ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย – ตอนที่ 342 เซี่ยอวิ๋นจิ่นหึงหวงแล้ว

ตอนที่ 342 เซี่ยอวิ๋นจิ่นหึงหวงแล้ว

หร่วนไคกับหร่วนจู๋สองคนรีบรับคำสั่งนอบน้อม “ขอรับ/เจ้าค่ะ คุณหนู”

เถียนฮวนยิ้มกล่าวว่า “วันหน้าพวกเจ้าก็เรียกข้าคุณหนูหกตระกูลเถียน จำไว้นับจากนี้ไป เจ้าก็คือคนรับใช้ตระกูลเซี่ย ความจริงนี่ก็ขึ้นกับวาสนาวันหน้าของพวกเจ้าสองคนแล้ว อยู่ตระกูลเถียนต่อไป วันหน้าก็เป็นได้แค่ผู้คุ้มกันสำนักคุ้มภัย แต่ติดตามเซี่ยซิ่วไฉกับลู่เหนียงจื่อ วันหน้าพวกเจ้าไม่แน่อาจวาสนายิ่งใหญ่ยิ่งกว่าข้า”

หร่วนไคกับหร่วนจู๋รู้ดีว่าคุณหนูหกตระกูลเถียนพูดจริง เซี่ยอวิ๋นจิ่นเป็นซิ่วไฉ มีความรู้เก่งกาจมาก หากวันหน้าสอบได้เป็นจอหงวน เป็นขุนนางราชสำนัก พวกเขาก็คือองครักษ์ขุนนาง เทียบกับตระกูลเถียนแล้วมีอนาคตกว่ามาก

และเพราะเช่นนี้ หร่วนไคกับหร่วนจู๋ก็ยิ่งซาบซึ้งใจคุณหนูหกตระกูลเถียนที่ส่งพวกเขามาที่นี่มาก

“ขอบคุณคุณหนูหกที่เมตตา”

ทั้งสองคนกล่าวจบหันไปมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวสองคนกล่าวว่า “บ่าวคารวะคุณชายและเหนียงจื่อ”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวพยักหน้าเล็กน้อย นับว่าเป็นการยอมรับพวกเขาอย่างเป็นทางการแล้ว

ลู่เจียวจัดภารกิจให้สองคน “วันหน้าหร่วนไคติดตามท่านพี่ข้า ดูแลความปลอดภัยท่านพี่เป็นสำคัญ หร่วนจู๋ก็ติดตามข้า”

ลู่เจียวกล่าวจบ เซี่ยอวิ๋นจิ่นบนเตียงก็กล่าวว่า “ทั้งสองคนติดตามเจ้า ข้าไม่เอา”

ลู่เจียวรีบเตือนเขา “เจ้าลืมแล้วหรือว่าตนเองบาดเจ็บได้อย่างไร”

กล่าวจบก็ไม่รอให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นพูดอะไร ยืนยันหนักแน่นกล่าวว่า “เรื่องนี้ก็จัดการเช่นนี้”

หร่วนไคกับหร่วนจู๋เห็นเซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่พูดอีก สองคนก็รับคำสั่งอย่างรวดเร็ว “ข้าน้อยรับคำสั่ง”

ลู่เจียวตามลู่กุ้ยเข้ามา “หร่วนไคกับหร่วนจู๋สองคนนี้วันหน้าเป็นผู้คุ้มกันบ้านตระกูลเซี่ยเรา เจ้าจัดหาที่พักให้พวกเขาทั้งสองคน”

ลู่กุ้ยเห็นหร่วนไคกับหร่วนจู๋ก็ดีใจมาก เพราะทั้งสองคนเป็นวิชายุทธ์ มีพวกเขาคุ้มกันตระกูลเซี่ย เขาก็วางใจขึ้นมาก

ระยะนี้พี่เขยบาดเจ็บ ทุกคนในบ้านต่างเป็นห่วง ทำเอาบรรยากาศในบ้านอึมครึมเคร่งเครียดไปหมด ตอนนี้มีผู้คุ้มกันมาสองคน พวกเขาก็วางใจขึ้นมาก

