หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1 – ตอนที่ 254 เศรษฐีที่ซ่อนเร้น (3)

ตอนที่ 254 เศรษฐีที่ซ่อนเร้น (3)

อีกด้าน เรือนของชายารองเฝิง ชายารองเฝิงใบหน้าทะมึนจ้องเขม็งไปยังลูกสะใภ้ทั้งสอง ตำหนิอย่างหยาบคาย “ดูท่าทางไร้อนาคตของพวกเจ้าสิ เอาพวกเจ้ามาแล้วมีประโยชน์อันใด ดูคนของเรือนซูอวิ๋นนั่นสิ หากพวกเจ้ามีอนาคตเช่นนาง…มีประโยชน์จริงๆ” สะใภ้ทั้งสองมองสบตากัน มองเห็นความขมขื่นทุกข์ระทมในสายตาของอีกฝ่าย

แม้เวลาอยู่ต่อหน้าเว่ยหงเฟยเฝิงซื่อจะดูอ่อนโยนอ่อนหวาน แต่ส่วนตัวนั้นกลับเป็นราวกับคนละคน โดยเฉพาะเมื่อมาอยู่ตรงหน้าสะใภ้ทั้งสองเช่นพวกนาง เดิมเฝิงซื่อเห็นญาติผู้น้องของเว่ยหงเฟยเป็นคนที่มีเชื้อสายเป็นเครือญาติของฮ่องเต้ แต่ก่อนก่อตั้งประเทศนั้นไม่นับว่ามีพื้นเพใดๆ เฝิงซื่อเองก็เช่นกัน โชคดีที่ตระกูลเว่ยนั้นยังมีตำแหน่งจวิ้นอ๋องที่ฮ่องเต้แต่งตั้งเป็นที่พึ่งพิง ตระกูลเฝิงกลับอาศัยความสัมพันธ์กับแม่เฒ่า นอกจากบุตรีที่เป็นอนุให้เว่ยหงเฟยแล้ว คนอื่นๆ ก็ไม่มีคุณสมบัติพอจะยกย่องออกหน้าออกตาได้ เฝิงซื่อโกรธเกลียดองค์หญิงฉังผิงผู้หยิ่งยโสอยู่ในใจ เพราะแบบนี้จึงพาลเกลียดบรรดาสตรีสูงศักดิ์ทั้งหลายไปด้วย แต่เพื่ออนาคตของบุตรชายจึงไม่สามารถให้แต่งกับสตรีตระกูลเล็กๆ ดังนั้นฉากหน้าเฝิงซื่อจะดูเป็นแม่สามีจิตใจดี ทว่ากลับลอบเหยียบย่ำลูกสะใภ้โดยไม่มีใครรู้ บุรุษตระกูลเว่ยบางทีอาจไม่รู้ บางทีอาจรู้แต่ไม่สนใจ ขอเพียงเฝิงซื่อไม่ทำเกินเหตุ มีลูกสะใภ้บ้านไหนบ้างไม่น่าสงสารเมื่ออยู่กับแม่สามี

ลูกสะใภ้ทั้งสองหนึ่งในนั้นภรรยาของเว่ยจวินปั๋ว เสิ่นซื่อเป็นบุตรีคนรองของรองเจ้ากรมฝ่ายการทหาร ส่วนภรรยาของเว่ยจวินเจ๋อ เซวียซื่อเป็นบุตรีคนโตเชื้อสายรองของท่านหัวหน้าสำนักศึกษา เว่ยหงเฟยต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างยิ่งเพื่องานแต่งของบุตรชายทั้งสอง ทั้งสองเป็นเชื้อสายรอง ชาติตระกูลที่ดีย่อมไม่ยอมให้บุตรีของตนมาแต่งกับเชื้อสายรอง แม้สองตระกูลนี้จะไม่ได้โดดเด่นนักแต่เรียกได้ว่าพอมีอำนาจอยู่บ้าง ความจริงมีประโยชน์กว่าพวกไร้พลังอำนาจเหล่านั้นมาก สตรีทั้งสองนิสัยเรียกได้ว่าไม่เลว อย่างน้อยก็ไม่เหมือนฮูหยินน้อยจวนฉู่กั๋วกงที่เชิดหน้าชูตาไม่ได้

จิ้งเจียงจวิ้นอ๋องและแม่เฒ่าพึงพอใจกับสะใภ้ทั้งสองมาก เดิมเฝิงซื่อเองก็รู้สึกว่าไม่เลว แต่ในเวลานั้นไม่มีสิ่งให้เปรียบเทียบ ยามนี้เมื่อมีหนานกงมั่วเข้ามาเป็นข้อเปรียบเทียบ เฝิงซื่อยิ่งรู้สึกว่าลูกสะใภ้สองคนนี้ช่างขวางหูขวางตา

แต่กลับไม่รู้ว่าลูกสะใภ้ทั้งสองที่ถูกนางต่อว่านั้นกำลังน้อยใจเป็นอย่างยิ่ง ท่านดูถูกพวกข้าก็ต้องมีความสามารถแต่งจวิ้นจู่ให้บุตรชายสิ จวิ้นจู่บ้านไหนจะยอมแต่งกับเชื้อสายรอง ซ้ำยังเป็นเชื้อสายรองขององค์หญิงอีก

“มารดา อะไรกันหรือ” เว่ยจวินปั๋วและเว่ยจวินเจ๋อเดินเข้ามา ด้านหลังยังมีเว่ยเชี่ยนที่อายุสิบสามปีตามมาด้วย

เฝิงซื่อมองเห็นบุตรชายดวงตาพลันอ่อนลง ถลึงตามองลูกสะใภ้ทั้งสองชั่วครู่ แสยะยิ้ม “จะอะไรอีกเล่า แม่จะโมโหตายอยู่แล้ว”

เว่ยจวินเจ๋อนั้นถนัดเอาอกเอาใจมารดามาแต่ไหนแต่ไร รีบรินน้ำชายื่นไปตรงหน้าเฝิงซื่อ เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ท่านแม่อย่าได้โกรธไปเลย จะไปทะเลาะกับคนที่ความรู้ต่ำกว่าไปทำไมกัน” ระหว่างที่เอ่ยยังหันกลับไปขึงตามองภรรยาของตนเอง “ยังไม่รีบไปอีก นอกจากทำให้ท่านแม่โมโหแล้วเจ้ายังทำอันใดได้อีก” เซวียซื่อโกรธจนหน้าซีด เว่ยจวินเจ๋อเจ้าชู้ ประคบประหงมอนุจนนางทำอะไรไม่ได้ ยามนี้ยังมาต่อว่านางต่อหน้าคนมากมาย

สีหน้าเสิ่นซื่อเองก็มิได้ดีมากนัก เว่ยจวินเจ๋อต่อว่าเซวียซื่อไม่ผิด แต่เมื่อครู่นางเองก็ยืนนิ่งถูกต่อว่าอยู่ข้างเซวียซื่อนะ ยามนี้เว่ยจวินเจ๋อต่อว่าเซวียซื่อเช่นนี้ต่างจากการต่อว่านางอย่างไร

เฝิงซื่อถูกบุตรชายเอาอกเอาใจพลันอารมณ์ดีขึ้นมาไม่น้อย เหลือบตาไปมองเว่ยเชี่ยนที่ยืนอยู่ด้านข้าง “โอ้ คุณหนูรองไยจึงมาอยู่ที่นี่ได้เล่า”

เว่ยเชี่ยนยกยิ้มหวานขึ้น เอ่ย “เชี่ยนเอ๋อร์ก็มาคารวะพระชายารองไงเจ้าคะ พระชายารองอย่าได้โกรธพี่สะใภ้ทั้งสองเลย พี่สะใภ้ทั้งสองนั้นว่านอนสอนง่ายที่สุดแล้ว” เฝิงซื่อแค่นยิ้ม รู้สึกดีต่อเว่ยเชี่ยนไม่น้อย เอ่ย “ช่างเป็นเด็กดีเสียจริง เสียดายที่ข้าไม่คิดอยากเลี้ยงดูบุตรี” เว่ยเชี่ยนเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เชี่ยนเอ๋อร์มิใช่บุตรีของพระชายารองก็จริง แต่เชี่ยนเอ๋อร์อยากมีมารดาเช่นพระชายารองเจ้าค่ะ”

เฝิงซื่อพยักหน้าพลางหัวเราะ “เจ้าเอ่ยเช่นนี้ ระวังมารดาเจ้าได้ยินแล้วจะถลกหนังเจ้าเล่า”

เว่ยเชี่ยนส่งเสียงหึเบาๆ ใบหน้าไม่พอใจ “อนุเช่นนางนอกจากดูแลใส่ใจพี่สามแล้ว ไหนเลยจะมาใส่ใจข้า ข้าเป็นเพียงเด็กที่ไม่มีใครต้องการ”

เฝิงซื่อดึงนางเข้าสู่อ้อมกอด เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เชี่ยนเอ๋อร์น่ะหรือจะไม่มีใครรัก ข้ากับท่านพ่อของเจ้าไม่รักเจ้ารึอย่างไร”

เว่ยจวินปั๋วและเว่ยจวินเจ๋อนั่งลงด้านข้าง ดูท่าทางสนิทสนมของมารดาและเว่ยเชี่ยน ราวกับทั้งสองนั้นเป็นแม่ลูกกันจริงๆ ผ่านไปชั่วครู่ เฝิงซื่อดึงเว่ยเชี่ยนนั่งลงข้างกาย เอ่ยถามขึ้น “ปั๋วเอ๋อร์ เจ้าว่าเว่ยจวินมั่วหมายความเช่นไร ทั้งที่เป็นโอกาสปกครองจวนแต่กลับปฏิเสธ คงมิได้มีแผนร้ายอันใดใช่หรือไม่”

เว่ยจวินปั๋วขมวดคิ้ว เอ่ย “คงไม่ใช่หรอกขอรับ ครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดีที่จะเอาอำนาจปกครองคืนให้พระชายาซื่อจื่อ หากต่อไปพวกเขาเกิดอยากได้ ท่านย่าและท่านพ่อคงไม่ยอมแน่” โอกาสที่ดีเช่นนี้แต่กลับปล่อยไปทำให้คนไม่เข้าใจอย่างยิ่ง และยังเป็นการเพิ่มปัญหาให้แผนการของพวกเขาในอนาคตไปอีก แต่ไม่ว่าเว่ยจวินปั๋วจะนึกเช่นไรก็นึกไม่ออกว่าไยเว่ยจวินมั่วจึงละทิ้งมัน ไม่ว่าจะคิดถึงผลประโยชน์มากหรือน้อย เฝิงซื่อแม่ลูกที่พยายามต่อสู้แย่งชิงตำแหน่งจวิ้นอ๋องแห่งจวนจิ้งเจียงจวิ้นอ๋องนั้นแน่นอนย่อมไม่คาดคิดว่าเว่ยจวินมั่ววางแผนทิ้งตำแหน่งจวิ้นอ๋องแห่งจวนจิ้งเจียงจวิ้นอ๋อง

เฝิงซื่อกัดฟัน เอ่ย “ข้าไม่สนใจว่าพวกเขาจะมีแผนร้ายอันใด อย่าได้คิดจะแตะต้องจวนจิ้งเจียงจวิ้นอ๋องแม้เพียงครึ่ง เด็กหนานกงมั่วนั่น ก็แค่เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมข้าจะสู้นางมิได้เลยหรือ”

เว่ยจวินปั๋วขมวดคิ้วเป็นปม “ท่านแม่ หากไม่จำเป็นอย่าไปท้าทายต่อหนานกงมั่วเสียจะดีกว่า อย่างไรเสีย ข้างหลังนางยังมีองค์หญิงฉังผิง” ต่อให้มีอำนาจและความสามารถมากเพียงใด มีแผนการมากมายเพียงใดก็ไร้ประโยชน์ หลายปีมานี้มารดากุมอำนาจในจวนจิ้งเจียงจวิ้นอ๋อง องค์หญิงฉังผิงไม่สนใจเข้ามายุ่ง แต่เป็นเช่นนั้นแล้วอย่างไร ขอเพียงองค์หญิงฉังผิงอยากได้ เอ่ยเพียงประโยคเดียวพวกเขาก็มิอาจขัดขืน การต่อสู้ในเรือนหลังนั้นเป็นปลายสายน้ำ คิดอยากกุมอำนาจในจวนจิ้งเจียงจวิ้นอ๋องพวกเขาต้องมีอำนาจเหนือเว่ยจวินมั่วในเบื้องหน้านั่นคือการชิงตำแหน่งจวิ้นอ๋องแห่งจวนจิ้งเจียงจวิ้นอ๋อง และนี่…มันง่ายเสียที่ไหน อย่างน้อยหากฮ่องเต้ยังมีชีวิตอยู่ก็คงจะเป็นไปไม่ได้ ฮ่องเต้ยังครองบัลลังก์ เบื้องหลังของเว่ยจวินมั่วมีลุงทั้งสองคอยสนับสนุน แม้แต่รัชทายาทเองยังแตะต้องเขาไม่ได้ง่ายๆ แต่รอถึงอนาคตเมื่อรัชทายาทขึ้นครองบัลลังก์แล้ว…

เว่ยจวินปั๋วจมอยู่กับความคิด ดวงตาฉายแววมาดร้าย

เฝิงซื่อไม่ใส่ใจกับวาจาของบุตรชายมากนัก นางถูกองค์หญิงฉังผิงกดหัวมานานหลายปี ยังต้องถูกลูกสะใภ้ขององค์หญิงฉังผิงกดหัวต่อไปอีกหรือ อย่าได้คิด

“รายงานพระชายารอง เรือนซูอวิ๋นส่งรางวัลจากพระชายาซื่อจื่อมาเจ้าค่ะ” ด้านนอก เสียงมามาดังขึ้น

“เอ๋” เฝิงซื่อเงยหน้าขึ้น เอ่ยถาม “หนานกงซื่อมอบสิ่งใดเป็นรางวัล”

มามาทำราวกับไม่ได้ยินคำเรียกขานของเฝิงซื่อ เอ่ยตอบอย่างนอบน้อม “ตอบพระชายารอง พระชายาซื่อจื่อประทานรางวัลด้วยเงินจำนวนเทียบเท่าเงินเดือนหนึ่งเดือนให้กับทุกคนในจวนเจ้าค่ะ”

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

Status: Ongoing

นิยายรักย้อนยุค ว่าด้วยการแก้แค้นของหมอหญิงมือสังหาร และแต่งงานกับบุรุษสุดประหลาด!

เมื่อมารดาสิ้นใจและตนถูกไล่ให้มาอยู่หมู่บ้านบรรพบุรุษ เพราะความลำบากและคับแค้นใจจึงทำให้ หนานกงชิง คุณหนูคนโตแห่งตระกูลหนานกงจากโลกนี้ไป

ร่างของนางกลับถูกแทนที่ด้วยวิญญาณของ หนานกงมั่ว นักฆ่าสาวมือฉกาจแห่งเอเชีย เมื่อได้รับชีวิตใหม่หนานกงมั่วก็ได้กราบอาจารย์ เรียนวิชาแพทย์ ใช้ชีวิตอิสระเสรีตามที่ตนหวัง พร้อมรับใบสั่งสังหารคนบ้างเป็นครั้งคราว… จนเมื่อราชโองการพระราชทานสมรสมาถึงชีวิตของนางก็ถึงคราวพลิกผัน!

เล่าลือกันว่าจวิ้นอ๋องว่าที่สามีของนาง เว่ยจวินมั่ว แม้จะมียศสูงศักดิ์แต่เพราะดวงตาแปลกประหลาดสีม่วงและการคลอดก่อนกำหนดทำให้ชาติกำเนิดของเขาตกเป็นขี้ปากคนไปทั่ว อาจเพราะแบบนี้การสมรสนี้จึงตกมาถึงตัวนาง แม้คนทั่วไปไม่ยินดีแต่นางดูๆ แล้วกลับคิดว่าชายหนุ่มคนนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท