตัวเอง พยายามแก้ไขข้อบกพร่องเหล่านั้น ทำให้ตนเองยิ่งดียิ่งขึ้น
บนเก้าอี้นอน ลู่เจียวไม่ได้ยินเสียงเคลื่อนไหว ก็ค่อยๆ ลุกขึ้นอย่างเบาที่สุด เดินไปข้างเตียงเซี่ยอวิ๋นจิ่นจับดูหน้าผากเขา พบว่าเขาไม่ได้มีไข้
ผู้ใดจะรู้ว่าพอมือนางแตะหน้าผากเซี่ยอวิ๋นจิ่น จะโดนเขาคว้ามือไว้ได้ พอคว้าได้ก็กำไว้แน่น
ลู่เจียวตกใจคิดว่าเขาตื่นแล้ว ปรากฏพอมองดูให้ดีก็พบว่า เขาหลับฝันไป เขาคว้ามือนางอย่างไม่ตั้งใจ
ลู่เจียวยิ้มชักมือกลับเบาๆ กลับไปบนเก้าอี้นอน
คืนนี้เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่ได้มีไข้ ลู่เจียวก็โล่งอก พอฟ้าเริ่มมีแสงรำไร ก็พาเฝิงจือไปพักผ่อนต่อที่เรือนด้านหลัง นางกำชับลู่กุ้ยให้อยู่เรือนด้านหน้าดูแลเซี่ยอวิ๋นจิ่นให้ดี
ลู่กุ้ยรีบรับคำ ระยะนี้ลู่กุ้ยผ่านเรื่องราวมาไม่น้อย คล่องแคล่วกว่าเมื่อก่อนมากแล้ว ความประพฤติและการทำงานล้วนมีความคิดเห็นเป็นของตนเองอยู่บ้างแล้ว
เรื่องเซี่ยอวิ๋นจิ่นได้รับบาดเจ็บนี้แพร่ออกไปในหมู่คนกลุ่มเล็กๆ หลายคนมาเยี่ยมเขา
นอกจากสหายร่วมชั้นเรียน อาจารย์ใหญ่และบรรดาอาจารย์ในสำนักศึกษาประจำอำเภอที่สนิทกัน ตระกูลหู ตระกูลสวี่ ตระกูลเถียนก็มาเยี่ยมเขา
ทุกคนมาเยี่ยมพร้อมนำของขวัญชิ้นใหญ่มาด้วย
ลู่เจียวสั่งให้เฝิงจือเอาไปจดบันทึกไว้ วันหน้าก็ตอบแทนคืน คนเหล่านี้ต้องไปมาหาสู่มอบของขวัญกัน
เฝิงจือความสามารถไม่เลว ลู่เจียวตั้งใจอบรมนางเรื่องการสมาคมกับสังคมในวันหน้า นางวางแผนว่าจะมอบเรื่องพวกนี้ให้เฝิงจือจัดการ
ยายเฒ่าชิวพาหลิ่วอันกับหลิ่วฝูสองคนไปดูแล เพราะยายเฒ่าชิวเห็นใจหลิ่วอันสองแม่ลูก จึงดูแลพวกนางเป็นพิเศษ
หลิ่วอันเดิมเป็นภรรยาหลัวซินซื่อ ชำนาญในการดูแลปรนนิบัติหลัวซินซื่อ ตอนนี้คนที่นางปรนนิบัติคือลู่เจียว นางย่อมนำท่าทีในการปรนนิบัติหลัวซินซื่อมาปรนนิบัติลู่เจียว ไม่ต้องพูดถึงว่าลู่เจียวจะได้รับการดูแลสบายเพียงใด
แรกสุดลู่เจียวแอบเกรงใจ ปรากฏทำเอาหลิ่วอันสองแม่ลูกไม่สบายใจ ยายเฒ่าชิวเตือนนางว่าคนเราอยู่ในตำแหน่งงาน ตอนนี้หลิ่วอันก็คือคนรับใช้ตระกูลเซี่ย หากลู่เจียวทำเช่นนี้ ก็จะทำให้หลิ่วอันสองแม่ลูกไม่สบายใจ ดังนั้นวันหน้าลู่เจียวก็ปล่อยให้พวกนางสองแม่ลูกปรนนิบัตินางดังคนรับใช้ตระกูลเซี่ยก็แล้วกัน