“ผู้คุ้มกันหร่วน เชิญตามข้ามา”

หร่วนไคกับหร่วนจู๋กล่าวขอตัวจากเซี่ยอวิ๋นจิ่นและลู่เจียว พร้อมกับกล่าวอำลาคุณหนูหกตระกูลเถียนก่อนจะตามออกไป

ในห้องลู่เจียวยื่นมือไปกุมมือเถียนฮวนไว้ ยิ้มกล่าวว่า “ครั้งนี้ฮวนฮวนช่วยพวกเราแก้ปัญหายุ่งยากใหญ่ลงได้แล้ว น้ำใจนี้ข้ารับไว้แล้ว วันหน้าหากตระกูลเถียนต้องการความช่วยเหลือจากข้า ก็เอ่ยปากมาได้เลย”

ลู่เจียวกล่าวว่า ‘พวกเรา’ หากนางช่วยได้ นางย่อมช่วย

แต่คุณหนูหกตระกูลเถียนกลับไม่ได้ใส่ใจรายละเอียดนี้ ยิ้มกล่าวว่า “งั้นข้าไม่เกรงใจแล้ว วันหน้าหากข้าต้องการให้เจียวเจียวช่วยเหลือจริง ข้าก็จะมาหาเจ้านะ”

“ได้เลย”

ผู้หญิงสองคนคุยกันเบิกบาน แต่ผู้ชายบนเตียงมองพวกนางสองคนแล้วยิ่งมองก็ยิ่งไฟลุก

ต้าเป่ารู้ทันทีว่าท่านพ่อตนผิดปกติไปจากเดิม เขาหันไปมองท่านแม่กับน้าเถียนคุยกันสนิทสนม ก็เข้าใจทันทีว่าทำไมท่านพ่อตนจึงสีหน้าไม่ดีนัก ดูท่าเป็นเพราะเห็นท่านแม่สนิทกับน้าเถียนก็เลยไม่พอใจ

แม้ว่าต้าเป่าไม่เข้าใจคำว่าอิจฉา แต่ก็ไม่อยากให้ท่านพ่อไม่พอใจ

ดังนั้นเขาเดินไปตรงหน้าเถียนฮวน มองนางกล่าวว่า “น้าเถียน ข้าพาท่านน้าไปดูภาพที่ข้าวาดวันนี้ดีไหม”

สามคนที่เหลือเห็นต้าเป่ากล่าวเช่นนี้ แม้ไม่ค่อยเข้าใจความนัย แต่ก็รู้ว่าควรทำตาม

“ใช่ น้าเถียน พวกเราพาท่านน้าไปดูภาพที่พวกเราวาดวันนี้”

เถียนฮวนลุกขึ้นอย่างยินดี พาเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ออกไป ในห้องลู่เจียวหันไปมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นบนเตียง สีหน้าเขาดูไม่ดีนัก

ลู่เจียวรู้สึกเป็นห่วง ลุกเดินไปหน้าเตียงเซี่ยอวิ๋นจิ่น “สีหน้าเจ้าไม่ค่อยดีเท่าไร แน่ใจว่าร่างกายไม่ได้ไม่สบายตรงไหนใช่ไหม”

สีหน้าเซี่ยอวิ๋นจิ่นคืนสู่ปกติอย่างรวดเร็ว ไม่มีคุณหนูหกตระกูลเถียนคอยขวางหูขวางตา เขาอารมณ์ดีขึ้นมาก

“ครั้งนี้ตระกูลเถียนส่งสองคนนี้มา เพราะเจ้ารักษาให้เถียนจิ้นอาน หากเจ้ารักษาสมองให้เถียนจิ้นอานหายแล้ว ก็นับว่าไม่ติดค้างน้ำใจพวกเขาแล้ว หากรักษาไม่หาย พวกเราค่อยหาทางคืนน้ำใจนี้ก็แล้วกัน”

ลู่เจียวพยักหน้าเล็กน้อย กำลังจะบอกให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นรักษาตัวไปให้ดีๆ เสียงจ้าวหลิงเฟิงก็ดังเข้ามาจากนอกประตู

“เซี่ยซิ่วไฉ อาการบาดเจ็บไม่เป็นไรมากกระมัง”

กล่าวจบ ร่างสูงสง่าก็ก้าวเข้าประตูมา

เซี่ยอวิ๋นจิ่นมองไปด้วยสีหน้าเย็นชา “เจ้ามาทำไม”

จ้าวหลิงเฟิงสีหน้าจริงใจยิ่ง กล่าวว่า “มาแสดงความห่วงใยเซี่ยซิ่วไฉสักหน่อย ไม่ว่าอย่างไรเจ้าก็เป็นสามีของผู้ร่วมงานข้า ข้าจะไม่มาแสดงความห่วงใยถึงที่ได้อย่างไร”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นเปิดโปงเขาตรงๆ อย่างไม่เกรงใจทันที “จ้าวอวี้หลัวอยู่บ้านไม่ได้ล่ะสิ”

จ้าวหลิงเฟิงอดหัวเราะไม่ได้ “ไม่เสียทีที่เป็นบัณฑิตจริงๆ แค่เดาก็เดาถูกเผงเลย”

ก่อนหน้านี้ตอนเซี่ยอวิ๋นจิ่นเกิดเรื่อง ลู่เจียวให้คนไปบอกแต่ละบ้านแล้วว่าไม่ต้องส่งลูกๆ มาเรียนในตอนนี้ เพื่อป้องกันระหว่างทางที่ส่งมาเกิดเหตุไม่คาดฝัน

ปรากฏจ้าวอวี้หลัวอยู่บ้านได้ไม่กี่วันก็รู้สึกเบื่อ ทนอยู่ไม่ไหวแล้ว ยืนยันจะมาเรียนหนังสือที่ตระกูลเซี่ย

ระยะนี้จ้าวหลิงเฟิงเห็นบุตรสาวค่อนข้างรู้ความกว่าแต่ก่อนมาก ได้ฟังคำขอร้องของนางก็รีบส่งนางมาทันที

ในห้องลู่เจียวได้ยินจ้าวหลิงเฟิงพูดก็ขมวดคิ้วไม่เห็นด้วย กล่าวว่า “ตอนนี้อันตรายมาก เจ้าพานางกลับไปก่อนดีกว่า อย่าเพิ่งส่งมา”

จ้าวหลิงเฟิงไม่คิดเช่นนั้น กล่าวว่า “วางใจ ข้ามารับเองทุกเช้าเย็น รับรองไม่เกิดเหตุอะไรอย่างแน่นอน”

บุตรสาวยิ่งรู้ความมากขึ้นเรื่อยๆ เขาเป็นบิดามาส่งหน่อยจะเป็นอะไรไป

จ้าวหลิงเฟิงพูดเช่นนี้ ลู่เจียวก็ไม่อาจดึงดันต่อไป ได้แต่มองเขากล่าวว่า “ดีที่สุดเจ้ามาส่งมารับเองทุกวัน หากเจ้าไม่มีเวลามา ก็อย่าได้ส่งนางมา”

“ได้”

จ้าวหลิงเฟิงกล่าวจบก็มองลู่เจียวยิ้มกล่าวว่า “ข้าส่งผู้คุ้มกันบ้านข้ามาให้พวกเจ้าสองคนดีไหม”

ลู่เจียวไร้วาจาจะกล่าว เซี่ยอวิ๋นจิ่นบนเตียงรีบตอบว่า “ไม่จำเป็น บ้านเรามีแล้ว”

จ้าวหลิงเฟิงสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ เอ่ยว่า “ที่ข้าส่งมาเป็นผู้คุ้มกันที่เป็นวิชายุทธ์นะ บ้านพวกเจ้าไปหาผู้คุ้มกันเช่นนี้จากไหนได้”

จ้าวหลิงเฟิงเพิ่งกล่าวจบ นอกประตูคุณหนูหกตระกูลเถียนก็เข้ามารับคำแทนว่า “ตระกูลเถียนข้ามอบให้ ทำไมหรือ”

ระยะนี้คุณหนูหกตระกูลเถียนมาตระกูลเซี่ยเคยพบจ้าวหลิงเฟิงครั้งหนึ่ง แม้ว่านางไม่รู้สถานะจ้าวหลิงเฟิง แต่ดูกิริยาวาจาเขาก็เดาสถานะคนผู้นี้ได้ว่าน่าจะไม่ต่ำต้อย เพียงแต่คุณหนูหกตระกูลเถียนไม่ชอบความรู้สึกเหนือคนอื่นของจ้าวหลิงเฟิง ดังนั้นจึงไม่ค่อยแสดงความเป็นมิตรให้เขาเท่าไร

จ้าวหลิงเฟิงย่อมรู้สถานะตระกูลเถียน ตระกูลพวกนางมีคนเป็นวิชายุทธ์ก็ไม่แปลก

เพียงแต่คนที่เขาพามาด้วย จะพากลับไปอีกได้อย่างไร

จ้าวหลิงเฟิงไม่ได้สนใจคุณหนูหกตระกูลเถียน หันไปมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวกล่าวว่า “ตระกูลเถียนส่งคนตระกูลเถียน ข้าส่งคนของข้า พวกเจ้ารับคนที่ตระกูลเถียนส่งมา ไม่มีเหตุผลที่จะไม่รับคนของข้า”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวอย่างประนีประนอมว่า “บ้านข้าตอนนี้คนมากเกินไปแล้ว ท่านจ้าวพาคนของท่านกลับไปเถอะ”

บ้านตระกูลเซี่ยตอนนี้มีคนรับใช้ไม่น้อยจริงๆ ไม่จำเป็นต้องเพิ่มคนรับใช้ คนรับใช้พวกนี้แม้ว่าไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ก็ต้องเลี้ยงดู และเจ้านายไม่กี่คนเลี้ยงดูคนรับใช้มากมายเช่นนี้ อาจเกิดเรื่องได้

ได้ฟังเซี่ยอวิ๋นจิ่น สีหน้าจ้าวหลิงเฟิงก็ดูเฝื่อนไปทันที เขาหันไปมองลู่เจียว

ลู่เจียวมองเขากล่าวว่า “คนรับใช้บ้านข้าเยอะแล้วจริงๆ ไม่จำเป็นต้องมีเพิ่ม เจ้าพาคนกลับไปเถอะ”

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

Status: Ongoing

เพราะสามีดันเป็น ‘ตัวร้าย’ สุดโหด ภารกิจแก้เดธแฟลคจึงเริ่มต้นขึ้น!

แพทย์ทหารจิตใจงดงามจากศตวรรษที่ 21 ผู้หนึ่งได้รับบาดเจ็บจนต้องนอนโรงพยาบาลเลยซื้อนิยายมาอ่าน

ในเนื้อหานิยายมีตัวร้ายอยู่สี่คน ไม่มีเรื่องชั่วใดไม่ทำ สังหารคนโดยไม่กะพริบตา

ทว่าภายหลังตัวร้ายสี่คนนี้ถูกพระเอกนางเอกร่วมมือกันสังหาร แต่ชายสี่คนนี้ดันมีบิดาเป็นถึงโส่วฝู่

เพื่อที่จะแก้แค้นแทนบุตรชาย เขาจึงกลายเป็นจอมปีศาจชั่วร้าย

สุดท้ายพระเอกนางเอกล้วนถูกฆ่าตาย…และนางก็ดันทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาที่จะตายแต่ยังสาวของตัวร้ายผู้นั้น!

เพื่อเปลี่ยนชะตาความตายที่จะเกิดขึ้นนางจำต้องหลีกหนีให้ไกลจากตัวร้ายผู้นี้

ทั้งสองจึงทำสัญญากันหากนางสามารถรักษาขาที่บาดเจ็บของ เซี่ยอวิ๋นจิ่น ตัวร้ายจอมโหดจนหายดีได้

เขาจะหย่าให้นาง และนางจะได้ไปใช้ชีวิตอิสระหลีกหนีเดธแฟลคที่จะเกิดขึ้น!

ปฏิบัติการการเอาอกเอาใจสามีตัวร้ายและขุนลูกชายแฝดสี่ให้จ้ำม่ำจึงเริ่มต้นขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท